ทำความรู้จัก “โบท็อก” หัตถการความสวย ที่ทำได้มากกว่าเสริมความงาม
โบท็อก (Botox) เป็นหนึ่งในหัตถการเสริมความงามที่กำลังถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก เพราะสามารถช่วยให้ใบหน้าดูดีขึ้นและเสริมความมั่นใจให้กับตัวเองได้ แต่หลายคนอาจยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโบท็อกอยู่ ในบทความนี้ SkinX จะพามาเจาะลึกกับวงการฉีดโบท็อก พร้อมตอบทุกคำถามเกี่ยวกับโบท็อก
ทำความรู้จักกับ SkinX แอปพลิเคชันพบหมอผิวหนังออนไลน์ ที่รวบรวมเหล่าทีมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำ มากกว่า 210 คน มาให้คำปรึกษาโดยเฉพาะ อาทิ ปัญหาสิวและผิวพรรณ ผมและหนังศีรษะ รวมไปถึงหัตถการความงามอย่าง ฉีดโบท็อก และฉีดฟิลเลอร์
สรุป หัตถการเสริมความงาม “ฉีดโบท็อก”
- โบท็อก คือชื่อทางการค้าของสาร Botulinum toxin A ซึ่งถูกนำมาใช้ในการทำหัตถการเสริมความงามอย่างแพร่หลาย ทั้งยังนำมาใช้ทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคบางชนิดได้เช่นกัน
- ฉีดโบท็อก ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า ช่วยยกกระชับกรอบหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก นอกจากนี้ยังสามารถลดขนาดกล้ามเนื้อน่องแขน และน่องขาได้ด้วย
- เมื่อฉีดโบท็อก สาร Botulinum toxin จะให้ผลชั่วคราวประมาณ 4-6 เดือน เมื่อตัวยาเริ่มสลาย กล้ามเนื้อจะค่อย ๆ กลับมาทำงาน ริ้วรอยบริเวณที่ฉีดจะกลับมาอีกครั้ง แต่สามารถกลับมาฉีดโบท็อกซ้ำได้
- การฉีดโบท็อกเพื่อปรับรูปหน้า สามารถฉีดได้หลายบริเวณ เช่น โบท็อกลดกราม, โบท็อกลิฟกรอบหน้า, โบท็อกลดริ้วรอย, โบท็อกริ้วรอยใต้ตา, โบท็อกหน้าผาก เป็นต้น
- ควรเลือกฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่มีความชำนาญการ และเข้ารับบริการกับคลินิกที่มีมาตรฐาน รวมถึงเลือกใช้โบท็อกที่ผ่านอย.ไทย เพื่อลดความเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนที่มาจากการฉีดโบท็อกกับหมอกระเป๋า หรืออันตรายจากการใช้โบท็อกปลอมที่อาจตามมาได้
โบท็อกคืออะไร
โบท็อก (Botox) คือชื่อทางการค้าของสาร Botulinum toxin A ในปัจจุบันถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงามอย่างแพร่หลาย ทั้งยังนำมาใช้ทางการแพทย์ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งแท้จริงแล้วคำว่า “Botox” เป็นชื่อทางการค้าของบริษัท Allergan ที่คิดค้นการนำสาร Botulinum toxin A มาใช้รักษาความงามด้านริ้วรอยเป็นครั้งแรก และเป็นยี่ห้อแรกที่ได้การรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (USFDA)
ทำไมต้องฉีดโบท็อก?
โบท็อกกับความงาม
การฉีด Botox ในวงการเสริมความงาม มีข้อดีดังนี้
- ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า
- ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก
- ลดขนาดกล้ามเนื้อน่องแขน น่องขาได้
โบท็อกกับการแพทย์
การฉีด Botox สามารถใช้ในทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคบางชนิดได้ เช่น
- ภาวะเหงื่อออกมาก (Hyperhidrosis)
- ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง (Spasticity)
- การหดตัวผิดปกติของกล้ามเนื้อหูรูด (Sphincters)
- ภาวะตาเหล่ (Strabismus)
- โรคไมเกรน (Migraine)
โบท็อกมีการทำงานอย่างไร?
สาร Botulinum toxin ออกฤทธิ์โดยเข้าไปรบกวนการทำงานของของสารเคมี Acetylcholine ที่ส่วนปลายของเซลล์ประสาท ส่งผลให้กล้ามเนื้อหดตัวลงชั่วคราว หรือต่อมเหงื่อทำงานลดลง ซึ่งผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน
ฉีดโบท็อกอันตรายไหม?
ฉีดโบท็อกอันตรายไหม? หากฉีดโบท็อกมีมาตรฐานกับแพทย์เฉพาะทางผู้ชำนาญการที่คลินิกได้มาตรฐาน ก็จะมีความปลอดภัย แต่หากฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ หรือใช้โบท็อกปลอมก็อาจเสี่ยงเกิดอันตรายตามมา ดังนี้
- ภาวะแทรกซ้อนหากฉีดโบท็อกกับหมอกระเป๋า เช่น หนังตาตก, ยิ้มไม่สุด, มุมปากเบี้ยว, หน้าแข็งหรือหน้าตึง จากการฉีดโบท็อกไม่ถูกตำแหน่ง หรือใช้โบท็อกในปริมาณไม่เหมาะสม
- อันตรายจากโบท็อกปลอม ไม่ว่าจะเป็น โบท็อกปลอมของแท้ โบท็อกน้ำเกลือ หรือโบท็อกหิ้ว อาจทำให้เกิดการดื้อยา เสี่ยงต่อการแพ้ และได้ยาเกินขนาด
- อันตรายจากการฉีดโบท็อกเอง อาจเสี่ยงติดเชื้อ และเกิดการอักเสบจากขั้นตอนการฉีดที่ไม่สะอาดได้ เนื่องจากโบท็อกที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน
- ฉีดโบท็อกกับคลินิกไม่ได้มาตรฐาน คลินิกที่มีวิธีการเก็บยาที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้ยาปนเปื้อน เสื่อมคุณภาพ เมื่อนำมาฉีดจะทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อได้
โบท็อกแต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
โบท็อกที่ผ่านอย.ประเทศไทยในปัจจุบันมีหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัย ดังต่อไปนี้
- กระบวนการเทคโนโลยี
- กรรมวิธีในการผลิต
- ความบริสุทธิ์
- ชนิดโปรตีน
- ขนาดของโมเลกุล
- ความคงทนในการเก็บรักษา
ขนาดของโมเลกุล
Molecule Complex ของสาร Botulinum toxin A ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ คือ
- ส่วนที่ 1 Accessories protein ทำหน้าที่แพร่กระจายตัวยาและปกป้อง Heavy chain และ Light chain จากจุดที่ฉีดโบท็อกไปยังปลายเส้นประสาทอย่างปลอดภัย
- ส่วนที่ 2 Heavy chain ทำหน้าที่พา Light chain เข้าสู่เซลล์เส้นประสาท
- ส่วนที่ 3 Light chain เป็นส่วนที่ระงับการทำงานของกล้ามเนื้อ
ความบริสุทธิ์ของโบท็อก
สาร Botulinum toxin A เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกายแล้วสามารถสลายไปได้เองได้ แต่บางกรณีอาจทำให้เกิดการดื้อโบท็อก โดยสาเหตุเกิดจากโปรตีนในส่วนที่ 1, 2 และ 3 ซึ่งในโปรตีนส่วนที่ 3 โบท็อกทุกยี่ห้อจะมีความคล้ายกัน แต่ส่วนที่ทำให้โบท็อกแต่ละยี่ห้อแตกต่างกันคือ ส่วนที่ 1 และ ส่วนที่ 2 นั่นเอง
โบท็อกฉีดตรงไหนได้บ้าง?
ในปัจจุบันผู้คนนิยมฉีดโบท็อกเพื่อปรับรูปหน้าเป็นส่วนมาก โดยบริเวณที่สามารถฉีดโบท็อกมีดังนี้
- โบท็อกลดกราม หรือฉีดโบลดกราม จะช่วยลดกรามและปรับรูปหน้าเรียว เหมาะกับผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อกราม
- โบท็อกลิฟกรอบหน้า เพื่อคลายกล้ามเนื้อส่วนคอ โดยจะฉีดบริเวณกรอบหน้า ใต้คาง เพื่อยกกระชับใบหน้าให้ดูมีมิติขึ้น ทำให้ผิวบริเวณกรอบหน้ากระชับ หน้าดูเรียวขึ้น
- โบท็อกลดริ้วรอย หรือฉีดโบลดริ้วรอย ช่วยทำให้ผิวเต่งตึง กระชับ และเรียบเนียน โดยสามารถฉีดได้หลายจุดบนใบหน้า เช่น รอยย่นบริเวณหน้าผาก, รอบดวงตา, ตีนกา, ร่องแก้ม เป็นต้น
- โบท็อกริ้วรอยใต้ตา หรือริ้วรอยรอบดวงตา จะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัวชั่วคราว ริ้วรอยจางลง
- โบท็อกหน้าผาก ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณหน้าผากได้ ทำให้ผิวดูเรียบเนียน กระชับ และเต่งตึงขึ้น
- โบท็อกคิ้ว เป็นการฉีดโบท็อกระหว่างคิ้ว จะช่วยลบเลือนริ้วรอยเวลาขมวดคิ้วหรือแสดงสีหน้า และช่วยยับยั้งการหดตัว ตลอดจนทำให้ผิวระหว่างคิ้วเรียบเนียน
- โบท็อกยกมุมปาก จะช่วยยกมุมปากขึ้นให้ดูสมดุล ใบหน้าโดยรวมดูสดใส และเสริมสร้างความมั่นใจได้
- โบท็อกแขน หรือการฉีดโบท็อกลดกล้ามแขน ช่วยแก้ปัญหาต้นแขนให้ดูเล็กลงได้ เหมาะสำหรับคนที่มีกล้ามแขนขนาดใหญ่ ยกเว้นผู้ที่มีแขนใหญ่จากไขมัน
- โบท็อกน่องขา จะช่วยลดขนาดน่องให้เล็กลง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจ หรืออยากปรับให้ดูสมดุลกับสรีระร่างกาย
- โบท็อกปีกจมูก จะช่วยแก้ปัญหาปีกจมูกบาน ปีกจมูกใหญ่ ให้รูปจมูกแคบลง ดูมีมิติ และดูสมส่วนมากขึ้น
ฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดี? รวม 8 ยี่ห้อโบท็อกผ่านอย. 2022
โบท็อกแต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นแตกต่างกันไป ซึ่งนอกจากการเลือกยี่ห้อโบท็อก การเลือกใช้โบท็อกที่มีมาตรฐานและผ่านอย.ไทยก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ใครกำลังตัดสินใจว่าควรเลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดี SkinX ได้รวบรวม 9 ยี่ห้อโบท็อกผ่านอย.ไทยไว้ ดังต่อไปนี้
1. Allergan
Allergan Botox ผลิตโดยบริษัทยาที่มีชื่อเสียงอย่าง Allergan จากประเทศอเมริกา โดยสารที่ใช้คือ Onabotulinumtoxin A ซึ่งได้รับความนิยมอย่างหลากหลายทั่วโลก และยังเป็นโบท็อกยี่ห้อแรกที่ USFDA อนุมัติให้ใช้รักษาริ้วรอย
จุดเด่นของโบท็อก
- มีความบริสุทธิ์สูงมากถึง 99.5%
- อยู่ได้นานถึง 5-6 เดือน
- โอกาสดื้อโบท็อกน้อย
- ยากระจายตัวแคบ ออกฤทธิ์ได้แม่นยำ
- นิยมฉีดลดริ้วรอยบนใบหน้า, ลิฟกรอบหน้า, ลดกราม และฉีดเฉพาะจุด เช่น ลดเหงื่อบริเวณรักแร้
Allergan Botox ที่ผ่านอย.ไทย มี 2 แบบคือ
- Allergan จำนวน 50 ยูนิต
- Allergan จำนวน 100 ยูนิต
2. XEOMIN
XEOMIN Botox จากประเทศเยอรมัน สารที่ใช้คือ incobotulinumtoxin A ผลิตโดยบริษัท MERZ PHARMA GMBH & CO. KGaA ซึ่งมีการพัฒนา XTRACT Technology มาใช้ในกระบวนการผลิต โมเลกุลของโบท็อกจะมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ แต่มีประสิทธิภาพยับยั้งการทำงานของระบบประสาทได้ดี
จุดเด่นของโบท็อก XEOMIN
- มีความบริสุทธิ์สูง
- ใช้เทคโนโลยีเฉพาะ XTRACT Technology
- ฉีดในเคสดื้อโบท็อกได้
- โอกาสดื้อโบท็อกน้อย
- ยากระจายตัวดี
- นิยมใช้ฉีดลดริ้วรอยทั่วใบหน้า, ปรับรูปหน้าเรียว, ลดกราม และฉีดเฉพาะจุด เช่น น่อง แขน
XEOMIN Botox ที่ผ่านอย.ไทย มี 2 แบบ
- โบท็อก XEOMIN จำนวน 50 units
- โบท็อก XEOMIN จำนวน 100 units
3. Dysport
Dysport Botox ผลิตโดยบริษัท IPSEN BIOPHARM LIMITED จากประเทศอังกฤษ สารที่ใช้คือ abobotulinumtoxin A ตัวยากระจายเป็นวงกว้าง เมื่อฉีดแล้วไม่กระจุกตัวในพื้นที่แคบ
จุดเด่นของโบท็อก Dysport
- มีความบริสุทธิ์สูง
- โอกาสดื้อโบท็อกน้อย
- นิยมใช้ลิฟกรอบหน้า, ปรับรูปหน้า, ยกกระชับผิว และฉีดเฉพาะจุดอย่าง น่องขา แขน และรักแร้
Dysport Botox ที่ผ่านอย.ไทย มี 2 แบบ
- โบท็อก Dysport จำนวน 300 units
- โบท็อก Dysport จำนวน 500 units
4. NABOTA
Nabota Botox จากประเทศเกาหลี ผลิตโดยบริษัท Daewoong Pharmaceutical มีการใช้เทคโนโลยีเฉพาะ HI-PURE Technology ในการผลิต ได้รับความนิยมอย่างหลากหลาย และเป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านการรับรองจาก USFDA
จุดเด่นของโบท็อก Nabota
- มีความบริสุทธิ์สูง
- ใช้เทคโนโลยีเฉพาะ HI-PURE Technology
- มีโอกาสดื้อยาน้อย
- ออกฤทธิ์ไว
- นิยมใช้ฉีดลดริ้วรอย, ปรับรูปหน้าเรียว, ลดกราม และฉีดเฉพาะจุด เช่น น่องขา แขน รักแร้
Nabota Botox ที่ผ่านอย.ไทย คือ Nabota Botox กล่องดำ จำนวน 100 units
5. Aestox
Aestox Botox จากประเทศเกาหลี ผลิตโดยบริษัท HUGEL, Inc. ได้รับความนิยมสูงในประเทศไทย และผ่านการรับรองจาก KFDA
จุดเด่นของโบท็อก Aestox
- มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5%
- โอกาสดื้อยาน้อย
- ออกฤทธิ์ค่อนข้างไว
- นิยมใช้ฉีดลดริ้วรอย, เก็บกรอบหน้า, ลดกราม หรือฉีดเฉพาะจุด เช่น น่องขา แขน
Aestox Botox ที่ผ่านอย.ไทย มี 3 แบบคือ
- โบท็อก Aestox จำนวน 50 units
- โบท็อก Aestox จำนวน 100 units
- โบท็อก Aestox จำนวน 200 units
6. Botulax
Botulax Botox เป็นหนึ่งในโบท็อกจากประเทศเกาหลี ที่ผลิตโดยบริษัท HUGEL, Inc. ผ่านการรับรองจาก KFDA ออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อในจุดที่ต้องการแก้ไขได้
จุดเด่นของโบท็อก Botulax
- มีความบริสุทธิ์สูง
- กระจายตัวได้กว้าง ออกฤทธิ์เร็ว
- นิยมใช้ฉีดลดริ้วรอย, ปรับรูปหน้าเรียว, ลดกราม หรือฉีดเฉพาะจุดอย่าง น่อง แขน และรักแร้
Botulax Botox ที่ผ่านอย.ไทย มี 3 แบบคือ
- โบท็อก Botulax จำนวน 50 units กล่องสีแดง
- โบท็อก Botulax จำนวน 100 units กล่องสีฟ้า
- โบท็อก Botulax จำนวน 200 units กล่องสีส้ม
7. HUGEL
HUGEL Botox เป็นอีกหนึ่งในโบท็อกจากประเทศเกาหลีที่พัฒนาโดยบริษัท HUGEL, Inc.
จุดเด่นของโบท็อก HUGEL
- มีความบริสุทธิ์สูง
- มีการกระจายตัวแคบ ออกฤทธิ์ไว
- นิยมใช้ฉีดลดริ้วรอย, ปรับรูปหน้าเรียว, ลดกราม และฉีดเฉพาะจุด เช่น น่อง แขน หรือรักแร้
HUGEL Botox ที่ผ่านอย.ไทย มี 2 แบบคือ
- โบท็อก HUGEL จำนวน 50 units
- โบท็อก HUGEL จำนวน 200 units
8. CLODEW
CLODEW Botox เป็นโบท็อกที่ผลิตโดยบริษัท Daewoong Pharmaceutical จากประเทศเกาหลี เช่นเดียวกับ Nabota Botox โดย CLODEW Botox 1 กล่อง มีจำนวนยูนิต 100 units
จุดเด่นของโบท็อก CLODEW
- มีความบริสุทธิ์สูง
- ใช้เทคนิคเฉพาะ Double V Lifting
- ออกฤทธิ์ไว
- นิยมฉีดลดริ้วรอย ลดกราม และลิฟกรอบหน้า
9. BTXA
BTXA Botox เป็นโบท็อกสัญชาติฮ่องกง ผลิตโดยบริษัท Lanzhou Biotechnique Development โดย BTXA Botox 1 กล่อง มีจำนวน 100 units
จุดเด่นของโบท็อก BTXA
- มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5%
- นิยมฉีดลดริ้วรอย ลดกราม และลิฟกรอบหน้า
ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีดโบท็อก
การปฏิบัติก่อนฉีดโบท็อกที่ถูกวิธีจะช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกออกมาดีที่สุด รวมถึงช่วยลดปัญหาแทรกซ้อนหลังฉีดได้ ดังนี้
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกให้ละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกคลินิก วิธีดูโบท็อกที่ได้มาตรฐาน เป็นต้น
- งดกินยากลุ่ม NSAIDs เช่น Aspirin, Ibuprofen, Diclofenac, Ponstan รวมถึงงดวิตามินและอาหารเสริมบางประเภทที่มีฤทธิ์เกี่ยวกับการไหลเวียนโลหิต อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนฉีดโบท็อก
- หากมีคอร์สหัตถการบนใบหน้า เช่น นวดหน้า เลเซอร์ ควรทำมาก่อนฉีดโบท็อก
- หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ใช้ประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีดโบท็อก
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดโบท็อก
การปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อกที่ดีและถูกต้อง จะช่วยรักษาตัวยาให้อยู่ได้นานขึ้น และช่วยลดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ดังนี้
หลังฉีดทันที
- หลังฉีดโบท็อกเสร็จในแต่ละบริเวณ ควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
- ไม่ควรจับ, ลูบคลำ, คลึง หรือกดบริเวณรอยที่ฉีดแรง ๆ เพราะอาจทำให้ยากระจายตัวได้
- ภายใน 4 ชั่วโมงไม่ควรนอนราบหรือนอนตะแคง เพราะอาจทำให้เกิดการกระจายตัวของยาผิดจากตำแหน่งได้
- หลังฉีด 24 ชั่วโมง สามารถทาครีมหรือแต่งหน้าทับรอยเข็มได้ปกติ
หลังฉีด 2-3 วันแรก
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์จะเพิ่มระบบการไหลเวียนของเลือด
หลังฉีด 2 สัปดาห์แรก
- งดการอบไอน้ำ, อบซาวน่า, นวดหน้า, ยิงเลเซอร์ร้อน และหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดแรง ๆ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น การดื่มแอลกอฮอล์, ตากแดดแรง, เลเซอร์ร้อนบนผิวหน้า เป็นต้น
“โบท็อกจะเสื่อมจากความร้อนได้ก็ต่อเมื่อ ได้รับความร้อนใต้ผิวสูงประมาณ 60 องศาเซลเซียส ดังนั้นการอาบน้ำร้อน หรือกินปิ้งย่าง ชาบู จึงไม่สามารถทำให้โบท็อกเสื่อมได้”
โบท็อกอยู่ได้นานไหม เห็นผลกี่วัน?
ผลของ Botox สามารถอยู่ได้นาน 4-6 เดือน เมื่อตัวยาเริ่มสลายการทำงานของกล้ามเนื้อจะค่อย ๆ กลับมา ริ้วรอยจะเริ่มปรากฏขึ้นอีกครั้ง สามารถกลับมาฉีดโบท็อกซ้ำได้
ฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล? โดยทั่วไปแล้วหลังจากฉีดโบท็อกประมาณ 1-2 อาทิตย์ก็จะค่อย ๆ เห็นผลการเปลี่ยนแปลง และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากขึ้นประมาณ 1-2 เดือนหลังฉีดโบท็อก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดด้วย เช่น
- โบท็อกริ้วรอย จะเริ่มรู้สึกตึง ๆ ขึ้นภายใน 3-4 วัน และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนประมาณ 14 วันหลังฉีด
- โบท็อกกราม เมื่อกัดกรามแล้วจะเริ่มรู้สึกว่านิ่มลงประมาณ 1 อาทิตย์
- โบท็อกรักแร้ จะเริ่มเห็นผลใน 72 ชั่วโมง
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดโบท็อก
ผลข้างเคียงที่เกิดจากการฉีดโบท็อก เช่น
- ผิวหนังอาจเกิดรอยช้ำ บวมแดง
- เจ็บบริเวณที่ฉีด
- รู้สึกตึงหรือรู้สึกเมื่อยบริเวณที่ฉีด
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้
- หนังตาตก พบได้หลังฉีดโบท็อกหน้าผาก อาจเกิดหลังจากฉีดประมาณ 7-10 วัน และจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-4 สัปดาห์
- คิ้วตก ถ้าฉีดบริเวณใกล้หางคิ้วจะทำให้ไม่สามารถเลิกคิ้วได้
- ตาแห้ง จากการฉีดโบท็อกเข้าต่อมน้ำตา ทำให้การสร้างน้ำตาลดลง
- มุมปากบนห้อยลง จากการฉีดโบท็อกรอยตีนกา ถ้าฉีดลึกเกินไปยาอาจซึมเข้ากล้ามเนื้อ Zygomaticus และอาจทำให้ริมฝีปากบนหย่อนลงได้
- กล้ามเนื้อลีบและเกิดพังผืดในกล้ามเนื้อ จากการฉีดโบท็อกซ้ำหลายครั้ง
- อาจเกิดการดื้อยา หากฉีดโบท็อกติดต่อกันทุกเดือน และฉีดในปริมาณมากกว่า 300 ยูนิต
- อาจเกิดอาการฝ่ามืออ่อนแรง หลังจากฉีดรักษาอาการเหงื่อออกที่ฝ่ามือ
ผู้ที่ไม่ควรฉีดโบท็อก
- ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- หญิงตั้งครรภ์หรือผู้ที่กำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่ติดเชื้อบริเวณผิวหนัง
- ผู้ที่ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
- ผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
ฉีดโบท็อกที่ไหนดี เลือกอย่างไรให้ปลอดภัย
การฉีดโบท็อกเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสูงจึงมีหลายคลินิกที่เปิดให้บริการฉีดโบท็อก และเพื่อลดความเสี่ยงเจอคลินิกไม่ได้มาตรฐาน หรือใช้โบท็อกปลอม ทาง SkinX จึงได้รวบรวมข้อควรพิจารณาการเลือกฉีดโบท็อกที่ไหนดี ไว้คร่าว ๆ ดังนี้
- เลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล จากสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะอย่างถูกต้อง
- แพทย์มีความชำนาญการ สามารถเช็กประวัติแพทย์ได้จากเว็บไซต์ของแพทยสภา
- คลินิกต้องใช้โบท็อกที่ได้มาตรฐานและผ่านอย.ไทยเท่านั้น
- เลือกคลินิกฉีดโบท็อกที่มีการติดตามผล และให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวก่อนและหลังทำอย่างใกล้ชิด สามารถปรึกษาแพทย์ที่ทำเคสได้
- ดูรีวิวหรือความคิดเห็นจากผู้มาใช้บริการจริง
สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกฉีดโบท็อกที่ไหนดี SkinX ได้รวบรวมดีลพิเศษจากคลินิกชั้นนำและน่าเชื่อถือมากมายมาไว้ที่หน้า SkinX Voucher ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปเลือกดูโปรโมชันต่าง ๆ ได้เลย
สรุป
ควรเลือกฉีดโบท็อกจากคลินิกที่มีมาตรฐาน โดยฉีดกับแพทย์ผู้ชำนาญการและมีประสบการณ์ในการฉีดโบท็อกโดยเฉพาะ ที่สำคัญคือ ต้องใช้โบท็อกที่ผ่านอย.ไทยเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ ขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องการแก้ไขของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาก่อนทุกครั้ง
ผู้ที่ต้องการปรึกษาการฉีดโบท็อกกับแพทย์แต่ไม่สะดวกไปที่คลินิก สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SkinX เพื่อปรึกษากับทีมแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง จากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำผ่านทางออนไลน์ได้เลย สำหรับลูกค้าใหม่ที่ใช้บริการครั้งแรก สามารถปรึกษาแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
อ้างอิง
อารีรัตน์ สุพุทธิธาดา. (2555). การใช้โบทูลินัมทอกซินทางคลินิก (Clinical Use of Botulinum Toxin). เวชศาสตรฟื้นฟูสาร., 22(2), 38-41. https://www.rehabmed.or.th/main/wp-content/uploads/2014/03/L-338.pdf
Botox injections. (2021, Febuary 02). Mayo Clinic. https://www.mayoclinic.org/tests-procedures/botox/about/pac-20384658#:~:text=Botox%20injections%20block%20certain%20chemical,forehead%20and%20around%20the%20eyes.
Botox. (2020, July 24). Radiance by Webmd. https://www.webmd.com/beauty/cosmetic-procedures-botox#091e9c5e8000960d-1-3
MEDICATION GUIDE BOTOX® BOTOX® Cosmetic (Boe-tox) (onabotulinumtoxinA) for Injection. FDA. https://www.fda.gov/media/77359/download
Nichols H. (2020, August 10). Botox: Cosmetic and medical uses. Medical News Today. https://www.medicalnewstoday.com/articles/158647#cost