3 กรกฎาคม 2567
โบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด ฉีดโบท็อกยี่ห้อปลอดภัย ผ่าน อย.ไทย ปี 2024
โบท็อกที่ผ่านการรับรองจากอย. ในประเทศไทยมีหลายยี่ห้อให้เลือกมากมาย โดยแต่ละยี่ห้อก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ทำให้หลายคนเกิดความสับสนว่า แต่ละยี่ห้อโบท็อกเหมือนกันไหม แตกต่างกันอย่างไร แล้วโบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด?
ในบทความนี้ SkinX จะพามาทำความรู้จักกับโบท็อกแต่ละยี่ห้อในประเทศไทยว่า มียี่ห้อไหนบ้างที่ผ่านอย. ไทย แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร และมีจำนวนยูนิตที่เหมือนกันไหม?
ทำความรู้จักกับ SkinX แอปพลิเคชันพบหมอผิวหนังออนไลน์ ที่ได้รวบรวมเหล่าทีมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำ มากกว่า 210 คน มาให้คำปรึกษาโดยเฉพาะ อาทิ ปัญหาเรื่องสิว ชนิดผิวพรรณแต่ละประเภท ผมและหนังศีรษะ รวมไปถึงหัตถการความงามอย่างการฉีดโบท็อกและฉีดฟิลเลอร์ ทั้งนี้ สำหรับผู้ใช้บริการแอป SkinX ครั้งแรก สามารถปรึกษาแพทย์ผิวหนังโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
Key Takeaway
- การเลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดีและปลอดภัย ควรเริ่มต้นพิจารณาจากยี่ห้อโบท็อกผ่านการรับรองจากอย. ไทย, คุณสมบัติของตัวยา, คลินิกที่ให้บริการ และแพทย์ผู้ทำหัตถการ
- ปัจจุบันยี่ห้อโบท็อกที่ผ่านการรับรองจากอย. ไทย มีทั้งหมด 10 ยี่ห้อซึ่งผลิตจากหลากหลายประเทศ ได้แก่ อเมริกา, อังกฤษ, เยอรมัน, เกาหลี และฮ่องกง
- ยี่ห้อโบท็อกที่ผ่านการรับรองจากอย. ไทย ได้แก่ Allergan, Dysport, Xeomin, Nabota, Aestox, HUGEL, CLODEW, Botulax, Neuronox และ BTXA
- ก่อนพิจารณาโบท็อกตัวไหนดี ผู้สนใจฉีดโบท็อกควรศึกษาข้อมูลโบท็อกแต่ละยี่ห้ออย่างละเอียด ตั้งแต่เทคโนโลยี, วิธีการผลิต, ขนาดโมเลกุล, ความบริสุทธิ์, ชนิดโปรตีน และระยะเวลาออกฤทธิ์
- โบท็อกแต่ละยี่ห้อมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ก่อนตัดสินใจฉีดควรให้แพทย์เฉพาะทางประเมินสภาพผิว ปัญหาที่ต้องการแก้ไข เพื่อเลือกยี่ห้อที่เหมาะสมกับความต้องการมากที่สุด
รวมยี่ห้อโบท็อกที่ผ่านอย. ไทยล่าสุด 2024
โบท็อก (Botox) คือ ชื่อทางการค้าของสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum ในปัจจุบันสาร Botulinum Toxin A ถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการรักษาริ้วรอย ช่วยปรับรูปหน้า ลดเหงื่อที่บริเวณรักแร้ ลดขนาดกล้ามเนื้อแขน และน่อง รวมถึงยังถูกใช้ในทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วย
ในบทความนี้ SkinX ได้รวบรวม 10 ยี่ห้อ Botox ที่ผ่านสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในประเทศไทย เพื่อเป็นทางเลือกในการตัดสินใจเลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดี สำหรับประเทศไทยโบท็อกที่ผ่านอย. มีให้เลือกทั้งหมด 10 ยี่ห้อ (อัปเดตปี 2024) ดังนี้
- Allergan
- XEOMIN
- Dysport
- NABOTA
- Aestox
- HUGEL
- CLODEW
- Botulax
- Neuronox
- BTXA
สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับโบท็อกทั้งหมดได้ที่ : ทำความรู้จัก “โบท็อก” หัตถการความสวย ที่ทำได้มากกว่าเสริมความงาม
โบท็อกแต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ก่อนพิจารณาโบท็อกยี่ห้อไหนดี ผู้สนใจฉีดโบท็อกควรทราบก่อนว่าโบท็อกที่ผ่านอย. ประเทศไทยมีหลากหลายยี่ห้อ ซึ่ง Botox แต่ละยี่ห้อล้วนมีความแตกต่างกันตั้งแต่เทคโนโลยี, กรรมวิธีในการผลิต, ความบริสุทธิ์, ชนิดโปรตีน, ขนาดของโมเลกุล ตลอดจนความคงทนในการเก็บรักษา เป็นต้น
ขนาดของโมเลกุล
Molecule Complex ของสาร Botulinum Toxin A ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ คือ
ส่วนที่ 1 Accessories Protein
Accessories Protein ทำหน้าที่แพร่กระจายตัวยา นำพา และปกป้อง Heavy Chain และ Light Chain จากจุดที่ฉีดโบท็อกแพร่ไปยังปลายเส้นประสาทให้ปลอดภัย ไม่ให้ถูกทำลาย ซึ่งขนาดของโมเลกุลจะส่งผลต่อการแพร่กระจาย ดังนี้
- โบท็อกชนิดที่กระจายตัวแคบ จะสามารถควบคุมการฉีดให้ออกมาตรงจุดและแม่นยำ เหมาะกับการฉีดบริเวณกล้ามเนื้อโดยตรง สำหรับยี่ห้อโบท็อกที่มีการกระจายตัวแคบที่สุดคือ Allergan
- โบท็อกชนิดที่กระจายตัวกว้าง จะช่วยให้ผลการฉีดโบท็อกดูไม่ตึงเกินไป เหมาะกับเทคนิคการฉีดแบบ Dermolift และคนที่ต้องการให้ใบหน้ากระชับแบบเร่งด่วน รวมถึงยังเหมาะกับฉีดลดกล้ามแขน ลดน่องในบริเวณกว้าง เพราะกล้ามเนื้อดังกล่าวมีขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตามโบท็อกยี่ห้อ Xeomin ไม่มี Accessory Protein เป็นส่วนประกอบ
ส่วนที่ 2 Heavy Chain
Heavy Chain เป็นตัวที่พา Botulinum Toxin Complex เข้าสู่เซลล์เส้นประสาท
ส่วนที่ 3 Light Chain
Light Chain ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Botulinum Toxin Complex จะเป็นส่วนที่ออกฤทธิ์ระงับการทำงานของกล้ามเนื้อ
ความบริสุทธิ์ของโบท็อก
สาร Botulinum Toxin A เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกายแล้วสามารถสลายไปได้เองโดยไม่เป็นอันตราย แต่ในบางกรณีที่ร่างกายสามารถสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาได้ อาจทำให้เกิดการดื้อโบท็อก
โดยสาเหตุการดื้อโบท็อกเกิดจากโปรตีนในส่วนที่ 1, 2 และ 3 ซึ่งในโปรตีนส่วนที่ 3 โบท็อกทุกยี่ห้อจะมีความคล้ายกันหมด แต่ส่วนที่ทำให้โบท็อกแต่ละยี่ห้อแตกต่างกันคือ ส่วนที่ 1 และ ส่วนที่ 2
Allergan (โบท็อกอเมริกา)
Allergan Botox เป็นโบท็อกจากประเทศอเมริกา สารที่ใช้คือ Onabotulinumtoxin A ได้รับความนิยมอย่างหลากหลายทั่วโลก และเป็นยี่ห้อโบท็อกแรกที่องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาได้อนุมัติให้โบท็อก Allergan ใช้รักษารอยขมวดคิ้วได้ ด้วยเหตุนี้ Allergan Botox จึงถูกใช้ในวงการเสริมความงามเป็นครั้งแรก
Allergan Botox ผลิตโดยบริษัท Allergan ประเทศอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทยาที่มีชื่อเสียงและเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังหลายตัว เช่น ฟิลเลอร์ Juvederm เทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting ฯลฯ
จุดเด่นของโบท็อก Allergan
- มีความบริสุทธิ์สูงมากถึง 99.5%
- อยู่ได้นานถึง 5-6 เดือน
- โอกาสดื้อโบท็อกน้อย
- ยากระจายตัวแคบ ออกฤทธิ์ได้แม่นยำ
เหมาะสำหรับ : ฉีดลิฟกรอบหน้าเพื่อยกกระชับเหนียงคอ ฉีดโบท็อกลดกรามหรือปรับรูปหน้า และฉีดโบท็อกลดริ้วรอย เช่น ริ้วรอยระหว่างคิ้ว (Glabellar Lines), ริ้วรอยหน้าผาก, ริ้วรอยตีนกา, ฉีดเฉพาะจุด เช่น ลดเหงื่อบริเวณรักแร้
หากไม่แน่ใจว่าควรเริ่มต้นฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดีก็สามารถเลือกฉีด Allergan Botox ที่ผ่านอย. ไทยและมีความปลอดภัย ซึ่งมีด้วยกัน 2 ขนาด ได้แก่ Allergan จำนวน 50 ยูนิต และจำนวน 100 ยูนิต
Dysport (โบท็อกอังกฤษ)
Dysport Botox จากประเทศอังกฤษมีสารที่ใช้คือ Abobotulinumtoxin A มีโครงสร้างโมเลกุลเล็กกว่าโบท็อกอเมริกา ยากระจายเป็นวงกว้าง เมื่อฉีดแล้วไม่กระจุกตัวในพื้นที่แคบ ผลิตโดยบริษัท IPSEN BIOPHARM LIMITED นำเข้าและจัดจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท กัลเดอร์มา ประเทศไทย
จุดเด่นของโบท็อก Dysport
- มีความบริสุทธิ์สูง
- อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
- โอกาสดื้อโบท็อกน้อย
- กระจายตัวกว้าง ไม่ทำให้หน้าแข็งตึงหากฉีดในปริมาณที่เหมาะสม
เหมาะสำหรับ : ฉีดลิฟกรอบหน้า ฉีดลดริ้วรอยแบบไม่ตึงเกินไป เช่น บริเวณระหว่างคิ้ว (Glabellar Lines) ฉีดเฉพาะจุด เช่น กล้ามเนื้อต้นแขน น่องขา ลดเหงื่อบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ
Dysport Botox ที่ผ่านอย. ไทย มี 2 ขนาด ได้แก่ โบท็อก Dysport จำนวน 300 ยูนิต และจำนวน 500 ยูนิต (300 ยูนิตของ Dysport Botox เท่ากับ 100 ยูนิตของยี่ห้ออื่น ๆ)
Xeomin (โบท็อกเยอรมัน)
XEOMIN เป็นโบท็อกจากประเทศเยอรมัน สารที่ใช้คือ Incobotulinum Toxin A ผลิตโดยบริษัท MERZ PHARMA GMBH & CO. KGaA ทางบริษัทได้มีการพัฒนา XTRACT Technology มาใช้ในกระบวนการผลิต ทำให้ไม่มีการปนเปื้อนของโปรตีน โบท็อกเยอรมันนี้มีความบริสุทธิ์สูง โอกาสดื้อยาน้อย และขนาดโมเลกุลของโบท็อกมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ แต่ก็ยังคงมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการทำงานของระบบประสาทได้ดี นำเข้าประเทศไทยโดย Merz Aesthetics จำกัด
จุดเด่นของโบท็อก XEOMIN
- มีความบริสุทธิ์สูง
- อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
- มีการใช้เทคโนโลยีเฉพาะ XTRACT Technology
- สามารถฉีดในเคสดื้อโบท็อกตัวอื่น ๆ ได้
- โอกาสดื้อโบท็อกน้อย
- ยากระจายตัวดี ฉีดแล้วไม่ตึงเกินไป
เหมาะสำหรับ : ฉีดลดริ้วรอยทั่วใบหน้า ปรับรูปหน้าเรียว ลิฟกรอบหน้า ลดกราม ฉีดเฉพาะจุด เช่น ลดกล้ามเนื้อน่อง แขน
XEOMIN Botox ที่ผ่านอย. ไทย มี 2 ขนาด ได้แก่ โบท็อก XEOMIN จำนวน 50 ยูนิต และจำนวน 100 ยูนิต
Nabota (โบท็อกเกาหลี)
Nabota Botox เป็นโบท็อกเกาหลีที่มีการใช้เทคโนโลยีเฉพาะ HI-PURE Technology ทำให้มีความบริสุทธิ์สูง ดื้อยาน้อย ออกฤทธิ์ค่อนข้างไว จึงได้รับความนิยมอย่างหลากหลายทั้งประเทศไทย, เกาหลี, อเมริกา และโซนยุโรป ผ่านการรับรองจาก USFDA (U.S. Food and Drug Administration) มีผู้ผลิตคือ บริษัท Daewoong Pharmaceutical จัดและจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท มัณฑนา มาร์เก็ตติ้ง จำกัด หากกำลังมองหาโบท็อกเกาหลียี่ห้อไหนดี ขอแนะนำโบท็อก Nabota ที่ให้ผลลัพธ์หลังฉีดอย่างเป็นธรรมชาติ โบท็อกราคาไม่แพง
จุดเด่นของโบท็อก Nabota
- มีความบริสุทธิ์สูง 98.7%
- อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
- มีการใช้เทคโนโลยีเฉพาะ HI-PURE Technology
- มีโอกาสดื้อยาน้อย
- ออกฤทธิ์ไว
เหมาะสำหรับ : ฉีดลดริ้วรอยทั่วใบหน้า ปรับรูปหน้าเรียว ลดกราม ลิฟกรอบหน้า ฉีดเฉพาะจุด เช่น ลดกล้ามเนื้อน่องขา แขน
Nabota Botox ที่ผ่านอย. ไทย คือ Nabota Botox กล่องดำ จำนวน 100 ยูนิต
Aestox (โบท็อกเกาหลี)
Aestox Botox อีกหนึ่งโบท็อกเกาหลีที่ผลิตโดยบริษัท HUGEL, Inc. นำเข้าและจัดจำหน่ายโดยบริษัท Aestec Pharma จำกัด เป็นหนึ่งในยี่ห้อที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศไทย ปลอดภัย ผ่านการรับรองจาก KFDA (Korea Food & Drug Administration) สำหรับผู้ที่สงสัยว่าโบท็อก Aestox ดีไหม? สามารถพิจารณาจุดเด่นของโบท็อกได้ตามข้อมูลดังต่อไปนี้
จุดเด่นของโบท็อก Aestox
- มีความบริสุทธิ์สูง 99.5%
- อยู่ได้นาน 4-5 เดือน
- มีโอกาสดื้อยาน้อย
- ออกฤทธิ์ค่อนข้างไว
เหมาะสำหรับ : ฉีดโบท็อกริ้วรอยใต้ตา ลิฟกรอบหน้า ลดขนาดกราม หรือฉีดเฉพาะจุด เช่น ลดกล้ามเนื้อน่องขา แขน ลดเหงื่อบริเวณรักแร้
Aestox Botox ที่ผ่านอย.ไทย มี 3 ขนาด ได้แก่ โบท็อก Aestox จำนวน 50 ยูนิต จำนวน 100 ยูนิต และจำนวน 200 ยูนิต
HUGEL (โบท็อกเกาหลี)
HUGEL เป็นโบท็อกจากประเทศเกาหลี ผลิตและพัฒนาโดยบริษัท Hugel, Inc. นำเข้าและจัดจำหน่ายโดยบริษัท บอน-ซอง จำกัด ซึ่งโบท็อก Hugel กับ Nabota มีตัวยาที่มีความบริสุทธิ์สูงและออกฤทธิ์ค่อนข้างไว แต่โมเลกุลของโบท็อก Nabota จะมีขนาดเล็กกว่า ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 4-5 เดือนซึ่งน้อยกว่าโบท็อก HUGEL
จุดเด่นของโบท็อก HUGEL
- มีความบริสุทธิ์สูง
- อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
- มีการกระจายตัวแคบ ออกฤทธิ์ไว
เหมาะสำหรับ : ฉีดลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าเรียว ลดกราม ฉีดเฉพาะจุด เช่น ลดขนาดกล้ามเนื้อน่อง แขน รักแร้
HUGEL Botox ที่ผ่านอย. ไทย มี 2 ขนาด ได้แก่ โบท็อก HUGEL จำนวน 50 ยูนิต และจำนวน 200 ยูนิต
CLODEW (โบท็อกเกาหลี)
CLODEW เป็นโบท็อกจากประเทศเกาหลี ผลิตจากบริษัท Daewoong Pharmaceutical จำกัด บริษัทเดียวกันกับโบท็อก Nabota จัดและจำหน่ายโดยบริษัท แดวูง ฟาร์มาซูทิคอล ประเทศไทย จำกัด โดย CLODEW Botox 1 กล่อง มีจำนวนยูนิต 100 ยูนิต หากไม่แน่ใจว่าควรฉีด Botox เกาหลียี่ห้อไหนดี CLODEW นับว่าเป็นโบท็อกที่สามารถแก้ไขปัญหาผิวได้หลากหลายเช่นกัน
จุดเด่นของโบท็อก CLODEW
- มีความบริสุทธิ์สูง
- อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
- มีเทคนิคเฉพาะ Double V Lifting
- ออกฤทธิ์ไว
เหมาะสำหรับ : ฉีดลดริ้วรอย ลดกราม ยกกระชับ ลิฟกรอบหน้า
Botulax (โบท็อกเกาหลี)
Botulax หนึ่งในโบท็อกเกาหลีที่นำเข้าโดยบริษัท Cosma Medical สามารถออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ ลดริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โบท็อกเกาหลียี่ห้อนี้ได้รับการรับรองจาก KFDA จากประเทศเกาหลีว่ามีความปลอดภัยต่อร่างกาย
Nabota กับ Botulax ต่างกันอย่างไร? ทั้ง 2 ยี่ห้อมีคุณสมบัติตัวยา เทคโนโลยีที่ใช้ และระยะเวลาออกฤทธิ์แตกต่างกัน
จุดเด่นของโบท็อก Botulax
- มีความบริสุทธิ์สูง 99.5%
- อยู่ได้นาน 6-8 เดือน
- โดดเด่นเรื่องความอ่อนโยน ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
- ราคาสูงน้อยกว่าโบท็อกยี่ห้ออื่น ๆ
เหมาะสำหรับ : ฉีดลดริ้วรอยต่าง ๆ เช่น รอยขมวดคิ้ว ริ้วรอยใต้ดวงตา ฉีดลดกราม ปรับรูปหน้าให้เรียว
Botulax Botox ที่ผ่านอย. ไทย มี 2 ขนาด ได้แก่ โบท็อก Botulax จำนวน 100 ยูนิต และจำนวน 200 ยูนิต
Neuronox (โบท็อกเกาหลี)
อีกหนึ่งโบท็อกเกาหลีที่ได้รับความนิยมสูงก็คือ Neuronox ผลิตโดยบริษัท Medytox โดยตัวยามีการนำ Botulinum Toxin Type A สายพันธุ์ Hall A-hyper ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีงานวิจัยต่าง ๆ ยืนยันว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาและปลอดภัยสูง ใกล้เคียงกับยี่ห้อโบท็อกอเมริกา
จุดเด่นของโบท็อก Neuronox
- มีความบริสุทธิ์สูง 98-99%
- อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
- ดื้อโบน้อย
- ยากระจายตัวแคบ ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
เหมาะสำหรับ : ฉีดลดริ้วรอย เพิ่มกรอบหน้า ปรับหน้าเรียว
Neuronox Botox ที่ผ่านอย. ไทย มี 3 ขนาด ได้แก่ โบท็อก Neuronox จำนวน 50 ยูนิต 100 ยูนิต และจำนวน 200 ยูนิต
BTXA (โบท็อกฮ่องกง)
BTXA เป็นโบท็อกสัญชาติฮ่องกง ผลิตโดยบริษัท Lanzhou Biotechnique Development จำกัด จัดและจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท คอสเมด ฟาร์ม่า จำกัด โดย BTXA Botox 1 กล่อง มีจำนวน 100 ยูนิต สำหรับผู้ที่สงสัยว่าโบท็อก BTXA อยู่ได้กี่เดือน หากฉีดโบท็อกชนิดนี้ออกฤทธิ์อยู่ได้นานถึง 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว บริเวณที่ฉีด และการดูแลตนเองหลังฉีดโบท็อก
จุดเด่นของโบท็อก BTXA
- มีความบริสุทธิ์สูง 99.5%
- อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
เหมาะสำหรับ : ฉีดลดริ้วรอย ลดกราม ลิฟกรอบหน้า
เลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดี โบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด?
โบท็อกอยู่ได้กี่เดือน? Botox ยี่ห้อไหนดีที่สุด? โบท็อกแต่ละยี่ห้อจะมีข้อดีและจุดเด่นที่แตกต่างกันไป การพิจารณาเลือกฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดีควรเลือกจากปัญหาที่ต้องการแก้ไข ตามผลลัพธ์ที่ต้องการ หรือตามงบประมาณที่มี โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรเลือกใช้โบท็อกที่ได้มาตรฐานและผ่านอย. ไทยเท่านั้น อย่างไรก็ตามเพื่อผลลัพธ์ที่ดีและคุ้มค่า ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อช่วยประเมิน และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
สามารถอ่านบทความฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผลเพิ่มเติมได้ที่ : ฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล ทำไมเห็นผลช้า และฉีดบอกโบท็อกแล้วอยู่นานเท่าไหร่?
โบท็อกหิ้วคืออะไร ฉีดแล้วอันตรายไหม?
โบท็อกหิ้วคือ โบท็อกที่ถูกนำเข้ามาจากต่างประเทศแบบผิดกฎหมาย ยังไม่ผ่านการลงทะเบียน ใช้การขนส่งที่ไม่ได้มาตรฐาน ผิดวิธี เนื่องจากไม่มีการเก็บรักษาอย่างถูกต้อง เช่น ไม่มีตู้เก็บความเย็น ไม่มีการควบคุมอุณหภูมิ ทำให้ไม่ผ่านการควบคุมคุณภาพ
ผลที่ได้คือ ตัวยาเสื่อมสภาพ หากนำมาฉีดอาจเกิดผลข้างเคียงตามมาได้ เช่น ตัวยาไม่สามารถอยู่ได้นาน หากฉีดเรื่อย ๆ ซ้ำ ๆ อาจเกิดการดื้อโบท็อกได้ นอกจากนี้ โบท็อกหิ้วอาจเป็นโบท็อกที่เป็นยาปลอม โดยที่เราไม่ทราบว่าผลิตจากสารอะไรซึ่งอาจเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ ดังนั้น การฉีดโบท็อกไม่ควรพิจารณาแค่โบท็อกยี่ห้อไหนดีเท่านั้น แต่ควรพิจารณาสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ เลือกฉีดโบท็อกที่ได้มาตรฐานด้วยเช่นกัน
การฉีดโบท็อก ควรเลือกยูนิตเท่าไหร่ดี?
โบท็อก 1 ขวดมีกี่ยูนิต? ควรใช้ยูนิตเท่าไร? โดยทั่วไปแล้วโบท็อก 1 ขวดอาจจะมี 50, 100 หรือ 200 ยูนิต (Units) การฉีดโบท็อกแต่ละตำแหน่งจะใช้จำนวนยูนิตไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องการแก้ไขของแต่ละคน ทั้งนี้ ก่อนการเข้ารับการฉีด Botox ควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมินปัญหาและจำนวนยูนิตที่ควรฉีดก่อนทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการใช้จำนวนยูนิตที่มากเกินไป เช่น ใบหน้าตึง ไม่สามารถบังคับกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้ เป็นต้น
หากฉีดด้วยจำนวนยูนิตที่น้อยเกินไปก็อาจทำให้การลดริ้วรอยไม่มีประสิทธิผลเท่าที่ควร โดยแต่ละบริเวณใช้ยูนิตที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้ (เป็นจำนวนยูนิตโดยประมาณของ Botox)
- โบท็อกลดกราม ประมาณ 20-35 ยูนิต (ต่อกราม 1 ข้าง)
- โบท็อกลิฟกรอบหน้า ประมาณ 20-30 ยูนิต
- โบท็อกหน้าผาก ประมาณ 12-20 ยูนิต
- โบท็อกระหว่างคิ้ว ประมาณ 20-35 ยูนิต
- โบท็อกริ้วรอยตีนกา ประมาณ 10-18 ยูนิต
นอกจากนี้ การฉีดโบท็อกไม่เพียงใช้บนใบหน้าเท่านั้น แต่ยังสามารถฉีดโบท็อกเฉพาะจุดที่บริเวณอื่น ๆ ได้ เช่น
- โบท็อกรักแร้ ลดเหงื่อ ประมาณ 50-100 ยูนิต
- โบท็อกลดกล้ามแขน ประมาณ 200 ยูนิต
- โบท็อกลดกล้ามเนื้อน่อง ประมาณ 200 ยูนิต
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเลือกยี่ห้อโบท็อก
โบท็อกเกาหลีกับอเมริกาต่างกันไหม?
โบท็อกเกาหลีและอเมริกาต่างเป็นโบท็อกที่ได้มาตรฐาน ได้รับความนิยมสูง และให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ โดยความแตกต่างโบท็อกเกาหลีอเมริกาจะอยู่ที่คุณสมบัติกับความบริสุทธิ์ของตัวยา, การออกฤทธิ์, ระยะเวลาเห็นผล รวมถึงราคาโบท็อก
Aestox กับ Nabota อันไหนดีกว่า?
Aestox และ Nabota ต่างเป็นยี่ห้อโบท็อกจากเกาหลีที่สามารถช่วยลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย แต่การเลือกยี่ห้อโบท็อกควรพิจารณาตามสภาพผิว ปัญหาที่ต้องการแก้ไข และผลลัพธ์ที่ต้องการ ซึ่งแนะนำให้ปรึกษากับแพทย์เพื่อประเมินปัญหาผิว และเลือกยี่ห้อโบท็อกที่เหมาะสมกับผู้เข้ารับทำหัตถการ
สรุปโบท็อกยี่ห้อไหนดีและปลอดภัย เพื่อผลลัพธ์หลังฉีดที่ดีที่สุด
Botox ยี่ห้อไหนดีที่สุด 2024? การเลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดีและปลอดภัยนั้น ควรเลือกโบท็อกที่เหมาะกับความต้องการ หรือตรงกับปัญหาที่อยากแก้ไข สิ่งสำคัญที่สุดนอกเหนือจากการเลือกยี่ห้อโบท็อกคือ การเลือกใช้โบท็อกที่ได้มาตรฐาน, เลือกคลินิกที่สะอาด ปลอดภัย รวมถึงแพทย์ที่ทำการฉีดโบท็อกควรเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการทำหัตถการ ดังนั้น ก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกทุกครั้งควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมินปัญหาที่ต้องการแก้ไข และจำนวนยูนิตที่ต้องใช้ เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหากฉีดโบท็อกในจำนวนยูนิตที่ไม่เหมาะสม
สำหรับผู้ที่ไม่แน่ใจว่าควรฉีดโบท็อกที่ไหนดี สามารถดาวน์โหลดแอป SkinX เพื่อปรึกษาปัญหาผิวกับแพทย์ผิวหนังทางออนไลน์ และให้คุณพบดีลความงามจากคลินิกดังมากมายที่เข้าร่วม โดยลูกค้าใหม่ที่ใช้บริการแอป SkinX ครั้งแรก สามารถเลือกปรึกษาแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย!
SkinX แอปพลิเคชันปรึกษาหมอผิวหนังออนไลน์ ที่ได้รวบรวมเหล่าทีมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำมาให้คำปรึกษาด้านผิวหนัง อาทิ ปัญหาสิว ชนิดผิวพรรณแต่ละประเภท ผมและหนังศีรษะ รวมถึงหัตถการความงาม อย่างฉีดฟิลเลอร์ ฉีดโบท็อก
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
Botox Cosmetic. (onabotulinumtoxinA). (n.d.). Allergan Aesthetics. https://www.allerganaesthetics.com/brands/botox
Cherney K. (2023, March 28). What’s the Difference Between Botox and Dysport?. Healthline. https://www.healthline.com/health/dysport-botox
XEOMIN® (incobotulinumtoxinA). (n.d.). XEOMIN. https://www.xeomin.com/
