SkinX

GET-On the App Store

SkinX Team

28 มกราคม 2566

ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง? รวมอาหาร 8 ชนิด ที่ไม่ควรกินก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง

ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง? หนึ่งในข้อปฏิบัติหลายข้อเพื่อลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงหลังการฉีดฟิลเลอร์ คือการห้ามทานอาหารบางประเภท หลายคนอาจสงสัยว่าอาหารการกินมีผลกับการฉีดฟิลเลอร์ได้ด้วยหรือ? มีผลอย่างไร? แล้วของที่ห้ามกิน มีอะไรบ้าง?

ในบทความนี้ SkinX จะมาแจกลิสต์ประเภทอาหาร ว่าก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง และเพราะอะไรจึงห้ามทาน พร้อมทั้งให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารที่ควรทานหลังการฉีดฟิลเลอร์ด้วย

SkinX แอปพลิเคชันปรึกษาแพทย์ผิวหนัง ที่จะทำให้คุณได้พูดคุย ปรึกษาสุขภาพผิวและความสวยความงามกับแพทย์ผิวหนังแบบตัวต่อตัวผ่านระบบออนไลน์ สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องรอคิว เพราะ SkinX ผิวดี ไม่ต้องรอ! ดาวน์โหลดตอนนี้ ปรึกษาแพทย์ครั้งแรกได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย!

หัวข้อที่น่าสนใจ

ทำไมฉีดฟิลเลอร์ถึงมีข้อจำกัดเรื่องการกิน? กินอาหารตามปกติไม่ได้หรือ?

ก่อนอื่น เราควรจะทราบกระบวนการการทำงานของฟิลเลอร์ก่อน

การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) คือการฉีดสารเติมเต็มชนิดกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) เข้าสู่ผิวหนัง ซึ่งฟิลเลอร์ จะทำหน้าที่เติมเต็มเนื้อเยื่อ และกระดูกที่หายไปตามอายุ ทำให้ผิวเต่งตึง ยกกระชับผิว ส่งผลให้อายุดูอ่อนเยาว์กว่าวัย นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ยังสามารถเติมผิวเพื่อปรับรูปหน้าให้สมส่วนและสวยงามมากขึ้นได้ด้วย

กระบวนการฉีดฟิลเลอร์จะต้องใช้เข็มเพื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าสู่ใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดแผลเปิดขนาดเล็กบนผิว อาจทำให้เกิดการบวม แดง และอักเสบขึ้นได้ตามกลไกของร่างกาย

สารเติมเต็มที่ฉีดเข้าไป จะไปดันเนื้อเยื่อผิวหนังในชั้นต่างๆ ให้ยกขึ้น หรือถูกกดลง ทำให้เนื้อเยื่อผิวหนังบางส่วนเสียหาย ร่างกายจึงตอบสนองด้วยการบวม แดง อักเสบ เพื่อรักษาเนื้อเยื่อที่เสียหายให้เป็นปกติ 

หรือบางครั้ง เข็มจากการฉีดฟิลเลอร์อาจจะไปสะกิดโดนเส้นเลือดดำ ที่อยู่ใต้ผิวหนังเป็นจำนวนมากและหลีกเลี่ยงได้ยาก ทำให้เลือดออกใต้ผิวหนัง เกิดอาการช้ำ เป็นรอยสีม่วงเขียว คล้ายกับเวลาที่ผิวของเรากระทบของแข็ง

อาการเหล่านี้เป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยในการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่ไม่อันตราย แต่ก็จะมีผลต่อความสวยงาม ดังนั้นยิ่งหายเร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเป็นผลดีมากเท่านั้น

การที่แพทย์ต้องแจ้งว่าฉีดฟิลเลอร์ห้ามทานอะไร เป็นเพราะอาหารบางอย่างสามารถทำให้อาการบวม แดง ช้ำ หรืออักเสบหายช้ากว่าที่ควร ทั้งยังกระตุ้นให้เกิดอาการข้างเคียงเหล่านี้ได้มากขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้ อาหารบางอย่างอาจเพิ่มความเสี่ยงทำให้เกิดการติดเชื้อในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งนับว่าเป็นผลข้างเคียงที่อันตรายอย่างมาก และอาจส่งผลต่อเนื่อเยื่อข้างเคียงด้วย

ในขณะเดียวกัน นอกจากอาหารจะส่งผลกับผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์แล้ว อาหารยังส่งผลกับฟิลเลอร์โดยตรงได้อีกด้วย ฟิลเลอร์ที่อยู่ใต้ผิวหนังต้องการการดูแลอย่างดีในช่วงแรก เพื่อให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัว ไม่ไหลไปที่เนื้อเยื่อผิวหนังในบริเวณอื่น แต่อาหารบางอย่างอาจมีผลต่อการเซ็ตตัวของฟิลเลอร์ ทำให้ฟิลเลอร์ไม่เข้าที่ อีกทั้งยังอาจทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวได้เร็วขึ้นจนผลการรักษาอยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควร

ดังนั้น ผู้เข้ารับการรักษาจึงจำเป็นต้องรู้ว่าก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง เพื่อให้ผลการรักษาเป็นไปตามเป้าหมาย ลดผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ และรักษาผลของฟิลเลอร์ให้อยู่กับเราให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นได้

ผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์จะมีข้อจำกัดด้านการกินตลอดไปเลยหรือไม่?

หลังฉีดfillerปากห้ามกินอะไร

อาหารในลิสต์ “ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง” จะถูกห้ามกินไปตลอดหรือไม่? คำตอบคือไม่ตลอดไป 

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเหล่านี้ส่งผลต่อแผลจากการฉีดฟิลเลอร์ อาจจะไปกระตุ้นผลข้างเคียงบางอย่าง ทำให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวช้า หรือสลายเร็ว แพทย์จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารในลิสต์เหล่านี้เป็นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อรอให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัว เกาะผิว และเข้าที่ก่อนนั่นเอง

อาหารชนิดไหนบ้างที่คนฉีดฟิลเลอร์แล้วควรหลีกเลี่ยง?

ลิสต์อาหารฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง! รวมอาหาร 8 ชนิดที่ผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ควรหลีกเลี่ยง มีดังนี้

อาหารเสริมบางชนิด

อาหารเสริมทั้งที่เป็นวิตามินและสมุนไพรบางชนิด มีสรรพคุณทำให้เลือดจางลง มีผลคล้ายยาละลายลิ่มเลือด ทำให้เลือดออกง่าย หยุดยาก เมื่อฉีดฟิลเลอร์จะมีโอกาสบวมและช้ำได้มากกว่าปกติ แพทย์จึงแนะนำให้หยุดอาหารเสริมเหล่านี้ทั้งก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์เป็นเวลา 1 สัปดาห์

อาหารเสริมในกลุ่มที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ได้แก่ วิตามินอี (Vitamin E), น้ำมันปลา (Fish Oil), โอเมก้า 3 (Omega-3), อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของแปะก๊วย (Ginkgo Biloba), สมุนไพรเซนต์จอห์นเวิร์ต (St.John’s wort), กระเทียม (Garlic), และโสม (Ginseng)

นอกจากอาหารเสริมในกลุ่มนี้แล้ว ยาที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด เช่น warfarin และยาต้านการอักเสบกลุ่มที่ไม่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ (Non steroidal anti-inflammatory drugs หรือ NSAIDs) อย่างยาแอสไพริน ก็ควรหยุดใช้ก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์เป็นเวลา 1 สัปดาห์เช่นกัน

อาหารอุณหภูมิสูง หรืออาหารที่ต้องทานในสถานที่อุณหภูมิสูง

หลังฉีดfillerห้ามกินอะไร

อาหารอุณหภูมิสูงเป็นอาหารอีกอย่างที่อยู่ในลิสต์ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง เพราะมีผลต่อผลการรักษาในระยะยาว

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ที่สำคัญอีกข้อหนึ่ง คือห้ามถูกแสงแดด และหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่อุณหภูมิสูง เช่นห้องซาวน่าหรือบ่อน้ำร้อน ในช่วง 2 สัปดาห์แรก เนื่องจากอุณหภูมิสูง มีผลต่อการเซ็ตตัวของฟิลเลอร์ และยังทำให้ฟิลเลอร์ไหลไปยังเนื้อเยื่อบริเวณข้างเคียง ทำให้ผลการรักษาออกมาไม่ดีอีกด้วย

การทานของร้อนก็เช่นกัน หากฉีดฟิลเลอร์บริเวณใบหน้า โดยเฉพาะการฉีดฟิลเลอร์ปาก บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์จะมีโอกาสสัมผัสกับความร้อนมากกว่าปกติ 

นอกจากนี้การทานอาหารร้อน บางครั้งยังต้องทานในสถานที่อุณหภูมิสูง เช่นอยู่หน้าเตาย่าง หรืออยู่หน้าหม้อไฟ ดังนั้นผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์มาแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารร้อนและการทานอาหารหน้าเตาร้อนในช่วงแรก ประมาณ 2 สัปดาห์หลังการฉีดฟิลเลอร์ 

แอลกอฮอล์

ฉีดฟิลเลอร์กินเหล้าได้ไหม? ฉีดฟิลเลอร์งดแอลกอฮอล์กี่วัน? ผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ ควรงดแอลกอฮอล์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 24 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย และควรงดหลังการฉีดฟิลเลอร์เป็นเวลา 3 – 14 วัน

แอลกอฮอล์ในที่นี้ หมายถึงเครื่องดื่ม อาหาร หรือขนมทุกอย่างที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ที่ต้องงดเป็นเพราะแอลกอฮอล์มีผลกับหลอดเลือดโดยตรง โดยแอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมเข้าไปในระบบไหลเวียนโลหิต มีผลทำให้หลอดเลือดและหัวใจทำงานมากขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น ทำให้เลือดไหลเวียนได้มากกว่าปกติ

ซึ่งการที่เลือดหมุนเวียนได้ดีนั้น มีผลเสียกับแผลจากการฉีดฟิลเลอร์ หากบริโภคแอลกอฮอล์ก่อนการรักษา จะทำให้เลือดหยุดไหลได้ยากขึ้น มีโอกาสที่จะช้ำจากการฉีดฟิลเลอร์ได้มากกว่าปกติ อีกทั้งการที่เลือดไหลเวียนได้ดี ยังทำให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์บวมแดงได้มากกว่าเดิม

หากบริโภคแอลกอฮอล์หลังฉีดฟิลเลอร์ จะยิ่งทำให้อาการบวมแดงหายช้า และยังเป็นการกระตุ้นการอักเสบบริเวณที่เป็นแผลอีกด้วย

ดังนั้น ผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ควรงดแอลกอฮอล์ 1 วันหลังฉีด และงดไปจนกว่าแผลจะหายบวม หรือหากไม่สะดวกงดเป็นเวลานาน ก็ควรงดแอลกอฮอล์อย่างน้อยที่สุด 3 วันหลังฉีด

เครื่องดื่มมีคาเฟอีน

หลังฉีดฟิลปากห้ามกินอะไรบ้าง

คาเฟอีนในชาหรือกาแฟเป็นสารอีกตัวหนึ่งที่ควรหลีกเลี่ยงทั้งก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์ หลายคนอาจไม่เคยเห็นข้อห้ามเกี่ยวกับการดื่มชาหรือกาแฟในข้อปฏิบัติก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ นั่นเป็นเพราะคาเฟอีนไม่ได้มีผลกับผลการรักษามากเท่าใดนัก อีกทั้งคนที่บริโภคชาและกาแฟเป็นประจำ ส่วนใหญ่จะไม่สามารถหยุดดื่มกะทันหันได้ เพราะอาจจะทำให้รู้สึกปวดศีรษะ หรือหมดแรงที่จะทำกิจกรรมต่างๆ ไปทั้งวัน

คาเฟอีนอยู่ในลิสต์ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง เพราะคาเฟอีนมีผลทำให้หลอดเลือดขยายตัว และทำให้มีการสูบฉีดเลือดดีขึ้น ดังนั้นการดื่มกาแฟหรือชาก่อนการฉีดฟิลเลอร์จะทำให้แผลเสี่ยงบวมได้มาก ซึ่งจะทำให้แผลหายช้าลงอีกด้วย 

คาเฟอีนยังมีผลทำให้ความชุ่มชื้นของผิวลดลง ซึ่งขัดกับผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ที่จะทำให้ผิวชุ่มชื้น หากดื่มชาหรือกาแฟมากๆ ก็อาจจะทำให้ผลการรักษาออกมาไม่ดีเท่าที่ควร

นอกจากนี้ผู้ที่บริโภคชาและกาแฟยังนิยมดื่มแบบใส่นมลงไปด้วย ซึ่งนมมีผลอย่างมากในการกระตุ้นให้เกิดการอักเสบเพิ่มขึ้น ดังนั้นหากสามารถหลีกเลี่ยงได้ก็ไม่ควรดื่มกาแฟก่อนการฉีดฟิลเลอร์ 24 ชั่วโมง และควรงดหลังฉีดฟิลเลอร์เป็นเวลาประมาณ 2 – 3 วัน หรือถ้างดไม่ไหว ก็ให้ลดปริมาณการดื่มลง และไม่ควรดื่มแบบใส่นม

อาหารโซเดียมสูง

ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง? อาหารอย่างหนึ่งที่ควรหลีกเลี่ยงคืออาหารโซเดียมสูง อย่างอาหารหมักดอง ส้มตำ ชาบูน้ำดำ หรืออาหารอื่นๆ ที่มีรสเค็มจัด 

หลายคนคงเคยได้ยินมาบ้างว่า ทานเค็มแล้วจะหน้าบวมตัวบวม ซึ่งภาวะนี้ในทางการแพทย์จะเรียกว่าภาวะบวมน้ำ (Edema) คือการมีน้ำกักอยู่ในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันมากกว่าปกติ จนทำให้ผิวบวมขึ้นนั่นเอง

ภาวะบวมน้ำสามารถเกิดจากการทานอาหารโซเดียมสูงได้ เนื่องจากโซเดียมเป็นสารควบคุมสมดุลของเหลวในระบบร่างกาย เมื่อมีโซเดียมในร่างกายมากร่างกายก็จะยิ่งกักเก็บน้ำไว้มากเพื่อให้ร่างกายอยู่ในจุดสมดุล ทำให้ผิวบวมขึ้นมา

หากเกิดภาวะบวมน้ำจากโซเดียมร่วมกับอาการบวมจากการฉีดฟิลเลอร์ จะทำให้จุดที่ฉีดนั้นบวมขึ้นมากกว่าปกติ และหายบวมช้าลงได้ ดังนั้นผู้ที่กำลังจะฉีดฟิลเลอร์ควรงดอาหารรสเค็มจัดที่มีโซเดียมสูงประมาณ 2 – 3 วันหลังฉีดฟิลเลอร์ หรือถ้าสามารถทนได้ ให้งด 1 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์จะดีที่สุด

อาหารน้ำตาลสูง

อาหารน้ำตาลสูง เป็นอาหารที่ห้ามกินหลังฉีดฟิลเลอร์เช่นเดียวกัน อาหารน้ำตาลสูงในที่นี้หมายรวมตั้งแต่เครื่องดื่มรสหวาน อาหารหวาน ขนม รวมไปถึงนมวัวด้วย เพราะอาหารน้ำตาลสูงเหล่านี้จะไปกระตุ้นการอักเสบ ทำให้แผลจากการฉีดฟิลเลอร์เสี่ยงอักเสบมากขึ้น ผิวบวมแดงมากกว่าปกติ ทั้งยังทำให้แผลหายช้าลงด้วย

เมื่อเราบริโภคอาหารน้ำตาลสูงเข้าไป ตับของเราจะถูกกระตุ้นให้สร้างกรดไขมันอิสระ (Free fatty acid) ออกมามากกว่าปกติ และเมื่อร่างกายย่อยสลายกรดไขมันอิสระ จะได้สารประกอบตัวหนึ่งออกมา ซึ่งสารประกอบดังกล่าวสามารถไปกระตุ้นกระบวนการอักเสบได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ระยะหนึ่ง

อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ

หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามอะไรบ้าง

อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบก็อยู่ในลิสต์ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้างเช่นกัน อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบในที่นี้ หมายถึงอาหารที่ไม่ผ่านความร้อนจนสุกทั่ว ทำให้อาจจะยังมีเชื้อโรคหรือพยาธิบางอย่างหลงเหลืออยู่ในอาหาร โดยเชื้อโรคและพยาธิในอาหารอาจจะไปกระตุ้นการอักเสบ
 

หรือถ้าแผลฉีดฟิลเลอร์อยู่บริเวณปาก เชื้อโรคจากอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบนี้อาจเข้าสู่แผล และทำให้แผลติดเชื้อได้ ซึ่งถือว่าเป็นผลข้างเคียงที่ค่อนข้างอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์

อาหารทานยาก

อาหารทานยากในที่นี้ หมายถึงอาหารที่อาจจะทำให้เลอะเทอะได้ง่าย เพราะเมื่อเลอะเทอะแล้วจะต้องเช็ดออกบ่อยๆ ซึ่งไม่ดีกับการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใบหน้าในช่วงแรก

นอกจากจะเสี่ยงติดเชื้อจากอาหารที่เลอะไปถูกแผลแล้ว การเช็ดบ่อยๆ ยังอาจทำให้ฟิลเลอร์ที่ยังไม่เซ็ตตัว ไหลเข้าสู่เนื้อเยื่อบริเวณอื่นๆ ทำให้ผลการรักษาเปลี่ยนไป บริเวณที่ฉีดไม่สมมาตร หรือฟิลเลอร์เป็นก้อน ดังนั้นผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ โดยเฉพาะฟิลเลอร์ปากและฟิลเลอร์คาง ควรหลีกเลี่ยงอาหารทานยากเป็นเวลาประมาณ 2 – 3 วันหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อรอให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวก่อน จึงจะสามารถทานได้ตามปกติ

ผลข้างเคียงที่อาจพบได้จากการฉีดฟิลเลอร์

ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ ได้แก่

  • อาการปวด แสบ คัน บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
  • อาการบวม แดง ช้ำ ซึ่งบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์จะบวมแดงมากที่สุดช่วง 2 – 3 วันแรก แต่จะดีขึ้นเรื่อยๆและหายไปใน 2 สัปดาห์
  • ติดเชื้อที่แผลฉีดฟิลเลอร์
  • แพ้ฟิลเลอร์หรือแพ้ยาชาที่อยู่ในฟิลเลอร์ (Lidocaine)
  • ฟิลเลอร์ไหลเข้าสู่เนื้อเยื่อบริเวณข้างเคียง
  • ฟิลเลอร์เป็นก้อน
  • ฟิลเลอร์อุดตันหลอดเลือด หรือทำให้เกิดลิ่มเลือดในอวัยวะต่างๆ

ผลข้างเคียงเหล่านี้ บางส่วนอาจเป็นผลมาจากการทานอาหารในลิสต์ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง โดยเฉพาะอาการบวม แดง ช้ำ และการอักเสบ ซึ่งผลข้างเคียงที่เกิดจากการทานอาหารที่ไม่ควรทานหลังฉีดฟิลเลอร์เหล่านี้ เป็นผลข้างเคียงที่ไม่อันตราย แต่ก็มีผลต่อผลลัพธ์หลังการรักษาได้ ดังนั้น ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงอาหารที่แพทย์แนะนำให้ได้มากที่สุด

ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม? เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอันตรายและผลข้างเคียงจากฟิลเลอร์ : ฉีดฟิลเลอร์อันตรายจริงไหม ควรฉีดฟิลเลอร์ดีหรือเปล่า? คลายข้อสงสัยฟิลเลอร์อันตรายกับ SkinX

อาหารที่ควรทานหลังฉีดฟิลเลอร์

หลังจากทราบว่าฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้างมาแล้ว ก็ควรทราบเช่นกันว่าควรทานอะไรบ้าง

การทานอาหารหลังการฉีดฟิลเลอร์ โดยเฉพาะการฉีดฟิลเลอร์บริเวณปาก ควรทานหลังยาชาหมดฤทธิ์ ประมาณ 3 ชั่วโมงหลังทำ เนื่องจากการทานอาหารขณะที่ยาชายังออกฤทธิ์ อาจเสี่ยงกัดกระพุ้งแก้ม ลิ้น หรือริมฝีปากโดยไม่ตั้งใจ ส่วนอาหารที่ควรทานหลังฉีดฟิลเลอร์ มีดังนี้

ดื่มน้ำมากๆ

ดื่มน้ำหลังฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์กรดไฮยาลูรอนิคที่ฉีดกันตามปกติ จะมีคุณสมบัติจับกับโมเลกุลของน้ำได้เป็นอย่างดี ทำให้กรดไฮยาลูรอนิคมีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดี ดังนั้นเมื่อฉีดเข้าไป ฟิลเลอร์จะช่วยเติมน้ำให้ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นได้

แต่ปริมาณการจับกับโมเลกุลของน้ำในฟิลเลอร์ก็สามารถลดลงได้เช่นกัน ทำให้ฟิลเลอร์ไม่ฟูเท่าเดิม มีแรงยกลดลง ส่งผลให้ผลการรักษาอาจไม่ดีเท่าเดิม ทั้งยังทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวได้เร็วขึ้นด้วย ดังนั้นการดื่มน้ำเพื่อเติมน้ำให้ผิว จะสามารถช่วยได้ในเรื่องนี้

นอกจากนี้ การดื่มน้ำยังทำให้แผลหายเร็วขึ้น อาการบวมช้ำหายเร็วขึ้น ดังนั้นผู้ที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์มา ควรดื่มน้ำให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะช่วง 4 – 5 วันแรก จะช่วยให้ผลการรักษาดีขึ้นได้มาก

สำหรับผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ปาก แพทย์แนะนำให้พยายามดื่มน้ำจากแก้วแทนการใช้หลอดในช่วงแรก แม้ปากจะยังคงบวมและดื่มน้ำยากก็ตาม เพราะการดูดน้ำจากหลอดอาจทำให้เกิดแรงกดที่ริมฝีปากจนมีผลกระทบกับฟิลเลอร์ที่ฉีดไปได้

ทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่

การทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เป็นการปรับสมดุลของร่างกาย ให้กระบวนการต่างๆ เป็นไปตามปกติ รวมถึงกระบวนการรักษาแผลจากการฉีดฟิลเลอร์ และรักษาอาการบวมแดงช้ำ ที่เป็นผลข้างเคียงตามปกติจากการฉีดฟิลเลอร์ด้วย

อาหารที่มีประโยชน์ อย่างผัก ผลไม้ และอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน ยังสามารถช่วยเสริมสร้างให้ผิวหนังแข็งแรง โดยวิตามินในผักและผลไม้ จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างอิลาสติน (Elastin) และคอลลาเจน (Collagen) ในผิวหนัง อีกทั้งโปรตีนยังทำให้แผลจากการฉีดฟิลเลอร์หายเร็วขึ้นด้วย

ผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์มา จึงควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเน้นไปที่ผักผลไม้และโปรตีน รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีแป้งและน้ำตาลสูง

คำถามเพิ่มเติม

ฉีดปากห้ามกินอะไร หลังฉีดfillerปากห้ามกินอะไรบ้าง?

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามทานอาหารเสริมบางชนิด อาหารร้อน แอลกอฮอล์ คาเฟอีน อาหารโซเดียมสูง น้ำตาลสูง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ และอาหารทานยาก เหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์ในจุดอื่นๆ แต่ที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือเรื่องการติดเชื้อจากอาหาร และระวังการทานของร้อน 

เพราะปากเป็นอวัยวะที่ใช้ในการรับประทานอาหาร ปากจะสัมผัสกับอาหารโดยตรง การมีแผลบริเวณปากจึงเสี่ยงติดเชื้อจากอาหารได้ง่ายกว่าจุดอื่นๆ ทั้งยังสัมผัสกับความร้อนจากการทานอาหารโดยตรง จึงมีผลเรื่องการอักเสบติดเชื้อ การเซ็ตตัวที่ผิดปกติ และฟิลเลอร์เสื่อมเร็วจากความร้อนได้มากกว่าจุดอื่นๆบนใบหน้า

นอกจากนี้ยังต้องระวังเรื่องการเช็ดปากจากการทานอาหารที่เลอะเทอะด้วย ระวังอย่าเช็ดแรงในช่วง 2 – 3 วันแรก ให้ซับพอให้หายเปื้อน และล้างปากด้วยน้ำสะอาดหลังทานอาหารทุกครั้งจะดีที่สุด

ฉีดปากกินอาหารทะเลได้ไหม

ฉีดปากกินอาหารทะเลได้ไหม

ฉีดฟิลเลอร์ปาก และฟิลเลอร์ตำแหน่งอื่นๆ สามารถทานอาหารทะเลได้ตามปกติ เพียงแต่อาหารทะเลนั้นต้องผ่านการปรุงสุกแล้ว เพราะอาหารทะเลกึ่งสุกกึ่งดิบก็มีเชื้อโรคที่สามารถกระตุ้นการอักเสบในร่างกายจนแผลจากการฉีดฟิลเลอร์ปากหายช้าได้เช่นเดียวกัน

สรุป

ลิสต์อาหาร “ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง” ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารและอาหารเสริมที่มีผลกับอาการบวมช้ำ การอักเสบ การติดเชื้อ การเซ็ตตัวและการสลายตัวของฟิลเลอร์ รวมทั้งการที่ฟิลเลอร์ไหลไปยังเนื้อเยื่อบริเวณข้างเคียง โดยควรงดอาหารเหล่านี้เป็นเวลา 3 – 14 วัน เพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

ผู้ที่สนใจอยากฉีดฟิลเลอร์ หรือรายละเอียดเกี่ยวกับอาหารและการดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์ สามารถสอบถามแพทย์จาก SkinX ได้ เพียงดาวน์โหลดแอปฯ ก็สามารถเลือกปรึกษาแพทย์ผิวหนังกว่า 210 ท่านได้ทุกที่ ทุกเวลา ปรึกษาครั้งแรกฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก

 

Caporuscio, J. (2019, September 19). Does sugar cause inflammation in the body?. Medical News Today. https://www.medicalnewstoday.com/articles/326386

Dr. Face. (2018, April 1). What not to eat and drink before you have injectables. Dr. Face. https://drface.com.au/not-eat-drink-injectables/

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น ใช้งานครั้งแรกปรึกษาฟรี
Tips & Tricks
สาระน่ารู้และข่าวประชาสัมพันธ์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ สามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า