โบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า ช่วยยกกระชับผิว ปรับรูปหน้าเรียวโดยไม่ต้องพักฟื้น
โบท็อกลิฟกรอบหน้าเป็นหัตถการเสริมความงามอันดับต้น ๆ ที่หลายคนนึกถึงหากอยากปรับรูปหน้าเรียวสวยได้รูป ผิวยกกระชับ กรอบหน้าชัด เพื่อเสริมความมั่นใจให้กับตนเอง โดยที่สามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน
ในบทความนี้ SkinX จะพาไปทำความรู้จักกับโบท็อกลิฟกรอบหน้าว่าคืออะไร ต่างจากการฉีดโบท็อกลดกรามไหม ฉีดโบท็อกที่กรอบหน้าใช้กี่ยูนิต และตอบคำถามเกี่ยวกับการฉีดโบลิฟกรอบหน้า
SkinX แอปพลิเคชันพบหมอผิวหนังออนไลน์ ที่รวบรวมเหล่าทีมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำมากกว่า 210 คน มาให้คำปรึกษาโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิว, ปัญหาผิวหน้า, ปัญหาผมและหนังศีรษะ รวมไปถึงหัตถการความงามอย่างฉีดฟิลเลอร์หรือฉีดโบท็อก สำหรับผู้ใช้บริการรายใหม่สามารถปรึกษากับแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ลิฟกรอบหน้าคืออะไร หลังฉีดโบท็อกกรอบหน้ากี่วันเห็นผล?
- ลิฟกรอบหน้า คือ การปรับรูปหน้าให้กรอบหน้ายกกระชับ ใบหน้าดูเรียว และมีมิติมากขึ้น ด้วยการฉีดโบท็อกบริเวณกรอบหน้า กราม หรือลำคอ ซึ่งช่วยเสริมความมั่นใจแก่ผู้เข้ารับบริการได้
- ลิฟกรอบหน้าด้วยโบท็อกเป็นหัตถการที่ช่วยยกกระชับผิวได้ดี ทำให้ใบหน้าดูสมส่วน กรอบหน้าคมชัด ตลอดจนช่วยลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้าและลำคอ
- การฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้ากับโบกรามแม้จะฉีดบริเวณที่ใกล้เคียงกัน แต่การลิฟกรอบหน้าจะเน้นฉีดไปที่กล้ามเนื้อ Platysma โดยให้ผิวหนังถูกดึงขึ้นและยกใบหน้าให้กระชับ
- การฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าจะเริ่มเห็นผลลัพธ์หลังฉีดประมาณ 2-3 สัปดาห์ และจะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน 1 เดือนเป็นต้นไป
- โดยทั่วไปโบท็อกลิฟกรอบหน้าจะฉีดประมาณ 30-50 ยูนิต โดยแต่ละข้างไม่ควรเกิน 50 ยูนิต เพราะจะส่งผลให้ใบหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติและเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงรุนแรงได้
- โบท็อกลิฟกรอบหน้าแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ผู้เข้ารับบริการจึงควรปรึกษากับแพทย์เพื่อวิเคราะห์ปัญหาใบหน้าและประเมินยี่ห้อโบท็อกที่เหมาะกับสภาพผิว
การฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าคืออะไร?
การฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า (Lifting Botox) คือ การฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ที่บริเวณกรอบหน้าเพื่อให้ใบหน้าเกิดการยกกระชับ หน้าดูคมขึ้น ชัดขึ้น และเพิ่มมิติให้กับใบหน้า นอกจากนี้การฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้ายังสามารถใช้ฉีดบริเวณลำคอเพื่อลดริ้วรอยบริเวณลำคอได้อีกด้วย หลังฉีดสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนประมาณ 2 สัปดาห์ เป็นต้นไป
สำหรับการฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าจะมีเทคนิคเฉพาะ โดยแพทย์จะฉีดสาร Botulinum toxin A เพื่อคลายกล้ามเนื้อส่วนคอ บริเวณกรอบหน้า ใต้คาง เพื่อช่วยให้ผิวบริเวณกรอบหน้ากระชับ หน้าดูเรียวขึ้น ซึ่งเทคนิคการฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าสามารถแบ่งออกเป็น 2 เทคนิค ดังนี้
- Dermo Lift
เทคนิค Dermo Lift เป็นเทคนิคของเกาหลี โดยการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในชั้นผิวหนังตื้นๆ ตามกรอบหน้า ไล่ขึ้นไปทางศีรษะ เมื่อฉีดไปแล้วจะทำให้เกิดฤทธิ์ของ Dermotoxin ทำให้เกิดการหดตัวของผิวหนังบริเวณกรอบหน้า ผลที่ได้คือใบหน้ายกกระชับ ดูมีมิติมากขึ้น เทคนิคการฉีดแบบ Dermo Lift ยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามแนวกรอบหน้าได้ด้วย
- Nefertiti Lift
เทคนิค Nefertiti Lift เป็นเทคนิคที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพระนางเนเฟอร์ติติ (Nefertiti) โดยจะฉีดบริเวณส่วนล่างของใบหน้า กราม และลำคอ หรือกล้ามเนื้อ Platysma ที่เป็นกล้ามเนื้อห่อหุ้มคอและแก้มส่วนล่าง เมื่อฉีดสาร Botulinum toxin A เข้าไปยังกล้ามเนื้อมัดนี้จะทำให้กล้ามเนื้อส่วนนี้อ่อนแรง ส่งผลให้กล้ามเนื้อส่วนที่ดึงผิวขึ้นมีแรงมากกว่า ใบหน้าจึงยกกระชับ หน้าดูเรียวขึ้น แก้มไม่หย่อนคล้อย
ลิฟต์กรอบหน้าช่วยอะไรบ้าง?
การฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าจะช่วยให้ผิวบริเวณรอบ ๆ ยกกระชับและตึงขึ้น รูปหน้าดูคม จึงนิยมทำร่วมกับการฉีดโบลดกราม เพื่อเสริมให้ใบหน้าดูสมส่วน กรอบหน้าดูชัด และดูมีมิตินั่นเอง นอกจากนี้ โบท็อกลิฟกรอบหน้ายังช่วยลดเลือนริ้วรอยบนผิวหน้าได้ดังต่อไปนี้
- แก้ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ช่วยยกกระชับใบหน้า
- ใบหน้าดูเรียว กรอบหน้าชัดขึ้น
- ช่วยลดรอยพับหรือความหย่อนคล้อยของใบหน้าส่วนล่าง
- ช่วยให้รอยบุ๋มที่คางเรียบเนียนมากขึ้น
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยบริเวณคอ
- ช่วยยกมุมปากตกได้
“แม้เทคนิคการลิฟกรอบหน้าสำหรับผู้หญิงและผู้ชายไม่ได้แตกต่างมากนัก แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยผู้หญิงจะเน้นใบหน้าเรียว V-Shape และยังคงความหวานเอาไว้ ในขณะที่การลิฟกรอบหน้าผู้ชายจะเน้นปรับให้กรอบหน้าดูคมชัด (Jaw Line) มากกว่า”
ฉีดโบลิฟต์กรอบหน้า กับ ฉีดโบลดกราม แตกต่างกันไหม?
หลายๆ คนมักสงสัยว่าการฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้ากับการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม เหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร ถึงแม้ว่าทั้งสองจะเป็นหัตถการเสริมความงามที่ฉีดในจุดที่ใกล้เคียงกัน แต่จริงๆ แล้วทั้งสองแตกต่างกันดังนี้
โบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า กี่วันเห็นผล?
ฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผลสำหรับลิฟกรอบหน้า? หลังจากฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ประมาณ 2 สัปดาห์หลังฉีด และจะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน 1 เดือนขึ้นไป ใบหน้าจะรู้สึกตึงกระชับ กรอบหน้าดูชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ผลลัพธ์การฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคลและการดูแลตนเองหลังฉีดโบท็อก
ฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า อยู่ได้กี่เดือน?
ฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าอยู่ได้นานไหม? ระยะเวลาการฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าจะขึ้นอยู่กับเทคนิคการฉีด หากฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าด้วยเทคนิค Dermo Lift ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 1-2 เดือน ส่วนเทคนิค Nefertiti Lift จะอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน
ลิฟต์กรอบหน้า ควรใช้โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี?
หากสนใจยกกระชับกรอบหน้าควรฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดี? โบท็อกลิฟกรอบหน้าแต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ทั้งความบริสุทธิ์ การออกฤทธิ์ หรือการกระจายตัวยา ก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกจึงควรปรึกษากับแพทย์ก่อนเพื่อประเมินปัญหาใบหน้า และพิจารณายี่ห้อโบท็อกที่เหมาะสมกับผู้เข้ารับบริการ โดย SkinX ได้คัดเลือก 5 ยี่ห้อโบท็อกผ่านอย. ที่กำลังเป็นที่นิยม ดังนี้
1. Allergan
Allergan Botox เป็นโบท็อกซ์สัญชาติอเมริกาที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก มีความบริสุทธิ์สูง 99.5% ทำให้มีโอกาสดื้อยาน้อย ยากระจายตัวแคบ ออกฤทธิ์ได้แม่นยำ อีกทั้งยังเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังหลายตัว เช่น ฟิลเลอร์ Juvederm
2. Xeomin
Xeomin Botox เป็นโบท็อกสัญชาติเยอรมันที่มีความบริสุทธิ์สูง แม้มีขนาดโมเลกุลเล็กและปริมาณโปรตีนส่วนเกินน้อยกว่าโบท็อกยี่ห้ออื่น แต่ยังคงประสิทธิภาพทำงานได้ดี ลดการดื้อโบท็อกได้
3. Dysport
Dysport Botox เป็นโบท็อกซ์สัญชาติอังกฤษ มีโครงสร้างโมเลกุลเล็กกว่าโบท็อกซ์อเมริกา ยากระจายเป็นวงกว้าง เมื่อฉีดแล้วไม่กระจุกตัวในพื้นที่แคบ จึงนิยมใช้ลิฟต์กรอบหน้า ยกกระชับผิว
4. NABOTA
Nabota Botox เป็นโบท็อกซ์สัญชาติเกาหลี มีการใช้เทคโนโลยีเฉพาะ HI-PURE Technology ทำให้มีความบริสุทธิ์สูง ออกฤทธิ์ไว ได้รับความนิยมหลากหลายประเทศ และเป็นโบท็อกซ์เกาหลีเพียงยี่ห้อเดียวที่ผ่านการรับรองจาก USFDA (U.S. Food and Drug Administration)
5.Botulax
Botulax Botox เป็นโบท็อกสัญชาติเกาหลี ผลิตโดยบริษัท HUGEL ที่ผลิตโบท็อกอีก 2 ยี่ห้อ คือ Aestox และ HUGEL ตัวยากระจายตัวได้กว้าง ออกฤทธิ์ค่อนข้างไว มีความบริสุทธิ์สูง
“อันตรายจากการลิฟกรอบหน้าด้วยการฉีดโบท็อกปลอมนั้นนอกจากจะเสี่ยงให้เกิดอาการดื้อยาแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้เนื่องจากความไม่บริสุทธิ์ของตัวยาอีกด้วย หากกระจายไปโดนกล้ามเนื้อมัดอื่นส่งผลให้หนังตาตก ปากเบี้ยวได้”
โบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า ใช้กี่ยูนิต?
ลิฟกรอบหน้าใช้กี่ยูนิต? โดยปกติแล้วการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าจะใช้โบท็อกประมาณ 30-50 Units แต่ไม่ควรฉีดเกินข้างละ 50 Units เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น หนังตาตก ปากเบี้ยว ยิ้มไม่สุด เป็นต้น ทั้งนี้ จำนวนยูนิตที่ใช้ฉีดโบท็อกควรอยู่ภายใต้การพิจารณาของแพทย์ผู้ทำหัตถการ
Botox ลิฟต์กรอบหน้าราคาเท่าไร?
ราคาการฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อและจำนวนยูนิตของโบท็อกซ์ที่เลือกใช้ ซึ่งโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อก็จะมีผลลัพธ์และระยะเวลาการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน โดยฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าราคาต่อ 100 Units มีดังนี้
- โบท็อกเกาหลี Aestox, Nabota, Botulax 100 Units ราคาประมาณ 7,000 บาท
- โบท็อกอังกฤษ Dysport 300 Units* ราคาประมาณ 14,000 บาท
- โบท็อกอเมริกา Allergan 100 Units ราคาประมาณ 18,000-24,000 บาท
- โบท็อกเยอรมัน Xeomin 100 Units ราคาประมาณ 14,000-18,000 บาท
โดยส่วนใหญ่แล้วการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าจะใช้จำนวนยูนิตข้างละประมาณ 30-50 ยูนิต ซึ่งผู้เข้ารับบริการบางรายสามารถซื้อโบท็อก 1 ขวด ในปริมาณ 100 ยูนิตสำหรับลิฟกรอบหน้าได้เลย หากมียูนิตเหลือก็สามารถนำไปฉีดเพื่อลดริ้วรอยส่วนอื่นบนใบหน้าได้ ตลอดจนการตรวจสอบโบท็อกที่ได้มาตรฐานและปลอดภัยก่อนฉีดอย่างการเช็กเลข Lot กล่องกับขวดโบท็อก
เพราะการฉีดโบท็อกเฉพาะจุดที่มีการแบ่งจำนวนยูนิตมาแล้วจะทำให้ตรวจสอบโบท็อกได้ค่อนข้างยากกว่าเดิม
*เฉพาะโบท็อก Dysport ที่หน่วยยูนิตจะแตกต่างจากยี่ห้ออื่น โดย 300 Unit ของ Dysport เท่ากับ 100 Unit ของยี่ห้ออื่น
หลังลิฟต์กรอบหน้าควรดูแลตนเองอย่างไร
การปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าที่ดีจะช่วยรักษาตัวยาให้นานขึ้น และจะช่วยลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยมีข้อปฏิบัติดังนี้
- หลังฉีดโบท็อกซ์เสร็จในแต่ละบริเวณควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
- ไม่ควรถู จับ ลูบคลำ หรือกดบริเวณกรอบหน้าแรงๆ เพราะอาจทำให้ยากระจายตัว
- งดนอนราบ หรือนอนตะแคง 3-4 ชั่วโมงหลังฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลังฉีด 2-3 วันแรก
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น การตากแดดแรงๆ เลเซอร์ร้อนบนผิวหน้า หลังฉีดประมาณ 2 สัปดาห์
รวมคำถามเกี่ยวกับการฉีดลิฟต์กรอบหน้า
การลิฟต์หน้ามีข้อเสียอะไรไหม?
การฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์หน้าเรียวไม่สามารถอยู่ได้ถาวร ผลลัพธ์สูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ 3-6 เดือน หากโบท็อกซ์สลายแล้วสามารถกลับมาฉีดซ้ำใหม่ได้ เพื่อรักษาผลลัพธ์ไว้
นอกจากนี้บริเวณที่ได้รับการรับรองจาก FDA ให้ฉีดโบท็อกซ์เพื่อความงามได้อย่างปลอดภัยมีเพียงบริเวณริ้วรอยบนใบหน้าส่วนบนเท่านั้น เช่น ริ้วรอยตีนกา ริ้วรอยขมวดคิ้ว ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก เป็นต้น ส่วนบริเวณใบหน้าส่วนล่างยังไม่ได้รับการรับรอง เนื่องจากยังไม่มีงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว
อยากหน้าเรียวลิฟต์กรอบหน้าอย่างเดียวได้หรือไม่?
การฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าเป็นการยกกระชับกรอบหน้า ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูคมชัดขึ้น สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีปัญหาใบหน้าสามารถฉีดลิฟกรอบหน้าเรียวอย่างเดียวได้ แต่หากต้องการเสริมใบหน้าดูสมส่วนและเข้ารูปมากขึ้นควรทำควบคู่กับการฉีดโบท็อกลดกราม
สรุปโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า ควรฉีดดีไหม?
การฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าเป็นหัตถการเสริมความงามที่มีความปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ยกกระชับ ดูคมชัดมากขึ้นโดยไม่ต้องพักฟื้น นับได้ว่าเป็นหัตถการที่มอบผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยเสริมความมั่นใจให้กับผู้เข้ารับบริการ โดยการฉีดโบท็อกควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน สะอาด และปลอดภัย มีแพทย์เป็นผู้ทำหัตถการโดยตรง
สำหรับผู้ที่ต้องการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าแต่ไม่สะดวกไปคลินิกเพื่อให้แพทย์ประเมินปัญหาใบหน้า สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SkinX ช่องทางปรึกษาหมอผิวหนังออนไลน์ที่ได้รวบรวมเหล่าทีมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำ ให้คุณปรึกษาปัญหาสิว, สภาพผิว, ผมและหนังศีรษะ รวมถึงหัตถการความงามอย่างการฉีดฟิลเลอร์และโบท็อก สำหรับผู้ใช้บริการครั้งแรกสามารถปรึกษากับแพทย์ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
CELEBRATING 20 YEARS OF BOTOX® COSMETIC. Botox Cosmetic. https://www.botoxcosmetic.com/what-is-botox-cosmetic/celebrating-20-years-of-botox-cosmetic
Sliver N. (2020, March 19). What Is a Nefertiti Lift?. Healthline. https://www.healthline.com/health/nefertiti-lift