SkinX

GET-On the App Store

SkinX Team

13 กรกฎาคม 2567

เมโสแฟต (Meso fat) กับข้อมูลที่ควรทราบก่อนเข้ารับหัตถการ

เมโสแฟต คือ

สำหรับผู้ที่อยากลดสัดส่วนให้ดูกระชับ แต่อาจไม่อยากออกกำลังกาย หรือออกกำลังกายแล้วก็ยังไม่ค่อยคืบหน้า อาจใช้วิธีทางการแพทย์ในการช่วยลดสัดส่วน ในบทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีลดไขมัน กระชับสัดส่วนด้วยการฉีดเมโสแฟต (Meso fat) มีดีอย่างไร ช่วยลดไขมันทำหน้าเรียวได้จริงไหม ไปดูรายละเอียดได้ที่บทความนี้เลย

 

ให้การพบแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางเป็นเรื่องง่ายและสะดวกยิ่งกว่า ด้วยแอปพลิเคชัน SkinX ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็สามารถพบแพทย์ได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชันได้เลยไม่ต้องเดินทางไปหาคุณหมอถึงที่ พร้อมบริการจัดส่งยาตามแพทย์สั่งให้ถึงบ้านในราคาพิเศษ ให้เราช่วยดูแลผิวของคุณ โหลดเลยที่ Play store & Apple store : SkinX

“จากประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเรื่องลักษณะของเครื่องสำอางที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือขาย พ.ศ. 2559 สำหรับการใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในรูปแบบฉีดเข้าสู่ผิวหนังถูกจัดอยู่ในกลุ่มเครื่องสำอางที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือขาย ทาง SkinX จึงไม่แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในรูปแบบ Mesotherapy หรือการใช้ร่วมกับเข็มขนาดเล็กเพื่อฉีดเข้าสู่ใต้ผิวหนัง”

สารบัญบทความ

เมโสแฟต คืออะไร ทำไมใคร ๆ ก็พูดถึงกัน?

เมโสแฟต (Meso fat)  คือวิธีการสลายไขมันใต้ผิวหนังด้วยการใช้ตัวยาที่มีคุณสมบัติในการสลายไขมันแบบเฉพาะจุดโดยที่ไม่ต้องผ่าตัดหรือเจาะดูดไขมันที่เจ็บตัวมากกว่าและมีผลข้างเคียงมากกว่า 


ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดเมโสแฟตคือไขมันสะสมใต้ผิวหนังลดลงจากการแตกตัวและสลายตัวของเซลล์ไขมัน ทำให้สัดส่วนดูเล็ก กระชับ หากมีการออกกำลังกาย คุมอาหาร หรือเข้าทำหัตถการอื่น ๆ ร่วมด้วยก็จะยิ่งช่วยให้ผลลัพธ์ลดไขมันจากเมโสแฟตเห็นได้ชัดเจนขึ้น

เมโสแฟต ทำงานอย่างไร

เมโสแฟต

การสลายไขมันด้วยเมโสแฟตจะใช้สารที่ออกฤทธิ์ในการสลายไขมันในการเข้าไปทำให้ไขมันใต้ผิวหนังของเราแตกตัวและสลายตัว ส่งผลให้จำนวนเซลล์ไขมันในร่างกายลดลงหรือทำให้เซลล์ไขมันมีขนาดเล็กลง ทำให้ความหนาของชั้นไขมันในจุดที่ฉีดเมโสแฟตลดลง เมื่อมองจากภายนอกจึงเห็นได้ว่าสัดส่วนดูเล็กลงนั่นเอง

 

ตัวอย่างสารที่เป็นองค์ประกอบในตัวยาสำหรับการฉีดเมโสแฟตมีดังนี้

 

  • L-carnitine : เป็นสารสำคัญหลักที่เมโสแฟตหลายยี่ห้อใช้เป็นส่วนประกอบ เนื่องจากแอลคาร์นิทีนสามารถสลายไขมันและนำมาใช้เป็นพลังงานได้
  • Vitamin B12 : มีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมันอีกทั้งยังช่วยลดการสะสมของไขมันใต้ผิวหนังอีกด้วย
  • Tyrosine : ส่งเสริมให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
  • Mesostabyl : กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ไลเปส (lipase) ซึ่งเป็นเอนไซม์สำหรับย่อยสลายไขมัน และยับยั้งการสร้างคอเลสเตอรอล
  • Methionine : กรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายเราไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ โดยเมไทโอนีนมีหน้าที่เป็น lipotropic ที่ช่วยสลายไขมัน ลดการสะสมของไขมัน


เมโสแฟตบางยี่ห้ออาจมีส่วนผสมอื่น ๆ นอกจากสารที่กล่าวมาข้างต้น แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะใช้สารสกัดที่ได้จากธรรมชาติ ดังนั้นเมโสแฟตจึงเป็นการเสริมสารสำคัญเข้าสู่ผิวหนังโดยตรงเหมือนกับการรับประทานอาหารเสริม แต่ให้ผลลัพธ์ที่เร็วกว่าเนื่องจากเป็นการฉีดเข้าสู่บริเวณที่ต้องการโดยตรง

“L-carnitine เป็นกรดอะมิโนที่สามารถสร้างได้จากกรดอะมิโนไลซีนและเมไทโอนีน มีบทบาทอย่างมากในการส่งไขมันไปยังไมโทคอนเดรียเพื่อนำไปเป็นพลังงานแก่เซลล์ จากงานวิจัยหลายฉบับพบว่าผู้คนที่ได้รับการเสริมแอลคาร์นิทีนจะสูญเสียน้ำหนักไปอย่างมีนัยสำคัญ จึงมีการนำแอลคาร์นีทีนมาใช้เพื่อลดน้ำหนักและไขมันส่วนเกิน”

เมโสแฟตช่วยอะไรได้บ้าง

เมโสแฟตจะช่วยในเรื่องการเข้าไปสลายไขมันใต้ผิวหนัง เมื่อฉีดตัวยาเมโสแฟตเข้าไปยังบริเวณใต้ผิวหนังที่มีไขมันส่วนเกิน สารสำคัญต่าง ๆ จากเมโสแฟตจะเข้าไปทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวและร่างกายก็จะกำจัดเซลล์ไขมันที่แตกตัวนั้นออกจากร่างกาย เมื่อปริมาณเซลล์ไขมันน้อยลงหรือเล็กลงแล้วก็จะทำให้สัดส่วนดูเล็กลงตามไปด้วย 


แต่การฉีดเมโสแฟตให้ได้ผลนั้น หลังฉีดเมโสแฟตควรจะต้องคุมอาหาร ออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยเพื่อไม่ให้เกิดการสะสมไขมันใหม่อีก หรือหากต้องการเร่งให้ผลลัพธ์เมโสแฟตชัดเจนและเร็วขึ้นสามารถใช้หัตถการทางการแพทย์อื่น ๆ เข้ามาร่วมรักษาได้ เช่น การใช้เครื่องยกกระชับ RF หรือ HIFU เป็นต้น

เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของเมโสแฟตลดสัดส่วน

เมโสแฟต ดีไหม

การทำเมโสแฟตเพื่อลดไขมันกระชับสัดส่วนนั้นเป็นหนึ่งในวิธีลดไขมันส่วนเกินใต้ผิวหนังทางการแพทย์ที่ค่อนข้างได้รับความนิยม แต่ก่อนตัดสินใจทำเมโสแฟตเราลองมาดูข้อดีและข้อจำกัดของเมโสแฟตกันก่อน เพื่อให้เราเข้าใจเกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟตมากขึ้น และตัดสินใจได้รอบคอบกว่าเดิม ว่าควรจะฉีดเมโสแฟตหรือไม่

ข้อดีของเมโสแฟต

เมโสแฟตลดไขมันดีอย่างไร มาดูกันเลย

 

  • เมโสแฟตสามารถเข้าไปสลายไขมันใต้ผิวหนังเฉพาะจุดได้ทันที ให้ผลลัพธ์เร็วกว่าการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว
  • เมโสแฟตสามารถกำหนดจุดที่ต้องการสลายไขมันได้แบบเฉพาะจุด เช่น ผู้ที่อยากลดไขมันใต้เหนียงแต่ไม่ได้ต้องการลดไขมันแก้ม เป็นต้น
  • เมโสแฟตสามารถปรับลดสัดส่วนได้ทั้งใบหน้าและลำตัว
  • ขั้นตอนการทำหัตถการไม่ยุ่งยากซับซ้อน ใช้เวลาการรักษาน้อย หลังฉีดเมโสแฟตก็ไม่ต้องพักฟื้นสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  • สามารถคงผลลัพธ์หลังฉีดเมโสแฟตลดสัดส่วนได้ยาวถึง 3 เดือน
  • ตัวยาเมโสแฟตมาจากสารที่พบได้ตามธรรมชาติหรือเป็นสารที่ร่างกายของเราสามารถสร้างได้เอง ดังนั้นจึงมีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงน้อยมาก

ราคาเมโสแฟตค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับหัตถการอื่น ๆ ที่ให้ผลลัพธ์ลดไขมันกระชับสัดส่วน

ข้อจำกัดของเมโสแฟต

ถึงการฉีดเมโสแฟตจะค่อนข้างง่ายต่อการทำหัตถการ แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้าง ดังนี้

 

  • ผลิตภัณฑ์เมโสแฟตนั้นสามารถนำมาใช้ภายนอกเท่านั้น ไม่สามารถนำมาฉีดเข้าสู่ผิวหนังได้ (สำหรับประเทศไทย) ทำให้ตัวยาแสดงประสิทธิภาพได้ไม่เต็มที่
  • เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีการแพทย์อื่น ๆ ที่ใช้สำหรับลดไขมันกระชับสัดส่วน เมโสแฟตสามารถคงผลลัพธ์ได้ระยะสั้นที่สุด (การทำ RF หรือ HIFU สามารถคงผลลัพธ์ได้นานกว่า 12 เดือน) และต้องเข้ามาฉีดเมโสแฟตซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์เอาไว้
  • การฉีดเมโสแฟตไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้ทันทีที่ทำ เนื่องจากต้องรอให้ตัวยาเข้าไปทำให้ไขมันแตกตัวและให้ร่างกายขับไขมันออกก่อน ในกระบวนการนี้จะใช้เวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์หลังฉีดเมโสแฟต
  • ไม่สามารถฉีดเมโสแฟตในหญิงมีครรภ์หรือคุณแม่ให้นมบุตร
  • การฉีดเมโสแฟตไม่สามารถสลายไขมันปริมาณมากได้ หากผู้เข้ารับบริการมีชั้นไขมันใต้ผิวหนังหนามากการฉีดเมโสแฟตอย่างเดียวอาจทำให้ไม่เห็นผลลัพธ์ชัดเจน

การเลือกใช้เมโสแฟตในปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการให้ผลลัพธ์สลายไขมันใต้ผิวหนัง จำเป็นต้องใช้ประสบการณ์ของแพทย์ผู้รักษาค่อนข้างมาก

เมโสแฟตเหมาะกับใคร

เมโสแฟต รีวิว

ก่อนจะตัดสินใจฉีดเมโสแฟตลดไขมันใต้ผิวหนัง มาดูกันว่าการฉีดเมโสแฟตเหมาะกับใครบ้าง

 

  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะส่วน เช่น แก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เป็นต้น
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดไขมันกระชับสัดส่วนที่ไม่ต้องการผ่าตัดดูดไขมัน หรือไม่มีเวลาพักฟื้น
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด แต่มีงบจำกัด และมีเวลาเข้ามาทำหัตถการเมโสแฟตบ่อยครั้ง เพื่อคงผลลัพธ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง 
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดไขมันภายในระยะสั้น หรือผู้ที่พยายามลดไขมันสะสมด้วยการออกกำลังกายแล้วให้ผลลัพธ์ไม่น่าพึงพอใจเท่าที่ควร

เมโสแฟต ไม่เหมาะกับใคร

ถึงเมโสแฟตจะเป็นตัวยาที่มาจากสารสกัดจากธรรมชาติที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่เมโสแฟตก็ยังไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวดังนี้

 

  • ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ต้องได้รับอินซูลินอยู่เป็นประจำ
  • ผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • ผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • ผู้ป่วยโรคมะเร็ง


ทั้งนี้ก่อนฉีดเมโสแฟตหากมีโรคประจำตัวใด ๆ รวมถึงโรคที่ไม่ได้กล่าวถึงในหัวข้อนี้ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเข้าทำหัตถการทุกครั้ง และแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาว่าสามารถลดไขมันลดสัดส่วนด้วยการฉีดเมโสแฟตได้หรือไม่

ตอบคำถามที่หลายคนสงสัย เมโสแฟต อันตรายไหม?

เมโสแฟต อันตรายไหม

เมโสแฟต อันตรายไหม ? เชื่อว่าหลายคนอาจเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟตอันตราย แต่ส่วนใหญ่การฉีดเมโสแฟตที่เป็นอันตรายในข่าวนั้นมักจะมาจากการฉีดเมโสแฟตปลอม ทำหัตถการด้วยตัวเองหรือพวกหมอกระเป๋าที่ไม่มีใบอนุญาตทำหัตถการ ซึ่งการใช้เมโสแฟตปลอมอีกรวมถึงการฉีดโดยผู้ที่ไม่ใช่แพทย์นั้นมีความเสี่ยงทั้งในเรื่องการติดเชื้อ และอาจเกิดปัญหาตามมา เช่น แสบร้อนผิวหน้า ผิวหย่อนคล้อยหลังฉีด เป็นต้น

 

และถึงแม้ว่าจะฉีดเมโสแฟตโดยแพทย์แต่ก็ต้องระวังว่าจะมีการนำเมโสแฟตปลอมหรือเมโสแฟตที่ไม่ผ่าน อย. มาฉีดให้กับเราหรือไม่ เพราะมีตัวยาที่สามารถให้ผลลัพธ์สัดส่วนเล็กลงได้เช่นกันอย่างสเตียรอยด์และยาสลายฟิลเลอร์ (Hyaluronidase) ซึ่งยากลุ่มนี้มีต้นทุนต่ำราคาถูก 

 

แต่การนำมาใช้แทนตัวยาเมโสแฟตนั้น เป็นการใช้ยาผิดวัตถุประสงค์ หากใช้ในประมาณมาก ๆ สามารถก่อให้เกิดปัญหาผิวตามมาได้ เช่น คอลลาเจนถูกย่อยสลายทำให้เนื้อยุบ หรือการติดเชื้อง่ายจากการที่ร่างกายได้รับสเตียรอยด์ปริมาณมากจนระบบภูมิคุ้มกันทำงานน้อยลง เป็นต้น

 

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์เมโสแฟตในประเทศไทยนั้นได้รับการจดทะเบียนอย. และถูกจัดอยู่ในกลุ่มเครื่องสำอาง ไม่ใช่ยาหรือเครื่องมือแพทย์จึงไม่สามารถใช้เมโสแฟตในลักษณะฉีดได้

สลายไขมันด้วยเมโสแฟต ทำตรงไหนได้บ้าง

สามารถใช้เมโสแฟตเพื่อลดไขมันเฉพาะจุดได้หลายจุด เช่น แก้ม เหนียง หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา สะโพก เป็นต้น และอาจใช้การฉีดโบท็อกซ์ลดกล้ามเนื้อร่วมด้วยเพื่อให้ได้สัดส่วนเรียวสวยตามต้องการได้

เมโสแฟตกับดูดไขมัน ต่างกันอย่างไร

เมโสแฟต vs ดูดไขมัน

อยากกำจัดไขมันส่วนเกินหลายคนก็มักจะนึกถึงการทำเมโสแฟตกับดูดไขมัน แล้วทั้งสองหัตถการนี้ต่างกันอย่างไร ระหว่างเมโสแฟต vs ดูดไขมัน คุณเหมาะกับหัตถการแบบไหน มาดูกันได้ในหัวข้อนี้

 

เมโสแฟต (Meso fat)

  • เป็นการใช้ตัวยาที่มีฤทธิ์สลายไขมันฉีดเข้าสู่บริเวณที่ต้องการลดไขมันโดยตรง ตัวยาก็จะไปทำให้ไขมันแตกตัว และร่างกายก็จะกำจัดไขมันที่แตกตัวออกจากร่างกายต่อไป
  • ไม่สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้ทันทีหลังฉีดเมโสแฟต ต้องรอกระบวนการกำจัดไขมันออกจากร่างกายก่อน
  • เมโสแฟตเป็นหัตถการที่ทำได้ง่าย เพียงแค่ฉีดตัวยาเข้าสู่ใต้ผิวหนังเท่านั้น ไม่มีการผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
  • ผลข้างเคียงน้อย เพราะตัวยาเมโสแฟตมาจากสารสกัดจากธรรมชาติ
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด และมีไขมันสะสมไม่มาก

 

ดูดไขมัน (Liposuction)

  • เป็นหัตถการที่ใช้เข็มเจาะเข้าไปที่ชั้นไขมันในบริเวณที่ต้องการกำจัดไขมัน จากนั้นจึงดูดไขมันออกมา เพื่อให้สามารถดูดไขมันง่ายขึ้นก่อนดูดไขมันจะมีการฉีด Tumescent เข้าไปก่อน ซึ่งประกอบด้วยน้ำเกลือ ยาชา และอะดรีนาลิน ซึ่งจะทำให้ไขมันแยกตัวออกมา ลดความเจ็บปวดขณะดูดไขมัน และลดความเสียหายของหลอดเลือดที่เกิดจากการดูดไขมันออก
  • ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนทันทีหลังดูดไขมัน และสามารถดูดไขมันปริมาณมาก ๆ ได้ในครั้งเดียว
  • การดูดไขมันเป็นหัตถการผ่าตัด ในบางเคสอาจใช้เพียงยาชาแต่ในบางเคสก็อาจต้องใช้การวางยาสลบที่ต้องมีวิสัญญีแพทย์คอยดูแลตลอดเวลา 
  • ใช้เวลาพักฟื้นนาน 
  • ผลข้างเคียงมาก เช่นมีอาการผิวหย่อนคล้อยหลังดูดไขมันออกไปมาก อาจต้องแก้ปัญหาด้วยการทำ HIFU ยกกระชับผิว
  • เจ็บตัวมาก มักมีอาการบวมช้ำหลังดูดไขมัน มีแผลหลังดูดไขมัน


การลดไขมันด้วยเมโสแฟตเหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้ผิวหนังไม่มาก หรือเป็นบริเวณที่มีเส้นประสาทอยู่เยอะและอาจเกิดความเสี่ยงสูงหากใช้เทคนิคการดูดไขมันเช่นบริเวณเหนียง แก้ม เป็นต้น แต่หากเป็นบริเวณที่มีปริมาณไขมันสะสมอยู่มาก ๆ เช่น ต้นขา หน้าท้อง การฉีดเมโสแฟตเพื่อลดไขมันให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการนั้นจะต้องใช้ปริมาณตัวยาค่อนข้างมาก และหลายครั้งอาจไม่สามารถให้ผลลัพธ์ตามต้องการ แพทย์อาจแนะนำให้ใช้การดูดไขมันหรือการสลายไขมันด้วยคลื่น RF จะเหมาะสมกว่า

เมโสแฟต มีผลข้างเคียงอย่างไร

เมโสแฟต ผลข้างเคียง

ตัวยาเมโสแฟตประกอบไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่มีฤทธิ์ในการสลายไขมัน ส่งเสริมระบบเผาผลาญ แปรไขมันให้กลายเป็นพลังงาน ผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้เมโสแฟตจึงเกิดขึ้นได้น้อย โดยปกติมักพบเพียงอาการเจ็บขณะเดินยาเข้าสู่ผิวหนังและอาการปวดบวมจากยาเท่านั้นซึ่งจะยุบได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมง


แต่อย่างไรก็ตามหากพบอาการอื่น ๆ เช่น แสบร้อนผิว หายใจติดขัด ใจสั่น อาจเกิดจากการแพ้สารสำคัญบางตัวที่เป็นส่วนประกอบในเมโสแฟต หรืออาจเจอเมโสแฟตปลอม ให้รีบเข้าพบแพทย์ทันที

“สำหรับประเทศไทยนั้นการทำหัตถการฉีดเมโสแฟตยังไม่เป็นที่รับรองจากอย. จึงไม่แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์เมโสแฟตเพื่อการฉีดเข้าสู่ใต้ผิวหนังเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น”

เมโสแฟต มียี่ห้อไหนบ้าง

  • BABI Neo One

เมโสแฟตที่ช่วยสลายไขมันพร้อมกับยกกระชับผิว ผลิตจากสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ผลข้างเคียงน้อย มีอาการแสบจากตัวยาน้อยสุดในบรรดาเมโสแฟตทุกยี่ห้อ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาแก้มหย่อน มีเหนียง

 

  • Phytobella

เมโสแฟตสลายไขมันลดสัดส่วนได้เกือบทุกส่วนที่มีไขมันสะสมใต้ผิวหนัง ไม่ว่าจะแก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา สะโพก เป็นต้น อีกทั้งยังสามารถลดอาการบวมน้ำได้อีกด้วย

 

  • Miracle beauty

เมโสแฟตตัวดังจากเกาหลี สามารถสลายไขมันได้ดีรวมถึงช่วยกระชับผิวไปในตัว ไม่ทำให้เกิดอาการหย่อนยานหลังไขมันยุบตัว สามารถฉีดได้ทั้งใบหน้าและลำตัว

 

**ข้อมูลผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นข้อมูลจากแบรนด์ของผลิตภัณฑ์

คำถามที่พบได้บ่าย

ฉีดเมโสแฟต เจ็บไหม

ผู้เข้ารับบริการหลายคนอาจกังวลว่าฉีดเมโสแฟตเจ็บไหม คำตอบคือเจ็บ แต่เป็นอาการเจ็บจากเข็มเจาะเข้าสู่ผิวหนังเพื่อให้สามารถฉีดยาเข้าสู่ใต้ผิวหนังเท่านั้น

ฉีดเมโสแฟต กี่วันเห็นผล

เมื่อฉีดเมโสแฟตไปแล้วหลายคนอาจอยากทราบว่าการฉีดเมโสแฟตกี่วันเห็นผล ? โดยปกติแล้วหลังฉีดเมโสแฟตจะยังไม่สามารถเห็นผลในทันทีหลังฉีด เนื่องจากจะต้องรอให้ร่างกายกำจัดไขมันที่แตกตัวออกไปเสียก่อน ในกระบวนการนี้จะใช้เวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์หลังฉีดเมโสแฟต

ฉีดเมโสแฟต 1 ขวดกี่ CC

เมโสแฟต 1 ขวดจะมีตัวยาอยู่ 10 CC หรือ 10ml. ส่วนปริมาณในการฉีดเมโสแฟตแพทย์จะเป็นผู้ประเมินตามความเหมาะสม

ฉีดเมโสแฟต อยู่ได้นานแค่ไหน

ฉีดเมโสแฟตจะอยู่ได้นานแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของผู้เข้ารับบริการด้วย แต่โดยส่วนใหญ่นั้นการฉีดเมโสแฟตนั้นสามารถคงผลลัพธ์ได้ประมาณ 3 เดือน หากต้องการคงผลลัพธ์ที่ดีต่อไปจะต้องเข้ามาฉีดเมโสแฟตซ้ำเรื่อย ๆ

ฉีดเมโสแฟต ต้องฉีดกี่ครั้ง

การฉีดเมโสแฟตจะต้องฉีดกี่ครั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันใต้ผิวหนังและบริเวณที่ต้องการลดไขมัน หากมีไขมันสะสมมากอาจต้องเข้ามาฉีดเมโสแฟตบ่อยครั้ง อาจต้องฉีดประมาณ 4-5 ครั้งเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน 

 

ทางทีมแพทย์ SkinX เราไม่สนับสนุนการฉีดเมโสแฟตเพื่อสลายไขมันเนื่องจากข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข

อ้างอิง

 

Cherney, K. (2023, February 22). Everything You Need to Know About Lipotropic Injections. Healthline. https://www.healthline.com/health/lipotropic-injections

 

How Do Lipotropic Injections Work? (n.d.). Empower Pharmacy. https://www.empowerpharmacy.com/lipotropic-mic-injections-work


Mawer, R. & Mawer, R. (2023, May 9). L-Carnitine: Benefits, Side Effects, Sources, and Dosage. Healthline. https://www.healthline.com/nutrition/l-carnitine

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น ใช้งานครั้งแรกปรึกษาฟรี
Tips & Tricks
สาระน่ารู้และข่าวประชาสัมพันธ์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ สามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า