ผิวพรรณและความงาม
24 มิถุนายน 2568

การทำหัตถการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัดนั้นสามารถทำได้หลายแบบด้วยกัน แต่ที่เห็นได้บ่อยในปัจจุบันคือการใช้คลื่นวิทยุหรือการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูง ซึ่งก็คือเครื่อง Thermage และเครื่อง Ultherapy หลายคนอาจสงสัยว่า Thermage vs Ultherapy ต่างกันอย่างไร? เครื่องไหนดีกว่ากัน?
ในบทความนี้ SkinX จึงนำเสนอความแตกต่างระหว่างเครื่อง Ulthera กับ Thermage ทั้งหลักการทำงาน ข้อดีของแต่ละเครื่อง และตำแหน่งที่สามารถทำหัตถการยกกระชับผิว เป็นต้น
ทำความรู้จัก SkinX แอปพลิเคชันพบแพทย์ออนไลน์ ที่รวบรวมแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำไว้กว่า 210 คน เพื่อทำให้การพบแพทย์ง่ายดายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็พบแพทย์ได้เสมอ
การยกกระชับผิว (Rejuvenation) คือการทำหัตถการเพื่อยกกระชับผิวส่วนที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึงมากยิ่งขึ้น โดยอาจใช้วิธีผ่าตัดศัลยกรรม หรือส่งพลังงานคลื่นวิทยุหรือคลื่นอัลตราซาวด์ลงที่ชั้นผิว เป็นต้น ซึ่งเครื่อง Thermage และ Ultherapy ต่างก็ใช้ยกกระชับผิวเช่นกัน หากเปรียบเทียบ Thermage vs Ultherapy ก็มีความแตกต่างกันที่หลักการทำงาน ประเภทของพลังงานที่ใช้ หัวในการใช้ยิงพลังงาน ฯลฯ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
Thermage เป็นเครื่องที่ใช้คลื่นวิทยุแบบขั้วเดียว (Monopolar RF) ในการส่งพลังงานในรูปลักษณะก้อนพลังงานความร้อนลงใต้ผิวชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง โดยมีค่าพลังงานความร้อนอยู่ที่ 40-50°C กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ที่เป็นส่วนประกอบของชั้นผิวดังกล่าว ทำให้คอลลาเจนที่มีอยู่เรียงตัวกระชับตัวมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อย หรือริ้วรอยเล็กน้อยจนถึงปานกลางเห็นผลลัพธ์ในการกระชับผิว ลดชั้นไขมัน ฟื้นฟูคุณภาพผิว ให้ผิวยืดหยุ่นขึ้นได้
ในปัจจุบัน การทำหัตถการยกกระชับผิวด้วยเครื่อง Thermage ในประเทศไทยมีการใช้อยู่ 2 รุ่นด้วยกันคือ CPT และ FLX โดยเครื่อง Thermage แบ่งหัวยิงพลังงานเป็น 4 แบบด้วยกัน ได้แก่
Thermage Eye Tip 0.25 cm2 เป็นหัวขนาด 0.25 ตร.ซม. เหมาะสำหรับการใช้บริเวณรอบดวงตาเนื่องจากมีขนาดที่เล็กมาก
Ultherapy หรือ Ulthera เป็นเครื่องยกกระชับผิวที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความถี่สูง (High Intensity Focused Ultrasound) หรือ Micro Focused UItrasound with Visualization (MFU-V) โดยมีความร้อนอยู่ในระดับ 60-70°C ยิงลงใต้ชั้นผิวในลักษณะจุดพลังงานขนาด 1 mm ลักษณะคล้ายจุดไข่ปลาเล็ก ๆ เรียงกันเป็นเส้นตรงใต้ผิว และมีหน้าจอในการดูระดับความลึกของจุดที่ยิงลงไปแบบ Real time จึงช่วยให้เลือกปล่อยพลังงานใต้ชั้นผิวได้อย่างแม่นยำ โดยสามารถส่งพลังงานได้ถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ใช้ทำหัตถการดึงหน้า การใช้เครื่อง Ulthera จะทำให้ผิวชั้น SMAS เกิดการหดตัว รวมถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน นอกจากนี้ หากมีปัญหากรอบหน้าไม่ชัดก็สามารถลดไขมันได้อีกด้วย
หัวยิงพลังงานของเครื่อง Ulthera ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ มีดังต่อไปนี้
“Ulthera SPT หรือ Ulthera See, Plan, Treat เป็นเทคนิคการยิง Ulthera แบบใหม่ ซึ่งเป็นเทคนิคที่เน้นการวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล ช่วยให้การรักษาตรงจุดมากยิ่งขึ้น ทำให้สามารถลดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ เช่นการยิงพลังงานไปโดนกล้ามเนื้อ หรือกระดูก และช่วยให้สามารถยิงพลังงานลงลึกใต้ชั้นผิว โฟกัสได้แม่นยำ ตรงจุด และมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
หลายคนอาจสงสัยว่าผิวแต่ละชั้นนั้นต่างกันอย่างไร และการทำหัตถการยกกระชับผิวในแต่ละชั้นจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันเช่นไร โดยปกติแล้ว ชั้นผิวทั่วไปของมนุษย์จะแบ่งออกเป็น 3 ชั้นด้วยกัน ได้แก่
ส่วนผิวชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) อยู่ลึกใต้ชั้นไขมัน เป็นชั้นเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อใบหน้า มีลักษณะเป็นพังผืดห่อหุ้มกล้ามเนื้อ ประกอบด้วยโปรตีนคอลลาเจนแนวนอนที่ประสานกันเป็นเส้นใย ซึ่งถือว่าเป็นชั้นผิวที่สำคัญในการยกกระชับผิวหน้า
เมื่อเทียบ Ultherapy vs Thermage แล้ว จะเห็นได้ว่า Thermage สามารถส่งพลังงานได้ถึงผิวชั้นหนังแท้เป็นหลักและชั้นไขมันใต้ผิวหนังตื้นๆ ทำให้มีจุดเด่นในการกระชับผิวด้านบนและลดไขมันส่วนเกินได้ดี ส่วน Ulthera หัวยิงลึกสามารถส่งพลังงานได้ถึงผิวชั้น SMAS ที่อยู่ลึกลงไปใต้ชั้นไขมัน จึงทำให้เครื่อง Ulthera มีจุดเด่นในการยกกระชับและช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยได้ด้วย
นอกจากการหลักการทำงานของเครื่อง Thermage vs Ultherapy ที่แตกต่างกันแล้ว ทั้งสองเครื่องก็ยังมีข้อดี หรือจุดเด่น ดังนี้
ข้อดีของ Thermage และ Ulthera
ข้อดีที่เป็นจุดเด่นของเครื่อง Thermage คือการช่วยลดไขมันและสลายพังผืดที่เกาะชั้นไขมัน ต้นเหตุของเซลลูไลท์บริเวณต่าง ๆ ของลำตัว ส่วนข้อดีที่เป็นจุดเด่นของเครื่อง Ulthera คือการส่งพลังงานที่ชั้นลึก ช่วยให้ริ้วรอยและผิวที่หย่อนคล้อยในชั้น SMAS กระชับได้ใกล้เคียงกับการทำศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า
ผู้ที่เหมาะสำหรับการเข้ารับบริการยกกระชับผิวด้วยเครื่อง Ulthera กับ Thermage นั้น คือผู้ที่มีปัญหาในกลุ่มเหล่านี้
ผู้ที่เหมาะกับการทำ Thermage
ผู้ที่เหมาะกับการทำ Ulthera
ทั้งนี้ ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนการตัดสินใจทำว่าตนเองควรรับการรักษาด้วยเครื่องใด ระหว่าง Ultherapy vs Thermage เพื่อที่จะแก้ปัญหาสภาพผิวของตนได้อย่างตรงจุดมากที่สุด
ทั้ง Ulthera กับ Thermage สามารถทำหัตถการยกกระชับผิวได้หลากหลายตำแหน่ง ไม่จำเป็นต้องทำเฉพาะบริเวณใบหน้าเท่านั้น ซึ่ง Thermage vs Ultherapy ทำหัตถการได้บริเวณต่าง ๆ เบื้องต้นดังนี้
ตำแหน่งที่สามารถใช้เครื่อง Thermage
ตำแหน่งที่สามารถใช้เครื่อง Ulthera
หากเทียบว่า Thermage vs Ultherapy ใช้เวลาเห็นผลแตกต่างกันเท่าไหร่ หลังทำ Ulthera กับ Thermage จะสามารถเห็นผลที่เปลี่ยนแปลงได้ โดยผิวจะกระชับขึ้นเล็กน้อย และจะค่อย ๆ เห็นผลชัดเจนขึ้นเมื่อผ่านไป 2-3 เดือนหลังจากการทำหัตถการ
แม้ว่าเครื่อง Ultherapy vs Thermage จะมีความแตกต่างกันเรื่องการส่งพลังงานที่ลึกถึงระดับผิวไม่เท่ากัน แต่ก็ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานใกล้เคียงกันคือประมาณ 1-2 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตนเองของแต่ละบุคคลเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หากต้องการรักษาผลลัพธ์ไว้ แนะนำว่าควรทำหัตถการด้วย Ulthera หรือ Thermage ปีละ 1 ครั้ง แต่ถ้าต้องการการยกกระชับที่มากขึ้นสามารถทำหัตถการซ้ำได้ โดย Thermage สามารถทำซ้ำได้ทุก 3-4 เดือน ส่วน Ulthera สามารถทำซ้ำได้ทุก 6 เดือน ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์เรื่องระยะเวลาการเข้ารับบริการอย่างเหมาะสมทุกครั้ง
ความเจ็บจากการเข้ารับการยกกระชับผิวด้วยเครื่อง Ultherapy vs Thermage อาจไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ เนื่องจากการทำหัตถการทั้งสองจะมีการทายาชาเฉพาะที่เพื่อบรรเทาความเจ็บ โดยผู้เข้ารับบริการอาจรู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มใต้ผิวหนังหรือรู้สึกร้อนจากพลังงานความร้อน
นอกจากนี้ เครื่อง Thermage FLX ยังมีระบบคำนวณความร้อนสะสมใต้ชั้นผิวและ Pre-cooling รวมถึง Post-cooling เพื่อให้ความเย็นบนผิว ลดโอกาสเกิดอาการผิวไหม้ได้อีกด้วย
แต่หากรู้สึกร้อนหรือเจ็บจนทนไม่ไหว ควรแจ้งแพทย์เพื่อปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับสภาพผิว รวมถึงช่วยลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
เครื่องที่ใช้ในหัตถการยกกระชับผิว Thermage vs Ultherapy นั้นมีข้อแตกต่างกันในแง่ของพลังงานที่ใช้ ทำให้การส่งพลังงานลงไปถึงชั้นผิวที่แตกต่างกัน เครื่อง Thermage ส่งพลังงานได้ถึงผิวชั้นหนังแท้และชั้นไขมันส่วนตื้นๆ ช่วยเพิ่มความกระชับ ความยืดหยุ่นของผิว และลดไขมันในขณะที่เครื่อง Ulthera สามารถส่งพลังงานได้ลึกถึงผิวชั้น SMAS ซึ่งถือเป็นต้นตอของปัญหาความหย่อนคล้อย จึงเด่นในเรื่องการยกกระชับ ทั้งนี้ ทั้งสองเครื่องมีจุดเด่นในการแก้ปัญหาแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล
หากต้องการศึกษาเพิ่มเติมหรือปรึกษาเกี่ยวกับเครื่อง Ulthera กับ Thermage สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SkinX เพื่อพูดคุยกับแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังได้โดยตรง
แอปฯ SkinX จะช่วยให้ผู้ใช้งานรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้อย่างสะดวกสบาย สามารถปรึกษาปัญหาผิวหนังได้กว่า 20 ประเภท ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิว ปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะ หรือเรื่องเกี่ยวกับหัตถการทางความงาม เป็นต้น สำหรับผู้ใช้งานใหม่ ดาวน์โหลด SkinX เพื่อปรึกษาครั้งแรกโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
อ้างอิง
Lindberg, S. (2021, March 16). Thermage vs. Ultherapy. https://www.healthline.com/health/thermage-vs-ultherapy
Mountford, T. (2022, September 21). Thermage Versus Ultherapy: What is the difference? https://www.cosmeticskinclinic.com/2021/03/24/thermage-versus-ultherapy-the-difference/
บทความที่เกี่ยวข้อง
ดูทั้งหมด