ผิวหนังทั่วไป
24 มิถุนายน 2568

ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นหนึ่งในยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการเสริมความงาม และได้รับความนิยมจากแพทย์ทั่วโลกเพื่อนำมาใช้ในการปรับรูปหน้าให้ดูได้สัดส่วนมากขึ้น ฟิลเลอร์ Juvederm มีคุณสมบัติในการเติมเต็มร่องลึก หรือริ้วรอยบนใบหน้าให้ดูเรียบเนียน และที่สำคัญยังให้ผลลัพธ์หลังฉีดที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อนอีกด้วย
ในบทความเกี่ยวกับฟิลเลอร์ Juvederm นี้ Skin X จะพามาทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ยี่ห้อจูวีเดิม (Juvederm) ว่าคืออะไร? จุดเด่นของฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้มีอะไรบ้าง ประกอบไปด้วยกี่รุ่น? ฟิลเลอร์ Juvederm ควรฉีดตรงไหน Juvederm แต่ละรุ่นราคาเท่าไหร่ และผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดฟิลเลอร์ Juvederm เป็นอย่างไร? SkinX มีคำตอบ
Key Takeaway
ฟิลเลอร์ Juvederm (จูวีเดิม) เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสหรัฐอเมริกา จัดอยู่ในกลุ่มสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทย (THFDA) สหรัฐอเมริกา (USFDA) และ EDQM ผลิตโดยบริษัท Allergan บริษัทเดียวกับ Botox Allergan และถูกนำเข้ามาในประเทศไทยโดยบริษัท Allergan Thailand
อ่านบทความเพิ่มเติม : เจาะลึก ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร? รวมข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์
จุดเด่นของฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm คือ เทคโนโลยี Hylacross และ Vycross ที่จะทำให้เนื้อฟิลเลอร์สามารถอุ้มน้ำได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับของผิวหน้าได้ดี Filler Juvederm มีอัตราการบวมน้ำน้อย ส่งผลให้ผลลัพธ์หลังฉีด ผิวจะมีความเรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน อีกทั้งยังมีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) ช่วยให้บรรเทาความเจ็บปวดบริเวณที่ฉีด
Hylacross Technology คือ เทคโนโลยีที่มีความโดดเด่นในเรื่องของค่าความอุ้มน้ำได้มาก ฉีดแล้วฟู เนื้อเจลมีความเนียนละเอียด สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid ที่มีอยู่ในฟิลเลอร์ Juvederm มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับได้ดี จึงเหมาะแก่การฉีดบริเวณผิวที่มีการขยับบ่อย ๆ เช่น บริเวณร่องแก้มหรือบริเวณริมฝีปาก
Vycross Technology คือ เทคโนโลยีที่พัฒนามาจากกลุ่ม Hylacross มีโมเลกุลยึดเกาะหนาแน่น ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยกกระชับผิว มีอัตราการบวมน้ำน้อย และค่าอุ้มน้ำน้อย ผลลัพธ์หลังฉีด Juvederm Filler จึงไม่เป็นก้อน มีความเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ และผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน อีกทั้งยังสามารถช่วยยกกระชับได้อีกด้วย
ฟิลเลอร์ Juvederm มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น คือเป็นฟิลเลอร์คุณภาพสูง จากสหรัฐอเมริกาที่มีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) ทุกรุ่น จึงช่วยให้ขณะฉีดไม่รู้สึกเจ็บ ซึ่งต่างกับฟิลเลอร์ Restylane จากประเทศสวีเดน และฟิลเลอร์ Neuramis จากประเทศเกาหลีที่มียาชาเป็นส่วนผสมอยู่เพียงบางรุ่นเท่านั้น สำหรับใครที่กำลังหาฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของยาชายี่ห้ออื่น ๆ ที่มีราคาเข้าถึงได้มากขึ้น อาจจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ EPTQ จากประเทศเกาหลีที่มีค่าความเป็นกรด-ด่าง ใกล้เคียงกับผิวหนังตามธรรมชาติในบริเวณที่ต้องการได้
ฟิลเลอร์ Juvederm นั้นมีหลากหลายรุ่น แต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างกัน รวมถึงเทคโนโลยีกระบวนการผลิตเพื่อใช้ในบริเวณที่แตกต่างกัน ในปัจจุบันฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm ที่ได้รับอย. ในประเทศไทย (อัปเดต ปี 67) มีทั้งหมด 7 รุ่น ดังนี้
ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma จัดอยู่ในกลุ่ม Vycross Technology เป็นรุ่น Juvederm ที่มีลักษณะเนื้อแข็งและฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่น ปั้นง่าย และความหนาแน่นสูง ฉีดแล้วไม่ไหลไปรวมกันเป็นก้อน Juvederm Voluma สามารถอยู่ได้นานถึง 18 เดือน
เหมาะสำหรับ
เติมเต็มคาง และขมับ
แก้ไขใต้ตาจากการยุบตัวของกระดูกในผิวชั้นลึก
ฟิลเลอร์ Juvederm Volift จัดอยู่ในกลุ่ม Vycross Technology เป็นรุ่น Juvederm ที่มีลักษณะเนื้อนิ่มปานกลาง มีความละเอียดและยืดหยุ่นสูง เหมาะกับคนผิวบาง โดยฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Volift นี้จะให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน สามารถอยู่ได้ประมาณ 12 เดือน
เหมาะสำหรับ
ฟิลเลอร์ Juvederm Volite จัดอยู่ในกลุ่ม Vycross Technology เป็นฟิลเลอร์จูวีเดิมที่มีเนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะแก่การปรับคุณภาพผิว ซึ่งจะแตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ ที่เน้นไปที่การปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Volite สามารถอยู่ได้นานถึง 8-12 เดือน
เหมาะสำหรับ
ฟิลเลอร์ Juvederm Volbella จัดอยู่ในกลุ่ม Vycross Technology เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีลักษณะเนื้อนิ่มที่สุด ให้ผลลัพธ์ผิวที่อิ่มฟู มีโมเลกุลขนาดเล็กละเอียดมากที่สุด และให้ความเรียบเนียน หลังฉีดจะดูเป็นธรรมชาติไม่เป็นก้อน ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Volbella สามารถอยู่ได้ประมาณ 12 เดือน
เหมาะสำหรับ
ฟิลเลอร์ Juvederm Volux จัดอยู่ในกลุ่ม Vycross Technology เป็นรุ่นล่าสุดที่มีความหนาแน่นสูง มีลักษณะเป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ยืดหยุ่นสูง สามารถปั้นทรงได้ตามต้องการ และคงรูปได้ดีที่สุด สามารถอยู่ได้ประมาณ 18 เดือน
เหมาะสำหรับ
ฟิลเลอร์ Juvederm Ultra Plus XC จัดอยู่ในกลุ่ม Hylacross Technology เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีลักษณะเนื้อนิ่มและฟูมาก กักเก็บน้ำได้ดี และทนต่อการขยับ สามารถอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
เหมาะสำหรับ
ฟิลเลอร์ Juvederm Ultra XC จัดอยู่ในกลุ่ม Hylacross Technology เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีเนื้อเจลนิ่ม ฉีดแล้วเรียบเนียนไปกับผิว สามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน
เหมาะสำหรับ
ฟิลเลอร์ Juvederm เหมาะแก่การฉีดบริเวณดังต่อไปนี้
1. ร่องแก้ม
2. คาง
3. ริมฝีปาก
4. ใต้ตา
5. หน้าผาก
6. ขมับ
การทำงานของฟิลเลอร์ Juvederm คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid เข้าสู่ผิวหน้า โดยสารชนิดนี้เป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกาย สามารถสร้างขึ้นเองได้ในชั้นผิวหนังแท้ และสลายได้เองตามธรรมชาติ เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะผลิตสาร HA ได้น้อยลง ทำให้ผิวหน้าเริ่มปรากฏเห็นเป็นริ้วรอย และทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย
สาร Hyaluronic Acid ในฟิลเลอร์ Juvederm จะช่วยลดริ้วรอย เติมเต็มผิวหนังบริเวณที่บุ๋ม, แบน, ลึก, โหล หรือตอบ ให้ดูเต่งตึงขึ้น อิ่มฟูยิ่งขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีของฟิลเลอร์ Juvederm จะใช้ในบริเวณที่แตกต่างกัน ตามปัญหาของคนไข้แต่ละคน โดย Hylacross Technology จะเหมาะแก่การฉีดในบริเวณที่มีการขยับผิวหนังบ่อย ๆ เพราะมีค่าความอุ้มน้ำสูง ฉีดแล้วผิวหนังจะดูอิ่มฟู ในขณะที่ Vycross Technology จะเหมาะกับการยกกระชับมากกว่า เพราะมีค่าอุ้มน้ำและอัตราการบวมน้ำน้อย
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm จะมีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) เล็กน้อย ทำให้ช่วยลดความเจ็บปวดขณะฉีดฟิลเลอร์
หากใครยังไม่แน่ใจในเรื่องความปลอดภัยและผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม รวมข้อควรรู้ ควรฉีดดีไหม?
ผลลัพธ์หลังจากฉีดฟิลเลอร์ Juvederm นั้นจะมีความเป็นธรรมชาติสูง มีความเรียบเนียน และเมื่อฉีดแล้วจะไม่เป็นก้อน แต่จะทำให้ผิวจะดูชุ่มชื้นและสดใสขึ้น เนื่องจากเนื้อฟิลเลอร์ Juvederm สามารถอุ้มน้ำได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับของผิวหน้า และมีอัตราการบวมน้ำน้อย นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ Juvederm สามารถอยู่ได้นานถึง 8-18 เดือน ทั้งนี้ ระยะเวลาของผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับรุ่นที่คนไข้เลือกใช้ และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ Juvederm ด้วย
ผลข้างเคียงที่อาจพบได้บ่อยจากการฉีดฟิลเลอร์คือ อาการบวม แดง และคันจากรอยเข็ม แต่อาการเหล่านี้จะหายไปภายใน 7-14 วัน สำหรับภาวะแทรกซ้อนรองลงมาอาจเกิดก้อนขึ้นใต้ผิวหนัง และฟิลเลอร์เคลื่อนที่ ไหลลงมากองรวมกัน ในกรณีนี้อาจเกิดจากความไม่ชำนาญ และเทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้องของแพทย์ผู้รับผิดชอบ
อีกทั้งในส่วนของผลข้างเคียงที่ร้ายแรงที่สุดคือ การฉีดฟิลเลอร์ปลอมกับสถานพยาบาลที่ไม่มีใบรับรอง นั่นอาจจะทำให้สารฟิลเลอร์เข้าไปขัดขวางหลอดเลือด ซึ่งส่งผลให้เนื้อเยื่อตายและเสี่ยงตาบอดได้
ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ควรเลือกสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ ปลอดภัย และมีใบรับรอง รวมถึงควรเลือกฉีดกับแพทย์ผู้มีประสบการณ์ โดยทุกท่านสามารถเข้าไปอ่านวิธีการเลือกสถานที่ฉีดฟิลเลอร์ได้ที่ : ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี? ข้อสังเกตการเลือกแพทย์และสถานพยาบาล
ฉีดฟิลเลอร์ Juvederm มีราคาแต่ละรุ่นแตกต่างกัน โดยราคาฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm ต่อ 1 CC มีรายละเอียดดังนี้
ฟิลเลอร์ Juvederm แท้หรือปลอมสังเกตอย่างไร? หาคำตอบได้อย่างไรไปดูกันเลย
1. เลข lot ที่กล่อง
2. เลข lot ที่ซอง
3. เลข lot ที่สติกเกอร์
4. เลข lot ที่หลอด
ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นหนึ่งในยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ถูกนำมาใช้เสริมความงามกันอย่างแพร่หลาย ฟิลเลอร์ Juvederm ยังมีเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถนำไปฉีดได้หลากหลายบริเวณ ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm จะดูเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ และฉีดแล้วไม่เป็นก้อน
นอกจากนี้ ก่อนการเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ ควรตรวจสอบฟิลเลอร์ให้มั่นใจก่อนว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์หลังการฉีดฟิลเลอร์ Juvederm ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับผู้ที่ต้องการปรึกษาปัญหาผิว หรือหัตถการความงามอย่าง “ฟิลเลอร์” ว่าตนเองเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์บริเวณไหน ควรฉีดกี่ CC ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนดี? หรือหัตถการความงามอื่น ๆ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SkinX เพื่อปรึกษาแพทย์ออนไลน์โดยตรงได้เลย
พิเศษสำหรับผู้ที่ดาวน์โหลดแอปฯ SkinX ครั้งแรก ปรึกษากับแพทย์ผิวหนังฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SkinX ไว้เลย เพื่อพบกับโปรสกินแคร์ และดีลความงามจากคลินิกดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดีลลดฝ้า ดีลโบหน้าเรียว เพราะผิวดีไม่ต้องรอ
เอกสารอ้างอิง
Juvederm Treat. Juvederm. https://www.juvederm.com/treatment
Wisco, L. (2018, June 15). Juvederm: Hyaluronic Acid Dermal Filler. Healthline. https://www.healthline.com/health/juvederm
บทความที่เกี่ยวข้อง
ดูทั้งหมด