Semaglutide คืออะไร? ต้องระวังอะไรบ้างเมื่อใช้เพื่อลดน้ำหนัก?

Semaglutide คือ ชื่อยาที่ถูกพูดถึงในกลุ่มคนที่ต้องการลดน้ำหนักมากที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยาออกฤทธิ์ช่วยลดความอยากอาหารได้มากกว่ายาลดน้ำหนักชนิดอื่นที่มีใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ในขณะเดียวกัน มีหลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นยาลดความอ้วน ทั้งที่ความจริงแล้วเป็นยารักษาเบาหวานชนิดหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดการใช้ยาผิดวิธี และเกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายได้

บทความนี้ SkinX จะพาไปทำความเข้าใจกันว่า Semaglutide คือยาอะไร มีกลไกในการออกฤทธิ์เพื่อลดน้ำหนักได้อย่างไร พร้อมรู้วิธีใช้และผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น เพื่อเป็นแนวทางให้ใช้ยาเบาหวานอย่างไม่เป็นอันตราย

Key Takeaways

• Semaglutide คือ ยารักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นยาที่มีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมน GLP1 ของร่างกาย ทำหน้าที่กระตุ้นการหลั่งอินซูลินจากตับอ่อน ลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความอยากอาหาร ชะลอการย่อยอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มนาน จึงถูกนำมาใช้กับการลดน้ำหนักเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
• ปัจจุบัน ยามี 2 รูปแบบ ทั้ง ยาเม็ดชนิดรับประทาน (Rybelsus) ซึ่งกินยาแบบรายวัน และยาฉีด (เช่น ชื่อ ยา Ozempic หรือ Wegovy) รูปแบบฉีดยาเข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนังสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
• ผลข้างเคียงที่พบบ่อยมักเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ฯลฯ แต่ผู้ใช้บางรายอาจเสี่ยงภาวะน้ำตาลต่ำ โดยเฉพาะหากใช้ร่วมกับยาลดน้ำตาลชนิดอื่น

สารบัญบทความ

• ทำความรู้จักก่อนใช้ Semaglutide คืออะไร?
• การปรับปริมาณการใช้ยา Semaglutide ขึ้นอยู่กับอะไร
• ข้อแนะนำในการเริ่มต้นใช้ Semaglutide
• ข้อควรระวังและคำเตือนที่สำคัญในการใช้ยา Semaglutide
• Semaglutide มีผลข้างเคียงอย่างไร
• Semaglutide ผลข้างเคียงที่พบไม่บ่อย แต่รุนแรง
• คำถามที่พบได้บ่อย (FAQs)
• ใช้ Semaglutide พร้อมปรึกษาลดน้ำหนักกับ SkinX

Semaglutide เป็นยาชนิดหนึ่งที่ใช้รักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยออกฤทธิ์กระตุ้นตัวรับฮอร์โมน Glucagon-Like Peptide-1 (GLP-1) ที่ร่างกายสร้างขึ้นมาตามธรรมชาติ เพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการทำงานของอินซูลิน ลดการหลั่งของฮอร์โมนกลูคากอนจากตับอ่อนที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้กระเพาะอาหารย่อยอาหารช้าลง ทำให้ความอยากอาหารลดลง และรู้สึกอิ่มนานขึ้น 

ด้วยเหตุนี้ Semaglutide จึงถูกนำมาใช้กับการลดน้ำหนักมากขึ้น ทำให้มีการพัฒนายาออกมา 2 รูปแบบหลัก เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมและจุดประสงค์ของการใช้ยา

• ยากิน (Semaglutide oral) อย่าง Rybelsus เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการฉีดยา แต่ยังคงได้รับผลลัพธ์ในการควบคุมความอยากอาหารและน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ
• ยาฉีด (Semaglutide injection) ที่มาในรูปแบบปากกาลดน้ำหนัก เช่น โปรแกรม Mounjaro และ โปรแกรม Wegory เป็นต้น ทั้งยังออกฤทธิ์ต่อเนื่องตามแบบยาฉีดเบาหวานสัปดาห์ละครั้ง เหมาะกับผู้ลดน้ำหนักที่ต้องการความสะดวก

การใช้ยา Semaglutide ควรปรึกษาแพทย์เป็นผู้ประเมินและกำหนดปริมาณยาตามความเหมาะสมของผู้ใช้แต่ละคน เนื่องจากร่างกายของแต่ละคนมีการตอบสนองต่อยาต่างกัน เพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ ปรับตัว และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น

ดังนั้น การปรับปริมาณยาชนิดนี้จึงขึ้นอยู่กับ

• ประวัติการเป็นเบาหวานหรือการใช้ยาเบาหวานชนิดอื่นมาก่อน เช่น Metformin, Sulfonylureas, Insulin, หรือยากลุ่ม GLP‑1 ชนิดอื่น
• น้ำหนักตัวและดัชนีมวลกาย (BMI) ต้องเป็นผู้ที่มี BMI ตั้งแต่ 30 kg/m² ขึ้นไป หรือ ≥ 27 kg/m² ที่มีภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากความอ้วน เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ไขมันพอกตับ นอนกรน เป็นต้น
• การตอบสนองต่อผลข้างเคียงของยาในช่วงเริ่มต้นหรือช่วงปรับขนาดยา เช่น อาการคลื่นไส้ อาเจียน
• ปัญหาสุขภาพร่วม เช่น โรคตับ ไต หรือปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร

สำหรับใครที่เริ่มใช้ Semaglutide ซึ่งเป็นยาเบาหวานเพื่อลดน้ำหนัก หรือควบคุมน้ำตาล ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ ห้ามซื้อยามาใช้เองหรือปรับยาเอง โดยมีข้อแนะนำในการเริ่มใช้ยา ดังนี้

• เริ่มจากใช้ยาขนาดต่ำ จากนั้นค่อย ๆ เพิ่มปริมาณยาให้สูงขึ้น เพื่อให้ร่างกายปรับตัวกับขนาดยา
• ถ้าใช้แบบฉีด ควรฉีดใน “วันเดิมของทุกสัปดาห์” เพื่อคงระดับการออกฤทธิ์ของยาให้เสถียร
• หากใช้แบบเม็ด ควรรับประทานก่อนอาหารเช้า ตอนท้องว่าง ดื่มน้ำไม่เกิน 120 มล. และรออย่างน้อย 30 นาทีจึงจะทานอาหาร น้ำ หรือยาอื่นได้
• ควบคุมอาหารควบคู่ไปด้วยกัน เช่น ลดอาหารประเภทไขมันสูง เพื่อลดการเกิดผลข้างเคียงของการคลื่นไส้ อาเจียน แนะนำเลือกรับประทานอาหารคลีน หรืออาหารลดน้ำหนัก
• หากมีอาการไม่พึงประสงค์ เช่น คลื่นไส้มาก อาเจียน หรือท้องเสีย ควรแจ้งแพทย์ เพราะอาจต้องลดขนาดยาหรือชะลอการปรับยา
• หากลืมฉีดนานเกิน 5 วัน ห้ามฉีดเองทันที ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ

แม้ Semaglutide ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็มีข้อควรระวังและคำเตือนสำคัญในการใช้ยาเบาหวานชนิดนี้ที่คุณห้ามละเลยเป็นอันขาด เพราะอาจเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายได้

กลุ่มคนที่ควรระวังและปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา

• คนที่มีประวัติส่วนตัวหรือครอบครัวของมะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิด Medullary Thyroid Carcinoma (MTC) หรือความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ MEN 2
• คนที่มีประวัติตับอ่อนอักเสบ (Pancreatitis) หรือมีอาการปวดท้องรุนแรงที่ไม่ทราบสาเหตุ
• คนที่มีโรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี (Gallbladder Disease) หรือมีปัจจัยเสี่ยงของนิ่วในถุงน้ำดี
• คนที่มีโรคไต (Kidney Disease) หรือใช้งานร่วมกับยาที่มีผลต่อไต
• คนที่มีโรคเกี่ยวกับ สายตา/จอตา (Diabetic Retinopathy) โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน
• คนที่มีภาวะชะลอการย่อยอาหาร (Gastroparesis) หรืออาการเกี่ยวกับกระเพาะ/ลำไส้
• คนที่มีอาการเสี่ยงต่อ ภาวะน้ำตาลต่ำ (Hypoglycemia) โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับยาเบาหวานลดน้ำตาลตัวอื่น
• คนที่มีอาการภูมิแพ้รุนแรง หรือในอดีตมีอาการช็อกจากยา
• คนที่กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
• คนที่วางแผนต้องเข้ารับ การผ่าตัด/วางยาสลบ ไม่ควรใช้ยาเบาหวานชนิดนี้

Semaglutide มักทำให้เกิดผลข้างเคียงเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ท้องผูก ท้องอืด กรดไหลย้อน หรือรู้สึกอิ่มเร็วกว่าปกติ ซึ่งเป็นผลจากการที่ยาชะลอการย่อยอาหาร อาการเหล่านี้ป้องกันได้ หากเลือกรับประทานอาหารปริมาณไม่มากเกินไป ลดอาหารประเภทไขมัน เลี่ยงของทอด หรือเนื้อสัตว์ติดมัน 

หากมีใช้ยาเบาหวานชนิดอื่นควบคู่ไปด้วย อาจมีความเสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลต่ำ จึงควรติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เจาะน้ำตาลปลายนิ้วที่บ้านเป็นระยะ และปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลหากมีภาวะน้ำตาลต่ำ ส่วนใครที่ใช้ยาฉีดเบาหวาน สัปดาห์ละครั้ง อาจพบรอยแดงหรือเจ็บเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด ซึ่งมักไม่รุนแรงและหายได้เอง

นอกจากผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรงแล้ว ยังมีบางคนที่ใช้ Semaglutide แล้วเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง ซึ่งมักจะเกิดขึ้นได้น้อย โดยผลข้างเคียงที่พบไม่บ่อยแต่รุนแรงนั้น มักจะเกิดอาการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

• ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน (ปวดท้องรุนแรงมาก)
• ภาวะการมองเห็นที่ผิดปกติสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
• ภาวะเลือดในน้ำตาลต่ำ ทำให้รู้สึกปวดหัว อ่อนแรง เหงื่อออก สับสน หงุดหงิด
• มีปัญหาเกี่ยวกับไต เสี่ยงเกิดภาวะไตวาย
• มีอาการบวมหรือมีก้อนที่คอ เสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ (พบน้อยมาก)

รวมถึงอาการรุนแรงอื่น ๆ ที่เกิดจากการใช้ยาเบาหวาน ดังนั้น หากเกิดอาการเหล่านี้ แนะนำให้หยุดใช้ยา และรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด

Semaglutide กับ Ozempic ต่างกันอย่างไร

ทั้งสองเป็นยากลุ่มเดียวกัน แต่ Ozempic เป็นชื่อทางการค้ายา Semaglutide ที่ใช้รักษาเบาหวานชนิดที่ 2 ในขณะที่คลินิกเสริมความงามบางแห่งนำปากกาลดน้ำหนักไปใช้เพื่อลดน้ำหนัก

Semaglutide 1 แท่ง ฉีดได้กี่ครั้ง

ปากกาลดน้ำหนักราคาเริ่มต้นที่ 5,000 บาท/แท่ง สามารถฉีดได้ 4-5 ครั้ง (สัปดาห์ละ 1 ครั้ง) แต่ทั้งนี้ จำนวนการฉีดขึ้นอยู่กับขนาดยาที่แพทย์สั่ง ห้ามปรับขนาดและจำนวนครั้งโดยเด็ดขาด

Semaglutide ถือเป็นหนึ่งในยาที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่อยากลดน้ำหนัก เพราะมีการออกฤทธิ์ที่ช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน และลดการหลั่งของฮอร์โมนกลูคากอนที่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดที่เพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ SkinX ขอแนะนำให้ใช้ยาชนิดนี้อย่างระมัดระวัง ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ ควบคู่กับการคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างจริงจัง เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นและหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่จะตามมานั่นเอง

หากกำลังมองหาผู้ช่วยให้คำปรึกษาที่สะดวกและเชื่อถือได้เกี่ยวกับการใช้ Semaglutide เพื่อลดน้ำหนัก ขอแนะนำแอปปรึกษาแพทย์ออนไลน์ SkinX ที่ใช้งานง่าย ให้คุณเข้าถึงแพทย์ได้จากทุกที่ ปรึกษาก่อนได้ ยังไม่ต้องจ่ายทันที รู้ค่าบริการชัดเจน สรุปผลการรักษารวดเร็ว พร้อมบริการส่งยาถึงบ้าน มีเภสัชกรให้คำแนะนำตลอดการดูแล ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SkinX ได้เลยที่ App Store สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS และ Play Store สำหรับระบบปฏิบัติการ Andriod 

แอปพลิเคชัน ปรึกษาปัญหาและดูแลผิวโดยแพทย์ผิวหนังผู้ชำนาญการ 

ครบ จบ เคลียร์ใน 15 นาที!

• FB : SkinX พบแพทย์ผิวหนังออนไลน์
• IG : skinx.thailand
• Line : @skinx.official
• TikTok : skinxthailand
• X : @skinxthailand
• Tel : 02 038 5505
• E-mail : service@skinx.app

อ้างอิง

Cleveland Clinic. (2025). Semaglutide Injection (Weight Management). Cleveland Clinic. https://my.clevelandclinic.org/health/drugs/23611-semaglutide-injection-weight-management

Mayo Clinic Team. (2025, November 1). Semaglutide (subcutaneous route). Mayo Clinic. https://www.mayoclinic.org/drugs-supplements/semaglutide-subcutaneous-route/description/drg-20406730

Melisa Puckey, BPharm. (2025, October 20). Semaglutide. Drug.com. https://www.drugs.com/semaglutide.html

Robert F. Kushner, et al. (2020, May 22). Semaglutide 2.4 mg for the Treatment of Obesity: Key Elements of the STEP Trials 1 to 5. Obesity: A Research Journal. https://onlinelibrary.wiley.com/doi/full/10.1002/oby.22794

โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่. (2025, July 28). ความหวังครั้งใหม่ในการควบคุมน้ำหนักตัว. Bangkok Hosptal Chiang Mai. https://www.bangkokhospital.com/th/chiangmai/content/a-chink-of-light-for-body-weight-control-bcm