HIFU คืออะไร อันตรายไหม? หลังยกกระชับผิวอยู่ได้นานไหม
HIFU คือหัตถการยกกระชับผิว ลดเลือนริ้วรอยร่องตื้น และยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนอีกด้วย ปัจจุบันการทำไฮฟู่เป็นสิ่งที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจมากขึ้น เนื่องจากมีคุณสมบัติเด่นหลากหลาย อีกทั้งหลังทำไม่ต้องพักฟื้นให้เสียเวลา ในบทความนี้ SkinX ได้รวบรวมทุกข้อมูลน่ารู้ก่อนตัดสินใจทำ HIFU เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย คุ้มค่ากับราคามากที่สุด
SkinX แอปพลิเคชันพบแพทย์ผิวหนังออนไลน์ ที่ได้รวบรวมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำไว้มากกว่า 210 คน มาให้คำปรึกษาโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวหนัง หัตถการเสริมความงาม รวมถึงปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะ พบแพทย์ออนไลน์ได้ง่าย ๆ ไม่ต้องรอคิว รู้ผลทันที สำหรับลูกค้ารายใหม่ ปรึกษาแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
Key Takeaway
- HIFU เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิว ปรับโครงหน้า และผู้ที่อยากเติมคอลลาเจนเข้าสู่ผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
- ทำ HIFU 1 ครั้ง ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับเครื่องไฮฟู่ที่ใช้ ปัญหาผิว และการดูแลตนเองหลังทำ HIFU ด้วย
- ริ้วรอยหรือไขมันบางส่วนตามร่างกาย สามารถจัดการได้ด้วยเครื่อง HIFU เพราะไฮฟู่สามารถทำบริเวณร่างกายได้ เช่น หน้าท้อง ต้นแขน หรือต้นขา เป็นต้น
ขณะทำ HIFU อาจรู้สึกตึงหรือปวดบริเวณใต้ชั้นผิวเล็กน้อยในระดับที่ทนได้
ทำความรู้จัก HIFU คืออะไร?
ไฮฟู่คืออะไร? HIFU คือหัตถการยกกระชับผิว ใช้เครื่องเฉพาะเพื่อยกกระชับผิวและสัดส่วน โดยย่อมาจากคำว่า High Intensity Focus Ultrasound ซึ่ง HIFU สามารถทำ ได้ทั้งบริเวณใบหน้า, แก้ม, เหนียง, คอ รวมถึงต้นแขน ต้นขา และส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว ส่งผลให้ผิวบริเวณที่ทำ HIFU ยืดหยุ่นมากขึ้น และลดริ้วรอยต่าง ๆ โดยที่หลังทำไม่ต้องพักฟื้น ผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงจะเห็นทันทีหลังทำเสร็จ และจะเห็นผลอย่างชัดเจนหลังทำประมาณ 1 เดือน
ทำ HIFU ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?
สำหรับใครที่อยากรู้ว่า HIFU ช่วยอะไร? คำตอบคือ ตามธรรมชาติแล้วเมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังของเราจะเริ่มหย่อนคล้อยและขาดความกระชับ ทำให้ใบหน้าของเราเริ่มมีร่องลึกตามจุดต่าง ๆ เช่น บริเวณใต้ตา ร่องแก้ม หรือร่องมุมปาก เป็นต้น โดยสาเหตุเกิดจากการยืดออกของคอลลาเจนและอีลาสติน เครื่อง HIFU จึงมีคุณสมบัติในการยกกระชับผิว และสามารถกระตุ้นคอลลาเจนในทุกชั้นผิว และสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ ซึ่งเนื้อเยื่อที่สร้างขึ้นใหม่นี้จะมีความกระชับและแน่นกว่าเดิม
- ลดความหย่อนคล้อยของผิว ใบหน้า และลำคอ
- สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยบนผิวหน้า หน้าผาก และรอบดวงตา
- แก้ปัญหาชั้นไขมันใต้คาง แก้ม และเหนียง
- แก้ปัญหาหนังตาตก ช่วยยกหางคิ้วขึ้น
- ช่วยยกกระชับผิวบริเวณร่างกายส่วนอื่น เช่น ต้นแขน, ท้องแขน, หน้าท้อง, เอว, สะโพก และต้นขา
HIFU มีกระบวนการทำงานอย่างไร
ไฮฟู่ หรือ HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิว มีกระบวนการทำงานโดยการส่งผ่านคลื่นโฟกัสอัลตราซาวนด์ลงไปในผิวชั้นลึก เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ เครื่อง HIFU ที่ดีได้มาตรฐานผ่านการรับรอง จะต้องมีการปล่อยพลังงานความแรงอย่างสม่ำเสมอระหว่างยิงคลื่น ซึ่งในการทำ HIFU สามารถเลือกใช้หัวยิงให้เหมาะกับระดับผิวได้ (อาจมีความลึกระดับอื่นอีกตามแต่ละเครื่องที่ทำออกมาจำหน่าย) ดังนี้
- ผิวชั้นบน (Upper Dermis) ใช้หัวความลึก 1.5-2.0 mm. ช่วยเรื่องการยกกระชับ ลดริ้วรอยในระดับที่ไม่ลึกมาก และช่วยกระตุ้นคอลลาเจน
- ผิวชั้นกลาง (Lower Dermis) ใช้หัวความลึก 3 mm. ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดไขมันและเซลลูไลท์
- ผิวชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS) เป็นชั้นที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้าให้กระชับ ใช้หัวความลึก 4.5 mm. ช่วยกระชับกล้ามเนื้อและยกแก้มให้อิ่มฟูขึ้น
เครื่อง HIFU คืออะไร มีกี่ยี่ห้อ?
เครื่อง HIFU คือ เครื่องมือยกกระชับผิวที่มีการทำงานโดยการปล่อยพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูงลงไปในชั้นผิวหนัง SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง
แม้ว่าเครื่อง HIFU จะมีหน้าตาที่คล้ายกัน แต่จริง ๆ แล้วเครื่อง HIFU แต่ละแบบนั้นมีเทคโนโลยีที่ใช้แตกต่างตามค่าพลังงานกันไป ปกติแล้วเครื่อง HIFU จะมีขนาดจุดโฟกัสประมาณ 0.3-0.5 mm. เมื่อใช้เครื่อง HIFU ยิงเข้าไปใต้ชั้นผิวแต่ละชั้นผิวชั้นนั้น ๆ จะหดตัว ส่งผลให้ผิวยกกระชับขึ้น และไม่ทำให้ชั้นหนังกำพร้าเกิดการไหม้ (Epidermal burn) โดยเครื่อง HIFU ที่นิยมใช้กันคือ เครื่อง Ultraformer III หรือเครื่อง Ultherapy เป็นต้น
นอกจากนี้ เครื่อง HIFU ยังมีหัวยิงที่หลากหลายตามระดับความลึกของชั้นผิว โดยสามารถแบ่งหัวยิงออกเป็น 3 ระดับ (อาจมีความลึกระดับอื่นอีกตามแต่ละเครื่องที่ทำออกมาจำหน่าย) ดังนี้
- หัวยิงความลึก 1.5-2.0 mm. เหมาะสำหรับริ้วรอยที่อยู่บนผิวหนังชั้นบน หรือร่องลึกในระดับที่ไม่ลึกมาก
- หัวยิงความลึก 3.0 mm. เหมาะสำหรับผิวหนังชั้นไขมันหรือผิวชั้นกลาง ช่วยลดไขมัน ลดเซลลูไลท์ และลดความหย่อนคล้อยของผิว ให้ผิวหน้ามีความกระชับมากขึ้น
- หัวยิงความลึก 4.5 mm. เหมาะสำหรับผิวหนังชั้น SMAS สามารถใช้ยกแก้ม ลำคอ และเหนียงได้
สนใจอ่านบทความเกี่ยวกับเครื่อง HIFU เพิ่มเติมต่อได้ที่ : ทำความรู้จักเครื่อง Hifu มีกี่ยี่ห้อ แตกต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
HIFU ทำตรงไหนได้บ้าง?
การทำ HIFU สามารถทำได้เกือบทุกบริเวณที่เราต้องการให้ผิวยกกระชับขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใบหน้า, ต้นแขน หรือขา เป็นต้น โดยมีรายละเอียดดังนี้
Hifu ใต้ตา
ปัญหาริ้วรอยใต้ตาและรอบดวงตาสามารถแก้ไขด้วยการทำ HIFU เพราะสามารถเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ ได้อย่างทั่วถึง ทำให้ผิวใต้ตาตึง มีความกระชับ และเรียบเนียนขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถทำไฮฟู่ร่วมกับหัตถการอื่นได้ เพื่อให้ผลลัพธ์ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ทำ HIFU ใต้ตาร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อให้ริ้วรอยตื้นขึ้น และดูกระชับยิ่งขึ้น
Hifu แก้ม
ใครที่อยากรู้ว่า HIFU แก้มดีไหม ทำไมถึงได้รับความนิยม? การทำ HIFU บริเวณแก้มทั้งสองข้างนั้นเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาไขมันบริเวณแก้มเยอะ ซึ่งการทำไฮฟู่แก้มจะช่วยยกกระชับแก้มและลดไขมันสะสม ส่งผลให้ผิวเกิดการยกกระชับ รวมถึงยังช่วยเก็บกรอบหน้าให้หน้าเรียวมากขึ้น พร้อมทั้งยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ที่แข็งแรงกว่าเดิม
Hifu เหนียง
HIFU เหนียงเหมาะกับใครที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินบริเวณใต้คาง หรือผู้ที่มีคางสองชั้น การทำ HIFU เหนียงจึงช่วยลดการหย่อนคล้อยของผิว ยกกระชับเหนียงและบริเวณลำคอขึ้น ทั้งยังช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิวอีกด้วย
Hifu ส่วนอื่น ๆ ตามลำตัว
การทำ HIFU สามารถทำได้เกือบทุกบริเวณที่เราต้องการให้เกิดกระชับขึ้น รวมถึงส่วนต่าง ๆ บนร่างกาย ซึ่งหากถามว่าการทำ HIFU เจ็บไหม นั้นขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำไฮฟู่ด้วยเช่นกัน โดยการทำ HIFU สามารถทำได้ตามร่างกาย ดังนี้
- ร่างกายส่วนบน เช่น ต้นแขน
- ร่างกายส่วนล่าง เช่น เอว หน้าท้อง สะโพก ต้นขา
ข้อดีของการทำ HIFU
HIFU เป็นหัตถการที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวยกกระชับ โดยข้อดีของการทำ HIFU มีดังนี้
- ช่วยยกกระชับใบหน้า รวมถึงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยตื้น ๆ และช่วยสลายไขมันในบางส่วน
- หากต้องการทำ HIFU บริเวณริ้วรอยใต้ตา สามารถเน้นบริเวณรอบดวงตาและใต้ตาได้ เพราะไม่เป็นอันตรายต่อสายตา
- การทำ HIFU มีความปลอดภัย ไม่ทำร้ายผิวหนังชั้นนอก
- การทำ HIFU สามารถช่วยปรับรูปหน้าให้หน้าเรียวขึ้นได้ หากทำไฮฟู่บริเวณกรอบหน้า, เหนียง, คอ หรือบริเวณทั่วใบหน้า
- ไม่ต้องพักฟื้นนาน เพราะไม่มีแผลผ่าตัด
- ไม่มีรอยเข็มหรือรอยช้ำหลังทำไฮฟู่
HIFU เหมาะกับใคร?
HIFU สามารถทำได้ทุกเพศ ทำได้บ่อยครั้ง และยังสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ด้วย
- ผู้ที่มีปัญหาผิวขาดความกระชับ มีความหย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ หรือร่องใต้ตา ร่องแก้มไม่ลึกมาก
- ผู้ที่ต้องการให้กรอบหน้าชัด ลดแก้ม ลดเหนียง
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวแบบไม่ต้องการแผล ไม่ฉีด ไม่ต้องผ่าตัด
- ผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น
ทำ Hifu ตอนอายุเท่าไหร่ดี?
โดยส่วนมากแล้วเครื่อง HIFU จะเหมาะกับผู้ที่มีอายุ 30-40 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาริ้วรอยและร่องลึกตามวัย แต่ด้วยปัจจุบันผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป ก็สามารถเข้ารับการทำไฮฟู่ได้เช่นกัน สำหรับใครที่ไม่ได้มีปัญหาริ้วรอยหรือไขมันบนใบหน้ามาก ก็สามารถเข้ารับการทำ HIFU ยกกระชับได้ทั้งบริเวณใบหน้าและตามร่างกายให้มีความเรียวสวย และมีมิติขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
สำหรับความถี่ในการทำไฮฟู่นั้นขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละคน ใครที่สงสัยว่า HIFU ทำได้บ่อยแค่ไหนสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : hifu ทำได้บ่อยแค่ไหน
HIFU กี่ไลน์เห็นผล
การทำ HIFU กี่ไลน์ถึงจะเห็นผลนั้นขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งที่ทำ HIFU, ความหย่อนคล้อยของผิว, ปริมาณไขมัน หรือสภาพผิวที่เป็นอยู่ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อการรักษาทั้งหมด ดังนั้นก่อนทำ HIFU ควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมินปัญหาก่อน เพื่อรับคำแนะนำว่าตำแหน่งไหนควรใช้กี่ไลน์ หรือควรแก้ไขตรงไหนเป็นพิเศษ สำหรับการประเมินจำนวนไลน์ คร่าว ๆ แต่ละบริเวณจะใช้จำนวนไลน์ขั้นต่ำ ดังนี้
- ใต้ตารวมร่องแก้ม ใช้ประมาณ 300 ไลน์
- แก้มรวมเหนียง ใช้ประมาณ 300 ไลน์
- เหนียง ใช้ประมาณ 100 ไลน์
- ทั่วหน้า หรือต้นแขน ใช้ประมาณ 500-700 ไลน์
- ทั่วหน้ารวมลำคอ ใช้ประมาณ 1,000 ไลน์
- ต้นขา ใช้ประมาณ 1,000 ไลน์
หากเลือกใช้จำนวนไลน์ที่ไม่พอดีกับปัญหาที่ต้องการแก้ไข อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ ดังนั้นหากต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ดี ควรให้แพทย์ที่มีประสบการณ์ประเมินใบหน้าและคำนวณจำนวนไลน์ที่ใช้ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล รวมถึงช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
“หน่วยของ HIFU สามารถนับได้ทั้ง ไลน์ (Line) และ ช็อต (Shot) ซึ่งเรียกตามหัวยิงของเครื่อง HIFU เช่น หัวยิงแบบ Single Shot และหัวยิงแบบ Line Cartridge โดยหัวยิงทั้งสองจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของผลลัพธ์”
หลังทำ HIFU กี่วันถึงจะเห็นผล
หลังทำ HIFU สามารถเห็นผลความกระชับได้เล็กน้อย และจะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ในระยะเวลา 1-2 เดือน ซึ่งหลังทำไฮฟู่เสร็จจะไม่มีแผล ไม่มีรอยเข็ม และไม่ต้องพักฟื้น ผู้เข้ารับบริการสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเลย
การทำ HIFU อยู่ได้นานไหม
HIFU อยู่ได้นานไหม? โดยทั่วไปการทำ HIFU 1 ครั้ง จะสามารถอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเครื่อง HIFU ที่ใช้ การใช้ค่าพลังงาน และการดูแลตนเองหลังทำ HIFU ด้วย สำหรับผู้ที่ต้องการให้ผลลัพธ์ชัดเจนยิ่งขึ้น สามารถกลับมาทำซ้ำได้ทุก 3 เดือน
ทำ HIFU เจ็บไหม
การทำ HIFU เจ็บไหม? ไฮฟู่เป็นหัตถการที่ทำแล้วค่อนข้างเจ็บในระดับหนึ่ง เนื่องจากขณะทำมีการยิงคลื่นเสียงเข้าถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS) เพื่อยกกระชับ อาจส่งผลให้มีความรู้สึกปวดบริเวณใต้ชั้นผิว แต่ถ้าหากผู้เข้ารับบริการไม่ต้องการให้เจ็บมาก สามารถบอกแพทย์ให้ลดระดับพลังงานลง ทั้งนี้ ระดับความเจ็บของการทำ HIFU ยังขึ้นอยู่กับเครื่องที่ใช้ทำ HIFU อีกด้วย เพราะถ้าทำแล้วไม่รู้สึกเจ็บเลยอาจมาจากการที่หมอใช้พลังงานต่ำมากเกินไป หรือใช้เครื่องทำ HIFU ที่ไม่ได้มาตรฐาน
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : HIFU เจ็บไหม เลือกทำ HIFU อย่างไรให้ปลอดภัย เห็นผลชัดเจน มีผลข้างเคียงน้อย
การเตรียมตัวก่อนทำ HIFU
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่
- งดรับประทานยาแอสไพริน NSAIDs เช่น Ibuprofen, Diclofenac, Mefenamic acid (Ponstan™) รวมถึงงดวิตามิน St. Johns Wort, Ginkgo biloba, Primrose oil, Garlic, Ginseng และ Vitamin E เพราะสามารถกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด หากรับประทานยาอยู่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับทำหัตถการ
- พักผ่อนให้เพียงพอ เตรียมร่างกายให้พร้อม
- รับประทานที่มีประโยชน์ เพราะสารอาหารจะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใหม่ ๆ
งดตากแดดจัด อาบแดด หรือซาวน่าก่อนทำ HIFU ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อลดโอกาสบวมแดง
“สำหรับผู้ที่เคยทำหัตถการฉีด Botox, Filler, Laser หรือหัตถการต่าง ๆ ควรแจ้งและปรึกษาแพทย์ก่อนล่วงหน้า เพราะ HIFU อาจมีผลต่อการรักษาและอาจต้องเว้นระยะก่อนถึงจะทำ HIFU”
ขั้นตอนการทำ HIFU
ทำ HIFU แต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 30-50 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการรักษา หลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้น สำหรับขั้นตอนการทำ HIFU มีดังนี้
- ทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะทำแล้วเช็ดให้แห้ง
- ก่อนทำ HIFU จะทำการทายาชาทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อบรรเทาความเจ็บให้ลดน้อยลง
- ทาเจล Ultrasound เพื่อให้พลังงานถูกส่งไปใต้ชั้นผิว
- หลังจากนั้นจึงทำการยิงคลื่นเสียงเข้าถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS) เพื่อยกกระชับผิว โดยผู้เข้ารับบริการจะรู้สึกอุ่น ๆ ใต้ผิวบริเวณที่ทำ
ข้อปฏิบัติตัวหลังทำ HIFU
หลายคนอาจจะสงสัยว่าหลังทำ HIFU ห้ามทำอะไรบ้าง? ซึ่งการปฏิบัติตัวหลังทำ HIFU ที่ดีจะช่วยให้ผลลัพธ์หลังทำออกมาตรงตามคาดหวัง โดยมีข้อปฏิบัติหลังทำ HIFU ดังนี้
- หลังทำ HIFU หากมีอาการตึงผิวหรือเมื่อยล้า สามารถรับประทานยาแก้ปวดพาราเซตามอลได้
- ไม่ควรจับ นวดหรือถูใบหน้าแรง ๆ
- สามารถบำรุงผิวหน้า ทาครีมได้ตามปกติ และควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 เป็นอย่างน้อย เพื่อป้องกันแสงแดด
- ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพราะสามารถทำลายการสร้างคอลลาเจนที่ใต้ชั้นผิวหนังได้
- หลีกเลี่ยงการออกแดดจัด ๆ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อฟื้นฟูคอลลาเจนใต้ผิวหนัง
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : รวมข้อปฏิบัติหลังทำ Hifu ที่คุณต้องรู้ ดูแลตัวเองอย่างไรให้ Hifu ได้ผลปัง
สามารถทำ HIFU ควบคู่กับหัตถการแบบอื่นได้หรือไม่
การทำ HIFU สามารถทำควบคู่ไปกับหัตถการอื่นได้ เช่น ฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ โบท็อก (Botox), ฉีดฟิลเลอร์ (Filler), เมโสแฟต (Meso Fat), ร้อยไหม เป็นต้น แต่ทั้งนี้การเรียงลำดับการทำหัตถการแต่ละอย่างควรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
สำหรับใครที่มีข้อสงสัยว่า HIFU กับ Botox ต่างกันอย่างไร สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมเรื่อง HIFU กับ Botox ได้ที่ : ตอบทุกข้อสงสัย HIFU กับ Botox ต่างกันอย่างไร ควรทำอันไหนก่อน ทำพร้อมกันได้ไหม?
HIFU มีข้อเสีย หรือผลข้างเคียงไหม?
การทำ HIFU ข้อเสียหรือผลข้างเคียงมีหรือไม่? หลังทำ HIFU อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น รู้สึกเสียวแปลบขณะทำการรักษา อาการบวมแดงเล็กน้อย อาการชาหรือช้ำหลังทำ แต่อาการเหล่านี้จะหายไปได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมง
หากสงสัยว่าหลังทำ HIFU ผลข้างเคียงมีไหม? สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : Hifu ผลข้างเคียงอันตรายไหม?
เลือกทำ HIFU ที่ไหนดี ควรเลือกอย่างไร?
การทำ HIFU แต่ละคลินิกนั้นจะมีราคาที่แตกต่างกันทั้งถูกและแพง แล้วเราควรเลือกสถานที่ทำ HIFU ที่ไหนดี ไปดูกันได้เลย!
- พิจารณาจากยี่ห้อเครื่อง HIFU
ยี่ห้อเครื่อง HIFU เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการพิจารณาเลือกทำ HIFU ที่ไหนดี เพราะการที่จะเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนและอยู่ได้นานนั้น ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเครื่อง HIFU เป็นหลัก หากเลือกทำกับเครื่องที่เกรดไม่ดี พลังงานที่ได้จะไม่มีประสิทธิภาพ เพราะเสี่ยงเกิดอาการหน้าบวมได้ ส่งผลให้ผลลัพธ์หลังทำไม่เกิดความเปลี่ยนแปลง และผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน - ราคาการทำ HIFU
แต่ละคลินิก HIFU จะมีราคาที่แตกต่างกัน ซึ่งราคาการทำ HIFU นั้นจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ยี่ห้อเครื่องทำไฮฟู่ จำนวนไลน์หรือช็อตที่ใช้ เป็นต้น ดังนั้น การทำ HIFU ควรพิจารณาสถานพยาบาลหรือคลินิกให้รอบคอบ และก่อนทำ HIFU ควรดูรีวิวจากผู้ใช้งานจริง รวมถึงสอบถามรายละเอียดเงื่อนไขให้ดี
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำ HIFU
HIFU กับ Ultherapy แบบไหนดีกว่า ?
HIFU vs Ultherapy แบบไหนดีกว่ากัน? Ultherapy กับ HIFU ใช้พลังงานและกลไกในการยกกระชับผิวโดยการใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์เหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันตรงที่ Ultherapy จะมี Visualization ที่เป็นจอมอนิเตอร์ คล้ายการทำอัลตราซาวนด์เพื่อดูว่าคลื่นถูกยิงได้ถึงชั้นที่ต้องการหรือไม่ ทำให้การทำ Ultherapy ได้ผลลัพธ์แม่นยำกว่าการทำ HIFU
ดังนั้น การเลือกทำ HIFU กับ Ultherapy แบบไหนดีกว่ากัน? ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวหน้าและความต้องการของแต่ละบุคคล ทั้งนี้หากไม่แน่ใจว่าตนเองควรทำหัตถการแบบไหนสามารถให้แพทย์ช่วยประเมินใบหน้าก่อนการทำได้
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : HIFU vs Ulthera ต่างกันอย่างไร เลือกทำแบบไหนให้เหมาะกับตนเอง
ไขข้อสงสัย บุฟเฟต์ HIFU คืออะไร ?
บุฟเฟ่ต์ HIFU คือการทำ HIFU แบบไม่จำกัดช็อต ซึ่งบางคลินิกจะมีการทำโปรโมชันที่แตกต่างกัน เช่น 2,999 บาท ไม่จำกัดช็อต/ไลน์ โดยข้อควรระวังในการทำ HIFU แบบบุฟเฟ่ต์ หรือ HIFU แบบเหมา คือ หากบุฟเฟต์ HIFU มีราคาถูกอาจเจอเครื่องไฮฟู่ที่ไม่มีประสิทธิภาพ หัวยิงที่พลังงานไม่คงที่ หรือบางคลินิกอาจยิง HIFU ในปริมาณช็อต/ไลน์ น้อยกว่าความเป็นจริง ถึงทำให้หลังทำ HIFU ไม่เห็นผลลัพธ์ชัดเจน
ดังนั้น ก่อนการทำ HIFU จึงควรตรวจสอบราคาของแต่ละคลินิกให้ถี่ถ้วนว่า ใช้เครื่อง HIFU ของอะไร คุณภาพดีไหม มีเงื่อนไขอะไรบ้างหากทำแบบไม่จำกัดช็อต/ไลน์ เพื่อให้คุ้มค่าและเหมาะสมตามราคาที่จ่าย
ห้ามกินอะไรบ้างหลังทำ HIFU ?
สำหรับใครที่สงสัยว่าหลังทำ HIFU ต้องงดดื่มแอลกอฮอล์กี่วัน? คำตอบคือ เราควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ในช่วง 2 สัปดาห์แรก เพราะสารในนิโคตินและแอลกอฮอล์สามารถทำลายการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังได้
หลังทำ HIFU ออกกำลังกายได้ไหม ?
หลังทำหัตถการ HIFU สามารถออกกำลังกายเบา ๆ ได้ แต่ไม่ควรออกกำลังกายในที่ร้อน เพราะจะทำให้เหงื่อออกมาก การเช็ดหน้าหรือถูบริเวณใบหน้าแรง ๆ อาจส่งผลต่อผลลัพธ์ในการทำ HIFU ได้
สรุป HIFU เครื่องยกกระชับปรับรูปหน้า เห็นผลได้จริง
การทำ HIFU ถือเป็นถือเป็นหัตถการที่ช่วยยกกระชับใบหน้า, ลดความหย่อนคล้อย, ลดเลือนริ้วรอยร่องตื้น และช่วยกระตุ้นคอลลาเจนที่ได้ผลดี อีกทั้งการทำไฮฟู่ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นหลังทำ ผู้เข้ารับบริการสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงว่าหน้ากระชับขึ้นได้ประมาณหนึ่ง และจะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ในระยะเวลา 1-2 เดือนหลังทำ สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจจะทำ HIFU ที่ไหนดี หรือทำ HIFU ดีไหม ควรศึกษาข้อมูลรายละเอียดให้ถี่ถ้วนเพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัย และคุ้มค่ากับราคาที่สุด
หากอยากศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำ HIFU ว่าตนเองเหมาะกับการทำ HIFU ไหม? HIFU มีข้อดีข้อเสียอย่างไร? หรือสนใจการหัตถการความงามอื่น ๆ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SkinX เพื่อปรึกษาปัญหาใบหน้ากับแพทย์ออนไลน์โดยตรง สำหรับผู้ที่ใช้งานแอปฯ SkinX ครั้งแรก สามารถรับคำปรึกษากับแพทย์ผิวหนังโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
อ้างอิง
Dresden D. (2020, April 29). What is a HIFU facial, and does it work?. Medical News Today. https://www.medicalnewstoday.com/articles/HIFU-facial
Venn. (2021, September 17). HIFU, What is it? And What Does it do?. Venn Healthcare. https://www.vennhealthcare.com/HIFU-what-is-it-and-what-does-it-do/