Thermage ช่วยยกกระชับผิวหน้าด้วยคลื่นวิทยุ ลดเลือนริ้วรอยร่องลึก
ปัญหาความหย่อนคล้อย ไขมันส่วนเกินที่สะสมบนใบหน้าและลำตัว ปัจจุบันสามารถแก้ได้ด้วยหัตถการช่วยยกกระชับผิว โดย “Thermage” เป็นหนึ่งในเครื่องมือยกกระชับผิวที่มีประสิทธิภาพ ช่วยแก้ไขปัญหาผิวจากการขาดความตึงกระชับ รวมถึงช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว เสริมสร้างให้ผิวกลับมาเต่งตึงและกระชับมากขึ้นได้ถึงผิวหนังชั้นหนังแท้ (Dermis)
ในบทความนี้ SkinX ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเทอร์มาจ (Thermage) เพื่อประกอบการตัดสินใจให้กับผู้ที่กำลังสนใจหัตถการยกกระชับผิวด้วยเครื่อง Thermage ว่า เทอร์มาจคืออะไร? มีข้อดีอย่างไร? และยังมีคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้ Thermage อีกด้วย
ทำความรู้จักกับ SkinX แอปพลิเคชันพบแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังแบบออนไลน์ รวบรวมแพทย์จากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำกว่า 210 คนเพื่อให้การปรึกษาสะดวกมากยิ่งขึ้น ผู้ใช้งานสามารถรับคำปรึกษาได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนโดยไม่ต้องรอคิว
Thermage คืออะไร?
ก่อนที่จะทำความรู้จักกับเครื่อง Thermage ควรทำความรู้จักกับหัตถการยกกระชับผิวก่อน โดยหัตถการยกกระชับผิวคือ การทำการผ่าตัดหรือใช้เครื่องมือในการส่งพลังงานลงใต้ชั้นผิวเพื่อทำการแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย รูขุมขนกว้าง เป็นต้น ซึ่งเครื่อง Thermage ถือว่าเป็นเครื่องมือสำหรับการยกกระชับผิวประเภทหนึ่ง
เทอร์มาจ หรือ Thermage คือเทคโนโลยียกกระชับผิวจาก Bausch Health Companies Inc. ที่ใช้พลังงานในคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency) ทำให้เกิดการปล่อยความร้อนลงสู่ผิวชั้นหนังแท้ (Dermis) และปล่อยพลังงานซ้ำๆเพื่อให้เกิดความร้อนสะสมที่เหมาะสมสำหรับการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ โดยไม่เกิดการทำลายผิวชั้นบน เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด เพราะฉะนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยเล็กน้อยจนถึงปานกลาง
เครื่อง Thermage ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศไทย และประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก จึงสามารถมั่นใจได้ว่าเครื่อง Thermage จะไม่เป็นอันตรายต่อผิว
นอกจากพลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแล้ว ยังสามารถช่วยลดไขมันส่วนเกิน สลายเซลลูไลท์ (Cellulite) รวมถึงปรับผิวหย่อนคล้อยให้กระชับมากยิ่งขึ้นโดยไม่ทำให้เกิดแผลอีกด้วย
“นวัตกรรมเครื่อง Thermage ใช้คลื่นพลังงานวิทยุแบบขั้วเดียว (Monopolar RF) ที่สามารถส่งพลังงานได้ถึง 20 มิลลิเมตร สู่ผิวหนังและชั้นไขมัน”
Thermage ช่วยอะไรได้บ้าง?
นอกจากปัญหาผิวที่เน้นเรื่องความหย่อนคล้อยของใบหน้า เครื่อง Thermage ยังสามารถช่วยแก้ไขปัญหาผิวในจุดอื่น ๆ ของร่างกายอย่างลำคอ เหนียง หรือรอบเอวได้ ดังนี้
- ปัญหาริ้วรอยระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง
- ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยของใบหน้า
- ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณแขนหรือขา
- ลดไขมันใต้ชั้นผิวบริเวณกรอบหน้าหรือรอบเอว
- ลดเซลลูไลท์ (Cellulite) ที่ต้นแขนหรือต้นขา
- ปัญหากรอบหน้าหย่อนคล้อย
- รูขุมขนกว้าง
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาและสภาพผิวว่าเหมาะสมกับการใช้เครื่อง Thermage หรือไม่ ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนการตัดสินใจทำทุกครั้ง เพื่อที่จะสามารถหาวิธีรักษาที่เหมาะสมกับตนเองต่อไป
Thermage ทำงานอย่างไร?
หลักการทำงานของเครื่อง Thermage คือการส่งพลังงานคลื่นวิทยุ ที่จะส่งเป็นพลังงานความร้อน 40-50 องศาเซลเซียส ไปถึงผิวชั้นหนังแท้ซึ่งประกอบด้วยคอลลาเจน ส่งผลให้โมเลกุลของน้ำแยกออกจากเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสติน (Elastin) ทำให้เกิดการหดตัว ผิวจึงเต่งตึงมากยิ่งขึ้น
หลังจากการทำหัตถการด้วยเครื่อง Thermage ในช่วง 2-3 เดือนถัดมา ผิวจะสร้างคอลลาเจนใหม่ รวมถึงปรับการเรียงตัวของเส้นใยคอลลาเจน ทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและผิวดูแข็งแรงกว่าก่อนการทำหัตถการยกกระชับผิว
นอกจากนี้การทำเทอร์มาจยังช่วยให้ไขมันที่อยู่ใต้ชั้นผิวสลายตัว ซึ่งไขมันก็เป็นต้นเหตุของเซลลูไลท์จึงทำให้ Thermage สามารถช่วยแก้ปัญหานั้นได้เช่นกัน รวมถึงยังมีระบบให้ความเย็นที่ช่วยแก้ปัญหาอาการผิวไหม้หลังจากการทำหัตถการอีกด้วย
Thermage ทำจุดไหนได้บ้าง?
การใช้เครื่อง Thermage สามารถใช้ในการทำหัตถการยกกระชับผิวได้ตามจุดของร่างกาย ดังนี้
- ใบหน้า
- กรอบหน้า
- ลำคอ
- ใต้คาง เหนียง
- รอบดวงตา
- ลำตัว
- แขนและมือ
- ขาและเข่า
นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งจุดที่ต้องการทำได้ตามประเภทของหัวได้ดังนี้
- หัว Total Tip ซึ่งเหมาะกับการทำหัตถการยกกระชับผิวหน้า กรอบหน้า ลำคอ หรือเหนียง โดยจะช่วยปรับให้รูปหน้ามีความ V-Shape ได้มากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง
- หัว Body Tip เหมาะกับการใช้ในบริเวณที่กว้าง เช่น ลำตัว แขน ขา หรือสะโพก มักใช้ลดขนาดรอบเอว ขา หรือแขน ยกกระชับผิว และสลายเซลลูไลท์
- หัว Eye Tip ใช้ในการแก้ปัญหาผิวบริเวณรอบดวงตา รวมถึงแก้ปัญหาคิ้วตก หนังตาตก และรอยตีนกาได้อีกด้วย
โดยส่วนมาก Thermage นิยมใช้ในการทำหัตถการยกกระชับผิวหน้า กรอบหน้า และลดไขมันบริเวณเหนียง เพื่อช่วยให้ใบหน้าดูกระชับและเรียวมากยิ่งขึ้นโดยที่ไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด
Thermage มีกี่รุ่น?
เครื่อง Thermage นั้นเริ่มผลิตออกจำหน่ายตั้งแต่ปี 2003 เป็นปีแรก และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมีรุ่นใหม่ที่ออกจำหน่ายในปี 2007, 2009 และ 2018 ตามมา แต่ที่ใช้ในการทำหัตถการยกกระชับผิวหน้าในประเทศไทย ณ ปัจจุบันมี 2 รุ่นด้วยกัน ซึ่งแต่ละรุ่นมีรายละเอียดดังนี้
Thermage CPT
เครื่อง Thermage CPT เป็นเครื่อง Thermage รุ่นที่ 3 นับว่าเป็นรุ่นที่เก่ากว่าปัจจุบัน โดย Thermage CPT ผลิตจำหน่ายในปี 2009 ยังไม่มีระบบการคำนวณความร้อนใต้ชั้นผิวจึงจำเป็นที่จะต้องให้แพทย์ที่มีความชำนาญสูงเป็นผู้ทำหัตถการ
มีหัวยิงพลังงานเฉพาะรุ่นเป็นสีส้ม หรือก็คือหัวยิง Total Tip 4 cm2 ซึ่งเครื่อง Thermage CPT มีระบบโฟกัสที่แม่นยำ คนไข้จึงรู้สึกเจ็บน้อยระหว่างที่ทำหัตถการ ผลลัพธ์ที่ได้จะตรงตามจำนวนช็อต (Shot) ที่ยิงพลังงาน
Thermage FLX
เครื่อง Thermage FLX เป็นเครื่อง Thermage รุ่นที่ 4 ซึ่งผลิตจำหน่ายในปี 2018 ถือเป็นรุ่นล่าสุดที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน โดยเครื่อง Thermage FLX นี้ได้มีการพัฒนาระบบให้ความเย็น หรือ Cooling System ให้ดีขึ้นกว่ารุ่นเก่า รวมถึงพัฒนาระบบสั่นเพื่อบรรเทาความเจ็บให้ดีกว่าเครื่อง Thermage CPT
มีหัวยิงพลังงานที่พัฒนาขึ้นใหม่คือ Total Tip 4 cm2 เป็นสีม่วง ให้พลังงานลงได้ดีขึ้น และ ลดระยะเวลาการทำโดยเครื่อง Thermage FLX นั้นมีระบบประมวลผลที่วัดและปล่อยพลังงานลงสู่ผิวได้อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงระบบสั่นและหัวทิปปล่อยความเย็นที่ช่วยให้คนไข้รู้สึกเจ็บน้อยลงระหว่างทำเมื่อเทียบกับเครื่องรุ่นเก่า รวมถึงยังได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในจำนวนช็อตที่น้อยลงอีกด้วย
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างรุ่น CPT กับ FLX
ถึงแม้ว่าเครื่อง Thermage ในแต่ละรุ่นจะให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกันแต่เครื่อง Thermage CPT และ Thermage FLX ที่ผลิตออกจำหน่ายห่างกันถึง 9 ปีก็ยังมีความแตกต่างกันทางด้านเทคโนโลยี ดังนี้
- จำนวนช็อตในการทำ เนื่องจากรุ่น CPT มีการใช้หัว Total Tip อยู่ที่ 3 ตร.ซม. 1,200 ช็อต แต่รุ่น FLX ใช้หัว Total Tip 4 ตร.ซม. 900 ช็อต
- ระยะเวลาในการทำ รุ่น FLX จะใช้ระยะเวลาในการทำต่อครั้งน้อยกว่ารุ่น CPT ถึง 20-25%
- ระบบทำความเย็น (Cooling System) โดยในรุ่น FLX มีระบบ Pre Cooling และ Post Cooling ป้องกันการสะสมของความร้อนใต้ผิวหนัง แต่ในรุ่น CPT จะมีเพียงแค่ Pre Cooling จึงต้องใช้ความชำนาญในการทำหัตถการเพราะรุ่น CPT ไม่มีระบบการคำนวณความร้อนใต้ชั้นผิว
- หน้าจอสัมผัส ในรุ่นล่าสุดอย่าง FLX มีหน้าจอ Touchscreen แต่ในรุ่น CPT นั้นไม่มี
- Thermage FLX มีระบบ AccuREP ซึ่งเป็นเทคโนโลยีช่วยปรับค่าพลังงานแบบเรียลไทม์จากการวัดความร้อน ถือว่าสามารถช่วยลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงอย่างอาการผิวไหม้ แต่ Thermage CPT นั้นไม่มีระบบนี้
- ความเจ็บระหว่างทำหัตถการยกกระชับผิวด้วยเครื่องรุ่น CPT อาจมากกว่ารุ่น FLX เนื่องจากระบบทำความเย็นและระบบวัดความร้อนใต้ชั้นผิวในรุ่น FLX สามารถช่วยปรับค่าพลังงานให้เข้ากับสภาพผิวและบรรเทาอาการแสบร้อนได้มากกว่า
Thermage มีหัวกี่แบบ?
Thermage Total Tip 4 cm2
หัวยิง Total Tip 4 ตร.ซม. เป็นหัวยิงสีม่วง เฉพาะของรุ่น FLX เหมาะกับการทำบริเวณใบหน้าไปจนถึงลำคอ สามารถยิงได้ถึง 900 ช็อต ทำให้ใช้เวลาทำหัตถการต่อครั้งเร็วกว่า Total Tip 3 ตร.ซม.
Thermage Total Tip 3 cm2
หัวยิง Total Tip 3 ตร.ซม. สามารถยิงได้ 1,200 ช็อต เหมาะกับการทำบริเวณใบหน้าไปจนถึงลำคอ เป็นหัวยิงสีฟ้า คล้ายหัวยิง Face Tip 3 cm2 ของรุ่น CPT
Thermage Body Tip 16 cm2
หัวยิง Body Tip 16 ตร.ซม. มีสีส้ม เป็นหัวยิงขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับการทำในบริเวณลำตัว แขน หรือขาที่เป็นพื้นที่กว้าง
Thermage Eye Tip 0.25 cm2
หัวยิง Eye Tip 0.25 ตร.ซม. เป็นหัวยิงสีเขียว มีขนาดเล็กมาก จึงเหมาะสำหรับการทำในบริเวณที่ต้องใช้ความละเอียดสูงอย่างรอบดวงตา
Thermage, Ulthera, Hifu ต่างกันอย่างไร
หลายคนอาจสงสัยว่า Thermage vs Ultherapy อันไหนดีกว่ากัน? หรือ Thermage vs Ulthera แตกต่างกันอย่างไร? โดยความแตกต่างระหว่าง Thermage, Ulthera และ HIFU มีดังนี้
- Thermage ทำงานโดยการส่งพลังงานคลื่นวิทยุลงสู้ผิวชั้นหนังแท้ ซึ่งพลังงานที่ส่งลงไปจะมีลักษณะเป็น Volumatic ทำให้กระจายใต้ผิวได้อย่างทั่วถึง นอกเหนือจากการช่วยยกกระชับผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแล้ว ยังสามารถช่วยในการสลายไขมันได้อีกด้วย
- Ulthera หรือ Ultherapy คือนวัตกรรมในการยกกระชับผิวด้วยคลื่นอัลตราซาวด์พลังงานสูง MFU-V (Microfocus Ultherasound with Visualization) ที่สามารถส่งพลังงานได้ถึงผิวชั้น SMAS ซึ่งเป็นผิวหนังชั้นเดียวกับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า สามารถช่วยยกกระชับผิวได้ดีที่สุด แต่เห็นผลน้อยกว่าในแง่การสลายไขมัน
HIFU ย่อมาจาก High Intensity Focused Ultrasound เป็นการใช้พลังงานคลื่นโฟกัสอัลตราซาวด์ส่งพลังงานลงไปที่ผิวชั้น SMAS อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่เห็นผลเท่า Ulthera แต่มีราคาที่ถูกกว่า
ข้อดีของ Thermage
การยกกระชับผิวด้วยเครื่อง Thermage มีข้อดีดังต่อไปนี้
- สามารถเห็นผลที่เปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังจากทำครั้งแรก โดยผิวจะมีความยกกระชับขึ้นเล็กน้อย
- ไม่มีรอยเข็ม รอยช้ำ หรือแผลเป็นหลังทำหัตถการ
- สามารถช่วยปรับกรอบหน้า รอบดวงตา ลำตัว หรือแขนและขาที่หย่อนคล้อยให้กระชับขึ้น
- ไม่ต้องผ่าตัดก็สามารถยกกระชับผิวได้
- ช่วยลดไขมันบริเวณเหนียง ท้องแขน ต้นขา หรือรอบเอว เป็นต้น
- ช่วยปรับกระชับผิวให้เรียบเนียนและเต่งตึง เช่น ลำคอ หลังมือ เข่า
- ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- โอกาสเกิดอาการผิวไหม้น้อย เนื่องจากมีความแม่นยำ ไม่ทำร้ายผิวบริเวณข้างเคียง
- ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 1-2 ปี ตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ข้อจำกัดของ Thermage
แม้ว่าเครื่อง Thermage จะสามารถช่วยแก้ไขริ้วรอยและยกกระชับผิวได้โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ก็ยังมีข้อจำกัดดังนี้
- อาจมีรอยแดงหลังจากทำเทอร์มาจ แต่สามารถหายได้เองภายใน 1-2 ชั่วโมง
- หากใช้รุ่น CPT อาจเกิดอาการผิวไหม้ได้เนื่องจากใช้พลังงานที่ไม่เหมาะสมกับผิวหนังและมีความร้อนสะสมใต้ผิวหนังจนเกินไป ฉะนั้นจึงควรทำหัตถการกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
- อาจเกิดอาการชาหรือใบหน้าเบี้ยวได้หากพลังงานกระทบกับเส้นประสาทบนใบหน้า
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์หรือจำเป็นต้องให้นมบุตร เนื่องจากคลื่นพลังงานวิทยุอาจส่งผลต่อบุตรและมารดา
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีแผลสดหรือเป็นโรคทางผิวหนัง เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการอักเสบหรือกระตุ้นให้อาการของโรคกำเริบได้
- ผู้ที่ฝังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือโลหะข้างในร่างกายไม่ควรเข้ารับบริการ Thermage
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับระบบประสาท หรือโรคลมชัก ควรรับคำปรึกษากับแพทย์ก่อนการตัดสินใจทำ
ใครเหมาะกับการทำ Thermage
ผู้ที่เหมาะกับการทำหัตถการยกกระชับผิวด้วยเครื่อง Thermage คือผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาเหล่านี้
- ปัญหาความหย่อนคล้อยของใบหน้าและลำตัว
- ปัญหาเหนียง มีแก้ม
- ปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา และรอยตีนกา
- ปัญหาคิ้วตก หนังตาตก
- ปัญหาผิวเปลือกส้มหรือเซลลูไลท์บริเวณแขน สะโพก หรือต้นขา
- ปัญหารูขุมขนกว้าง ไม่กระชับ
- ต้องการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว
นอกจากนี้ เทอร์มาจยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้กรอบหน้าชัดเจน หน้าเรียว ทรงหน้า V-shaped เนื่องจากสามารถช่วยในการลดไขมันส่วนเกินบริเวณกรอบหน้าอย่างเหนียงและแก้ม รวมถึงเครื่อง Thermage ยังสามารถกระชับผิวบริเวณลำตัว ช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาผิว เช่นผู้ที่คลอดบุตรแล้วหน้าท้อง ต้นแขน หรือต้นขาหย่อนคล้อยนั้นกลับมากระชับได้อีกด้วย
การเตรียมตัวก่อนทำ Thermage
ก่อนเข้ารับบริการ Thermage ควรปฏิบัติตัวเพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงตามข้อต่อไปนี้
- งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- พักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณ 6-8 ชั่วโมง
- รับประทานอาหารที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับร่างกาย
- หากมีแผลสด แผลถลอก หรือการอักเสบของผิวหนัง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมกับตนเองต่อไป
ขั้นตอนการทำ Thermage
ขั้นตอนในการทำ Thermage จะขึ้นอยู่กับแต่ละสถานพยาบาล แต่โดยทั่วไปแล้ว Thermage มีขั้นตอนการทำหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
- เจ้าหน้าที่ หรือแพทย์จะทำความสะอาดผิวในบริเวณที่ต้องการทำเทอร์มาจ
- ทายาชาทิ้งไว้บนผิวประมาณ 30-45 นาที
- ติดแผ่นเสริมการส่งคลื่นพลังงาน (grounding pad) จากเครื่อง Thermage ไว้ที่ร่างกายของผู้เข้ารับบริการ เช่น บริเวณแผ่นหลัง เป็นต้น
- แพทย์จะเลือกหัวในการยิงพลังงาน และปรับพลังงานให้เข้ากับสภาพผิว ปัญหาผิวของแต่ละบุคคล รวมถึงบริเวณที่ต้องการทำหัตถการ
- ในขั้นตอนการทำ Thermage จะใช้เวลาในการทำประมาณ 30-90 นาที ขึ้นอยู่กับความกว้างของบริเวณที่ต้องการทำ สภาพผิวของแต่ละบุคคล และจำนวนช็อต
- ระหว่างทำ Thermage เครื่องจะมีระบบทำความเย็น เพื่อบรรเทาอาการแสบร้อนและเจ็บระหว่างทำ
- หลังทำหัตถการเสร็จจะมีการทายาเพื่อบรรเทาอาการระคายเคืองของผิว
การปฏิบัติตัวหลังทำ Thermage
ข้อปฏิบัติตัวหลังการทำ Thermage เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีตามความคาดหวังมีดังนี้
- หลีกเลี่ยงการออกแดดโดยตรง รวมถึงควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงเพื่อลดโอกาสการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และอาการผิวไหม้ตามมา
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำด้วยน้ำอุ่น หรือน้ำร้อนเพื่อป้องกันผิวแห้ง
- งดทำหัตถการในบริเวณที่พึ่งทำ Thermage ประมาณ 2 สัปดาห์ เช่น การเลเซอร์ขน การฉีดฟิลเลอร์ การฉีดสาร Botulinum Toxin หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โบท็อกซ์” และ การสครับผิว เป็นต้น
- ทามอยเจอไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
- สามารถประคบเย็นบริเวณที่ทำหัตถการเพื่อลดอาการแสบร้อนได้
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ เพราะสามารถทำให้คอลลาเจนเสื่อมตัวลงได้
Thermage มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
การใช้เครื่อง Thermage ในการทำหัตถการยกกระชับผิวอาจเกิดผลข้างเคียงเบื้องต้นได้ ดังนี้
- อาการบวมแดง แต่สามารถหายได้เองภายใน 1-3 ชั่วโมง
- อาการผิวไหม้ แต่จะเกิดขึ้นได้ยากหากทำหัตถการกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- อาการเจ็บระบมใต้ผิว สามารถหายได้เองภายใน 3-10 วัน
หากมีอาการที่รุนแรงหรือนอกเหนือจากอาการข้างต้นควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องต่อไป
นอกจากนี้ หากเข้ารับบริการจากสถานที่ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือมีการใช้เครื่อง Thermage ของปลอม อาจทำให้ผิวที่ทำเกิดอาการบุ๋ม ขรุขระ ไม่เรียบเนียน และเกิดรอยดำได้ หากมีอาการรุนแรงก็อาจทำให้ผิวบริเวณนั้นเป็นรอยแผลเป็นถาวร
คำถามที่พบบ่อย
Thermage เจ็บไหม?
ความเจ็บจากการทำหัตถการยกกระชับผิวด้วยเครื่อง Thermage นั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล แต่ในขั้นตอนของการทำได้มีการทายาชา ดังนั้นจึงอาจรู้สึกเจ็บน้อยมากๆ หรืออยู่ในระดับที่สามารถทนได้ รวมถึงเครื่องเทอร์มาจยังมีระบบทำความเย็นเพื่อลดอาการแสบร้อนอีกด้วย
Thermage ทำกี่ครั้งเห็นผล?
บางคนสามารถเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างหลังทำ Thermage ได้ทันที ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาผิวของแต่ละบุคคลร่วมด้วย การทำ Thermage จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นในช่วง 2-3 เดือนหลังทำเทอร์มาจ และจะอยู่ได้นาน 1-2 ปี หากต้องการคงผลลัพธ์อย่างสม่ำเสมอ ควรทำต่อเนื่องอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
Thermage ใช้เวลาทำนานไหม?
การทำหัตถการยกกระชับผิวด้วยเครื่อง Thermage แต่ละครั้งนั้นใช้เวลาตั้งแต่ 30 นาทีจนถึง 90 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการทำและสภาพผิวของแต่ละบุคคล
Thermage อยู่ได้นานไหม?
ผลลัพธ์จากการทำ Thermage นั้นจะสามารถอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ควรเข้ารับบริการต่อเนื่องตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อรักษาผลลัพธ์เอาไว้
Thermage ควรทำกี่ช็อต?
จำนวนช็อตในการทำ Thermage นั้นขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการทำและความหนักเบาของปัญหา โดยปกติแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 450-900 ช็อต
Thermage ควรทำก่อนหรือหลัง ฟิลเลอร์, HIFU?
การยกกระชับผิวด้วยเครื่อง Thermage หรือ HIFU สามารถทำก่อนหรือหลังการฉีดฟิลเลอร์ก็ได้ โดยแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ถึงปัญหาหลักที่กังวลและสิ่งที่ต้องการแก้ไขเป็นหลักก่อน เพื่อให้ได้รับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมกับตนเองที่สุด
โดยหากแพทย์พิจารณาเลือกทำเครื่องมือกลุ่มยกกระชับก่อน ควรเว้นระยะห่างประมาณ 2-4 สัปดาห์ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ ในกรณีที่ได้รับการฉีดฟิลเลอร์มาแล้วควรเว้นระยะห่าง 4 สัปดาห์ขึ้นไปก่อนเข้ารับการทำหัตถการกลุ่มยกกระชับ
Thermage ควรทำก่อนหรือหลังการศัลยกรรม?
ขึ้นอยู่กับชนิดของการทำศัลยกรรม หากเป็นการทำศัลยกรรมเพิ่อการยกกระชับหน้า ในคนไข้ที่ปัญหาไม่มาก การพิจารณาทำ Thermageก่อนการศัลยกรรม อาจทกให้สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในระดับที่พึงพอใจได้ จึงอาจเป็นทางเลือกให้ไม่ต้องเข้ารับการทำศัลยกรรมใหญ่หรือเลื่อนการทำศัลยกรรมให้ห่างออกไปได้ ก็ อย่างไรก็ตามหากทำศัลยกรรมมาแล้วและต้องแก้ไขหรือฟื้นฟูปัญหาผิวเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์และเว้นระยะห่างจากการทำศัลยกรรมประมาณ 3 เดือน
สรุป
เทอร์มาจ หรือ Thermage คือเครื่องที่ใช้ในหัตถการยกกระชับผิวด้วยพลังงานคลื่นวิทยุ สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและสลายไขมัน ซึ่งในปัจจุบัน ประเทศไทยมีการใช้ Thermage อยู่สองรุ่นด้วยกัน ได้แก่ CPT และ FLX ซึ่งเครื่องเทอร์มาจมีหัวในการยิงพลังงานอยู่ 4 แบบ คือ Total Tip 3 cm2, Total Tip 4 cm2, Body Tip 16 และ Eye Tip 0.25 cm2 เอาไว้ใช้ในบริเวณที่แตกต่างกันออกไป
หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมหรือปรึกษาในการทำหัตถการยกกระชับผิวด้วยเครื่อง Thernage สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SkinX เพื่อรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้โดยตรง สำหรับผู้ใช้งานใหม่ ปรึกษาปัญหาผิวกว่า 20 ประเภทได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในครั้งแรก
อ้างอิง
CHIQUE. (2018, March 20). MONOPOLAR RADIO FREQUENCY 101. https://www.chiquesolutions.com.au/monopolar-radio-frequency-101/
Lindberg, S. (2021, March 16). Thermage vs. Ultherapy. https://www.healthline.com/health/thermage-vs-ultherapy