SkinX

GET-On the App Store

SkinX Team

17 มกราคม 2566

ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน? ทำอย่างไรให้หายเร็ว?

ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน

หลังฉีดฟิลเลอร์ ผลข้างเคียงที่พบได้มากที่สุดคือฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม รอเป็นวันก็แล้ว สองวันก็แล้ว อาการบวมก็ไม่ยุบลง ทั้งยังบวมมากกว่าวันแรกอีก จึงมักจะมีข้อสงสัยว่าฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน เมี่อไหร่จะเข้าที่ และควรทำอย่างไรบ้างให้อาการบวมหายไปเร็วขึ้น

 

ในบทความนี้ แพทย์จาก SkinX จะมาตอบคำถาม ว่าฉีดฟิลเลอร์แล้วหน้าบวมเกิดจากอะไร ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน และมีข้อปฏิบัติอย่างไรบ้างเพื่อลดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์

 

SkinX แอปพลิเคชันปรึกษาปัญหาผิวหนังและความสวยความงาม ให้คุณได้เลือกปรึกษาแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญจากสถานพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศกว่า 210 ท่านได้แบบตัวต่อตัว ผ่านระบบออนไลน์ สะดวกสบาย ไม่ต้องเดินทาง  เพราะ SkinX ผิวดี ไม่ต้องรอ!


หัวข้อที่น่าสนใจ

ข้อควรรู้เบื้องต้น การฉีดฟิลเลอร์คืออะไร?

ก่อนจะทราบว่าฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน ควรทราบก่อนว่าฟิลเลอร์คืออะไร

 

การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) คือหัตถการอย่างหนึ่ง ที่จะทำโดยการฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ผิว มีจุดประสงค์เพื่อเติมเต็มผิว ลดรอยเหี่ยวย่น เพิ่มความชุ่มชื้น และปรับรูปหน้าหรือเครื่องหน้าให้สมมาตรขึ้น ได้รูปขึ้น เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้เข้ารับการรักษา

 

สารเติมเต็มที่ใช้ฉีดส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมหลักเป็นกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) เนื่องจากเป็นสารดั้งเดิมในผิวของคนเรา จึงเป็นสารที่ค่อนข้างปลอดภัย สลายตัวได้โดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ และยังสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ในกรณีที่ไม่พอใจกับผลการรักษาอีกด้วย


เรียนรู้เพิ่มเติม ฉีดฟิลเลอร์หน้าส่วนไหนได้บ้าง? :

 


ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมแดง คืออาการผิดปกติหรือไม่?

ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมเป็นได้ทั้งอาการผิดปกติ และปกติ อยู่ที่ว่าอาการบวมเกิดจากอะไร

 

หากอาการบวมเกิดจากการบาดเจ็บหลังการฉีดฟิลเลอร์ โดยไม่มีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ก็ไม่ได้นับว่าผิดปกติ เพราะก็เป็นผลข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการฉีดฟิลเลอร์

 

แต่หากเกิดอาการบวม ที่มีอาการอักเสบติดเชื้อร่วมด้วย มีอาการแพ้ฟิลเลอร์ หรือบวมจากการใช้ฟิลเลอร์ผิดประเภท ฉีดผิดตำแหน่ง หรือบวมจากการที่ฟิลเลอร์ไหลเข้าสู่เนื้อเยื่ออื่น ก็จะนับว่าเป็นอาการบวมที่ผิดปกติ และจะต้องพบแพทย์เพื่อแก้ไขต่อไป


 

ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน หลังฉีดกี่วันจึงจะเข้าที่?


ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน? หากเป็นอาการบวมเข็มตามปกติ ฉีดฟิลเลอร์จะบวมประมาณ 7 – 14 วัน โดยที่จะบวมมากที่สุดในช่วง 2 – 3 วันแรก จากนั้นจะค่อยๆ บวมน้อยลงและหายไปเองได้ โดยที่ไม่ต้องเข้ารับการรักษาเพิ่มเติมอะไรเลย เพียงทำตามข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ก็เพียงพอแล้ว


 

อาการบวมจากการฉีดฟิลเลอร์มีกี่ประเภท?

บวมจากการฉีดฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม มีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภทหลักแบ่งออกตามความจำเป็นที่จะต้องพบแพทย์ ได้แก่

 

ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมจากผลข้างเคียงปกติที่ไม่ต้องพบแพทย์

ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม หากเกิดอาการบวมหลังฉีด? หากเป็นอาการบวม แดง ไม่ได้รู้สึกเจ็บ หรือปวดมากจนผิดปกติ จะเป็นอาการบวมเข็มที่เกิดขึ้นได้หลังฉีดฟิลเลอร์ ไม่ใช่ผลข้างเคียงที่อันตราย และไม่ต้องพบแพทย์ 

 

อาการบวมดังกล่าวเกิดจากเข็มฟิลเลอร์ทำให้เนื้อเยื่อผิวหนังบางส่วนเสียหาย ผิวหนังบริเวณนั้นจึงบวมขึ้นตามกลไกของร่างกาย เพื่อซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย 

 

หากฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมแบบนี้ ควรดื่มน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอนหมอนสูง ห้ามไปคลึงหรือประคบร้อนเย็นเองโดยพลการ เพราะอาจมีผลกับการเซ็ตตัวของฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ไม่เกาะผิว หรือทำให้ฟิลเลอร์ไหลเข้าสู่เนื้อเยื่อส่วนอื่นได้ ถ้าบวมมาก อยากประคบเย็น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่าควรประคบหรือไม่ และต้องประคบบริเวณใดที่จะไม่มีผลกับฟิลเลอร์

 

ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมจากผลข้างเคียงที่จำเป็นต้องพบแพทย์

อาการบวมฟิลเลอร์ที่จำเป็นต้องพบแพทย์ มี 3 สาเหตุหลักๆ ได้แก่

 

  • อาการบวมจากการติดเชื้อและอักเสบรุนแรง

อาการบวมจากการติดเชื้อ จะมีอาการบวมแดง แสบร้อนบริเวณที่ฉีด รู้สึกปวดมากกว่าปกติ ผิวหนังเป็นสีแดงจัดหรือสีม่วง อาจมีหนองอยู่ในบริเวณที่บวมด้วย ซึ่งการบวมจากการติดเชื้อนับเป็นผลข้างเคียงที่อันตราย ผู้ที่มีอาการดังกล่าวควรแจ้งแพทย์เพื่อรักษาอาการข้างเคียงให้เร็วที่สุด

 

  • อาการบวมจากการแพ้ฟิลเลอร์

อาการแพ้ฟิลเลอร์ จะคล้ายกับอาการติดเชื้อ คือจะบวมแดงมาก บางครั้งอักเสบ ติดเชื้อ และเป็นหนองเหมือนกัน บางรายอาจเป็นก้อนนูนขึ้นมาจากผิว มีรอยแดง หรือมีตุ่มผื่นลมพิษขึ้นใกล้กับบริเวณที่ฉีดด้วย 

 

ซึ่งอาการแพ้ฟิลเลอร์อาจไม่ได้เกิดขึ้นหลังการฉีดเพียงไม่กี่วันเหมือนกับการติดเชื้อ แต่สามารถเกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้ในเวลาหลังจากฉีดฟิลเลอร์ตั้งแต่ระยะเป็นนาทีถึงเป็นปีได้

 

อาการแพ้ฟิลเลอร์สามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาลดการอักเสบ ลดบวม ลดผื่นลมพิษ เพื่อรักษาตามอาการ หากแพ้หนักมากๆ แพทย์อาจจะแนะนำให้ฉีดสลายฟิลเลอร์ ทั้งนี้ การแพ้ฟิลเลอร์กรดไฮยาลูรอนิคสามารถพบได้น้อยกว่า 5% ของผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ทั้งหมด

 

ส่วนใหญ่ที่พบอาการแพ้ฟิลเลอร์จะมาจากฟิลเลอร์ปลอมมากกว่า หากแพ้ฟิลเลอร์ปลอม จะไม่สามารถฉีดสลายเหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์กรดไฮยาลูรอนิคได้ ถ้าต้องการนำฟิลเลอร์ออกจะต้องผ่าตัดเพื่อขูดฟิลเลอร์และเนื้อเยื่อที่เสียหายออกเท่านั้น

 

  • อาการบวมจากฟิลเลอร์เป็นก้อน

หากฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมเป็นก้อน เห็นฟิลเลอร์เป็นลำนูนออกมาจากผิว เห็นเป็นก้อนเวลายิ้ม หรือขยับกล้ามเนื้อใบหน้า อาการเหล่านี้อาจเกิดจากความผิดพลาดของการฉีดฟิลเลอร์หรือการดูแลตัวเองที่ไม่ดีหลังการฉีดฟิลเลอร์ได้ ซึ่งไม่ใช่ผลข้างเคียงที่อันตรายอะไร แต่ก็มีผลกับรูปลักษณ์อย่างมาก

 

การฉีดฟิลเลอร์แล้วเห็นเป็นก้อน คือ ผลการรักษาที่ไม่พึงประสงค์ หากมีอาการดังกล่าวควรแจ้งแพทย์เจ้าของไข้ภายใน 2 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์ เพราะยังเป็นช่วงเวลาที่ยังสามารถแก้ไขได้อยู่ แต่หากพ้น 2 สัปดาห์ไปแล้ว อาจจะต้องแก้ไขด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์แทน


 

ผลข้างเคียงอื่นๆที่อาจพบได้หลังจากการฉีดฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์ ผลข้างเคียง

นอกจากฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมแดงตามปกติ การติดเชื้อ แพ้ฟิลเลอร์ และฟิลเลอร์เป็นก้อนแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ยังสามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงอื่นๆ ได้อีก ได้แก่

 

  • อาการแสบ คัน หรือรู้สึกปวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ซึ่งอาการดังกล่าวสามารถหายเองได้ใน 1 วัน

  • ฟิลเลอร์ไหลเข้าสู่เนื้อเยื่อส่วนอื่นที่ไม่ต้องการ ทำให้รูปร่างเครื่องหน้าและโครงหน้าแปลกไป ไม่เหมือนกับช่วงหลังทำทันที หากเกิดปัญหาดังกล่าวควรปรึกษาแพทย์ภายใน 2 สัปดาห์

  • วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด หายใจลำบาก เหนื่อยง่ายกว่าปกติ

  • เส้นประสาทผิดปกติ กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือรู้สึกว่าใบหน้าชา เป็นอัมพาต ไม่สามารถขยับได้ตามปกติ

  • เกิดความผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา เช่น ตาแห้ง ตาบวม ปวดตา ภาพการมองเห็นไม่ชัด หรืออาจถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นได้

 

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอดได้จริงหรือ? : คลายข้อสงสัย จริงไหม? ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด


 

ระวังอาการบวมจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม

บางครั้งฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมอาจเกิดจากฟิลเลอร์ปลอม การฉีดฟิลเลอร์ปลอมสามารถทำให้บวมได้ และยังก่อให้เกิดผลข้างเคียงอื่นๆ ที่อันตรายนอกเหนือจากอาการบวมด้วย

 

ก่อนอื่นเราควรทำความรู้จักฟิลเลอร์ปลอมก่อน ฟิลเลอร์ปลอม คือฟิลเลอร์อื่นๆ ทั้งหมดที่ไม่ใช่กรดไฮยาลูรอนิคและไขมัน ซึ่งฟิลเลอร์ปลอมจะประกอบด้วยสารสังเคราะห์อื่นๆ ได้แก่ ซิลิโคนเหลว พาราฟิน หรือพลาสติกพอลิเมอร์ชนิดต่างๆ ที่เป็นเกรดการแพทย์

 

แม้จะเป็นเกรดการแพทย์ สารเหล่านี้ก็ไม่เหมาะที่จะนำมาฉีดเป็นฟิลเลอร์อยู่ดี เพราะมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอาการแพ้ได้มากกว่ากรดไฮยาลูรอนิค นอกจากนี้ เมื่อฉีดเข้าไป สารเหล่านี้จะไม่สลายตัว ทำให้ในระยะยาวจะจับเป็นก้อนแน่น ติดกับกระดูกหน้า ทำให้ฟิลเลอร์บวมเป็นก้อน 

 

หรืออาจจะย้อยลงมาในเนื้อเยื่อส่วนอื่นๆ ทำให้ผลการรักษาออกมาไม่ดีในระยะยาวด้วย ส่วนการแก้ไขผลการรักษาจะต้องผ่าตัดเพื่อขูดออกเท่านั้น ไม่สามารถฉีดสลายได้เหมือนกับฟิลเลอร์กรดไฮยาลูรอนิค

 

ฟิลเลอร์ปลอม

หากฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นฟิลเลอร์ปลอม ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน? อาการบวมจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม อาจเกิดจากทั้งการที่ฟิลเลอร์จับตัวกันเป็นก้อนหลังฉีดไปแล้วระยะหนึ่ง หรืออาจเกิดจากการแพ้ฟิลเลอร์ก็ได้

 

อาการแพ้ฟิลเลอร์ปลอมสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาที่มีสิ่งแปลกปลอมอย่างฟิลเลอร์ปลอมอยู่ในผิวหนัง อาการแพ้อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นตั้งแต่แรก อาจจะเกิดขึ้นหลังจากฉีดไปแล้วหลายเดือน หรือหลายปีก็ได้ และอาการบวมจะไม่หายไป จนกว่าจะรักษาหรือผ่าตัดขูดฟิลเลอร์ปลอมออก

 

โดยผู้ที่แพ้ฟิลเลอร์ปลอม จะมีอาการบวมแดงมาก รู้สึกเจ็บปวดมากในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์และบริเวณใกล้เคียง อาจเกิดการติดเชื้อ เป็นหนอง ซึ่งถือเป็นอาการที่อันตรายมาก ผู้ที่เกิดปัญหาดังกล่าวควรพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันอาการแพ้รุนแรงจนรักษาได้ยาก

 

ทางที่ดี ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรดูให้ดีว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นฟิลเลอร์กรดไฮยาลูรอนิคแท้ เพื่อป้องกันการแพ้ฟิลเลอร์ปลอม และสามารถฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างปลอดภัย


 

“Fact : ไขมันสามารถฉีดเป็นฟิลเลอร์ได้ โดยการฉีดไขมันจะให้ผลการฉีดที่ถาวร อยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์กรดไฮยาลูรอนิค เพราะกระบวนการที่เกิดขึ้นหลังฉีดจะเหมือนกับการปลูกถ่ายอวัยวะ ที่ร่างกายจะค่อยๆ สร้างเส้นเลือดไปเลี้ยงก้อนไขมันที่เพิ่งฉีดเข้าไป ทำให้ฟิลเลอร์ไขมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของผิวหนัง ซึ่งกระบวนการนี้มีข้อเสียคือสามารถแก้ไขผลการรักษาได้ยากกว่า เนื่องจากไขมันไม่สามารถสลายไปเองได้ หากอายุมากขึ้น รูปหน้าเปลี่ยน ก้อนไขมันอาจจะย้อยลงมาทำให้ใบหน้าดูมีอายุมากกว่าเดิม รูปหน้าไม่สวยเหมือนหลังทำ หากต้องการแก้ไขผลการรักษา จะต้องผ่าตัดออกเท่านั้น”

หลังฉีดฟิลเลอร์ ดูแลตัวเองอย่างไรให้หายบวมได้ไว?

 

1.ดื่มน้ำมากๆ

น้ำมีผลอย่างมากต่อระบบไหลเวียนเลือด หากดื่มน้ำน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการ เลือดจะหนืดขึ้น ทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดีเท่าที่ควร

 

ขณะร่างกายเกิดแผล ระบบไหลเวียนเลือด เป็นระบบสำคัญที่จะคอยลำเลียงสารอาหาร ออกซิเจน และสารชนิดอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการรักษาบาดแผลไปที่เซลล์ต่างๆ ในตำแหน่งที่เกิดแผล หากเลือดหนืดจากการขาดน้ำ เลือดไหลเวียนได้น้อยลง แผลก็จะหายช้าลง

 

การที่ผิวหนังเสียหายจากการฉีดฟิลเลอร์ก็นับว่าเป็นแผลเช่นกัน ดังนั้นหากดื่มน้ำมากๆ ระบบเลือดสามารถไหลเวียนได้ดีขึ้น ส่งผลให้แผลหายเร็ว อาการบวมที่เกิดจากแผลก็จะหายเร็วตามไปด้วย ดังนั้นการดื่มน้ำจึงเป็นข้อปฏิบัติอีกข้อหนึ่งที่สำคัญมากในการทำให้ใบหน้าหายบวมฟิลเลอร์เร็วขึ้น

 

2.นอนหนุนหมอนสูง

การนอนแบบระนาบตามปกติ จะทำให้เลือดไปเลี้ยงที่บริเวณใบหน้ามาก ทำให้บริเวณที่บวมมีเลือดไปเลี้ยงมากกว่าปกติจนทำให้อาการบวมแย่ลงได้ ดังนั้นการหนุนหมอนสูง สามารถช่วยให้อาการบวมดีขึ้นได้

 

3.ไม่ควรบีบนวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์

หลายคนเข้าใจว่าการบีบนวด จะช่วยให้อาการบวมยุบเร็วขึ้น ในความเป็นจริงแล้ว วิธีดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์คือห้ามบีบ นวด หรือคลึงบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะการบีบนวดอาจจะทำให้เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังที่เสียหายอยู่แล้วอาการแย่ลงจนบวมกว่าเดิมได้ อีกทั้งการนวดยังอาจทำให้ฟิลเลอร์ที่ยังไม่เซ็ตตัวไหลเข้าสู่เนื้อเยื่ออื่นๆ จนทำให้เกิดฟิลเลอร์เป็นก้อน หรือผลการรักษาออกมาไม่ดีได้

 

4.ไม่ควรประคบน้ำแข็งด้วยตนเอง

หลายคนเข้าใจว่าการประคบเย็น จะทำให้อาการบวมช้ำดีขึ้นได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นความจริง แต่การประคบเย็นหลังฉีดฟิลเลอร์อาจจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีได้

 

เพราะอุณหภูมิมีผลต่อการเซ็ตตัวของฟิลเลอร์ จึงไม่เหมาะกับการประคบเย็นหลังฉีดฟิลเลอร์บางจุด อีกทั้งการประคบยังเสี่ยงต่อการทำให้ฟิลเลอร์ไม่เกาะผิว ทั้งยังทำให้ฟิลเลอร์ไหลเข้าสู่เนื้อเยื่ออื่นๆ เพราะบางครั้งอาจจะเผลอประคบและออกแรงกดบริเวณที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์มาแรงเกินไป จนเกิดผลเสียขึ้นนั่นเอง

 

หากต้องการประคบเย็น ควรปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ก่อน แพทย์จะแนะนำว่าสามารถประคบเย็นได้หรือไม่ พร้อมทั้งแนะนำวิธีประคบที่ปลอดภัย ไม่ส่งผลกับผลการรักษา

 

5.งดอาหารที่ทำให้อาการบวมแดงแย่ลง

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ที่สำคัญอีกข้อหนึ่งคือควรงดอาหารบางประเภท เพราะอาหารเหล่านี้มีผลต่อผลการฉีดฟิลเลอร์ได้ ดังนั้นแพทย์จึงแนะนำว่าควรเลี่ยงอาหาร ดังนี้

 

  • อาหารเสริมที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด ทำให้เสี่ยงเกิดรอยช้ำง่าย แผลหายช้า

  • อาหารอุณหภูมิสูง หรืออาหารที่ต้องทานหน้าเตา ทำให้อาการบวมแย่ลงได้

  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้อาการบวมหายช้า และกระตุ้นการอักเสบ ทำให้แผลแย่ลง

  • อาหารน้ำตาลสูง กระตุ้นให้เกิดการอักเสบ

  • อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ มีเชื้อโรคที่มีผลกระตุ้นการอักเสบ และเสี่ยงทำให้แผลติดเชื้อ

 

ควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อผลการรักษาที่ดี

 

6.หากบวมมาก และไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์

 

ข้อควรทำหลังฉีดฟิลเลอร์

อาการบวมจากการฉีดฟิลเลอร์ตามปกติจะหายไปเองภายใน 14 วัน หากอาการบวมไม่ดีขึ้นเลยตั้งแต่หลังฉีด มีอาการแสบร้อน คันที่แผล เป็นหนอง หรือผิวแดงจัดร่วมด้วย ควรพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เนื่องจากอาจมีอาการอักเสบรุนแรง ติดเชื้อ หรือแพ้ฟิลเลอร์ร่วมด้วยได้


 

สรุป ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมกี่วัน?


ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน? อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ สามารถเกิดขึ้นหรือไม่ก็ได้ แต่หากฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม อาการบวมจะอยู่ประมาณ 7 – 14 วัน

 

โดยอาการบวมจะบวมมากที่สุดในช่วง 2 – 3 วันแรก จากนั้นจะดีขึ้นเรื่อยๆ และหายไปภายใน 14 วัน


หากเลย 14 วันแล้ว อาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อดำเนินการรักษา ก่อนเกิดผลข้างเคียงรุนแรง


ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมมาก ช้ำมาก หลายอาทิตย์แล้วยังไม่หาย สามารถปรึกษาแพทย์ผิวหนังผ่านทางออนไลน์ได้ที่แอปพลิเคชัน SkinX แอปพลิเคชันปรึกษาแพทย์ผิวหนัง ที่ทำให้คุณสามารถคุยกับแพทย์แบบตัวต่อตัวได้ สะดวก ไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องรอคิว พร้อมบริการส่งยาให้ถึงหน้าบ้าน

ดาวน์โหลดตอนนี้ ปรึกษาแพทย์ครั้งแรกไม่เสียค่าใช้จ่าย! เพราะ SkinX ผิวดี ไม่ต้องรอ!


 

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก


Herbstman, R. A. 6 Tips To Reduce Swelling After Dermal Fillers. Contemporary Plastic Surgery.
https://www.cosmeticsurgerynj.com/6-tips-to-reduce-swelling-after-dermal-fillers/


KohaClinics. (2020, December 28). Why Swelling After Fillers is Totally Normal. Koha Skin Clinics.
https://kohaclinics.com/why-swelling-after-fillers-is-totally-normal/#:~:text=Dermal%20
fillers%20cause%20swelling%20and,vary%20from%20person%20to%20person.


 

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น ใช้งานครั้งแรกปรึกษาฟรี
Tips & Tricks
สาระน่ารู้และข่าวประชาสัมพันธ์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ สามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า