โบท็อกซ์ลดริ้วรอย แก้ปัญหาตรงจุด เติมเต็มริ้วรอยร่องตื้น

ฉีดโบลดริ้วรอยเป็นหัตถการเสริมความงามที่ผู้คนหลายช่วงอายุวัยต่างก็ให้ความสนใจ เพราะเป็นหัตถการลดเลือนริ้วรอยที่เห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว ผิวหน้ากระชับเรียบเนียนขึ้น รวมถึงมีความปลอดภัยมาก ในปัจจุบันการนำโบท็อกซ์มาใช้รักษาปัญหาริ้วรอยจึงเป็นหัตถการที่เหมาะสำหรับคนที่อยากแก้ปัญหาริ้วรอยที่เกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้นหรือการขยับกล้ามเนื้อเพื่อแสดงสีหน้า
ในบทความนี้ SkinX จะมาเจาะลึกกับฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยว่า ฉีดโบลดริ้วรอยคืออะไร ฉีดจุดไหนได้บ้าง แต่ละจุดใช้กี่ยูนิต ฉีดโบลดริ้วรอยราคาเท่าไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร?
SkinX แอปพลิเคชันพบหมอผิวหนังออนไลน์ ที่ได้รวบรวมเหล่าทีมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำ มากกว่า 210 คน มาให้คำปรึกษาโดยเฉพาะ อาทิ ปัญหาเรื่องสิว ชนิดผิวพรรณแต่ละประเภท ผมและหนังศีรษะ รวมไปถึงหัตถการความงามอย่าง ฉีดโบท็อกซ์ และฉีดฟิลเลอร์
หัวข้อที่น่าสนใจ

โบท็อกซ์ลดริ้วรอย คืออะไร?
โบท็อกซ์ลดริ้วรอยคือ (Botox for facial wrinkles) การฉีดสาร Botulinum toxin A ที่เป็นสารสกัดจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum มีคุณสมบัติออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ เมื่อฉีดโบท็อกซ์บริเวณริ้วรอยบนใบหน้าแล้ว จะสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยตามจุดต่าง ๆ ได้
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2545 องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (USFDA) ได้อนุมัติให้ยา Botox ของ Allergan, Inc ซึ่งเป็นสาร Onabotulinumtoxin A สามารถใช้เพื่อแก้ไขริ้วรอยขมวดคิ้วระดับปานกลางจนถึงมากในเพศชายและเพศหญิง ที่มีอายุ 65 ปีหรือต่ำกว่าได้ นับว่าเป็นครั้งแรกที่ได้อนุมัติใช้โบท็อกซ์อย่างเป็นทางการเพื่อเสริมความงาม
อ่านบทความเจาะลึกเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์ได้ที่ : ทำความรู้จัก “โบท็อกซ์” หัตถการความสวย ที่ทำได้มากกว่าเสริมความงาม
“แท้จริงแล้วคำว่า “Botox” เป็นชื่อทางการค้าของบริษัท Allergan ผู้ที่คิดค้นการนำเอาสาร Botulinum toxin A มาใช้ในการรักษาความงามในด้านริ้วรอยเป็นครั้งแรก และเป็นยี่ห้อแรกที่ได้การรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (USFDA) คำว่า Botox จึงถูกใช้ครั้งแรกและกลายเป็นคำเรียกติดปากของคนในปัจจุบัน”
ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยได้จริงไหม?
กลไกการออกฤทธิ์ของสาร Botulinum toxin A หลังจากฉีดเข้าไปยังบริเวณริ้วรอยพบว่า สาร Botulinum Toxin จะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงภายใน 48-72 ชั่วโมง ยาจะออกฤทธิ์เต็มที่ 1-2 สัปดาห์ ริ้วรอยบริเวณที่ฉีดเริ่มคลายตัวและจางลง โดยกล้ามเนื้อจะอ่อนแรงนาน 4-6 เดือน เมื่อขยับใบหน้าหรือแสดงสีหน้าต่าง ๆ ก็จะไม่เกิดการพับของผิว ดังนั้นการฉีดโบท็อกซ์จึงสามารถแก้ปัญหาริ้วรอยได้
สำหรับการฉีดโบลดริ้วรอยจะเห็นผลชัดเจนในการแก้ปัญหาริ้วรอยตื้น ๆ หรือริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น การขมวดคิ้ว การเลิกคิ้ว ริ้วรอยตีนกา การยิ้ม ริ้วรอยร่องแก้ม เป็นต้น แต่ถ้าหากเป็นปัญหาริ้วรอยร่องลึกที่เกิดจากปัญหากระดูกทรุดตัว อาจจะต้องแก้ไขโดยการฉีดฟิลเลอร์หนุนในชั้นผิว เพราะสารเติมเต็มในฟิลเลอร์สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกได้มากกว่าการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย
ริ้วรอยบนใบหน้าเกิดจากอะไร มีกี่แบบ?
ริ้วรอยบนใบหน้าเป็นปัญหาผิวที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น โดยจะเริ่มพบได้ตั้งแต่อายุ 25 ปีเป็นต้นไป แต่ถ้าเราสังเกตดี ๆ ก็เริ่มเห็นริ้วรอยตื้น ๆ บนใบหน้าในจุดที่มีการขยับหรือแสดงสีหน้าบ่อย ๆ เมื่อมีอายุมากขึ้นริ้วรอยตื้น ๆ สามารถพัฒนาเป็นริ้วรอยร่องลึกได้ เนื่องจากโครงสร้างของผิวอ่อนแอลง กระบวนการทำงานในร่างกายเริ่มช้าลง ผิวหนังผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินน้อยลง ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวแห้งกร้าน ส่งผลให้ผิวขาดความแข็งแรง ผิวจึงมีริ้วรอยง่ายขึ้น
สาเหตุของการเกิดริ้วรอยบนใบหน้ามีทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ดังนี้
ปัจจัยภายใน
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น: ร่างกายจะผลิตสารที่ช่วยให้ผิวหนังดูเต่งตึงและชุ่มชื้นได้น้อยลง เช่น อีลาสติน คอลลาเจน กรดไฮยาลูรอน ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น ส่งผลให้ผิวเริ่มหย่อนคล้อยและเริ่มเกิดริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า
- การแสดงสีหน้า: การแสดงสีหน้าบางท่าที่ทำซ้ำ ๆ ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานสามารถเป็นต้นเหตุของริ้วรอยได้ เช่น การยิ้ม การขมวดคิ้ว การเลิกคิ้ว เป็นต้น
ปัจจัยภายนอก
- แสงแดด: การเผชิญกับแสงแดดเป็นหนึ่งในสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร เพราะแสงแดดจะทำลายคอลลาเจนและเส้นใยยืดหยุ่นในชั้นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันใต้ผิวหนัง ส่งผลให้ผิวหนังเกิดความยืดหยุ่นจนนำไปสู่ริ้วรอยร่องลึกได้
โดยริ้วรอยสามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
ริ้วรอยร่องตื้น
ริ้วรอยร่องตื้นเกิดจากผิวหนังชั้นบนสุดมีความแห้ง สาเหตุจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ เช่น อากาศเย็น อยู่ในห้องแอร์ตลอดทั้งวัน
ริ้วรอยร่องลึก
ริ้วรอยร่องลึกเกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ ส่งผลให้หนังแท้กับหนังกำพร้าดึงเข้าหากัน เกิดเป็นรอยพับหรือรอยย่น สามารถมองเห็นเป็นร่อง รวมไปถึงคนที่มักแสดงสีหน้าบ่อย ๆ เช่น การขมวดคิ้ว การยักคิ้ว การเลิกหน้าผาก การยิ้ม เป็นต้น
โบท็อกซ์ลดริ้วรอยฉีดจุดไหนได้บ้าง?

การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยในปัจจุบันผู้คนมักฉีดเพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าต่าง ๆ เพื่อให้ริ้วรอยดูจางลง ผิวหน้าเรียบเนียนและเต่งตึงขึ้น โดยบริเวณที่สามารถฉีดโบลดริ้วรอยมีดังนี้
โบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว
ริ้วรอยระหว่างคิ้วหรือรอยย่นระหว่างคิ้ว เป็นริ้วรอยที่สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายมากและเป็นจุดแรกที่ผู้คนมักสังเกตเห็น การฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้วจะช่วยยับยั้งการหดตัวและทำให้ผิวหนังส่วนบนเรียบเนียนขึ้น สำหรับตำแหน่งระหว่างคิ้วเป็นบริเวณที่มีเส้นประสาทจำนวนมาก จึงควรฉีดโบท็อกซ์กับแพทย์ที่เชี่ยวชาญเท่านั้น
โบท็อกซ์ตีนกา หรือโบท็อกซ์หางตา
ปัญหาริ้วรอยตีนกา หรือปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ รอบหางตาเกิดจากการหดเกร็งซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน สามารถเกิดขึ้นได้จากการแสดงสีหน้าบ่อย ๆ เช่น การยิ้มหรือการหัวเราะ รวมถึงอายุที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้ผิวบางและยืดหยุ่นน้อยลง จึงเกิดเป็นริ้วรอยตีนกาหรือริ้วรอยหางตาขึ้น การฉีดโบท็อกซ์ตีนกาสามารถแก้ปัญหาส่วนนี้ได้
โบท็อกซ์หน้าผาก
ฉีดโบท็อกซ์หน้าผากสามารถช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย หรือรอยพับบริเวณหน้าผากได้ ซึ่งเกิดจากการแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ เช่น การเลิกคิ้ว การยิ้ม การหัวเราะ รวมถึงอายุที่เพิ่มมากขึ้น
โบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตา
ปัญหาริ้วรอยใต้ตาหรือริ้วรอยรอบดวงตา เป็นบริเวณที่เกิดริ้วรอยได้ง่ายที่สุด การฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตาจะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัวชั่วคราว ริ้วรอยจางลง แต่ข้อควรระวังคือหากฉีดมากเกินไปอาจทำให้ฉีดโบท็อกซ์แล้วตาแข็งได้ ดังนั้นควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญเท่านั้น
โบท็อกซ์ร่องแก้ม
ริ้วรอยร่องแก้ม หรือรอยย่นที่แก้มมีสาเหตุหลักมาจากการหย่อนคล้อยของผิว การฉีดโบท็อกซ์ร่องแก้มสามารถทำให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อ ช่วยลดเลือนริ้วรอยให้จางลงได้ แต่โบท็อกซ์ร่องแก้มจะใช้ได้กับผู้ที่มีร่องแก้มตื้น ๆ เท่านั้น หากผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึกควรเปลี่ยนมาแก้ไขปัญหาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแทน
ข้อดี-ข้อเสียของการฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอย
ข้อดีของการฉีดโบลดริ้วรอย
- ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง ดูสดใส และเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น
- การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยจะช่วยป้องกันริ้วรอยในอนาคตได้ เพราะการออกฤทธิ์ของ Botox ภายในช่วง 4-6 เดือน สามารถป้องกันการก่อตัวของริ้วรอยใหม่ได้เนื่องจากกล้ามเนื้อทำงานน้อยลง
- ป้องกันริ้วรอยร่องตื้น หรือริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ ไม่ให้กลายเป็นริ้วรอยร่องลึกถาวรได้
ข้อเสียของการฉีดโบลดริ้วรอย
- การฉีดโบท็อกซ์ไม่สามารถคงผลลัพธ์ได้ถาวร โดยทั่วไปแล้วโบท็อกซ์จะคงอยู่ได้ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกซ์ ตำแหน่งที่ฉีด ความลึกของริ้วรอย และปริมาณกล้ามเนื้อของแต่ละบุคคล
- ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยบริเวณรอบปาก หรือมุมปาก เพราะเสี่ยงต่ออาการปากเบี้ยวได้
- ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์บริเวณถุงใต้ตา เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อหย่อนลง สามารถเกิดปัญหาการกะพริบตา ตาดูบวม และหนังตาผิดรูปได้ หากฉีดผิดตำแหน่ง
ทั้งนี้ก่อนการเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยในแต่ละจุดควรให้แพทย์ประเมินปัญหาและวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคลต่อไป
ฉีดโบริ้วรอยแต่ละจุดใช้กี่ยูนิต?
- โบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว 12-25 Units
- โบท็อกซ์หน้าผาก 20-30 Units
- โบท็อกซ์ตีนกา 12-25 Units
- โบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตา 2-4 Units
แต่ละเคสอาจใช้ปริมาณมาก-น้อยแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัญหา ความต้องการของคนไข้ และการประเมินของแพทย์ร่วมด้วย
โบท็อกซ์ริ้วรอย ฉีดกี่วันถึงจะเห็นผล

ฉีดโบลดริ้วรอยกี่วันเห็นผล? หลังฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยจะเริ่มออกฤทธิ์ 3-4 วัน และจะรู้สึกตึงเต็มที่บริเวณที่ฉีดประมาณ 1-2 อาทิตย์ โดยฉีดโบลดริ้วรอยจะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน นอกจากนี้ผลลัพธ์ของโบท็อกซ์ลดริ้วรอยขึ้นอยู่กับจุดที่ฉีดด้วย เนื่องจากแต่ละจุดมีการออกฤทธิ์ที่ต่างกันเล็กน้อย และยังขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกซ์ที่เลือกใช้ รวมถึงการปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อกซ์อีกด้วย
ในเรื่องของการฉีดโบท็อกซ์ซ้ำเมื่อตัวยาสลายหมดแล้ว และต้องการคงผลลัพธ์ไว้ ควรเว้นการฉีดโบท็อกซ์ประมาณ 3 เดือน และไม่เว้นระยะห่างนานเกินไป (มากกว่า 6 เดือน) เพราะอาจทำให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานได้ปกติได้ ที่สำคัญคือไม่ควรฉีดซ้ำถี่เกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อกซ์ได้
สำหรับบริเวณอื่น ๆ ฉีดโบท็อกซ์กี่วันเห็นผล? สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : ฉีดโบท็อกซ์กี่วันเห็นผล ทำไมเห็นผลช้า และฉีดบอกโบท็อกซ์แล้วอยู่นานเท่าไหร่ ?
ฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยราคาเท่าไร?
การฉีดโบลดริ้วรอยราคาแต่ละจุดจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกซ์และจำนวนยูนิตที่ใช้ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินคนไข้แต่ละเคสว่าควรใช้จำนวนยูนิตเท่าไร เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดโบลดริ้วรอยออกมาดีที่สุด โดยฉีดโบลดริ้วรอยราคาแต่ละจุดมีดังนี้
- โบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว 25 Units ราคาเริ่มต้น 3,000 บาท
- โบท็อกซ์ตีนกา 25 Units ราคาเริ่มต้น 3,000 บาท
- โบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตา 25 Units ราคาเริ่มต้น 3,000 บาท
- โบท็อกซ์หน้าผาก 30 Units ราคาเริ่มต้น 3,500 บาท
ในกรณีที่ฉีดโบลดริ้วรอยไม่ถึง 50 Units หรือ 100 Units บางคลินิกจะแบ่งจากขวดเพื่อฉีดให้สำหรับคนที่ฉีดริ้วรอยเฉพาะจุด เพื่อป้องกันการฉีดโบท็อกซ์ปลอมแพทย์จึงจะแนะนำให้เปิดขวดใหม่จำนวน 50 ยูนิต หรือ 100 ยูนิต ไปเลยจึงจะได้มั่นใจว่าเป็นโบท็อกซ์แท้ เพราะคนไข้สามารถตรวจสอบโบท็อกซ์ก่อนการฉีดได้
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดีได้ที่ : โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี แต่ละยี่ห้อต่างกันไหม เลือกอย่างไรให้เหมาะกับตนเอง
การเตรียมตัวก่อนและหลังฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอย
การเตรียมตัวก่อนและหลังฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยที่ถูกต้อง จะช่วยให้ผลลัพธ์การฉีดโบลดริ้วรอยออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ รวมถึงช่วยลดปัญหาแทรกซ้อนหลังฉีดได้
ข้อปฏิบัติตัวก่อนฉีดโบลดริ้วรอย
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์ให้ละเอียด ทั้งสถานที่ฉีดฟิลเลอร์ แพทย์ที่มีประสบการณ์ วิธีดูโบท็อกซ์แท้ เป็นต้น
- งดกินยากลุ่ม NSAIDs เช่น Aspirin, Ibuprofen, Diclofenac, Ponstan รวมถึงงดวิตามินและอาหารเสริมบางประเภทที่มีฤทธิ์เกี่ยวกับการไหลเวียนโลหิต อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนฉีดโบท็อกซ์
- งดการสครับหน้า เลเซอร์ผิว บริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ 2-3 วัน
- ก่อนการฉีดโบท็อกซ์ควรตรวจสอบโบท็อกซ์แท้จากกล่อง
- หากมีโรคประจำตัวควรเข้าปรึกษาแพทย์ก่อนการฉีดโบท็อกซ์
ข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดโบลดริ้วรอย
- เมื่อฉีดโบท็อกซ์เสร็จในแต่ละบริเวณควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อ 1-2 ครั้ง
- ไม่ควรจับ ลูบ คลึง หรือกดบริเวณที่ฉีดแรง ๆ เพราะอาจทำให้ยากระจายตัวได้
- ไม่ควรนอนราบ นอนคว่ำ และก้มหัวต่ำกว่าอก ประมาณ 4 ชั่วโมงหลังฉีดโบท็อกซ์
- งดความร้อนและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง
- ประมาณ 3
- วันหลังฉีดโบท็อกซ์
ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยอันตรายไหม?
ฉีดโบลดริ้วรอยสามารถสลายได้เอง ตัวยาแต่ละยี่ห้อที่ผ่านอย.ไทยมีความปลอดภัยสูง ไม่เป็นอันตราย หากฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ใช้เทคนิคที่ถูกต้อง และใช้ปริมาณยาหรือจำนวนยูนิตที่เหมาะสม
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้หลังฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอย
- หนังตาตก พบได้หลังฉีดโบท็อกซ์รักษารอยย่นของหน้าผาก อาการนี้อาจเกิดหลังจากฉีดประมาณ 7-10 วัน และอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-4 สัปดาห์
- คิ้วตก ถ้าฉีดบริเวณใกล้หางคิ้วจะทำให้ไม่สามารถเลิกคิ้วได้ ส่งผลให้ใบหน้าไม่สามารถแสดงความรู้สึก
- ตาแห้ง จากการฉีดโบท็อกซ์เข้าต่อมน้ำตา ทำให้การสร้างน้ำตาลดลง
- มุมปากบนห้อยลง จากการฉีดโบท็อกซ์รอยตีนกา ถ้าฉีดลึกเกินไปยาอาจซึมเข้ากล้ามเนื้อ Zygomaticus ได้ และอาจทำให้ริมฝีปากบนหย่อนลงได้
สรุป
การฉีดโบลดริ้วรอยจะช่วยรักษาริ้วรอยบนใบหน้าที่เกิดจากการแสดงสีหน้า หรือริ้วรอยจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์ ผิวกระชับและเต่งตึงขึ้น นอกจากโบท็อกซ์จะฉีดลดริ้วรอยแล้ว ยังสามารถใช้ทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคบางชนิดอีกด้วย เช่น ฉีดลดเหงื่อในภาวะเหงื่อออกมาก โรคไมเกรน ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง เป็นต้น
สำหรับผู้ที่ต้องการอยากปรึกษาเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกลดริ้วรอยแต่ไม่สะดวกไปคลินิก สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SkinX เพื่อปรึกษากับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังผ่านทางออนไลน์ได้เลย
สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการครั้งแรก สามารถปรึกษากับแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
SkinX แอปฯ ปรึกษาหมอผิวหนังออนไลน์ ที่ได้รวบรวมเหล่าทีมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำมาให้คำปรึกษาด้านผิวหนัง อาทิ ปัญหาสิว ชนิดผิวพรรณแต่ละประเภท ผมและหนังศีรษะ รวมถึงหัตถการความงาม อย่าง ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดโบท็อกซ์
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
Boyd K. (2022, April 20). Botulinum Toxin (Botox) for Facial Wrinkles. American Academy of ophthalmology. https://www.aao.org/eye-health/treatments/what-is-botox-facial-wrinkles