ทำความรู้จัก “โบท็อกซ์” หัตถการความสวย ที่ทำได้มากกว่าเสริมความงาม

โบท็อกซ์ (Botox) เป็นหนึ่งในหัตถการเสริมความงามที่กำลังถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก เพราะสามารถช่วยปรับหน้าเรียว ยกกระชับกรอบหน้า ลดริ้วรอยบนใบหน้า เพื่อให้รูปหน้า ผิวหน้าดูดีขึ้น และเสริมความมั่นใจให้กับตัวเอง แต่หลายคนยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วโบท็อกซ์คืออะไร มีวิธีการทำงานอย่างไร สามารถนำไปทำอะไรได้อีกบ้าง
ในบทความนี้ SkinX จะพามาเจาะลึกกับวงการฉีดโบท็อกซ์ว่า คืออะไร นำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง โบท็อกซ์อันตรายไหม ฉีดจุดไหนได้บ้าง มีกี่ยี่ห้อ และตอบทุกคำถามเกี่ยวกับโบท็อกซ์
ทำความรู้จักกับ SkinX แอปพลิเคชันพบหมอผิวหนังออนไลน์ ที่ได้รวบรวมเหล่าทีมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำ มากกว่า 210 คน มาให้คำปรึกษาโดยเฉพาะ อาทิ ปัญหาเรื่องสิว ชนิดผิวพรรณแต่ละประเภท ผมและหนังศีรษะ รวมไปถึงหัตถการความงามอย่าง ฉีดโบท็อกซ์ และฉีดฟิลเลอร์
โบท็อกซ์คืออะไร

โบท็อกซ์ (Botox) คือชื่อทางการค้าของสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรีย Clostridium Botulinum ในปัจจุบันสาร Botulinum toxin A ถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงามอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้สาร Botulinum toxin A ยังสามารถนำมาใช้ทางการแพทย์ได้ด้วย
แท้จริงแล้วคำว่า “Botox” เป็นชื่อทางการค้าของบริษัท Allergan ผู้ที่คิดค้นการนำเอาสาร Botulinum toxin A มาใช้ในการรักษาความงามในด้านริ้วรอยเป็นครั้งแรก และเป็นยี่ห้อแรกที่ได้การรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (USFDA) คำว่า Botox จึงถูกใช้ครั้งแรกและกลายเป็นคำเรียกติดปากของคนในปัจจุบัน
สาร Botulinum toxin A มีหลากหลายยี่ห้อ เช่น Botox (Onabotulinumtoxina; Allergan, Inc.), Dysport (Abobotulinumtoxina; Ipsen Ltd.), Xeomin (Incobotulinumtoxin A; Merz Pharmaceuticals GmbH) เป็นต้น
ทำไมต้องฉีดโบท็อกซ์?
การฉีด Botox ไม่เพียงแต่ฉีดเพื่อเสริมความงามเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ในทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคบางชนิดได้
โบท็อกซ์กับความงาม
การฉีด Botox หรือสาร Botulinum toxin ในวงการเสริมความงามจะช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า สามารถปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก รวมถึงยังสามารถลดกล้ามเนื้อน่องแขน น่องขาได้อีกด้วย
โบท็อกซ์กับการแพทย์
การฉีด Botox หรือการฉีดสาร Botulinum toxin สามารถใช้ในทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคบางชนิดได้อีกด้วย โดย FDA (Food and Drug Administration) ได้อนุมัติให้ใช้สาร Botulinum toxin รักษาโรคต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น
- ภาวะเหงื่อออกมาก (Hyperhidrosis) เช่น ภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติที่รักแร้ (Axillary hyperhidrosis) ภาวะการหลั่งเหงื่อออกมากผิดปกติที่ฝ่ามือ (Plamer Hyperhidrosis)
- ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง (Spasticity)
- ภาวะกล้ามเนื้อตาหดเกร็งผิดปกติ (Blepharospasm)
- การหดตัวผิดปกติของกล้ามเนื้อหูรูด (Sphincters)
- ภาวะตาเหล่ (Strabismus)
- โรคไมเกรน (Migraine)

โบท็อกซ์มีการทำงานอย่างไร?
เมื่อฉีดสาร Botulinum toxin เข้าไปแล้ว สารชนิดนี้จะออกฤทธิ์โดยการไปจับกับส่วนปลายของเซลล์ประสาทและไปรบกวนการทำงานของสารเคมี Acetylcholine ทำให้ไม่สามารถหลั่งสารออกมาได้ ส่งผลให้กล้ามเนื้อหดตัวลงชั่วคราว หรือต่อมเหงื่อทำงานลดลง เป็นต้น ซึ่งสาร Botulinum toxin จะให้ผลชั่วคราว สามารถอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน เท่านั้น
ฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม?

ปัญหาเรื่องฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม? หากฉีดโบท็อกซ์กับแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ฉีดโบท็อกซ์แท้ รวมถึงคลินิกได้มาตรฐาน ก็จะมีความปลอดภัยสูงมาก แต่ถ้าหากฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ หรือใช้โบท็อกซ์ปลอมก็อาจเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ โดยอันตรายจากการฉีดโบท็อกซ์ มีดังนี้
- ภาวะแทรกซ้อนหากฉีดโบท็อกซ์กับหมอกระเป๋า
การฉีดโบท็อกซ์กับหมอกระเป๋าเสี่ยงฉีดไม่ถูกตำแหน่ง ประเมินปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้ไม่เหมาะสม อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ เช่น หนังตาตก ยิ้มไม่สุด มุมปากเบี้ยว หน้าแข็งหรือหน้าตึง เป็นต้น
- อันตรายจากโบท็อกซ์ปลอม
โบท็อกซ์ปลอมสามารถมาได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น โบท็อกซ์ปลอมของแท้ โบท็อกซ์น้ำเกลือ โบท็อกซ์หิ้ว โดยอันตรายจากการใช้โบท็อกซ์ปลอมอาจทำให้เกิดการดื้อยา เสี่ยงต่อการแพ้ และได้ยาเกินขนาด
- อันตรายจากการฉีดโบท็อกซ์เอง
การซื้อโบท็อกซ์มาฉีดเองหรือให้คนอื่นฉีดให้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะโบท็อกซ์ที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงในขั้นตอนการฉีดอาจเกิดความผิดพลาดตามมาได้ เนื่องจากขั้นตอนที่ไม่สะอาด เสี่ยงติดเชื้อและเกิดการอักเสบได้
- ฉีดโบท็อกซ์กับคลินิกไม่ได้มาตรฐาน
คลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานมักจะไม่มีการฆ่าเชื้อ อุปกรณ์ที่ใช้ไม่สะอาดมากพอ ไม่มีระบบการดูแลความสะอาดปลอดเชื้อ หากคนไข้เลือกฉีดโบท็อกซ์กับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน และมีวิธีการเก็บยาที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้ยามีการปนเปื้อน เสื่อมคุณภาพ เมื่อนำมาฉีดสามารถเกิดการอักเสบติดเชื้อหลังฉีดได้
โบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ในปัจจุบันโบท็อกซ์ที่ผ่านอย.ประเทศไทยมีหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งความแตกต่างกันของ Botox แต่ละยี่ห้อนี้จะแตกต่างกันที่กระบวนการเทคโนโลยี กรรมวิธีในการผลิต ความบริสุทธิ์ ชนิดโปรตีน ขนาดของโมเลกุล ความคงทนในการเก็บรักษา เป็นต้น
ขนาดของโมเลกุล
Molecule Complex ของสาร Botulinum toxin A ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ คือ
- ส่วนที่ 1 Accessories protein
Accessories protein ทำหน้าที่แพร่กระจายตัวยา นำพา และปกป้อง Heavy chain และ Light chain จากจุดที่ฉีดโบท็อกซ์แพร่ไปยังปลายเส้นประสาทให้ปลอดภัยไม่ถูกทำลาย
- ส่วนที่ 2 Heavy chain
Heavy chain เป็นตัวที่สามารถพา Light chain เข้าสู่เซลล์เส้นประสาท
- Light chain
Light chain เป็นส่วนที่ระงับการทำงานของกล้ามเนื้อ
ความบริสุทธิ์ของโบท็อกซ์
สาร Botulinum toxin A เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกายแล้วสามารถสลายไปได้เองโดยไม่เป็นอันตราย แต่ในบางกรณีที่ร่างกายสามารถสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาได้ อาจทำให้เกิดการดื้อโบท็อกซ์ โดยสาเหตุเกิดจากโปรตีนในส่วนที่ 1 2 และ 3 ซึ่งในโปรตีนส่วนที่ 3 โบท็อกซ์ทุกยี่ห้อจะมีความคล้ายกันหมด แต่ส่วนที่ทำให้โบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันคือ ส่วนที่ 1 และ ส่วนที่ 2
โบท็อกซ์ฉีดตรงไหนได้บ้าง?
การฉีดสาร Botulinum toxin นอกจากจะช่วยรักษาโรคบางชนิดที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังช่วยเรื่องความงามอีกด้วย ในปัจจุบันผู้คนนิยมฉีดโบท็อกซ์เพื่อปรับรูปหน้าเป็นส่วนมาก โดยบริเวณที่สามารถฉีดโบท็อกซ์มีดังนี้
- โบท็อกซ์ลดกราม
ฉีดโบลดกราม หรือฉีดโบท็อกซ์ลดกราม จะช่วยเรื่องลดกราม ปรับรูปหน้าเรียว เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อกราม
- โบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า
ฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าเป็นการฉีดโบท็อกซ์เพื่อคลายกล้ามเนื้อส่วนคอ โดยจะฉีดบริเวณกรอบหน้า ใต้คาง เพื่อยกกระชับใบหน้าให้ดูมีมิติขึ้น ทำให้ผิวบริเวณกรอบหน้ากระชับ หน้าดูเรียวขึ้น
- โบท็อกซ์ลดริ้วรอย
ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยสามารถฉีดได้หลายจุดบนใบหน้า เช่น รอยย่นบริเวณหน้าผาก รอบดวงตา ตีนกา ร่องแก้ม เป็นต้น การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยจะช่วยทำให้ผิวเต่งตึง กระชับ และเรียบเนียน
- โบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตา
การฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตา หรือริ้วรอยรอบดวงตาจะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัวชั่วคราว ริ้วรอยจางลง
- โบท็อกซ์หน้าผาก
การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากสามารถช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณหน้าผากได้ เมื่อเราแสดงสีหน้าหรือยักคิ้วริ้วรอยบริเวณหน้าผากก็จะไม่เกิดการพับของผิว ทำให้ผิวบริเวณหน้าผากดูเรียบเนียน กระชับ และเต่งตึงขึ้น
- โบท็อกซ์คิ้ว
โบท็อกซ์คิ้ว หรือการฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้วจะช่วยลดเลือนริ้วรอยเวลาขมวดคิ้วหรือแสดงสีหน้า การฉีดโบท็อกซ์คิ้วจะช่วยยับยั้งการหดตัวและทำให้ผิวหนังบริเวณระหว่างคิ้วเรียบเนียน
- โบท็อกซ์ยกมุมปาก
โบท็อกซ์ยกมุมปากเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหารูปปากเป็นเส้นตรงหรือรูปปากคว่ำ รวมถึงผู้ที่เริ่มมีอายุ ผิวหนังบริเวณมุมปากเริ่มหย่อนคล้อย การแก้ไขด้วยโบท็อกซ์จะช่วยยกมุมปากขึ้นให้ดูสมดุล ใบหน้าโดยรวมดูสดใส และเสริมสร้างความมั่นใจได้
- โบท็อกซ์แขน
โบท็อกซ์แขนหรือการฉีดโบท็อกซ์ลดกล้ามแขน สามารถแก้ปัญหาต้นแขนให้ดูเล็กลงได้ เหมาะสำหรับคนที่มีกล้ามแขนขนาดใหญ่ แต่ถ้าแขนใหญ่จากไขมันโบท็อกซ์ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้
- โบท็อกซ์น่องขา
การฉีดโบท็อกซ์น่องขาจะช่วยลดขนาดน่องให้เล็กลง ขาดูเรียวเล็ก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจ หรืออยากปรับให้ดูสมดุลกับสรีระร่างกาย
- โบท็อกซ์ปีกจมูก
การฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูกจะช่วยแก้ปัญหาปีกจมูกบาน ปีกจมูกใหญ่ ให้รูปจมูกที่กว้างแคบลง เล็กลง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปจมูกให้ดูมีมิติ ดูสมส่วนมากขึ้น
ฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี? รวม 8 ยี่ห้อโบท็อกซ์ผ่านอย. 2022
โบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อจะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวิธีการทำให้ตัวยาบริสุทธิ์ ชนิดโปรตีน เทคโนโลยีที่ใช้ หรือขนาดของโมเลกุล เป็นต้น แต่นอกเหนือจากการเลือกยี่ห้อโบท็อกซ์ การเลือกใช้โบท็อกซ์ที่แท้และผ่านอย.ไทยเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน สำหรับผู้ที่กำลังมองหาโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี SkinX ได้รวบรวม 9 ยี่ห้อโบท็อกซ์ผ่านอย.ไทยไว้ ดังต่อไปนี้
1. Allergan

Allergan Botox เป็นโบท็อกซ์จากประเทศอเมริกา สารที่ใช้คือ Onabotulinumtoxin A ได้รับความนิยมอย่างหลากหลายทั่วโลก และเป็นยี่ห้อแรกที่องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาได้อนุมัติให้โบท็อกซ์ Allergan ใช้รักษารอยขมวดคิ้ว ถือได้ว่า Allergan Botox ได้ถูกใช้ในวงการเสริมความงามเป็นครั้งแรก โดย Allergan Botox ผลิตโดยบริษัท Allergan ประเทศอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทยาที่มีชื่อเสียงและเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังหลายตัว เช่น ฟิลเลอร์ Juvederm เทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting
จุดเด่นของโบท็อกซ์
- มีความบริสุทธิ์สูงมากถึง 99.5%
- อยู่ได้นานถึง 5-6 เดือน
- โอกาสดื้อโบท็อกซ์น้อย
- ยากระจายตัวแคบ ออกฤทธิ์ได้แม่นยำ
- นิยมฉีดลดริ้วรอยบนใบหน้า ลิฟต์กรอบหน้า ลดกราม ฉีดเฉพาะจุด เช่น ลดเหงื่อบริเวณรักแร้
Allergan Botox ที่ผ่านอย.ไทย มี 2 แบบคือ
- Allergan จำนวน 50 ยูนิต
- Allergan จำนวน 100 ยูนิต
2. XEOMIN

XEOMIN Botox เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเยอรมัน สารที่ใช้คือ incobotulinumtoxin A ผลิตโดยบริษัท MERZ PHARMA GMBH & CO. KGaA ทางบริษัทได้มีการพัฒนา XTRACT Technology มาใช้ในกระบวนการผลิต ทำให้ลดการปนเปื้อนของโปรตีน โบท็อกซ์มีความบริสุทธิ์สูง โอกาสดื้อยาน้อย และขนาดโมเลกุลของโบท็อกซ์มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ แต่ก็ยังคงมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการทำงานของระบบประสาทได้ดี นำเข้าประเทศไทยโดย Merz Aesthetics จำกัด
จุดเด่นของโบท็อกซ์ XEOMIN
- มีความบริสุทธิ์สูง
- อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
- มีการใช้เทคโนโลยีเฉพาะ XTRACT Technology
- สามารถฉีดในเคสดื้อโบท็อกซ์ได้
- โอกาสดื้อโบท็อกซ์น้อย
- ยากระจายตัวดี
- นิยมใช้ฉีดลดริ้วรอยทั่วใบหน้า ปรับรูปหน้าเรียว ลดกราม ฉีดเฉพาะจุด เช่น น่อง แขน
XEOMIN Botox ที่ผ่านอย.ไทย มี 2 แบบ
- โบท็อกซ์ XEOMIN จำนวน 50 units
- โบท็อกซ์ XEOMIN จำนวน 100 units
3. Dysport

Dysport Botox เป็นโบท็อกซ์จากประเทศอังกฤษ สารที่ใช้คือ abobotulinumtoxin A มีโครงสร้างโมเลกุลเล็กกว่าโบท็อกซ์อเมริกา ยากระจายเป็นวงกว้าง เมื่อฉีดแล้วไม่กระจุกตัวในพื้นที่แคบ ผลิตโดยบริษัท IPSEN BIOPHARM LIMITED นำเข้าและจัดจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด
จุดเด่นของโบท็อกซ์ Dysport
- มีความบริสุทธิ์สูง
- อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
- โอกาสดื้อโบท็อกซ์น้อย
- นิยมใช้ลิฟต์กรอบหน้า ปรับรูปหน้า ยกกระชับผิว ฉีดเฉพาะจุด เช่น น่องขา แขน รักแร้
Dysport Botox ที่ผ่านอย.ไทย มี 2 แบบ
- โบท็อกซ์ Dysport จำนวน 300 units
- โบท็อกซ์ Dysport จำนวน 500 units
4. NABOTA
Nabota Botox เป็นโบท็อกซ์จากประเภทเกาหลี มีการใช้เทคโนโลยีเฉพาะ HI-PURE Technology ทำให้มีความบริสุทธิ์สูง ดื้อยาน้อย ออกฤทธิ์ไว จึงได้รับความนิยมอย่างหลากหลายทั้งประเทศไทย เกาหลี อเมริกา และโซนยุโรป Nabota Botox เป็นโบท็อกซ์เกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านการรับรองจาก USFDA (U.S. Food and Drug Administration) มีผู้ผลิตคือบริษัท Daewoong Pharmaceutical จัดและจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท มัณฑนา มาร์เก็ตติ้ง จำกัด
จุดเด่นของโบท็อกซ์ Nabota
- มีความบริสุทธิ์สูง
- อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
- มีการใช้เทคโนโลยีเฉพาะ HI-PURE Technology
- มีโอกาสดื้อยาน้อย
- ออกฤทธิ์ไว
- นิยมใช้ฉีดลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าเรียว ลดกราม ฉีดเฉพาะจุด เช่น น่องขา แขน รักแร้
Nabota Botox ที่ผ่านอย.ไทย คือ
- Nabota Botox กล่องดำ จำนวน 100 units
5. Aestox
Aestox Botox เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลี ผลิตโดยบริษัท HUGEL, Inc. ซึ่งได้ผลิตโบท็อกซ์อีก 2 ยี่ห้อ คือ Botulax และ HUGEL นำเข้าและจัดจำหน่ายโดยบริษัท Aestec Pharma จำกัด เป็นหนึ่งในยี่ห้อที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศไทย ปลอดภัย ผ่านการรับรองจาก KFDA (Korea Food & Drug Administration)
จุดเด่นของโบท็อกซ์ Aestox
- มีความบริสุทธิ์สูง 99.5%
- อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
- มีโอกาสดื้อยาน้อย
- ออกฤทธิ์ค่อนข้างไว
- นิยมใช้ฉีดลดริ้วรอย เก็บกรอบหน้า ลดกราม หรือฉีดเฉพาะจุด เช่น น่องขา แขน
Aestox Botox ที่ผ่านอย.ไทย มี 3 แบบคือ
- โบท็อกซ์ Aestox จำนวน 50 units
- โบท็อกซ์ Aestox จำนวน 100 units
- โบท็อกซ์ Aestox จำนวน 200 units
6. Botulax
Botulax Botox เป็นโบท็อกซ์จากประเภทเกาหลี ผ่านการรับรองจาก KFDA (Korea Food & Drug Administration) ว่ามีความปลอดภัย สามารถออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ ลดเลือนริ้วรอย ลดขนาดกล้ามเนื้อในจุดที่ต้องการแก้ไขได้ โบท็อกซ์ Botulax จัดจำหน่ายโดยบริษัท HUGEL, Inc ผ่านการนำเข้าในประเทศไทยโดยบริษัท คอสม่า เมดิคอล จำกัด
จุดเด่นของโบท็อกซ์ Botulax
- มีความบริสุทธิ์สูง
- อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
- กระจายตัวได้กว้าง ออกฤทธิ์เร็ว
- นิยมใช้ฉีดลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าเรียว ลดกราม ฉีดเฉพาะจุด เช่น น่อง แขน รักแร้
Botulax Botox ที่ผ่านอย.ไทย มี 3 แบบคือ
- โบท็อก Botulax จำนวน 50 units กล่องสีแดง
- โบท็อก Botulax จำนวน 100 units กล่องสีฟ้า
- โบท็อก Botulax จำนวน 200 units กล่องสีส้ม
7. HUGEL
HUGEL Botox เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลี ผลิตและพัฒนาโดยบริษัท Hugel Inc นำเข้าและจัดจำหน่ายโดยบริษัท บอน-ซอง จำกัด
จุดเด่นของโบท็อกซ์ HUGEL
- มีความบริสุทธิ์สูง
- อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
- มีการกระจายตัวแคบ ออกฤทธิ์ไว
- นิยมใช้ฉีดลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าเรียว ลดกราม ฉีดเฉพาะจุด เช่น น่อง แขน รักแร้
HUGEL Botox ที่ผ่านอย.ไทย มี 2 แบบคือ
- โบท็อกซ์ HUGEL จำนวน 50 units
- โบท็อกซ์ HUGEL จำนวน 200 units
8. CLODEW
CLODEW Botox เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลี ผลิตจากบริษัท Daewoong Pharmaceutical จำกัด บริษัทเดียวกันกับโบท็อกซ์ Nabota จัดและจำหน่ายโดยบริษัท แดวูง ฟาร์มาซูทิคอล ประเทศไทย จำกัด โดย CLODEW Botox 1 กล่อง มีจำนวนยูนิต 100 units
จุดเด่นของโบท็อกซ์ CLODEW
- มีความบริสุทธิ์สูง
- อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
- มีเทคนิคเฉพาะ Double V Lifting
- ออกฤทธิ์ไว
- นิยมฉีดลดริ้วรอย ลดกราม ลิฟต์กรอบหน้า
9. BTXA
BTXA Botox เป็นโบท็อกซ์สัญชาติฮ่องกง ผลิตโดยบริษัท Lanzhou Biotechnique Development จำกัด จัดและจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท คอสเมด ฟาร์ม่า จำกัด โดย BTXA Botox 1 กล่อง มีจำนวน 100 units
จุดเด่นของโบท็อกซ์ BTXA
- มีความบริสุทธิ์สูง 99.5%
- อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
- นิยมฉีดลดริ้วรอย ลดกราม ลิฟต์กรอบหน้า
ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีดโบท็อกซ์
ขั้นตอนการปฏิบัติก่อนฉีดโบท็อกซ์ที่ถูกวิธีจะช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกซ์ออกมาดีที่สุด รวมถึงช่วยลดปัญหาแทรกซ้อนหลังฉีด
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์ให้ละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกคลินิก วิธีดูโบท็อกแท้ เป็นต้น
- งดกินยากลุ่ม NSAIDs เช่น Aspirin, Ibuprofen, Diclofenac, Ponstan รวมถึงงดวิตามินและอาหารเสริมบางประเภทที่มีฤทธิ์เกี่ยวกับการไหลเวีนโลหิต อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนฉีดโบท็อกซ์
- หากมีคอร์สหัตถการบนใบหน้า เช่น นวดหน้า เลเซอร์ ควรทำมาก่อนฉีดโบท็อกซ์
- หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ใช้ประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีดโบท็อกซ์
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดโบท็อกซ์

การปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อกซ์ที่ดีและถูกต้อง จะช่วยรักษาตัวยาให้อยู่ได้นานขึ้นและจะช่วยลดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ โดยข้อควรปฏิบัติหลังฉีดโบท็อกซ์มีดังนี้
หลังฉีดทันที
- หลังฉีดโบท็อกซ์เสร็จในแต่ละบริเวณ ควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
- ไม่ควรจับ ลูบคลำ คลึง หรือกดบริเวณรอยที่ฉีดแรง ๆ เพราะอาจทำให้ยากระจายตัวได้
- ภายใน 4 ชั่วโมงไม่ควรนอนราบหรือนอนตะแคง เพราะอาจทำให้เกิดการกระจายตัวของยาผิดจากตำแหน่งได้
- หลังฉีด 24 ชั่วโมง สามารถทาครีมหรือแต่งหน้าทับรอยเข็มได้ปกติ
หลังฉีด 2-3 วันแรก
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์จะเพิ่มระบบการไหลเวียนของเลือด
หลังฉีด 2 สัปดาห์แรก
- งดการอบไอน้ำ อบซาวน่า นวดหน้า ยิงเลเซอร์ร้อน หรือหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดแรง ๆ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ ตากแดดแรง เลเซอร์ร้อนบนผิวหน้า เป็นต้น
“การที่โบท็อกซ์จะเสื่อมจากความร้อนได้ก็ต่อเมื่อ ได้รับความร้อนใต้ผิวสูงประมาณ 60 องศาเซลเซียส ดังนั้นการอาบน้ำร้อน หรือกินปิ้งย่าง ชาบู จึงไม่สามารถทำให้โบท็อกซ์เสื่อมได้”
โบท็อกซ์อยู่ได้นานไหม เห็นผลกี่วัน?
ผลของ Botox สามารถอยู่ได้นาน 4-6 เดือน เมื่อตัวยาเริ่มสลายการทำงานของกล้ามเนื้อจะค่อย ๆ กลับมา บริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ เช่น ริ้วรอยหน้าผาก ระหว่างคิ้ว หรือกราม จะเริ่มปรากฏขึ้นอีกครั้ง สามารถกลับมาฉีดโบท็อกซ์ซ้ำได้
ฉีดโบท็อกซ์กี่วันเห็นผล? โดยทั่วไปแล้วหลังจากฉีดโบท็อกซ์ประมาณ 1-2 อาทิตย์ก็จะค่อย ๆ เห็นผลการเปลี่ยนแปลง และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากขึ้นประมาณ 1-2 เดือนหลังฉีดโบท็อกซ์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดด้วย เช่น
- โบท็อกซ์ริ้วรอยจะเริ่มรู้สึกตึง ๆ ขึ้นภายใน 3-4 วัน และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนประมาณ 14 วันหลังฉีด
- โบท็อกซ์กรามเมื่อกัดกรามแล้วจะเริ่มรู้สึกว่านิ่มลงประมาณ 1 อาทิตย์
- โบท็อกซ์รักแร้จะเริ่มเห็นผลใน 72 ชั่วโมง
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดโบท็อกซ์
ผลข้างเคียงที่เกิดจากการฉีดโบท็อกซ์ผิวหนังอาจเกิดรอยช้ำ บวมแดง หรือเจ็บบริเวณที่ฉีดได้ รวมถึงจะรู้สึกตึงหรือรู้สึกเมื่อยบริเวณที่ฉีด
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้
- หนังตาตก พบได้หลังฉีดโบท็อกซ์รักษารอยย่นของหน้าผาก อาการนี้อาจเกิดหลังจากฉีดประมาณ 7-10 วัน และอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-4 สัปดาห์
- คิ้วตก ถ้าฉีดบริเวณใกล้หางคิ้วจะทำให้ไม่สามารถเลิกคิ้วได้ ส่งผลให้ใบหน้าไม่สามารถแสดงความรู้สึก
- ตาแห้ง จากการฉีดโบท็อกซ์เข้าต่อมน้ำตา ทำให้การสร้างน้ำตาลดลง
- มุมปากบนห้อยลง จากการฉีดโบท็อกซ์รอยตีนกา ถ้าฉีดลึกเกินไปยาอาจซึมเข้ากล้ามเนื้อ Zygomaticus ได้ และอาจทำให้ริมฝีปากบนหย่อนลงได้
- กล้ามเนื้อลีบและเกิดพังผืดในกล้ามเนื้อ จากการฉีดโบท็อกซ์ซ้ำหลายครั้ง
- อาจเกิดการดื้อยา หากฉีดโบท็อกซ์ติดต่อกันทุกเดือน และฉีดในปริมาณมากกว่า 300 ยูนิต
- อาจเกิดอาการฝ่ามืออ่อนแรง หลังจากฉีดรักษาอาการเหงื่อออกที่ฝ่ามือ
ผู้ที่ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์
- ผู้ที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ผู้หญิงตั้งครรภ์หรือผู้หญิงที่กำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่มีการติดเชื้อบริเวณผิวหนังที่ต้องการจะฉีดโบท็อกซ์
- ผู้ที่กำลังรับการรักษาภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่และมีการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTI)
- อายุต่ำกว่า 18 ปี
ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี เลือกอย่างไรให้ปลอดภัย
การเลือกฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี? เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะการฉีดโบท็อกซ์เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสูงจึงมีหลายคลินิกที่เปิดให้บริการฉีดโบท็อกซ์ ซึ่งอาจเสี่ยงเจอกับหมอกระเป๋า คลินิกไม่ได้มาตรฐาน หรือคลินิกใช้โบท็อกซ์ปลอมได้ ทาง SkinX จึงได้รวบรวมข้อควรพิจารณาการเลือกฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี ไว้คร่าว ๆ ดังนี้
- เลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลจากสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะอย่างถูกต้อง
- แพทย์ต้องเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ สามารถเช็กประวัติแพทย์ได้จากเว็บไซต์ของแพทยสภา
- คลินิกต้องใช้โบท็อกซ์แท้เท่านั้น สามารถเช็กโบท็อกซ์แท้ได้จากขวด มีการเปิดขวดและดึงยาต่อหน้า
- ควรเลือกคลินิกฉีดโบท็อกซ์ที่มีการติดตามผล และให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวก่อนและหลังทำอย่างใกล้ชิด สามารถปรึกษาแพทย์ที่ทำเคสได้
- ควรดูรีวิวหรือความคิดเห็นจากผู้มาใช้บริการจริง
สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจเลือกฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี SkinX ได้รวบรวมดีลพิเศษจากคลินิกชั้นนำและน่าเชื่อถือมากมายมาไว้ที่หน้า SkinX Voucher ผู้ที่สนใจสามารถคลิกเข้าไปเลือกดูโปรต่าง ๆ ได้เลย
สรุป
ฉีดโบท็อกซ์เป็นหัตถการเสริมความงามที่ไม่อันตรายอย่างที่ใครหลายคนคิด หากเลือกฉีดกับสถานที่สะอาด ปลอดภัยได้มาตรฐาน ฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และต้องเป็นโบท็อกซ์แท้เท่านั้น ในปัจจุบัน Botox ที่ผ่านอย.ในประเทศไทยมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ ขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องการแก้ไขและความต้องการของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการประเมินปัญหาบนใบหน้าหรือปัญหาที่ต้องการแก้ไขก่อนทุกครั้ง
สำหรับผู้ที่ต้องการอยากปรึกษากับแพทย์แต่ไม่สะดวกไปที่คลินิก สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SkinX เพื่อปรึกษากับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจาก SkinX ผ่านทางออนไลน์ได้เลย
สำหรับลูกค้าใหม่ที่ใช้บริการครั้งแรก สามารถเลือกปรึกษาแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
SkinX แอปฯ ปรึกษาหมอผิวหนังออนไลน์ ที่ได้รวบรวมเหล่าทีมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำมาให้คำปรึกษาด้านผิวหนัง อาทิ ปัญหาสิว ชนิดผิวพรรณแต่ละประเภท ผมและหนังศีรษะ รวมถึงหัตถการความงาม อย่าง ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดโบท็อกซ์
อ้างอิง
อารีรัตน์ สุพุทธิธาดา. (2555).การใช้โบทูลินัมทอกซินทางคลินิก (Clinical Use of Botulinum Toxin). เวชศาสตรฟื้นฟูสาร., 22(2), 38-41. https://www.rehabmed.or.th/main/wp-content/uploads/2014/03/L-338.pdf
Botox injections. (2021, Febuary 02). Mayo Clinic. https://www.mayoclinic.org/tests-procedures/botox/about/pac-20384658#:~:text=Botox%20injections%20block%20certain%20chemical,forehead%20and%20around%20the%20eyes.
Botox. (2020, July 24). Radiance by Webmd. https://www.webmd.com/beauty/cosmetic-procedures-botox#091e9c5e8000960d-1-3
MEDICATION GUIDE BOTOX® BOTOX® Cosmetic (Boe-tox) (onabotulinumtoxinA) for Injection. FDA. https://www.fda.gov/media/77359/download
Nichols H. (2020, August 10). Botox: Cosmetic and medical uses. Medical News Today. https://www.medicalnewstoday.com/articles/158647#cost