การปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ มีอะไรบ้าง? ข้อควรรู้หลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี อยู่นานขึ้น
การปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ (Filler) และก่อนฉีดฟิลเลอร์เป็นเรื่องที่ใครหลายๆ คนอาจยังไม่แน่ใจว่าควรปฏิบัติอย่างไร หรือทำไมถึงต้องรู้ข้อควรหลังฉีดฟิลเลอร์ การปฏิบัติตัวที่ถูกต้องนั้นจะช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพ อยู่ได้นาน เป็นธรรมชาติ และไม่เกิดการติดเชื้อได้
ในบทความนี้ SkinX จะพามาดูข้อควรปฏิบัติตัวก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์ว่า มีอะไรบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงหรือควรปฏิบัติตาม เพื่อให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดมานั้นยังคงรูปและไม่สลายเร็ว
ทำความรู้จักกับ SkinX แอปพลิเคชันสำหรับพบหมอผิวหนังออนไลน์ ที่ได้รวบรวมเหล่าทีมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำมากมาย มาให้คำปรึกษาด้านผิวหนังโดยเฉพาะ รวมถึงการทำหัตถการความงามอย่างฉีดฟิลเลอร์
พิเศษ! สำหรับผู้ใช้บริการครั้งแรก ปรึกษาแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรหลีกเลี่ยงอะไรบ้าง
ก่อนการเข้ารับหัตถการ ฉีดฟิลเลอร์ (Dermal Filler) เราควรศึกษาข้อมูลการปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้หากได้ปรึกษากับแพทย์โดยตรงก็จะช่วยเพิ่มการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้นก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรหลีกเลี่ยงอะไรบ้าง? SkinX ได้รวบรวม 6 ข้อควรหลีกเลี่ยงที่สำคัญก่อนฉีดฟิลเลอร์ไว้ดังต่อไปนี้
งดยาหรือวิตามิน
ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้งควรงดยาแอสไพริน NSAIDs เช่น Ibuprofen, Diclofenac, Ponstan และงดวิตามิน Fish oil, St. Johns Wort, Ginkgo biloba, Primrose oil, Garlic, Ginseng, และ Vitamin E ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากจะทำให้เลือดแข็งตัวช้าในระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ อาจเสี่ยงต่อการช้ำหลังฉีด เพราะยาและวิตามินเหล่านี้สามารถกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตได้ทั้งนี้ควรแจ้งประวัติการใช้ยา หรือโรคประจำตัวกับแพทย์ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง
งดสกินแคร์ชนิดผลัดเซลล์ผิว
ก่อนการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใบหน้าควรงดการใช้สกินแคร์ชนิดผลัดเซลล์ผิว เช่น Retinoids Glycolic Acid หรือ BHA AHA ประมาณ 3 วันก่อนทำหัตถการฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวได้
ควรหลี่กเลี่ยงการทำหัตถการเกี่ยวกับใบหน้า
หากมีคอร์สเกี่ยวกับการทำหัตถการบนใบหน้า เช่น การนวดหน้า การเลเซอร์ต่างๆ ควรทำมาก่อนการฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 3 วัน
งดดื่มแอลกอฮอล์
ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ 3 วัน ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เนื่องจากแอลกอฮอล์มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะทำให้เส้นเลือดขยายตัว อาจทำให้เกิดอาการบวม ช้ำจากรอยเข็ม เลือดแข็งตัวช้าลง และแผลหายช้าได้ นอกจากนี้อาจส่งผลให้ฟิลเลอร์มีระยะเวลาอยู่สั้นลง
หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมากขึ้น
ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมากขึ้น หรือเพิ่มการทำงานของหัวใจ เช่น การออกกำลังกายอย่างหนัก การเข้าห้องซาวน่า เป็นต้น เนื่องจากหลอดเลือดจะมีการขยายตัว
หลีกเลี่ยงการกำจัดขนบริเวณใบหน้า
ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ 2 วัน ควรหลีกเลี่ยงการกำจัดขนบริเวณใบหน้าด้วยวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การแว็กซ์ขน การโกนขน หรือใช้ครีมกำจัดขน
ขั้นตอนการปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์
การปฏิบัติตัวตามขั้นตอนหลังฉีดฟิลเลอร์จะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่ได้เร็วขึ้น สามารถช่วยลดการอักเสบ การบวมช้ำหลังจากฉีดฟิลเลอร์ได้ อีกทั้งจะช่วยรักษาอายุของฟิลเลอร์ไม่ให้สลายเร็วอีกด้วย
Skin X ได้รวบรวม 15 ขั้นตอนการวิธีปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ มีดังต่อไปนี้
1.หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดทับบริเวณที่ฉีด
หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จห้ามเกา นวด คลึง หรือปั้นทรงเองโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์เสียรูปทรงหรือเคลื่อนที่ได้ เนื่องจากเนื้อฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ ควรปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากฉีดฟิลเลอร์ สำหรับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มีข้อควรระวัง ดังนี้
- ฟิลเลอร์หน้าผาก : ไม่ควรเอามือก่ายหน้าผากหรือนวดคลึง และควรระวังการสวมหมวกกันน็อค
- ฟิลเลอร์ขมับ : ไม่ควรนวดคลึงขมับอย่างรุนแรง
- ฟิลเลอร์ใต้ตา : ไม่ควรขยี้ตา เกา หรือกด บริเวณใต้ตา
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม : ไม่ควรนวด เกา แกะ บริเวณร่องแก้ม
- ฟิลเลอร์ปาก : ไม่ควรบีบ นวดริมฝีปาก และห้ามดึงหรือลอกหนังริมฝีปา
ทั้งนี้หากพบว่าฟิลเลอร์มีการจับตัวกันเป็นก้อนนูนออกมาหรือฟิลเลอร์ไหล ดูผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์เพราะอาจเกิดจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอม หรืออาจเกิดจากเทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้องได้ รวมถึงการเลือกใช้รุ่นฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะกับบริเวณที่ต้องการแก้ไข
อ่านบทความ “ฉีดฟิลเลอร์อันตรายจริงไหม?” เพิ่มเติมได้ที่ : ฉีดฟิลเลอร์อันตรายจริงไหม ควรฉีดฟิลเลอร์ดีหรือเปล่า? คลายข้อสงสัยฟิลเลอร์อันตรายกับ SkinX
2.ประคบน้ำแข็งบริเวณที่ฉีด
หลังฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 6 ชั่วโมง รอยเข็มบริเวณฉีดฟิลเลอร์อาจบวมมากขึ้น สามารถประคบเย็นได้ และควรเป็นน้ำแข็งที่สะอาดเพื่อลดการปนเปื้อนเชื้อโรค โดยใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็น หรือใช้ผ้าห่อน้ำแข็งประคบแต่ควรกดเบาๆ ไม่ควรกดแรง แต่ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการประคบเย็น
3.อย่าขยับใบหน้าเยอะจนเกินไป
หลังฉีดฟิลเลอร์พยายามอย่าขยับใบหน้าเยอะจนเกินไป หลีกเลี่ยงการยิ้มกว้างๆ หรือยิ้มตาหยี เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้ เช่น อาจทำให้ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนได้ โดยเฉพาะในช่วง 3 วัน
4.หลังฉีดฟิลเลอร์ไม่ควรล้างหน้าด้วยความรุนแรงหรือใช้น้ำร้อนจัด และหลีกเลี่ยงสกินแคร์ผลัดเซลล์ผิว
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 3 ชั่วโมง สามารถล้างหน้าได้ตามปกติ รวมถึงควรล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ ไม่ควรล้างด้วยน้ำร้อนหรือร้อนจัด และหลีกเลี่ยงการใช้สกินแคร์ผลัดเซลล์ผิว ประมาณ 3 วันหลังจากฉีดฟิลเลอร์ เพราะจะทำให้ผิวเกิดการคัน แสบหรือระคายเคือง
5.ทานแก้ปวดได้หากมีอาการปวด
ในคืนแรกหลังจากฉีดฟิลเลอร์อาจมีอาการปวดระบมบริเวณที่ฉีด สามารถรับประทานยาแก้ปวดพาราเซตามอล (Paracetamol) เพื่อบรรเทาอาการปวดได้
6.ควรงดดื่มแอลกอฮอล์
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด รวมถึงควรงดสูบหรี่ เพราะจะทำให้เกิดการบวมแดง และอักเสบ เมื่อดื่มไปแล้วจะทำให้หลอดเลือดขยายตัว เลือดสูบฉีดมากขึ้น อาการบวมจากเข็มจะหายช้าลง อีกทั้งความร้อนของร่างกายหลังดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้ฟิลเลอร์ออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ควรงดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3 วัน
“แอลกอฮอล์มีผลต่อการลดการแข็งตัวของเลือด หากมีแผลอาจทำให้มีเลือดซึมออกมาเรื่อยๆ เนื่องจากเลือดแข็งตัวช้า และอาจทำให้เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนตามมาได้ นอกจากนี้แอลกอฮอล์ยังไปลดการดูดซึมของสารอาหารต่างๆ ที่จำเป็นต่อการซ่อมแซมร่างกาย ทำให้แผลหายช้า”
7.หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
สารในบุหรี่บางชนิดมีคุณสมบัติขยายหลอดเลือด ขัดขวางการสมานแผลเหมือนกับแอลกอฮอล์ ส่งผลให้รอยเข็มหายบวมช้า ผลหลังฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้สั้นลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากไม่ควรสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ปากผิดรูปได้ ทั้งนี้งดสูบบุหรี่เป็นเวลา 3 วันหลังฉีดฟิลเลอร์เช่นกับการการดื่มแอลกอฮอล์
8.หลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ถูกความร้อน
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ถูกความร้อนโดยตรง เพราะจะส่งผลให้ฟิลเลอร์ได้ เช่น การนั่งหน้าเตาร้อนๆ เมื่อต้องรับประทานอาหารปิ้งย่างหรือชาบู หรือในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ปากควรเลี่ยงของร้อนๆ เพราะอาจทำให้ปากเกิดอาการบวมได้ เป็นต้น จึงควรงดอย่างน้อย 3 วัน หลังฉีดฟิลเลอร์
9.ไม่ควรออกกำลังกายอย่างหนัก
การปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ในช่วง 48 ชั่วโมงแรกไม่ควรออกกำลังกายอย่างหนัก หรือให้เหงื่อออกมาก เพราะอาจทำให้เกิดรอยแดง หรือบวมบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ นอกจากนี้แรงกระเทือนอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้
10.ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดแรงจัด
ในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ควรหลีกเลี่ยงการออกแดด หรือแสงแดดจัด เพราะอาจทำให้เกิดอาการบวมเพิ่มมากขึ้นได้ เนื่องจากมีเลือดหมุนเวียนที่ใบหน้ามากขึ้น นอกจากนี้ความร้อนจากแสงแดดที่แรงจัดยังส่งผลต่อการระคายเคืองของผิว ส่งผลให้หน้าแดง หรือรอยแดงโดยเฉพาะบริเวณรอยเข็มฉีดฟิลเลอร์
11.เลือกรับประทานอาหาร
การเลือกรับประทานอาหารหลังจากฉีดฟิลเลอร์จะช่วยเสริมให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น อย่างเช่น อาหารรสเผ็ดหรือรสจัดที่ทานแล้วอาจมีน้ำมูกไหล น้ำตาไหล เมื่อเราใช้มือเช็ด อาจทำให้รอยเข็มติดเชื้อได้ง่ายกว่าปกติ โดยเฉพาะหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และฟิลเลอร์ปากที่อาจให้ปากบวม หรืออักเสบได้ รวมถึงควรหลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง อาหารดิบร่วมด้วย เพราะอาจมีพยาธิปนเปื้อนในร่างกายจนเกิดการอักเสบได้
สำหรับอาหารรสจัด เช่น เผ็ดจัด เค็มจัด จะทำให้ร่ายกายมีการดูดน้ำค่อนข้างมาก ส่งผลให้ใบหน้าบวมได้ ส่วนอาหารที่มีรสหวานเกินไปจะทำให้ผิวหน้าอักเสบได้ง่าย ส่งผลให้รอยเข็มหายช้า หลังจากฉีดฟิลเลอร์ควรงดอาหารเหล่านี้ประมาณ 3-7 วัน
หากมีข้อสงสัยหลังฉีดฟิลเลอร์กินอะไรได้บ้าง สามารถอ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง
12.ดื่มน้ำให้เพียงพอ
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ควรดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ และควรดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ 1.5-2 ลิตร เพราะการดื่มน้ำจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ฟิลเลอร์คงรูปอยู่ได้ เนื่องจากสารเติมเต็มไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) ในฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มน้ำ การดื่มน้ำมากๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูได้รูป เป็นธรรมชาติ
13.งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึก
ในสองสัปดาห์แรกหลังจากฉีดฟิลเลอร์ควรงดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึก เนื่องจากความร้อนเฉพาะจุดอาจส่งผลต่อฟิลเลอร์ได้
เข้าปรึกษาแพทย์หากพบว่ามีอาการไม่พึงประสงค์
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ไปประมาณ 7 วัน รอยช้ำหรือรอยแดงจากแข็มจะค่อย ๆ หายไปเอง แต่ถ้ายังพบว่าอาการยังไม่ดีขึ้น สามารถเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจเช็กรวมถึงอาจมีการจ่ายยาเพื่อมารับประทาน
อีกหนึ่งกรณีเมื่อฉีดฟิลเลอร์ไปนานแล้วหลายเดือน พบว่ามีอาการไม่พึงประสงค์ เช่น ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์บวม แดง อักเสบหรือติดเชื้อ รวมถึงผิวหนังบริเวณที่ฉีดผิดรูป ควรรีบเข้ามาพบแพทย์ทันทีเพื่อประเมินอาการ เพราะอาจเป็นอันตรายจากฟิลเลอร์ปลอมได้
ฟิลเลอร์จะเข้าที่ภายในกี่วัน
ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่? หลังจากฉีดฟิลเลอร์แล้วอาจเกิดอาการบวม หรือรอยแดงจากเข็ม แต่อาการเหล่านี้จะหายไปเองภายในประมาณ 2-3 วัน และฟิลเลอร์จะค่อยๆ เข้าที่ประมาณ 7-14 วัน จึงจะเห็นผลลัพธ์
สรุป
การปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกต้องนั้นจะช่วยให้ฟิลเลอร์คงอยู่ยาวนาน ได้ผลลัพธ์ที่ดี รูปทรงสวย ดูเป็นธรรมชาติ ไม่สลายหายไปเร็วและไม่เกิดอันตรายตามมา หากยังไม่มั่นใจเรื่องการปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ว่ากิจวัตรประจำวันจะส่งผลต่อผลลัพธ์ของฟิลเลอร์หรือไม่ สามารถปรึกษาแพทย์เจ้าของเคสได้ หรือสามารถโหลดแอปพลิเคชัน SkinX เพื่อปรึกษากับแพทย์ผิวหนังโดยเฉพาะได้เช่นกัน
พิเศษ สำหรับผู้ใช้บริการครั้งแรก ปรึกษากับแพทย์ ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SkinX ติดมือถือไว้เลย เพื่อพบกับโปรสกินแคร์ และดีลความงามจากคลินิกดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดีลโบหน้าเรียว ดีลเคลียร์สิว หน้าใส เพราะผิวดีไม่ต้องรอ!
อ้างอิง
Bech T. (2018, March 29). Do’s And Don’ts Before + After Your Filler Treatment. Weiler Plastic Surgery. https://www.weilerplasticsurgery.com/blog/dos-and-dont-before-after-your-filler-treatment/
How to Prepare for Filler Injections. (n.d.). Dr joshua zimm. http://www.drjoshuazimm.com/blog-preparation-for-filler-injections.html
What They Don’t Tell You About Alcohol And Cosmetic Injectables. (2018, March 15). Canada MedLaser. https://canadamedlaser.ca/2018/03/15/dont-tell-alcohol-cosmetic-injectables/