5 มกราคม 2566
ฟิลเลอร์แก้มส้มคืออะไร? ควรฉีดบริเวณไหน แก้ปัญหาอะไรบ้าง ฉีดแก้มส้มแล้วหน้าเด็กลงจริงไหม?
การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเป็นการฉีด ฟิลเลอร์ บริเวณกึ่งกลางใบหน้า (Midface Filler) เพื่อเติมเต็มใบหน้าให้ดูมีมิติขึ้น ใบหน้าดูเต็ม ดูอวบอิ่ม และช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ไขมันบริเวณใบหน้าจะฝ่อและลดลง ทำให้บริเวณแก้มเกิดการหย่อนคล้อย รวมถึงการยุบตัวของโครงกระดูกใบหน้าที่ทำให้แก้มดูตอบ ดูแบน ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่สดใส ดูไม่มีมิติ หลายๆ คนจึงฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้
ในบทความฟิลเลอร์แก้มส้ม SkinX จะพามาเจาะลึกกับการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มว่า แก้มส้มคืออะไร? ทำไมเราถึงต้องฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ฉีดแก้มส้มแล้วช่วยอะไร ใครบ้างที่ควรฉีดแก้มส้ม?
ทำความรู้จักกับ SkinX แอปพลิเคชันพบแพทย์ออนไลน์ ที่ได้รวบรวมเหล่าทีมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำมากมาย มาให้คำปรึกษาเกี่ยวกับผิวหนังและใบหน้าโดยเฉพาะ รวมถึงการทำหัตถการความงามต่างๆ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ การฉีดโบท็อกซ์ เป็นต้น
พิเศษสำหรับผู้ใช้บริการครั้งแรก สามารถปรึกษาแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โหลดแอปพลิเคชันติดโทรศัพท์ไว้เลย เพื่อพบกับโปรสกินแคร์ ดีลความงามจากคลินิกดังมากมาย
สารบัญ
- แก้มส้มคืออะไร?
- ทำไมถึงต้องฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
- ฟิลเลอร์แก้มส้มช่วยในเรื่องอะไรบ้าง
- ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มคือการฉีดที่บริเวณใดบ้าง
- ใครบ้างที่ควรฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
- การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มต้องฉีดกี่ CC
- ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มควรใช้ยี่ห้อไหน
- ฟิลเลอร์แก้มส้ม อยู่ได้นานแค่ไหน
- ผลข้างเคียงที่อาจพบได้จากการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
- ข้อควรปฏิบัติก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
- สรุป
แก้มส้มคืออะไร?
แก้มลูกส้มเป็นยังไง? แก้มส้มคืออะไร? แก้มส้มคือบริเวณหน้าแก้ม เป็นชื่อเรียกของแก้มที่มีลักษณะคล้ายผลส้ม โดยบริเวณแก้มส้มจะอยู่ระหว่างใต้ตากับแก้ม และโหนกแก้มกับจมูก ซึ่งบริเวณหน้าแก้มนี้จะมีความโค้งนูนขึ้นมาคล้ายผลส้ม เมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นเป็นตัว S ด้านข้างใบหน้า เรียกว่า O-gee curve การมีแก้มส้มจะช่วยให้โหนกแก้มโค้งมน ดูมีมิติ หน้าดูไม่หย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ และดูเด็กลง
ทำไมถึงต้องฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง รวมถึงยังช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ บนใบหน้าที่เกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้นได้ หากคนไข้มีปัญหาบริเวณใบหน้า เช่น เกิดร่องลึกใต้ตา ร่องแก้มลึก โหนกแก้มแบน ผิวหย่อนคล้อย หน้าดูแก่กว่าวัย ใบหน้าดูโทรม และไม่สดใส การเติมฟิลเลอร์แก้มส้มจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่จะช่วยให้ใบหน้าของเราดูสดใสขึ้น ดูอวบอิ่ม ดูอ่อนกว่าวัย และดูมีมิติมากขึ้น
นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวอีกด้วย เพราะการฉีดฟิลเลอร์ด้วยสารเติมเต็มไฮยาลูรอนเข้าสู่ผิว ผิวจะยังคงมีความชุ่มชื้นและมีความยืดหยุ่น รวมถึงยังช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคตอีกด้วย
ฟิลเลอร์แก้มส้มช่วยในเรื่องอะไรบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะช่วยแก้ปัญหาแก้มตอบ แก้มยุบ แก้มแบน แก้มหย่อน ปัญหาร่องลึกใต้ตา ร่องมุมปาก ร่องน้ำตา ร่องแก้มลึก เมื่อฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มแล้วจะช่วยทำให้ใบหน้าของเราดูมีมิติ เต็มอิ่มมากขึ้น เพราะการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะเข้าไปทดแทนกระดูกและชั้นไขมันที่หายไปจากอายุที่เพิ่มขึ้น นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาใบหน้าแล้ว การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มยังช่วยพยุงหน้า ป้องกันไม่ให้ใบหน้าหย่อนคล้อยด้วย
หลังจากฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม บริเวณแก้มหรือโหนกแก้มจะดูคล้ายผลส้ม ใบหน้าดูอิ่มเอิบและดูเด็กลง เมื่อหันข้างใบหน้าจะดูโค้งเป็นตัว S ดูได้สัดส่วน การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจึงช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง รวมถึงฟิลเลอร์แก้มส้มยังช่วยเพิ่มโหงวเฮ้งตามความเชื่อของจีนอีกด้วย
การเติมฟิลเลอร์แก้มส้มจะใช้แก้ปัญหาบริเวณใบหน้าแตกต่างกันไป โดยแพทย์จะช่วยวิเคราะห์ปัญหาใบหน้าเป็นรายบุคคลก่อนการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม เพื่อให้ได้แก้มส้มที่เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน ช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุด และช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง
นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณต่างๆ ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาบนใบหน้าได้ สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ได้ที่ : ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร? เห็นผลจริงไหม ฉีดแล้วช่วยอะไร ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผ่านอย.มีอะไรบ้าง?
ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มคือการฉีดที่บริเวณใดบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเป็นการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปตรงบริเวณกึ่งกลางของใบหน้าหรือพวงแก้ม (Midface Filler) เพื่อช่วยแก้ปัญหาการยุบตัวของกระดูก กล้ามเนื้อ ไขมัน ที่เป็นสาเหตุให้ผิวหย่อนคล้อย เกิดร่องริ้วรอยจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น หน้าแก้มแบน เกิดร่องใต้ตาลึก และร่องน้ำหมาก เป็นต้น
โดยการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะใช้ฉีดบริเวณใบหน้า ดังนี้
- บริเวณโหนกแก้ม
- ร่องแก้ม
- พวงแก้ม
- ร่องใต้ตา
- ร่องมุมปาก
ทั้งนี้ก่อนการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มควรให้แพทย์ประเมินปัญหาใบหน้าก่อนว่า ควรฉีดบริเวณไหนเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่น้อบหรือมากจนเกินไป และไม่จำเป็นต้องฉีดครบทุกจุด
“ทำความรู้จักกับ Midface Filler Midface คือ ตำแหน่งบริเวณกึ่งกลางใบหน้า อยู่ระหว่างคิ้วกับปลายจมูก ซึ่งเป็นตำแหน่งบริเวณแก้มส้ม การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจึงเป็นการฉีด Midface filler นั่นเอง”
ใครบ้างที่ควรฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
หัตถการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มสามารถทำได้ในทุกเพศ เพราะการฉีดแก้มฟิลเลอร์แก้มส้มนั้นเป็นการฉีดเพื่อทำให้หน้าดูเด็กลง และช่วยเติมเต็มใบหน้าให้ดูมีมิติขึ้น รวมถึงช่วยแก้ปัญหาบริเวณใบหน้าต่างๆ โดยคนที่ควรฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มมีดังนี้
- คนที่มีโหนกแก้มแบน โหนกแก้มสูง โหนกแก้มเยอะ
- คนที่มีปัญหาแก้มตอบ แก้มยุบ แก้มหย่อน ร่องแก้มลึก
- ผู้ที่มีปัญหาร่องลึกใต้ตา ร่องน้ำตา
- คนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย
- ผู้ที่อยากปรับรูปหน้าให้ใบหน้ามีมิติมากขึ้น
- คนที่มีปัญหาหน้าดูโทรม ไม่สดใส ดูแก่กว่าวัย
- ผู้ที่อยากเติมเต็มใบหน้าให้ดูอิ่มเอิบมากขึ้น
- คนที่อยากเสริมโหงวเฮ้งให้ดีขึ้น
การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มต้องฉีดกี่ CC
โดยทั่วไปแล้วการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะใช้ข้างละ 1 CC ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาบริเวณใบหน้าและความต้องการของแต่ละคน หากใบหน้ามีปัญหามาก ต้องแก้ไขร่วมกันหลายจุด อาจฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มร่วมกับฟิลเลอร์บริเวณอื่นๆ เช่น ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อเติมเต็มร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น ดูเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ ได้แก้มส้มที่สวยใบหน้าได้สัดส่วนมากขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มควรใช้ยี่ห้อไหน
ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มยี่ห้อไหนดี? สำหรับยี่ห้อฟิลเลอร์แก้มส้มควรเลือกฟิลเลอร์ที่เป็นสารเติมเต็มไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) และควรเป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็งถึงแข็งปานกลาง เพราะจะสามารถขึ้นทรงได้ดี ช่วยยกกระชับผิว ไม่เคลื่อนที่ได้ง่าย โดยยี่ห้อฟิลเลอร์แก้มส้มที่ SkinX แนะนำมีดังนี้
- ฟิลเลอร์ Restylane Lyft
ฟิลเลอร์ Restylane Lyft จากประเทศสวีเดน เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อเจลแข็ง มีความคงตัวสูง คงรูปได้ดี ยกกระชับสูงหลังฉีดไม่ฟู ฉีดแล้วดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน อีกทั้งยังมีส่วนผสมของยาชาช่วยบรรเทาความเจ็บอีกด้วย ฟิลเลอร์รุ่นนี้สามารถอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
- ฟิลเลอร์ Restylane Defyne
ฟิลเลอร์ Restylane Defyne จากประเทศสวีเดน เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็งปานกลาง เนื้อเจลมีความนิ่ม อุ้มน้ำได้มาก มีความยืดหยุ่นสูง เนื้อฟิลเลอร์สามารถกลืนไปกับชั้นผิวได้ดี ฟิลเลอร์รุ่นนี้สามารถอยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
- ฟิลเลอร์ Restylane Volyme
ฟิลเลอร์ Restylane Volyme จากประเทศสวีเดน เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อนิ่ม เน้นการเติมเต็มชั้นผิวให้อิ่มฟู เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาแก้มส้มแบน ต้องการเติมเต็มให้แก้มส้มดูอวบอิ่มขึ้น ฟิลเลอร์รุ่นนี้สามารถอยู่ได้ประมาณ 18 เดือน
สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับยี่ห้อฟิลเลอร์ Restylane ได้ที่ : 7 รุ่นฟิลเลอร์ Restylane แบรนด์ฟิลเลอร์จากสวีเดน รุ่นไหนฉีดตรงไหนได้บ้าง
ฟิลเลอร์แก้มส้ม อยู่ได้นานแค่ไหน
ฟิลเลอร์แก้มส้มอยู่ได้นานแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ที่ฉีด การดูแลตนเองหลังฉีด รวมถึงความสามารถในการย่อยสลายฟิลเลอร์ของแต่ละคน โดยฟิลเลอร์แก้มส้ม ยี่ห้อ Restylane จะอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
ผลข้างเคียงที่อาจพบได้จากการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
ผลข้างเคียงที่อาจพบได้จากการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มคือรอยแดง หรือบวมจากรอยเข็ม แต่อาการเหล่านี้จะหายไปเองประมาณ 7-14 วัน หลังจากฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มบริเวณร่องแก้มยังอาจพบภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้คือ การฉีดฟิลเลอร์ตาบอด เนื่องจากฉีดเข้าเส้นเลือดทำให้เส้นเลือดเกิดการอุดตัน เพราะบริเวณร่องแก้มมีเส้นเลือดแดงอยู่ในชั้นไขมัน หากฉีดเข้าเส้นเลือดแดงนี้โดยตรงอาจทำให้ตาบอดได้
ข้อควรปฏิบัติก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
การปฏิบัติตัวก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มที่ถูกวิธีนั้น จะช่วยไม่ให้เกิดผลข้างเคียง หรือภาวะแทรกซ้อนตามมา ฟิลเลอร์แก้มส้มเข้าที่ได้เร็วขึ้น ช่วยลดการบวมจากรอยเข็ม ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ อีกทั้งยังช่วยรักษาอายุของฟิลเลอร์แก้มส้มไม่ให้สลายเร็วอีกด้วย
การปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
ข้อควรปฏิบัติตัว 1 อาทิตย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
- งดยาแอสไพริน NSAIDs เช่น Ibuprofen, Diclofenac, Ponstan
- งดวิตามิน St. Johns Wort, Ginkgo biloba, Primrose oil, Garlic, Ginseng, และ Vitamin E เพราะสามารถกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้เลือดแข็งตัวช้าในระหว่างฉีดฟิลเลอร์ อาจเสี่ยงต่ออาการช้ำหลังฉีด
- งดสกินแคร์ชนิดผลัดเซลล์ผิว เช่น Retinoids, Retinol, Glycolic Acid ประมาณ 3 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์บริเวณแก้มส้ม
- งดการผลัดเซลล์ผิว การโกนขน ในบริเวณก่อนการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
- หากมีโรคประจำตัว หรือยาที่รับประทานอื่นๆ ควรเตรียมข้อมูลเพื่อแจ้งกับแพทย์ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
- หากมีคอร์สหัตถการเกี่ยวกับใบหน้า เช่น นวดหน้า เลเซอร์ต่างๆ ควรทำมาก่อนการฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 3 วัน
ข้อควรปฏิบัติตัว 24 ชั่วโมง ก่อนการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
- ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง ก่อนทำหัตถการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
- ควรงดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น ออกกำลังกายอย่างหนัก การเข้าห้องซาวน่า เป็นต้น
การปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
การปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มที่ถูกวิธี จะช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดยังคงที่ ฟิลเลอร์ไม่เสียรูปทรง อีกทั้งยังช่วยลดอาการปวด บวม แดงหลังฉีดฟิลเลอร์อีกด้วย ทั้งนี้เมื่อฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเสร็จแล้วอาจปรึกษากับแพทย์ได้ว่ามีข้อควรปฏิบัติอะไรเพิ่มเติม เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดออกมาดีที่สุดและไม่เกิดอาการแทรกซ้อน โดยข้อควรรู้การปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม มีดังนี้
- อาจมีอาการบวม แดง เขียวช้ำบริเวณหน้าแก้ม หรือบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ควรหลีกเลี่ยงการเกา แกะ นวด คลึง เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เสียรูปทรงได้
- ควรประคบเย็นตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น ไม่ควรกดแรง
- ควรรับประทานยาฆ่าเชื้อทันทีหลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จ
- หลังจากฉีดฟิลเลอร์ 24 ชั่วโมงอาจมีอาการปวด สามารถรับประทานยาแก้ปวดพาราเซตามอลได้
- ไม่ควรนอนตะแคงใน 2-3 คืนแรกหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม เพื่อป้องกันการกดทับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- ควรนอนในห้องที่มีอุณหภูมิประมาณ 18-23 องศาเซลเซียส
- งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2-3 วันหลังจากฉีดฟิลเลอร์
- ควรเลือกรับประทานอาหาร ไม่ควรกินของรสจัดมากจนเกินไป รวมถึงอาหารดิบ เพราะอาจเกิดการติดเชื้อได้
อ่านบทความหลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรได้ที่ : ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง
สรุป
การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะช่วยปรับใบหน้าให้ดูมีมิติมากขึ้น ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มยังช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ บนใบหน้าได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาร่องลึกต่างๆ เช่น ร่องแก้มลึก ร่องน้ำหมาก การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะช่วยเติมเต็มร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น อีกทั้งยังช่วยยกกระชับใบหน้าให้ดูเต่งตึงขึ้น อวบอิ่มขึ้น ใบหน้าดูเด็กลง
ก่อนการเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มควรเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์เพื่อประเมินปัญหาบนใบหน้าก่อน เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดแก้มส้มยังดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน
สำหรับผู้ที่ไม่มั่นใจว่าตนเองควรฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มไหม ใบหน้าเป็นอย่างไร ควรแก้ไขตรงไหน สามารถปรึกษาปัญหาผิวกับแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางจาก SkinX ได้โดยตรง
พิเศษสำหรับผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน SkinX ครั้งแรก สามารถคอลปรึกษากับแพทย์ผิวหนังโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SkinX ติดมือถือไว้เลย เพื่อพบกับโปรสกินแคร์ และดีลความงามจากคลินิกดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดีลโบหน้าเรียว ดีลเคลียร์สิว หน้าใส เพราะผิวดีไม่ต้องรอ!
