ควบคุมน้ำหนัก
24 มิถุนายน 2568

ถ้าให้เลือกได้เชื่อว่าไม่ว่าใครก็อยากจะมีสุขภาพที่ดี มีร่างกายที่สมส่วน แต่เพราะหลาย ๆ ปัจจัยไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การใช้ชีวิต รวมถึงอายุและสุขภาพทำให้อาจพบเจอปัญหาไขมันสะสมอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะผู้ที่มีไขมันส่วนเกินมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้วถึงแม้ว่าจะออกกำลังกายหรือคุมอาหารแล้วก็ตามแต่หากมีแค่เพียงบางช่วงที่หลุดจากการควบคุมไปก็อาจทำให้กลับมามีส่วนเกินอีกครั้ง ทำให้หลายคนอาจหมดกำลังใจในการลดสัดส่วนหุ่นไปเลย
ในวงการแพทย์จึงมีทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่อยากจะลดสัดส่วนจากไขมันส่วนเกินอย่างถาวรด้วยการสลายไขมันด้วยความเย็น (CoolSculpting) ที่ช่วยกำจัดเซลล์ไขมันในร่างกายเราไปอย่างถาวร ให้คุณสามารถกลับมามีหุ่นเฟิร์ม ไขมันน้อย มีความมั่นใจในตนเองมากขึ้นอีกครั้งโดยที่ไม่ต้องเจ็บตัวจากการผ่าตัดอีกด้วย ซึ่งในบทความนี้เราจะไปทำความรู้จักกับการสลายไขมันด้วยความเย็นกันอย่างละเอียดว่าคืออะไร มีหลักการกำจัดไขมันด้วยความเย็นอย่างไร เหมาะกับใครบ้าง ให้คุณได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
SkinX แอปพลิเคชันพบแพทย์ผิวหนังออนไลน์ที่ช่วยให้การหาหมอผิวหนังเฉพาะทางเป็นเรื่องง่าย ๆ ไม่ต้องไปรอคิวที่คลินิกหรือโรงพยาบาลแบบเดิม ๆ อีกต่อไป สามารถปรึกษาแพทย์ผิวหนังได้ทันทีในราคาสุดคุ้ม พิเศษ! เฉพาะลูกค้า SkinX ที่เข้ามาปรึกษากับแพทย์ผิวหนังครั้งแรก สามารถรับคำปรึกษากับแพทย์ผิวหนังได้แบบไม่มีค่าใช้จ่าย อย่ารอช้า ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SkinX ได้เลยที่ SkinX-พบหมอผิวหนังออนไลน์ (App Store & Google Play)
สารบัญบทความสลายไขมันด้วยความเย็น (CoolSculpting) เป็นวิธีลดไขมันโดยการใช้อุณหภูมิต่ำมาก ๆ ถึงระดับที่เย็นกว่าจุดเยือกแข็งในการทำลายเซลล์ไขมันที่อยู่ภายใต้ผิวหนัง ทำให้เซลล์ไขมันบางส่วนตายและหดตัวลง ร่างกายก็จะกำจัดเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกผ่านระบบน้ำเหลือง ส่งผลให้เซลล์ไขมันที่อยู่ภายใต้ผิวหนังมีจำนวนลดลงและทำให้หุ่นเฟิร์ม ดูสมส่วนขึ้น
การทำ CoolSculpting หรือการลดไขมันด้วยความเย็นสามารถกำจัดเซลล์ไขมันได้มากถึง 20-25% เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเป็นวิธีลดไขมันโดยการลดจำนวนเซลล์ไขมันออกแบบไม่ต้องเจาะดูดไขมันหรือผ่าตัดใด ๆ ทำให้คุณสามารถลดไขมันได้ไม่ยากและไม่ต้องพักฟื้น ยิ่งหากคุณเป็นผู้ที่กำลังคุมน้ำหนัก เพื่อลดไขมันอยู่แล้ว การสลายไขมันด้วยความเย็นเพิ่มเติมจะยิ่งช่วยให้เห็นผลลัพธ์เร็วและชัดเจนขึ้นอย่างมาก
“CoolSculpting (CS) คือเครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นจากบริษัท Allergan Aesthetics ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ AbbVie ที่มุ่งเน้นในการพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีความงามทางการแพทย์ โดยมีผลิตภัณฑ์ที่โด่งดังอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น BOTOX (onabotulinumtoxinA), JUVEDERM Injection Gel Filler, Natrelle เป็นต้น นอกจากนี้ผู้ผลิต CoolSculpting ยังมีความเกี่ยวข้องกับ Thermage ซึ่งเป็นเครื่องกระชับผิวยอดนิยมอีกด้วย เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting นี้ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ในปี 2010 จึงมั่นใจได้ว่าสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการแพทย์สำหรับการลดเซลล์ไขมันได้อย่างปลอดภัย”
เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นหรือ CoolSculpting จะใช้หลักการกำจัดเซลล์ไขมันด้วยกระบวนการไครโอไลโปไลซิส (Cryolipolysis) หรือการแช่แข็ง โดยอาศัยคุณสมบัติของเซลล์ไขมันที่สามารถแข็งตัวได้เร็วกว่าเซลล์ผิวหนังมาใช้ในการทำลายเซลล์ไขมันแบบจำเพาะเจาะจงและไม่ไปทำลายเซลล์อื่นรอบข้าง
เมื่อเครื่อง CoolSculpting ทำงานก็จะส่งคลื่นความเย็นในการดึงความร้อนจากภายใต้ผิวหนังขึ้นและทำให้อุณหภูมิบริเวณนั้น ๆ ต่ำลง ทำให้เซลล์ไขมันที่โดนความเย็นถูกทำลายกลายเป็นผลึกและหยุดการทำงานไป จากนั้นร่างกายก็จะค่อย ๆ กำจัดเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกไปผ่านทางระบบน้ำเหลืองซึ่งเป็นกระบวนการกำจัดเซลล์ตามธรรมชาติต่อไป
Adipose cell หรือ เซลล์ไขมัน คือ เซลล์ประเภทหนึ่งภายในร่างกายโดยองค์ประกอบของเซลล์ไขมันจะมีชั้นไขมันอยู่ตรงกลางและห่อหุ้มไปด้วยเยื่อหุ้มเซลล์ที่มีโครงสร้างทำให้ส่วนไขมันและส่วนน้ำภายในร่างกายสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยหันด้านที่มีประจุออกภายนอกซึ่งเป็นส่วนของน้ำและหันด้านที่ไม่มีประจุเข้าข้างในซึ่งเป็นส่วนของไขมันนั่นเอง
เซลล์ไขมันในร่างกายเรานั้นจะมีอายุขัยที่ยาวกว่าเซลล์อื่น ๆ โดยจะอยู่กับร่างกายเราตั้งแต่เกิดจนถึงช่วยหมดอายุขัยเลยทีเดียว ในตอนแรกเกิดเซลล์ไขมันจะมีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่เมื่อโตขึ้นเซลล์ไขมันก็สามารถเพิ่มจำนวนและขยายตัวได้เรื่อย ๆ ยิ่งประกอบกับการใช้ชีวิตอย่างไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น รับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ไม่ออกกำลังกาย หรือมีความผิดปกติใด ๆ ภายในร่างกายเกิดขึ้น เซลล์ไขมันนี้ก็จะขยายตัวขึ้นได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้เซลล์ไขมันต่อเซลล์มีขนาดใหญ่กว่าปกติ
อย่างที่ได้ทราบไปแล้วว่าเซลล์ไขมันมีอายุขัยที่ยืนยาว ดังนั้นเซลล์ไขมันจะสามารถคงอยู่กับร่างกายเราไปได้ตลอด และถึงแม้จะทำการลดน้ำหนักแล้วก็ตามแต่เซลล์ไขมันก็ไม่ได้หายไปไหน ทำได้เพียงแค่ให้เซลล์ไขมันมีขนาดเล็กลงเท่านั้น
หากเป็นผู้ที่มีเซลล์ไขมันมากกว่าปกติถึงแม้ว่าจะลดน้ำหนักและคุมอาหารก็ตาม แต่เมื่อมีเซลล์ไขมันอยู่เท่าเดิมก็ไม่สามารถทำให้สัดส่วนร่างกายลงได้อย่างถาวร และเมื่อกลับไปรับประทานอาหารแบบเดิม ๆ หรือมากกว่าเดิมก็จะทำให้เซลล์ไขมันกลับมามีขนาดใหญ่เช่นเดิม
อีกประเด็นที่น่าสนใจมาก ๆ หากเซลล์ไขมันที่ขยายตัวขึ้นจากเดิมไปแล้วประมาณ 4 เท่าจากเซลล์ไขมันปกติ ร่างกายก็จะมีการผลิตเซลล์ไขมันเพิ่มเพื่อรองรับไขมันเพิ่มเติม นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไขมันส่วนเกินขึ้น
“เซลล์ใดที่ทำหน้าที่เก็บสะสมไขมัน? คำตอบคือเซลล์ไขมัน (Adipose cell) นั่นเอง แต่เซลล์ไขมันเองก็มีหน้าที่อื่น ๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นแหล่งสะสมพลังงานของร่างกาย เป็นส่วนที่ช่วยปกป้องร่างกายจากอุณหภูมิภายนอก ทำหน้าที่ในการปกป้องร่างกายจากการถูกแรงกระแทก อีกทั้งยังมีความสำคัญในเรื่องการยอมให้สารบางชนิดผ่านเข้าสู่เซลล์ มีส่วนช่วยในการละลายวิตามินที่มีคุณสมบัติในการละลายในไขมัน การทำหน้าที่สะสมไขมัน สารพิษอื่น ๆ เพื่อรอกำจัดออกจากร่างกาย และมีผลต่อการหลั่งฮอร์โมนบางชนิดอีกด้วย”
เพราะเหตุนี้ในทางการแพทย์จึงได้คิดค้นวิธีการที่สามารถกำจัดเซลล์ไขมันให้มีจำนวนลดลง เมื่อมีเซลล์ไขมันลดลงก็สามารถทำให้ปริมาณสะสมของไขมันใต้ผิวหนังลดลงไปด้วย ในปัจจุบันมีวิธีทางการแพทย์ที่ใช้สำหรับกำจัดเซลล์ไขมันใต้ผิวหนังให้ลดลงอยู่หลายวิธี แต่วิธีสลายไขมันที่ให้ผลอย่างชัดเจนและเป็นที่นิยมจะมีอยู่ 2 วิธี คือการดูดไขมันและการสลายไขมันด้วยความเย็น
การสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting มีข้อดีเด่น ๆ อยู่ดังนี้
การสลายไขมันด้วยความเย็นนั้นยังมีข้อจำกัดอยู่บางประการ ดังนั้นก่อนจะเข้าไปทำ CoolSculpting อาจต้องทราบข้อจำกัดของ CoolSculpting เสียก่อน ดังนี้
การสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting สามารถทำได้หลายบริเวณ ได้แก่
การใช้เครื่องกำจัดไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting ในการกำจัดเซลล์ไขมันแต่ละส่วนก็จะมีการใช้หัวแอปพลิเคเตอร์ (Applicator) หรือหัวยิงพลังงานที่มีรูปร่างแตกต่างกันไป โดยแพทย์จะประเมินตามความเหมาะสมว่าต้องการสลายไขมันส่วนไหนจะต้องใช้หัวแบบไหน
โดยหัวแอปพลิเคเตอร์มีอยู่หลายแบบ แต่ละแบบก็เหมาะสมกับการสลายไขมันบริเวณต่างกัน ดังนี้
การกำจัดไขมันด้วยความเย็นจากเครื่อง CoolSculpting เหมาะสมกับผู้ที่มีปัญหาเหล่านี้
ก่อนเข้ารับบริการสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting อาจต้องเข้ามาพบแพทย์เพื่อทำการประเมินสัดส่วนของร่างกายว่ามีความเหมาะสมที่จะใช้ CoolSculpting ในการทำหัตถการสลายไขมันหรือไม่ หากประเมินแล้วว่าเหมาะสมที่จะสลายไขมันด้วยความเย็นก็จะมีการนัดหมายเพื่อเข้ามาทำหัตถการอีกครั้ง
ส่วนในเรื่องการเตรียมตัวก่อนทำหัตถการ CoolSculpting อาจไม่ได้มีการเตรียมตัวอะไรมากนัก สามารถรับประทานอาหารและใช้ชีวิตประจำวันปกติก่อนทำหัตถการได้เลย
การทำ CoolSculpting จะมีขั้นตอนไม่มาก ใช้เวลาทำเพียงประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เลย โดยจะมีขั้นตอนดังนี้
หลังเข้ารับการทำหัตถการสลายไขมันด้วยความเย็นแล้วผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติเลย แต่เพื่อให้สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นอาจต้องมีการดูแลตนเองในเรื่องการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายเพื่อไม่ให้เซลล์ไขมันที่ยังอยู่เกิดการขยายตัวและแบ่งตัวเพิ่มขึ้นจนทำให้การสลายไขมันด้วยความเย็นนั้นไม่มีประโยชน์
หลังการรักษาทันที มีโอกาสเกิดรอยช้ำเป็นจ้ำเขียวหรือมีจุดเลือดออกเล็กที่ผิวหนังบริเวณที่ทำการรักษา เกิดจากแรงดูดสุญญากาศที่ใช้ในการดูดผิวหนังเข้าไปในหัว applicator ซึ่งสามารถหายไปได้เองในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์
การลดไขมันอย่างการกำจัดไขมันด้วยความเย็นนั้นเป็นการทำให้เซลล์ไขมันถูกทำลาย และถึงแม้ว่าเมื่อเวลาผ่านไปร่างกายจะค่อย ๆ มีการจัดเรียงเซลล์ไขมันใหม่ แต่ผิวที่เคยเต่งตึงไปด้วยเซลล์ไขมันอาจเกิดอาการหย่อนคล้อย ไม่กระชับได้
หากหลังทำ CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็นแล้วพบว่าผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ สามารถเข้ารับการทำหัตถการอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อให้ผิวกลับมากระชับดียิ่งขึ้นได้ เช่นการทำ Thermage FLX หรือการทำ HIFU Macrofocus
Thermage FLX เป็นเครื่องมือยกกระชับผิวโดยใช้คลื่นความร้อนวิทยุในการเข้าไปถึงผิวชั้นใน ความร้อนจะทำให้คอลลาเจนเก่าหดตัว ทำให้ผิวกระชับขึ้น อีกทั้งยังสามารถกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ เพื่อให้ผิวแข็งแรง แน่น เรียบเนียนขึ้นอีกด้วย
อ่านบทความเกี่ยวกับการยกกระชับด้วย Thermage FLX เพิ่มเติมได้ที่ : Thermage FLX
HIFU Macrofocus (UltraformerIII) เป็นอีกเครื่องมือที่ใช้ในการยกกระชับผิวด้วยการใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ยิงเข้าไปสู่ผิวชั้นลึกเพื่อให้ผิวแต่ละชั้นเกิดการหดตัวและกระชับขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังสามารถกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อ คอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวแข็งแรง เรียบเนียนขึ้นกว่าเดิม
อ่านบทความเกี่ยวกับการยกกระชับด้วย Hifu Macrofocus เพิ่มเติมได้ที่ : Hifu Macrofocus
ค่ารักษาการสลายไขมันด้วยความเย็นราคาจะอยู่ในช่วงหลักพันปลาย ๆ จนไปถึงหลักหมื่นต้น ๆ ต่อการรักษา 1 ครั้งหรือต่อบริเวณ ยิ่งหากมีบริเวณที่ต้องการสลายไขมันด้วยความเย็นกว้าง ราคาก็จะสูงขึ้นตามลำดับ
การทำ CoolSculpting นั้นเป็นหัตถการที่ไม่ใช่การผ่าตัดหรือใช้เจาะดูดใด ๆ จึงอาจไม่มีความเจ็บในส่วนนี้ แต่อาจรู้สึกเจ็บขณะที่ไขมันถูกแช่แข็งขณะที่เครื่อง CoolSculpting ส่งความเย็นไปยังเซลล์ไขมัน และอาจรู้สึกเจ็บจากการนวดเพื่อให้เซลล์ไขมันแตกตัว ในบางรายอาจเกิดอาการปวดช้ำหลังทำหัตถการได้ แต่อาการช้ำก็จะหายไปได้เองหลังทำ CoolSculpting ไปแล้วประมาณ 1-2 สัปดาห์
ผลลัพธ์หลังทำ CoolSculpting ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่ปกติแล้วในการทำ 1 ครั้งสามารถลดไขมันออกไปได้ประมาณ 10-25% หากเป็นผู้ที่มีชั้นไขมันหนาอาจทำให้สังเกตผลลัพธ์ได้ค่อนข้างยาก และอาจต้องเข้ารับการสลายไขมันซ้ำเพื่อให้เห็นผลชัดเจนขึ้น
การทำ CoolSculpting แล้วไม่ได้ผลอาจเป็นเพราะร่างกายมีความไม่เหมาะสมต่อการสลายไขมันด้วยความเย็น เพราะการทำ CoolSculpting นั้นเหมาะกับผู้ที่มีค่า BMI ไม่สูงมาก หากคุณมีค่า BMI ที่สูงเกินไปอาจทำให้การสลายไขมันด้วยความเย็นนั้นไม่เห็นผลชัดเจนแม้ว่าสัดส่วนบริเวณนั้นจะลดลงแต่ไม่มากเพียงพอกับความคาดหวังของผู้มารับการรักษา ซึ่งในกลุ่มนี้จะเหมาะกับการดูดไขมันมากกว่า
อีกทั้งการทำ CoolSculpting นั้นสามารถสลายไขมันได้แค่บริเวณใต้ผิวหนังเท่านั้น หากเป็นไขมันสะสมตามอวัยวะภายใน (visceral fat) หรือใต้กล้ามเนื้อการทำ CoolSculpting ก็ไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ต้องการได้
การทำหัตถการใด ๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่การผ่าตัดแต่เพื่อความปลอดภัย ควรจะเข้ารับบริการกับสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ โดยสามารถพิจารณาได้ดังนี้
ปัญหาไขมันส่วนเกินนั้นสามารถทำให้สูญเสียความมั่นใจในตัวเองได้ไม่ยาก อีกทั้งบางคนที่เคยผ่านการคุมน้ำหนักหรือออกกำลังกายมาแล้วแต่สัดส่วนก็ยังไม่ยอมลงตามไปเท่าที่ควรก็อาจเกิดความท้อแท้ โดยทางการแพทย์สามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting ซึ่งเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด และให้ผลลัพธ์ที่ดี อีกทั้งยังไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
แต่ก่อนจะเข้ารับบริการลดไขมันด้วย CoolSculpting ควรจะขอคำปรึกษาจากแพทย์ก่อน เนื่องจากการทำ CoolSculpting อาจมีข้อจำกัดบางประการที่อาจไม่ได้ตอบโจทย์กับทุกคน SkinX แอปพลิเคชันพบแพทย์ออนไลน์ที่รวบรวมแพทย์ผิวหนังจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำให้คุณสามารถพบแพทย์ได้ทุกที่ทุกเวลา อีกทั้งยังมีดีลสุดพิเศษเฉพาะลูกค้า SkinX เท่านั้น
อ้างอิง
Cloudwedi. (2022, March 31). 10 Benefits of CoolSculpting: An Effective Fat-Freezing Treatment. brynmawrdermatology. https://www.brynmawrdermatology.com/10-benefits-of-coolscupting/
Rachel, RE. (2022, February 17). CoolSculpting. WebMD. https://www.webmd.com/beauty/CoolSculpting
Kilmer, SL. Burn, AJ. & Zelickson, BD. (2016). Safety and efficacy of cryolipolysis for non-invasive reduction of submental fat. Lasers in Surgery and Medicine, 48:3–13. https://doi.org/10.1002/lsm.22440
บทความที่เกี่ยวข้อง
ดูทั้งหมด