สิวและผิวหน้า
24 มิถุนายน 2568

สิวไม่มีหัว (Blind Pimples หรือ Cystic Acne) มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “สิวตุ่มนูน (Papules)” เป็นสิวที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ปัญหาสิวประเภทนี้ มีลักษณะเป็นสิวไม่มีหัวนูน ๆ และมีตุ่มสีแดง ซึ่งมักพบสิวขนาดเล็กไปจนถึงขนาดปานกลาง บางรายอาจมองเห็นสิวอุดตันไม่มีหัวได้ไม่ค่อยชัดเจนนัก เนื่องจากมีการอักเสบระดับน้อยจึงเห็นเป็นตุ่มสีแดงจาง ๆ อย่างไรก็ตาม สิวไม่มีหัวไม่ควรบีบหรือกดสิวออกมา เพราะอาการอักเสบจะมากยิ่งขึ้นจนทำให้รู้สึกเจ็บปวดได้
ในบทความนี้ จะพาคุณไปรู้จักกับปัญหาสิวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสิวไม่มีหัว นูน ๆ เกิดจากอะไร และมีวิธีการรักษายังไง รวมไปถึงตอบคำถามที่ทุกคนสงสัยเกี่ยวกับสิวไม่มีหัว
SkinX แอปพลิเคชันปรึกษาแพทย์ผิวหนัง ให้คุณสามารถปรึกษาแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญได้ทุกที่ โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สถานพยาบาล เพียงดาวน์โหลดแอป ก็สามารถปรึกษาครั้งแรกได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมแนะนำคลินิกที่ให้บริการรักษาสิวจากทั่วประเทศ และโปรโมชันราคาดีอีกมากมาย ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SkinX ได้เลยที่ App Store & Play Store
สรุป “สิวไม่มีหัว” เกิดจากอะไร?
สิวอักเสบไม่มีหัวเกิดจากความผิดปกติใน Pilosebaceous Unit ที่มีการรวมตัวกันของเคราติน (Keratin) ไขมันจากต่อมไขมัน และแบคทีเรีย จนทำให้เกิดการอุดตันที่ท่อรูขุมขน (Follicular Plug) อีกทั้งปริมาณการผลิตน้ำมันของต่อมไขมัน และเชื้อแบคทีเรียในรูขุมขน (Proprionibacterium Acnes) ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดสิวไม่มีหัวเช่นเดียวกัน
เมื่อเชื้อแบคทีเรียชนิดแกรมบวก (Gram Positive) สะสมในรูขุมขนปริมาณมากจนเกินไป จะส่งผลให้เกิดการอักเสบบริเวณผิว จนกลายมาเป็นสิวแดง ๆ ไม่มีหัว แบบที่ใครหลายคนเคยเป็นกันนั่นเอง
โควทข้อความ : “Pilosebaceous Unit คือ ชื่อที่เรียกรวมระหว่างรูขุมขน (Follicle) และต่อมไขมัน(Sebaceous Gland)”
นอกจากสาเหตุที่กล่าวไว้ในข้างต้นนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย ที่สามารถทำให้เกิดสิวไม่มีหัวได้ ดังนี้
สิวนูนหรือสิวไม่มีหัวเป็นสิวที่อยู่ในกลุ่มสิวอักเสบ (Inflammatory Acne) ซึ่งมีลักษณะเป็นสิวตุ่มนูนแดง (Papule) โดยภายในกลุ่มสิวอักเสบยังมีสิวรูปแบบอื่น ๆ ที่มีความแตกต่างจากสิวอักเสบไม่มีหัว ดังนี้
ส่วนกลุ่มสิวไม่อักเสบ (Non-Inflammatory acne) ที่เป็นสิวอุดตัน แต่ไม่มีอาการอักเสบอื่น ๆ จะมีความแตกต่างจากสิวไม่มีหัวค่อนข้างมาก ดังนี้
เมื่อรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวแดง ๆ ไม่มีหัวแล้ว ส่วนต่อไปเราจะมาดูกันต่อว่า สิวไม่มีหัวมักเกิดบริเวณไหนบนใบหน้าของเราได้บ้าง?
สิวที่แก้มมักมาจากสิ่งสกปรก เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อโรคที่เกิดการสะสมบริเวณใบหน้า ยกตัวอย่างเช่น สิ่งสกปรกจากโทรศัพท์, ปลอกหมอน, เส้นผม และหน้ากากอนามัย รวมถึงพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่อาจมีการสัมผัสใบหน้าโดยไม่รู้ตัว ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เป็นสิวได้
ปัญหาสิวอุดตันที่คางไม่มีหัวสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เพราะสิวที่คางมีความสัมพันธ์กับระดับฮอร์โมน หากฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) กระตุ้นทำให้มีการหลั่งซีบัม (Sebum) ออกมาจากรูขุมขนมากเกินไป ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสที่จะเกิดสิวรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากในซีบัม (Sebum) มีส่วนประกอบจากไตรกลีเซอไรด์ที่อาจทำให้ใบหน้าเกิดการอักเสบมากขึ้นได้ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ยังส่งผลให้เกิดสิวเม็ดเล็ก ๆ ไม่มีหัวได้อีก ดังนี้
กรณีเป็นสิวที่จมูกไม่มีหัวมักเกิดจากเรื่องของการผลิตน้ำมันมากเกินไปของต่อมไขมัน โดยเฉพาะบริเวณช่วง T-zone ของใบหน้า อีกทั้งบางกรณีอาจมาจากความผิดปกติในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ส่งผลให้เกิดการอุดตันได้ ซึ่งสิวไม่มีหัวยังสามารถเกิดสิวที่จมูกได้หลายรูปแบบ ทั้งสิวตุ่มหนอง, สิวเสี้ยน, สิวหัวดำ หรือสิวอักเสบ เป็นต้น
สิวที่หน้าผากไม่มีหัวเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นความมันส่วนเกินที่สะสมอยู่บริเวณ T-zone, ระดับฮอร์โมนที่ไม่สมดุล, การอับชื้นของสิ่งสกปรก หรือการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมที่มีความมันมากจนเกินไป ก็อาจทำให้เกิดสิวผด หรือเกิดสิวที่หน้าผากได้
หลายคนอาจสงสัยว่า สิวไม่มีหัว นูน ๆ รักษายังไงได้บ้าง? ความเป็นจริงแล้วสิวไม่มีหัว รักษาได้หลากหลายวิธี ดังนี้

การใช้ยารักษาสิวไม่มีหัวเป็นวิธีที่หลายคนมักจะนึกถึงเป็นอันดับแรกเมื่อเกิดสิวไม่มีหัวนูน ๆ เพราะการรักษาสิวไม่มีหัวด้วยยามีให้เลือกหลากหลายตามความรุนแรงของสิว โดยตัวยาที่นิยมใช้ในการรักษา มีดังนี้
ยากลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ (Retinoids) มีความสามารถในการกระตุ้น Retinoic Acid Receptors (RARs) ซึ่งมีฤทธิ์ในการลดการอุดตันรูขุมขนจากแบคทีเรีย และต้านการอักเสบ ซึ่ง Retinoids มีทั้งประเภทยาแต้มสิวอักเสบไม่มีหัวชนิดใช้ภายนอกและภายใน ซึ่งตัวยาที่อยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่ Tretinoin, Adapalene และ Tazarotene
Benzoyl Peroxide เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Benzac สิวไม่มีหัวใช้ทาเพื่อฆ่าเชี้อแบคทีเรีย และยังช่วยลดการอุดตันของสิวได้ โดยยา Benzoyl Peroxide มีในรูปแบบครีมทา และน้ำยาทำความสะอาดผิว ซึ่งมีความเข้มข้นตั้งแต่ 2.5-10% การใช้ยาประเภทนี้ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์เฉพาะทาง เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
วิธีรักษาสิวอักเสบไม่มีหัวด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) เป็นยาที่ใช้สำหรับฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และลดการอักเสบที่เกิดขึ้นจากสิว ผู้ที่เป็นสิวควรใช้ยาปฏิชีวนะร่วมกับ Benzoyl Peroxide เพื่อป้องกันการดื้อยา และการรักษาสิวด้วยยาปฏิชีวนะ ควบคู่กับ Benzoyl Peroxide ยังเป็นวิธีที่นิยมมากที่สุดในการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ
การรักษาสิวอักเสบไม่มีหัวด้วยกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) เป็นตัวยาที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป โดยมีความเข้มข้นตั้งแต่ 0.5-2 % ซึ่งกรดนี้มีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิว ส่งผลให้การอุดตันของรูขุมขนลดลง แต่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองขึ้นเล็กน้อยหลังใช้งานได้
กรดอะซีลาอิก (Azelaic Acid) เป็นวิธีรักษาสิวอุดตันไม่มีหัว ซึ่งจะต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์เท่านั้นถึงจะซื้อได้ ยาชนิดนี้เป็นยาต้านจุลชีพ (Antimicrobial) และสารต้านการสร้างเม็ดสี ทำให้กรดอะซีลาอิกช่วยลดการอุดตัน และลดรอยดำที่มาจากสิวอักเสบอีกด้วย ยาชนิดนี้มีให้เลือกใช้ทั้งรูปแบบของครีมและเจล
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ Sulfur, Sodium Sulfacetamide และ Resorcinol เป็นอีกหนึ่งในวิธีรักษาสิวไม่มีหัวที่สามารถใช้ได้จริง และหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไป โดยแต่ละตัวมีคุณสมบัติ ดังนี้
การฉีดคอร์ติโซนเป็นการใช้ยาฉีดเข้าไปโดยตรงบริเวณสิว ซึ่งวิธีรักษาสิวไม่มีหัวนี้ สามารถลดอาการอักเสบ และลดโอกาสในการเกิดรอยแผลเป็นได้ โดยปริมาณที่ควรฉีดจะอยู่ที่ 0.05-0.25 มล. ต่อ 1 รอย แต่วิธีรักษาสิวอุดตันไม่มีหัวแบบนี้ จำเป็นต้องทำโดยแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังเท่านั้น เพราะมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะสร้างเม็ดสีน้อยกว่าปกติ (Hypopigmentation)

วิธีรักษาสิวอักเสบไม่มีหัวแบบธรรมชาติสามารถทำได้ด้วยตนเอง โดยทำตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

การปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังเป็นวิธีการรักษาสิวอักเสบไม่มีหัวที่ดีที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่กลัวเรื่องของการดื้อยา แนะนำว่า ควรเข้าพบแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังโดยตรง เพื่อการรักษาสิวด้วยวิธีที่เหมาะสมมากที่สุด
สำหรับใครที่กำลังมองว่า การเข้าพบแพทย์ผิวหนังเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก คุณสามารถตัดปัญหาเหล่านี้ทิ้งไปได้เลย เพราะปัจจุบันมีตัวช่วยดี ๆ อย่างแอปพลิเคชั่น SkinX ที่รวบรวมแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง จากสถานพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศกว่า 210 ท่าน มาช่วยแก้ปัญหาเรื่องสิวที่กวนใจคุณ อยู่ที่ไหนก็สามารถปรึกษาได้ เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส
สิวไม่มีหัวหรือสิวอักเสบไม่มีหัว โดยปกติแล้วจะมีอาการดีขึ้นภายใน 4-6 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของแต่ละคน คุณจึงต้องดูแลรักษาสิวอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้สิวทิ้งรอยแผลเป็นไว้หลังการรักษาเสร็จสิ้น
สิวอักเสบไม่มีหัวสามารถรักษาแบบธรรมชาติได้ โดยอาจจะใช้การประคบร้อน, ประคบเย็น, ทาน้ำผึ้ง หรือใช้ครีมที่มีส่วนประกอบของ Benzoyl Peroxide ในการดูแลรักษาความสะอาดบนใบหน้าอยู่เสมอ ก็สามารถช่วยให้สิวอักเสบไม่มีหัวดีขึ้นได้
แหล่งข้อมูลอ้างอิงจาก
Begum, J. (2021, June 23). What to Know About Blind Pimples. WebMD. https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/acne/what-to-know-about-blind-pimples
Goh, C., Cheng, C., Agak, G., Zaenglein, A.L., Graber, E.M., Thiboutot, D.M., & Kim, J. (n.d.). Acneiform Disorders. Fitzpatrick’s Dermatology 9 TH Edition (1391-1404). McGraw-Hill Education.
Nichols, H. (2020, January 19). How to get rid of a blind pimple. Medical News Today. https://www.medicalnewstoday.com/articles/320250#outlook
Rabach, M. (2020, June 22). What That Acne Spot on Your Face Means, According to Science. Healthline. https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/pimple-acne-face-map
Whelan, C. (2022, March 11). How to Get Rid of a Blind Pimple. Healthline. https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/blind-pimple
บทความที่เกี่ยวข้อง
ดูทั้งหมด