SkinX

GET-On the App Store

SkinX Team

28 กุมภาพันธ์ 2566

ทำความรู้จัก “โบท็อกซ์” หัตถการความสวย ที่ทำได้มากกว่าเสริมความงาม

botox

โบท็อกซ์ (Botox) เป็นหนึ่งในหัตถการเสริมความงามที่กำลังถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก เพราะสามารถช่วยปรับหน้าเรียว ยกกระชับกรอบหน้า ลดริ้วรอยบนใบหน้า เพื่อให้รูปหน้า ผิวหน้าดูดีขึ้น และเสริมความมั่นใจให้กับตัวเอง แต่หลายคนยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วโบท็อกซ์คืออะไร มีวิธีการทำงานอย่างไร สามารถนำไปทำอะไรได้อีกบ้าง

ในบทความนี้ SkinX จะพามาเจาะลึกกับวงการฉีดโบท็อกซ์ว่า คืออะไร นำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง โบท็อกซ์อันตรายไหม ฉีดจุดไหนได้บ้าง มีกี่ยี่ห้อ และตอบทุกคำถามเกี่ยวกับโบท็อกซ์

ทำความรู้จักกับ SkinX แอปพลิเคชันพบหมอผิวหนังออนไลน์ ที่ได้รวบรวมเหล่าทีมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำ มากกว่า 210 คน มาให้คำปรึกษาโดยเฉพาะ อาทิ ปัญหาเรื่องสิว ชนิดผิวพรรณแต่ละประเภท ผมและหนังศีรษะ รวมไปถึงหัตถการความงามอย่าง ฉีดโบท็อกซ์ และฉีดฟิลเลอร์

สารบัญบทความ

โบท็อกซ์คืออะไร

โบท็อกซ์คือ

โบท็อกซ์ (Botox) คือชื่อทางการค้าของสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรีย Clostridium Botulinum ในปัจจุบันสาร Botulinum toxin A ถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงามอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้สาร Botulinum toxin A ยังสามารถนำมาใช้ทางการแพทย์ได้ด้วย

แท้จริงแล้วคำว่า “Botox” เป็นชื่อทางการค้าของบริษัท Allergan ผู้ที่คิดค้นการนำเอาสาร Botulinum toxin A มาใช้ในการรักษาความงามในด้านริ้วรอยเป็นครั้งแรก และเป็นยี่ห้อแรกที่ได้การรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (USFDA) คำว่า Botox จึงถูกใช้ครั้งแรกและกลายเป็นคำเรียกติดปากของคนในปัจจุบัน 

สาร Botulinum toxin A มีหลากหลายยี่ห้อ เช่น Botox (Onabotulinumtoxina; Allergan, Inc.), Dysport (Abobotulinumtoxina; Ipsen Ltd.), Xeomin (Incobotulinumtoxin A; Merz Pharmaceuticals GmbH) เป็นต้น

ทำไมต้องฉีดโบท็อกซ์?

การฉีด Botox ไม่เพียงแต่ฉีดเพื่อเสริมความงามเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ในทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคบางชนิดได้

โบท็อกซ์กับความงาม

การฉีด Botox หรือสาร Botulinum toxin ในวงการเสริมความงามจะช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า สามารถปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก รวมถึงยังสามารถลดกล้ามเนื้อน่องแขน น่องขาได้อีกด้วย

โบท็อกซ์กับการแพทย์

การฉีด Botox หรือการฉีดสาร Botulinum toxin สามารถใช้ในทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคบางชนิดได้อีกด้วย โดย FDA (Food and Drug Administration) ได้อนุมัติให้ใช้สาร Botulinum toxin รักษาโรคต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น

 

  • ภาวะเหงื่อออกมาก (Hyperhidrosis) เช่น ภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติที่รักแร้ (Axillary hyperhidrosis) ภาวะการหลั่งเหงื่อออกมากผิดปกติที่ฝ่ามือ (Plamer Hyperhidrosis)
  • ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง (Spasticity)
  • ภาวะกล้ามเนื้อตาหดเกร็งผิดปกติ (Blepharospasm)
  • การหดตัวผิดปกติของกล้ามเนื้อหูรูด (Sphincters)
  • ภาวะตาเหล่ (Strabismus)
  • โรคไมเกรน (Migraine)

โบท็อกซ์มีการทำงานอย่างไร?

เมื่อฉีดสาร Botulinum toxin เข้าไปแล้ว สารชนิดนี้จะออกฤทธิ์โดยการไปจับกับส่วนปลายของเซลล์ประสาทและไปรบกวนการทำงานของสารเคมี Acetylcholine ทำให้ไม่สามารถหลั่งสารออกมาได้ ส่งผลให้กล้ามเนื้อหดตัวลงชั่วคราว หรือต่อมเหงื่อทำงานลดลง เป็นต้น ซึ่งสาร Botulinum toxin จะให้ผลชั่วคราว สามารถอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน เท่านั้น

ฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม?

ฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม

ปัญหาเรื่องฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม? หากฉีดโบท็อกซ์กับแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ฉีดโบท็อกซ์แท้ รวมถึงคลินิกได้มาตรฐาน ก็จะมีความปลอดภัยสูงมาก แต่ถ้าหากฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ หรือใช้โบท็อกซ์ปลอมก็อาจเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ โดยอันตรายจากการฉีดโบท็อกซ์ มีดังนี้

  • ภาวะแทรกซ้อนหากฉีดโบท็อกซ์กับหมอกระเป๋า

การฉีดโบท็อกซ์กับหมอกระเป๋าเสี่ยงฉีดไม่ถูกตำแหน่ง ประเมินปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้ไม่เหมาะสม อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ เช่น หนังตาตก ยิ้มไม่สุด มุมปากเบี้ยว หน้าแข็งหรือหน้าตึง เป็นต้น
 

  • อันตรายจากโบท็อกซ์ปลอม

โบท็อกซ์ปลอมสามารถมาได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น โบท็อกซ์ปลอมของแท้ โบท็อกซ์น้ำเกลือ โบท็อกซ์หิ้ว โดยอันตรายจากการใช้โบท็อกซ์ปลอมอาจทำให้เกิดการดื้อยา เสี่ยงต่อการแพ้ และได้ยาเกินขนาด

  • อันตรายจากการฉีดโบท็อกซ์เอง

การซื้อโบท็อกซ์มาฉีดเองหรือให้คนอื่นฉีดให้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะโบท็อกซ์ที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงในขั้นตอนการฉีดอาจเกิดความผิดพลาดตามมาได้ เนื่องจากขั้นตอนที่ไม่สะอาด เสี่ยงติดเชื้อและเกิดการอักเสบได้

  • ฉีดโบท็อกซ์กับคลินิกไม่ได้มาตรฐาน

คลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานมักจะไม่มีการฆ่าเชื้อ อุปกรณ์ที่ใช้ไม่สะอาดมากพอ ไม่มีระบบการดูแลความสะอาดปลอดเชื้อ หากคนไข้เลือกฉีดโบท็อกซ์กับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน และมีวิธีการเก็บยาที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้ยามีการปนเปื้อน เสื่อมคุณภาพ เมื่อนำมาฉีดสามารถเกิดการอักเสบติดเชื้อหลังฉีดได้

โบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

ในปัจจุบันโบท็อกซ์ที่ผ่านอย.ประเทศไทยมีหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งความแตกต่างกันของ Botox แต่ละยี่ห้อนี้จะแตกต่างกันที่กระบวนการเทคโนโลยี กรรมวิธีในการผลิต ความบริสุทธิ์ ชนิดโปรตีน ขนาดของโมเลกุล ความคงทนในการเก็บรักษา เป็นต้น

ขนาดของโมเลกุล

Molecule Complex ของสาร Botulinum toxin A ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ คือ

  • ส่วนที่ 1 Accessories protein 

Accessories protein ทำหน้าที่แพร่กระจายตัวยา นำพา และปกป้อง Heavy chain และ Light chain จากจุดที่ฉีดโบท็อกซ์แพร่ไปยังปลายเส้นประสาทให้ปลอดภัยไม่ถูกทำลาย 

  • ส่วนที่ 2 Heavy chain 

Heavy chain เป็นตัวที่สามารถพา Light chain เข้าสู่เซลล์เส้นประสาท

  • Light chain

Light chain เป็นส่วนที่ระงับการทำงานของกล้ามเนื้อ

ความบริสุทธิ์ของโบท็อกซ์

สาร Botulinum toxin A เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกายแล้วสามารถสลายไปได้เองโดยไม่เป็นอันตราย แต่ในบางกรณีที่ร่างกายสามารถสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาได้ อาจทำให้เกิดการดื้อโบท็อกซ์ โดยสาเหตุเกิดจากโปรตีนในส่วนที่ 1 2 และ 3 ซึ่งในโปรตีนส่วนที่ 3 โบท็อกซ์ทุกยี่ห้อจะมีความคล้ายกันหมด แต่ส่วนที่ทำให้โบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันคือ ส่วนที่ 1 และ ส่วนที่ 2

โบท็อกซ์ฉีดตรงไหนได้บ้าง?

การฉีดสาร Botulinum toxin นอกจากจะช่วยรักษาโรคบางชนิดที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังช่วยเรื่องความงามอีกด้วย ในปัจจุบันผู้คนนิยมฉีดโบท็อกซ์เพื่อปรับรูปหน้าเป็นส่วนมาก โดยบริเวณที่สามารถฉีดโบท็อกซ์มีดังนี้

  • โบท็อกซ์ลดกราม

ฉีดโบลดกราม หรือฉีดโบท็อกซ์ลดกราม จะช่วยเรื่องลดกราม ปรับรูปหน้าเรียว เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อกราม

  • โบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า

ฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าเป็นการฉีดโบท็อกซ์เพื่อคลายกล้ามเนื้อส่วนคอ โดยจะฉีดบริเวณกรอบหน้า ใต้คาง เพื่อยกกระชับใบหน้าให้ดูมีมิติขึ้น ทำให้ผิวบริเวณกรอบหน้ากระชับ หน้าดูเรียวขึ้น

  • โบท็อกซ์ลดริ้วรอย

ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยสามารถฉีดได้หลายจุดบนใบหน้า เช่น รอยย่นบริเวณหน้าผาก รอบดวงตา ตีนกา ร่องแก้ม เป็นต้น การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยจะช่วยทำให้ผิวเต่งตึง กระชับ และเรียบเนียน

  • โบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตา

การฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตา หรือริ้วรอยรอบดวงตาจะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัวชั่วคราว ริ้วรอยจางลง 

  • โบท็อกซ์หน้าผาก

การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากสามารถช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณหน้าผากได้ เมื่อเราแสดงสีหน้าหรือยักคิ้วริ้วรอยบริเวณหน้าผากก็จะไม่เกิดการพับของผิว ทำให้ผิวบริเวณหน้าผากดูเรียบเนียน กระชับ และเต่งตึงขึ้น

  • โบท็อกซ์คิ้ว

โบท็อกซ์คิ้ว หรือการฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้วจะช่วยลดเลือนริ้วรอยเวลาขมวดคิ้วหรือแสดงสีหน้า การฉีดโบท็อกซ์คิ้วจะช่วยยับยั้งการหดตัวและทำให้ผิวหนังบริเวณระหว่างคิ้วเรียบเนียน

  • โบท็อกซ์ยกมุมปาก

โบท็อกซ์ยกมุมปากเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหารูปปากเป็นเส้นตรงหรือรูปปากคว่ำ รวมถึงผู้ที่เริ่มมีอายุ ผิวหนังบริเวณมุมปากเริ่มหย่อนคล้อย การแก้ไขด้วยโบท็อกซ์จะช่วยยกมุมปากขึ้นให้ดูสมดุล ใบหน้าโดยรวมดูสดใส และเสริมสร้างความมั่นใจได้

  • โบท็อกซ์แขน

โบท็อกซ์แขนหรือการฉีดโบท็อกซ์ลดกล้ามแขน สามารถแก้ปัญหาต้นแขนให้ดูเล็กลงได้ เหมาะสำหรับคนที่มีกล้ามแขนขนาดใหญ่ แต่ถ้าแขนใหญ่จากไขมันโบท็อกซ์ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ 

  • โบท็อกซ์น่องขา

การฉีดโบท็อกซ์น่องขาจะช่วยลดขนาดน่องให้เล็กลง ขาดูเรียวเล็ก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจ หรืออยากปรับให้ดูสมดุลกับสรีระร่างกาย 

  • โบท็อกซ์ปีกจมูก

การฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูกจะช่วยแก้ปัญหาปีกจมูกบาน ปีกจมูกใหญ่ ให้รูปจมูกที่กว้างแคบลง เล็กลง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปจมูกให้ดูมีมิติ ดูสมส่วนมากขึ้น

ฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี? รวม 8 ยี่ห้อโบท็อกซ์ผ่านอย. 2022

โบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อจะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวิธีการทำให้ตัวยาบริสุทธิ์ ชนิดโปรตีน เทคโนโลยีที่ใช้ หรือขนาดของโมเลกุล เป็นต้น แต่นอกเหนือจากการเลือกยี่ห้อโบท็อกซ์ การเลือกใช้โบท็อกซ์ที่แท้และผ่านอย.ไทยเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน สำหรับผู้ที่กำลังมองหาโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี SkinX ได้รวบรวม 9 ยี่ห้อโบท็อกซ์ผ่านอย.ไทยไว้ ดังต่อไปนี้

1. Allergan

Allergan botox

Allergan Botox เป็นโบท็อกซ์จากประเทศอเมริกา สารที่ใช้คือ Onabotulinumtoxin A ได้รับความนิยมอย่างหลากหลายทั่วโลก และเป็นยี่ห้อแรกที่องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาได้อนุมัติให้โบท็อกซ์ Allergan ใช้รักษารอยขมวดคิ้ว ถือได้ว่า Allergan Botox ได้ถูกใช้ในวงการเสริมความงามเป็นครั้งแรก โดย Allergan Botox ผลิตโดยบริษัท Allergan ประเทศอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทยาที่มีชื่อเสียงและเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังหลายตัว เช่น ฟิลเลอร์ Juvederm เทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting 

 

จุดเด่นของโบท็อกซ์ 

 

  • มีความบริสุทธิ์สูงมากถึง 99.5%
  • อยู่ได้นานถึง 5-6 เดือน
  • โอกาสดื้อโบท็อกซ์น้อย
  • ยากระจายตัวแคบ ออกฤทธิ์ได้แม่นยำ
  • นิยมฉีดลดริ้วรอยบนใบหน้า ลิฟต์กรอบหน้า ลดกราม ฉีดเฉพาะจุด เช่น ลดเหงื่อบริเวณรักแร้

     

Allergan Botox ที่ผ่านอย.ไทย มี 2 แบบคือ 

 

  1. Allergan จำนวน 50 ยูนิต
  2. Allergan จำนวน 100 ยูนิต

2. XEOMIN

โบเยอรมัน

XEOMIN Botox เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเยอรมัน สารที่ใช้คือ incobotulinumtoxin A ผลิตโดยบริษัท MERZ PHARMA GMBH & CO. KGaA ทางบริษัทได้มีการพัฒนา XTRACT Technology มาใช้ในกระบวนการผลิต ทำให้ลดการปนเปื้อนของโปรตีน โบท็อกซ์มีความบริสุทธิ์สูง โอกาสดื้อยาน้อย และขนาดโมเลกุลของโบท็อกซ์มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ แต่ก็ยังคงมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการทำงานของระบบประสาทได้ดี นำเข้าประเทศไทยโดย Merz Aesthetics จำกัด

 

จุดเด่นของโบท็อกซ์ XEOMIN 

 

  • มีความบริสุทธิ์สูง
  • อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
  • มีการใช้เทคโนโลยีเฉพาะ XTRACT Technology
  • สามารถฉีดในเคสดื้อโบท็อกซ์ได้
  • โอกาสดื้อโบท็อกซ์น้อย
  • ยากระจายตัวดี
  • นิยมใช้ฉีดลดริ้วรอยทั่วใบหน้า ปรับรูปหน้าเรียว ลดกราม ฉีดเฉพาะจุด เช่น น่อง แขน

     

XEOMIN Botox ที่ผ่านอย.ไทย มี 2 แบบ

 

  1. โบท็อกซ์ XEOMIN จำนวน 50 units
  2. โบท็อกซ์ XEOMIN จำนวน 100 units

3. Dysport

Dysport botox

Dysport Botox เป็นโบท็อกซ์จากประเทศอังกฤษ สารที่ใช้คือ abobotulinumtoxin A มีโครงสร้างโมเลกุลเล็กกว่าโบท็อกซ์อเมริกา ยากระจายเป็นวงกว้าง เมื่อฉีดแล้วไม่กระจุกตัวในพื้นที่แคบ ผลิตโดยบริษัท IPSEN BIOPHARM LIMITED นำเข้าและจัดจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด

จุดเด่นของโบท็อกซ์ Dysport

  • มีความบริสุทธิ์สูง
  • อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
  • โอกาสดื้อโบท็อกซ์น้อย
  • นิยมใช้ลิฟต์กรอบหน้า ปรับรูปหน้า ยกกระชับผิว ฉีดเฉพาะจุด เช่น น่องขา แขน รักแร้

Dysport Botox ที่ผ่านอย.ไทย มี 2 แบบ

  1. โบท็อกซ์ Dysport จำนวน 300 units
  2. โบท็อกซ์ Dysport จำนวน 500 units

4. NABOTA

Nabota Botox เป็นโบท็อกซ์จากประเภทเกาหลี มีการใช้เทคโนโลยีเฉพาะ HI-PURE Technology ทำให้มีความบริสุทธิ์สูง ดื้อยาน้อย ออกฤทธิ์ไว จึงได้รับความนิยมอย่างหลากหลายทั้งประเทศไทย เกาหลี อเมริกา และโซนยุโรป Nabota Botox เป็นโบท็อกซ์เกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านการรับรองจาก USFDA (U.S. Food and Drug Administration) มีผู้ผลิตคือบริษัท Daewoong Pharmaceutical จัดและจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท มัณฑนา มาร์เก็ตติ้ง จำกัด

 

จุดเด่นของโบท็อกซ์ Nabota

 

  • มีความบริสุทธิ์สูง 
  • อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
  • มีการใช้เทคโนโลยีเฉพาะ HI-PURE Technology
  • มีโอกาสดื้อยาน้อย
  • ออกฤทธิ์ไว 
  • นิยมใช้ฉีดลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าเรียว ลดกราม ฉีดเฉพาะจุด เช่น น่องขา แขน รักแร้

     

Nabota Botox ที่ผ่านอย.ไทย คือ

 

  • Nabota Botox กล่องดำ จำนวน 100 units

5. Aestox

Aestox Botox เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลี ผลิตโดยบริษัท HUGEL, Inc. นำเข้าและจัดจำหน่ายโดยบริษัท Aestec Pharma จำกัด เป็นหนึ่งในยี่ห้อที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศไทย ปลอดภัย ผ่านการรับรองจาก KFDA (Korea Food & Drug Administration)
 

จุดเด่นของโบท็อกซ์ Aestox

 

 

  • มีความบริสุทธิ์สูง 99.5%
  • อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
  • มีโอกาสดื้อยาน้อย
  • ออกฤทธิ์ค่อนข้างไว
  • นิยมใช้ฉีดลดริ้วรอย เก็บกรอบหน้า ลดกราม หรือฉีดเฉพาะจุด เช่น น่องขา แขน
     

Aestox Botox ที่ผ่านอย.ไทย มี 3 แบบคือ

 

 

    1. โบท็อกซ์ Aestox จำนวน 50 units
    2. โบท็อกซ์ Aestox จำนวน 100 units
    3. โบท็อกซ์ Aestox จำนวน 200 units

       

6. HUGEL

HUGEL Botox เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลี ผลิตและพัฒนาโดยบริษัท Hugel Inc นำเข้าและจัดจำหน่ายโดยบริษัท บอน-ซอง จำกัด

จุดเด่นของโบท็อกซ์ HUGEL 

  • มีความบริสุทธิ์สูง
  • อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
  • มีการกระจายตัวแคบ ออกฤทธิ์ไว
  • นิยมใช้ฉีดลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าเรียว ลดกราม ฉีดเฉพาะจุด เช่น น่อง แขน รักแร้

HUGEL Botox ที่ผ่านอย.ไทย มี 2 แบบคือ

  1. โบท็อกซ์ HUGEL จำนวน 50 units
  2. โบท็อกซ์ HUGEL จำนวน 200 units

7. CLODEW

CLODEW Botox เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลี ผลิตจากบริษัท Daewoong Pharmaceutical จำกัด บริษัทเดียวกันกับโบท็อกซ์ Nabota จัดและจำหน่ายโดยบริษัท แดวูง ฟาร์มาซูทิคอล ประเทศไทย จำกัด โดย CLODEW Botox 1 กล่อง มีจำนวนยูนิต 100 units

จุดเด่นของโบท็อกซ์ CLODEW

  • มีความบริสุทธิ์สูง
  • อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
  • มีเทคนิคเฉพาะ Double V Lifting
  • ออกฤทธิ์ไว
  • นิยมฉีดลดริ้วรอย ลดกราม ลิฟต์กรอบหน้า

8. BTXA

BTXA Botox เป็นโบท็อกซ์สัญชาติฮ่องกง ผลิตโดยบริษัท Lanzhou Biotechnique Development จำกัด จัดและจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท คอสเมด ฟาร์ม่า จำกัด โดย BTXA Botox 1 กล่อง มีจำนวน 100 units

 

จุดเด่นของโบท็อกซ์ BTXA

 

  • มีความบริสุทธิ์สูง 99.5%
  • อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
  • นิยมฉีดลดริ้วรอย ลดกราม ลิฟต์กรอบหน้า

ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีดโบท็อกซ์

ขั้นตอนการปฏิบัติก่อนฉีดโบท็อกซ์ที่ถูกวิธีจะช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกซ์ออกมาดีที่สุด รวมถึงช่วยลดปัญหาแทรกซ้อนหลังฉีด

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์ให้ละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกคลินิก วิธีดูโบท็อกแท้ เป็นต้น
  • งดกินยากลุ่ม NSAIDs เช่น Aspirin, Ibuprofen, Diclofenac, Ponstan รวมถึงงดวิตามินและอาหารเสริมบางประเภทที่มีฤทธิ์เกี่ยวกับการไหลเวีนโลหิต อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนฉีดโบท็อกซ์
  • หากมีคอร์สหัตถการบนใบหน้า เช่น นวดหน้า เลเซอร์ ควรทำมาก่อนฉีดโบท็อกซ์
  • หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ใช้ประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีดโบท็อกซ์

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดโบท็อกซ์

วิธีดูแลหลังฉีด Botox

การปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อกซ์ที่ดีและถูกต้อง จะช่วยรักษาตัวยาให้อยู่ได้นานขึ้นและจะช่วยลดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ โดยข้อควรปฏิบัติหลังฉีดโบท็อกซ์มีดังนี้

หลังฉีดทันที

  • หลังฉีดโบท็อกซ์เสร็จในแต่ละบริเวณ ควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
  • ไม่ควรจับ ลูบคลำ คลึง หรือกดบริเวณรอยที่ฉีดแรง ๆ เพราะอาจทำให้ยากระจายตัวได้
  • ภายใน 4 ชั่วโมงไม่ควรนอนราบหรือนอนตะแคง เพราะอาจทำให้เกิดการกระจายตัวของยาผิดจากตำแหน่งได้
  • หลังฉีด 24 ชั่วโมง สามารถทาครีมหรือแต่งหน้าทับรอยเข็มได้ปกติ

หลังฉีด 2-3 วันแรก

  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์จะเพิ่มระบบการไหลเวียนของเลือด 

หลังฉีด 2 สัปดาห์แรก

  • งดการอบไอน้ำ อบซาวน่า นวดหน้า ยิงเลเซอร์ร้อน หรือหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดแรง ๆ 
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ ตากแดดแรง เลเซอร์ร้อนบนผิวหน้า เป็นต้น

“การที่โบท็อกซ์จะเสื่อมจากความร้อนได้ก็ต่อเมื่อ ได้รับความร้อนใต้ผิวสูงประมาณ 60 องศาเซลเซียส ดังนั้นการอาบน้ำร้อน หรือกินปิ้งย่าง ชาบู จึงไม่สามารถทำให้โบท็อกซ์เสื่อมได้”

โบท็อกซ์อยู่ได้นานไหม เห็นผลกี่วัน?

ผลของ Botox สามารถอยู่ได้นาน 4-6 เดือน เมื่อตัวยาเริ่มสลายการทำงานของกล้ามเนื้อจะค่อย ๆ กลับมา บริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ เช่น ริ้วรอยหน้าผาก ระหว่างคิ้ว หรือกราม จะเริ่มปรากฏขึ้นอีกครั้ง สามารถกลับมาฉีดโบท็อกซ์ซ้ำได้

ฉีดโบท็อกซ์กี่วันเห็นผล? โดยทั่วไปแล้วหลังจากฉีดโบท็อกซ์ประมาณ 1-2 อาทิตย์ก็จะค่อย ๆ เห็นผลการเปลี่ยนแปลง และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากขึ้นประมาณ 1-2 เดือนหลังฉีดโบท็อกซ์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดด้วย เช่น 

  • โบท็อกซ์ริ้วรอยจะเริ่มรู้สึกตึง ๆ ขึ้นภายใน 3-4 วัน และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนประมาณ 14 วันหลังฉีด 
  • โบท็อกซ์กรามเมื่อกัดกรามแล้วจะเริ่มรู้สึกว่านิ่มลงประมาณ 1 อาทิตย์  
  • โบท็อกซ์รักแร้จะเริ่มเห็นผลใน 72 ชั่วโมง

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดโบท็อกซ์

ผลข้างเคียงที่เกิดจากการฉีดโบท็อกซ์ผิวหนังอาจเกิดรอยช้ำ บวมแดง หรือเจ็บบริเวณที่ฉีดได้ รวมถึงจะรู้สึกตึงหรือรู้สึกเมื่อยบริเวณที่ฉีด

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้

  1. หนังตาตก พบได้หลังฉีดโบท็อกซ์รักษารอยย่นของหน้าผาก อาการนี้อาจเกิดหลังจากฉีดประมาณ 7-10 วัน และอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-4 สัปดาห์

  2. คิ้วตก ถ้าฉีดบริเวณใกล้หางคิ้วจะทำให้ไม่สามารถเลิกคิ้วได้ ส่งผลให้ใบหน้าไม่สามารถแสดงความรู้สึก

  3. ตาแห้ง จากการฉีดโบท็อกซ์เข้าต่อมน้ำตา ทำให้การสร้างน้ำตาลดลง

  4. มุมปากบนห้อยลง จากการฉีดโบท็อกซ์รอยตีนกา ถ้าฉีดลึกเกินไปยาอาจซึมเข้ากล้ามเนื้อ Zygomaticus ได้ และอาจทำให้ริมฝีปากบนหย่อนลงได้

  5. กล้ามเนื้อลีบและเกิดพังผืดในกล้ามเนื้อ จากการฉีดโบท็อกซ์ซ้ำหลายครั้ง

  6. อาจเกิดการดื้อยา หากฉีดโบท็อกซ์ติดต่อกันทุกเดือน และฉีดในปริมาณมากกว่า 300 ยูนิต

  7. อาจเกิดอาการฝ่ามืออ่อนแรง หลังจากฉีดรักษาอาการเหงื่อออกที่ฝ่ามือ

ผู้ที่ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์

  • ผู้ที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง

  • ผู้หญิงตั้งครรภ์หรือผู้หญิงที่กำลังให้นมบุตร

  • ผู้ที่มีการติดเชื้อบริเวณผิวหนังที่ต้องการจะฉีดโบท็อกซ์

  • ผู้ที่กำลังรับการรักษาภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่และมีการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTI)

  • อายุต่ำกว่า 18 ปี

ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี เลือกอย่างไรให้ปลอดภัย

การเลือกฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี? เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะการฉีดโบท็อกซ์เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสูงจึงมีหลายคลินิกที่เปิดให้บริการฉีดโบท็อกซ์ ซึ่งอาจเสี่ยงเจอกับหมอกระเป๋า คลินิกไม่ได้มาตรฐาน หรือคลินิกใช้โบท็อกซ์ปลอมได้ ทาง SkinX จึงได้รวบรวมข้อควรพิจารณาการเลือกฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี ไว้คร่าว ๆ ดังนี้

  1. เลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลจากสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะอย่างถูกต้อง

  2. แพทย์ต้องเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ สามารถเช็กประวัติแพทย์ได้จากเว็บไซต์ของแพทยสภา

  3. คลินิกต้องใช้โบท็อกซ์แท้เท่านั้น สามารถเช็กโบท็อกซ์แท้ได้จากขวด มีการเปิดขวดและดึงยาต่อหน้า

  4. ควรเลือกคลินิกฉีดโบท็อกซ์ที่มีการติดตามผล และให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวก่อนและหลังทำอย่างใกล้ชิด สามารถปรึกษาแพทย์ที่ทำเคสได้

  5. ควรดูรีวิวหรือความคิดเห็นจากผู้มาใช้บริการจริง 

สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจเลือกฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี SkinX ได้รวบรวมดีลพิเศษจากคลินิกชั้นนำและน่าเชื่อถือมากมายมาไว้ที่หน้า SkinX Voucher ผู้ที่สนใจสามารถคลิกเข้าไปเลือกดูโปรต่าง ๆ ได้เลย 

สรุป

ฉีดโบท็อกซ์เป็นหัตถการเสริมความงามที่ไม่อันตรายอย่างที่ใครหลายคนคิด หากเลือกฉีดกับสถานที่สะอาด ปลอดภัยได้มาตรฐาน ฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และต้องเป็นโบท็อกซ์แท้เท่านั้น ในปัจจุบัน Botox ที่ผ่านอย.ในประเทศไทยมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ ขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องการแก้ไขและความต้องการของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการประเมินปัญหาบนใบหน้าหรือปัญหาที่ต้องการแก้ไขก่อนทุกครั้ง

สำหรับผู้ที่ต้องการอยากปรึกษากับแพทย์แต่ไม่สะดวกไปที่คลินิก สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SkinX เพื่อปรึกษากับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจาก SkinX ผ่านทางออนไลน์ได้เลย

สำหรับลูกค้าใหม่ที่ใช้บริการครั้งแรก สามารถเลือกปรึกษาแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

SkinX แอปฯ ปรึกษาหมอผิวหนังออนไลน์ ที่ได้รวบรวมเหล่าทีมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำมาให้คำปรึกษาด้านผิวหนัง อาทิ ปัญหาสิว ชนิดผิวพรรณแต่ละประเภท ผมและหนังศีรษะ รวมถึงหัตถการความงาม อย่าง ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดโบท็อกซ์

อ้างอิง

อารีรัตน์ สุพุทธิธาดา. (2555).การใช้โบทูลินัมทอกซินทางคลินิก (Clinical Use of Botulinum Toxin).   เวชศาสตรฟื้นฟูสาร., 22(2), 38-41. https://www.rehabmed.or.th/main/wp-content/uploads/2014/03/L-338.pdf

Botox injections. (2021, Febuary 02).  Mayo Clinic. https://www.mayoclinic.org/tests-procedures/botox/about/pac-20384658#:~:text=Botox%20injections%20block%20certain%20chemical,forehead%20and%20around%20the%20eyes.

Botox. (2020, July 24). Radiance by Webmd. https://www.webmd.com/beauty/cosmetic-procedures-botox#091e9c5e8000960d-1-3

MEDICATION GUIDE BOTOX® BOTOX® Cosmetic (Boe-tox) (onabotulinumtoxinA) for Injection. FDA. https://www.fda.gov/media/77359/download

Nichols H. (2020, August 10). Botox: Cosmetic and medical uses. Medical News Today. https://www.medicalnewstoday.com/articles/158647#cost

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น ใช้งานครั้งแรกปรึกษาฟรี
Tips & Tricks
สาระน่ารู้และข่าวประชาสัมพันธ์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ สามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า