หน้าหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ทำยังไงดี? ปัญหากวนใจที่แก้ไม่ยาก!

หน้าหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ทำยังไงดี? ปัญหาผิวหน้าหมอง ผิวหน้าไม่สดใส หน้าคล้ำ เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย สามารถเกิดได้ง่ายเพียงแค่รอบตัวเรา รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวัน 

ในบทความนี้ SkinX จะพาไปหาสาเหตุต้นตอ ตัวการที่ทำให้เกิดความหมองคล้ำบริเวณใบหน้า รวมไปถึงบอกวิธีการรักษา วิธีแก้ปัญหา และวิธีการป้องกันปัญหาหน้าหมองที่กวนใจ แก้ได้ไม่ยาก

 

SkinX แอปพลิเคชันพบแพทย์ออนไลน์ที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาผิวของคุณไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ให้บริการโดยแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำ 

สรุปปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ

• ผิวหมองคล้ำ คือ ผิวหน้าที่ขาดความกระจ่างใส สีผิวไม่สม่ำเสมอ ทั้งยังแห้งกร้านไม่ชุ่มชื้น จนอาจเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมาได้ ทั้งปัญหาสิว ผิวแห้ง และริ้วรอยบนใบหน้า
• ผิวหมองคล้ำมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยทั้งภายในและภายนอก เช่น พฤติกรรมการใช้ชีวิต, สภาพแวดล้อมและสภาพอากาศที่เต็มไปด้วยมลภาวะ, การพักผ่อนไม่เพียงพอ และอายุ เป็นต้น 
• วิธีดูแลผิวหมองคล้ำให้กลับมาสดใส ทำได้โดยการทำความสะอาดและใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า, ผลัดเซลล์ผิว, รับประทานอาหารที่มีวิตามินและดื่มน้ำมาก ๆ, ทำหัตถการด้านความงาม รวมถึงปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง
• การป้องกันผิวหมองคล้ำสามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่ ทาครีมกันแดด, หลีกเลี่ยงการจ้องหน้าจอคอมนาน ๆ, งดบุหรี่, พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกาย

สารบัญบทความ

หน้าหมองคล้ำคืออะไร?

หน้าหมองคล้ำคือ ผิวหน้าที่หมองคล้ำขาดความกระจ่างใส ไม่ชุ่มชื้น สังเกตได้จากสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ, ดูหมอง, ไม่สดใส, ผิวแห้งกร้าน รวมถึงผิวไม่เรียบเนียน

ผิวหน้าหมองคล้ำเป็นบ่อเกิดของปัญหาผิวหน้าต่าง ๆ ตามมาได้ ไม่ว่าจะปัญหาสิว ปัญหาผิวแห้ง หรือปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า ดังนั้น SkinX จะพามาหาสาเหตุ และวิธีดูแลรักษาผิวให้กลับมาสดใส สุขภาพดีอีกครั้ง

หน้าหมองคล้ำคืออะไร?

ผิวหน้าหมองคล้ำเป็นปัญหากวนใจสำหรับใครหลายคน ด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต, สภาพแวดล้อมรอบตัว, สภาพอากาศ ตลอดจนความเครียด สาเหตุเหล่านี้ล้วนทำให้เกิดหน้าหมองคล้ำ และสีผิวไม่สม่ำเสมอ ทั้งนี้หน้าหมองคล้ำสามารถเกิดได้ทั้งปัจจัยภายนอกและภายใน ได้แก่

ปัจจัยภายนอก

• มลภาวะในชีวิตประจำวัน

สภาวะมลพิษทางอากาศ ทั้งจากฝุ่น PM 2.5 ควันรถ หรือโรงงาน ที่ต้องเผชิญในทุกวัน ทำให้เกราะความชุ่มชื้นของผิวหน้าเราลดลง สารอนุภาคละอองฝุ่นผ่านเข้าสู่ผิวหนังได้ ส่งผลให้เซลล์ผิวเปลี่ยนแปลง นำไปสู่ปัญหาผิวต่าง ๆ ได้แก่

• ผิวหมองคล้ำ
• จุดด่างดำบนใบหน้า
• ผิวบอบบาง 
• ผิวแพ้ง่าย
• ผิวมัน 
• ริ้วรอยบนใบหน้า
  
  

• สภาพอากาศ

สภาพอากาศก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำได้ ตัวอย่างเช่น

• แสงแดด มีรังสียูวีเอ (UVA) และรังสียูวีบี (UVB) ที่ทำร้ายผิวได้ โดยรังสียูวีเอส่งผลให้เกิดผิวหมองคล้ำ, ผิวไหม้แดด, ผิวคล้ำแดด, ฝ้า, กระ และจุดด่างดำ ส่วนรังสียูวีบีทำให้เกิดผิวที่แก่ก่อนวัย, ผิวเกรียมแดด, ผิวหนังอักเสบ และก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ด้วย
• อากาศหนาวเย็น ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ส่งผลให้ผิวแห้ง แตกเป็นขุย และเกิดผิวหน้าหมองคล้ำตามมา
  
  

• ไม่ผลัดเซลล์ผิว

ปกติแล้วเซลล์ผิวหนังที่ตายมักจะหลุดลอกออกไปทุก 28 วัน แต่หากร่างกายผลัดเซลล์ผิวช้า อาจเกิดการสะสมของเซลล์ผิวหนังที่ตาย รวมถึงขี้ไคล เหงื่อ และมลภาวะที่ตกค้างอยู่บนใบหน้า ส่งผลให้ผิวหมองคล้ำ หยาบกร้าน และดูดซึมผลิตภัณฑ์ดูแลผิวได้ไม่เต็มที่ เราจึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เพื่อแก้ปัญหาผิวหน้าดำคล้ำและสีผิวไม่สม่ำเสมอ

• การสูบบุหรี่

หากร่างกายได้รับสารคาร์บอนมอนอกไซด์และทาร์ในควันบุหรี่ไปนาน ๆ สารพิษนี้ไม่เพียงทำลายสุขภาพภายใน แต่ยังส่งผลร้ายต่อผิวพรรณของเราได้ ดังนี้

• ประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือดลดลง 
• เกิดอนุมูลอิสระเพิ่มมากขึ้น 
• การสร้างเม็ดเลือดของร่างกายแย่ลง
• ไม่สามารถผลักวิตามินไปสู่ผิวได้ 
• เกิดความผิดปกติของกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวหมองคล้ำ, หย่อนคล้อย, เกิดริ้วรอย, หน้าโทรม และผิวหยาบกระด้าง 
• ทำลายการสร้างคอลลาเจนในผิว
  
  

• การดื่มน้ำไม่เพียงพอ

หากร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ อาจทำให้ประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือดลดลง ส่งผลให้ผิวพรรณดูซีด และไม่สดใส มีแนวโน้มเกิดความหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น และขรุขระ ก่อให้เกิดผิวหน้าหมองคล้ำได้

• การบำรุงผิวพรรณ

ผิวหน้าหมองคล้ำอาจเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณที่มากเกินไปและน้อยเกินไปได้ หากขาดการบำรุงผิว ผิวหน้าของเราจะแห้ง ทำให้เกิดผิวหมองคล้ำ, ไม่สดใส, ผิวแห้งแตกลาย และไม่เรียบเนียน 

แต่หากบำรุงผิวมากเกินไป เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหลายตัวพร้อมกัน ก็อาจส่งผลให้ผิวหน้าหมองคล้ำได้ เนื่องจากส่วนผสมบางชนิดอาจไม่ถูกกัน ทำให้ประสิทธิภาพครีมตัวอื่นลดลง เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล (Retinol) กับ AHA/BHA ที่มีฤทธิ์เป็นกรดร่วมกัน จะทำให้ผิวบางลงและไวต่อแสงแดด ส่งผลให้ผิวหมองคล้ำหรืออักเสบได้

ปัจจัยภายใน

• อายุที่เพิ่มมากขึ้น

 

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนในร่างกายจะลดลงเรื่อย ๆ และเมื่อขาดคอลลาเจน ผิวพรรณที่เคยเต่งตึงและอวบอิ่มจะเริ่มเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมาได้ เช่น

 

• ผิวมีริ้วรอยมากขึ้น 
• ผิวหย่อยคล้อย 
• ผิวยืดหยุ่นและชุ่มชื้นน้อยลง 
• ผิวหน้ามีฝ้าและกระเพิ่มมากขึ้น 
• ผิวหน้าหมองคล้ำลง

   

• พักผ่อนไม่เพียงพอ

 

การพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้ผิวของเราไม่สดใส ดูหมองคล้ำ ทั้งยังเกิดสิวหรือริ้วรอยได้ง่าย นอกจากนี้หากนอนหลับไม่สนิทก็อาจส่งผลให้ประสิทธิภาพของกระบวนการผลัดเซลล์ผิวลดลงอีกด้วย

7 วิธีดูแลผิวหน้าหมองคล้ำให้กลับมาสดใส!

การมีผิวที่ดีนั้นไม่เพียงแต่เสริมสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง ยังบ่งบอกถึงการดูแลเอาใจใส่ต่อสุขภาพตนเองด้วย ในหัวข้อนี้ SkinX จะพามาทำความรู้จักกับ “7 วิธีดูแลผิวหน้าหมองคล้ำ” ที่คุณสามารถทำตามได้ง่าย ๆ เพื่อให้ผิวพรรณดูสุขภาพดี ชุ่มชื้น และสดใส

1. ทำความสะอาดผิวหน้า

เนื่องจากผิวเป็นเกราะป้องกันมลภาวะที่ต้องเจอในแต่ละวัน จึงเกิดการสะสมเหงื่อไคล เซลล์ผิวที่ตาย และสิ่งสกปรกบนใบหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดผิวหน้าหมองคล้ำ การล้างหน้าจึงเป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลผิว 

การล้างหน้าที่ถูกวิธีควรใช้น้ำธรรมดาหรือน้ำอุ่น ล้างไปพร้อมกับผลิตภัณฑ์ล้างหน้าโดยเฉพาะ แล้วนวดตามแนวรูขุมขน ประมาณ 15-20 วินาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเปล่า ทั้งนี้ควรล้างหน้า 2 ครั้งต่อวัน ในช่วงเช้าและเย็น เพื่อให้ผิวสะอาดกระจ่างใส

2. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า

การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจะช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำให้กลับมาสดใส มีสีผิวสม่ำเสมอได้ ทั้งยังเป็นเกราะป้องกันผิวอีกด้วย ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวก็มีมากมายหลายประเภท เราควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง เช่น

• มาส์กหน้าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ใบหน้า
• ใช้เซรั่มหรือครีมบำรุง เพื่อเพิ่มความกระจ่างใส
• ใช้เซรั่มหรือครีมบำรุงประเภท Anti-Aging เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ลดริ้วรอยบนใบหน้า
• ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพื่อฟื้นฟูผิวที่หมองคล้ำให้กลับมาดูชุ่มชื้น สุขภาพดี

Fact: “การใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อเปลี่ยนสีผิวตามท้องตลาดที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจส่งผลร้ายแรงต่อผิวได้ เนื่องจากครีมเปลี่ยนสีผิวจะใส่สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) ที่มีความเข้มข้นสูง หากใช้ไปนาน ๆ จะส่งผลให้ผิวของเราบางลง, เกิดผิวเสื่อมก่อนวัย, เกิดรอยเหี่ยวย่น ตลอดจนเกิดเนื้องอกผิวหนังและมะเร็งผิวหนังได้”

3. ผลัดเซลล์ผิว

สาเหตุหนึ่งของผิวหมองคล้ำคือการสะสมสิ่งสกปรกไว้บนผิวหน้า การผลัดเซลล์ผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวหน้าตนเองจึงช่วยเผยผิวใหม่ที่สดใส ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้

• สครับผิวเบา ๆ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อสครับจำพวกน้ำตาล เกลือ และกากกาแฟ
• ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น AHA หรือ BHA

Fact: “ AHA (Alpha Hydroxy Acid) และ BHA (Beta Hydroxy Acid) มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวทั้งคู่ โดย AHA สามารถละลายในน้ำ ส่วน BHA จะละลายในน้ำมัน ดังนั้น BHA จึงสามารถช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้ ในขณะที่ AHA ช่วยให้ผิวเรียบเนียน แต่มีความเข้มข้นสูงกว่า จึงควรใช้แต่น้อย”

4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดูแลผิวหมองคล้ำด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพอ ไม่เพียงช่วยปรับความสมดุลในร่างกายเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผิวพรรณของเราดูชุ่มชื้น ไม่หมองคล้ำ ดูสุขภาพดีด้วย

5. บริโภคอาหารที่มีวิตามิน

วิตามินต่าง ๆ เช่น วิตามินซี วิตามินอี และวิตามินบี 3 ช่วยแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ และบำรุงผิวพรรณของเราให้ดูสดใสได้ ดังนี้

 

• ช่วยต้านอนุมูลอิสระ 
• ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน 
• ลดการผลิตเม็ดสี
• เป็นเกราะป้องกันยูวีจากแสงแดด

6. หัตถการด้านความงาม

หัตถการเสริมความงามใบหน้าเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เพราะช่วยให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งไม่หมอง สีผิวมีความสม่ำเสมอ และผิวเรียบเนียนดูสุขภาพดีได้ ทั้งนี้การทำหัตถการเสริมความงามควรปรึกษาแพทย์และทำโดยผู้เชี่ยวชาญ

• เลเซอร์หน้าใส
  
  

การใช้เทคโนโลยีเลเซอร์จะช่วยกำจัดเม็ดสีเมลานินที่อยู่ใต้ผิวหนัง จึงช่วยลดเม็ดสีส่วนเกินที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำและสีผิวไม่สม่ำเสมอ ดูสว่างสดใสขึ้น 

• การ Detox ผิว
  
  

การ Detox ผิว เป็นการชำระล้างสิ่งสกปรกและมลภาวะต่าง ๆ ได้อย่างล้ำลึก สามารถกำจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขนออกไป ให้ผิวหน้าที่หมองคล้ำ กลับมากระจ่างใสขึ้น 

• Rejuran
  
  

การฉีด Rejuran เป็นการฟื้นฟูผิวจากภายในสู่ภายนอกด้วยสารสกัด DNA จากปลาแซลมอน ช่วยกระตุ้นให้เกิดเซลล​์ผิวใหม่ แก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ

7. ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง SkinX

การปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะแพทย์สามารถวินิจฉัยปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ หรือปัญหาผิวต่าง ๆ และให้คำแนะนำได้อย่างตรงจุด ซึ่งในปัจจุบันก็มีช่องทางปรึกษาแพทย์ออนไลน์อย่างแอปพลิเคชัน SkinX ที่้เข้าถึงได้ง่าย ทั้งสะดวก ไม่ยุ่งยาก ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็พบหมอได้โดยไม่ต้องรอคิว ที่สำคัญคือ มีแพทย์ผิวหนังให้เลือกปรึกษาจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำถึง 210 ท่าน จึงปลอดภัย เชื่อถือได้

การป้องกันผิวหน้าหมองคล้ำ

ทาครีมกันแดด

ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปบริเวณใบหน้าและลำคอ ก่อนออกแดด 20 นาที หากต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง และควรหลีกเลี่ยงการเผชิญแดดจัด

หลีกเลี่ยงการจ้องหน้าจอคอม

แสงสีฟ้า (Blue Light) จากหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะทำให้ผิวเกิดจุดด่างดำ และทำให้หน้าหมองคล้ำ หากต้องใช้คอมพิวเตอร์ทั้งวัน ควรอยู่ห่างจอประมาณ 14-24 นิ้ว ร่วมกับปรับลดแสงสว่างหน้าจอลง ก็จะช่วยลดการทำร้ายผิวได้ในระดับหนึ่ง

เลิกสูบบุหรี่

สารนิโคตินในบุหรี่เป็นสาเหตุให้เส้นเลือดตีบตัน ทำให้เลือดไม่ไหลเวียน ส่งผลให้ผิวแห้ง และหมองคล้ำ อีกทั้งสารต่าง ๆ ในบุหรี่ยังทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินที่คอยสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับผิวอ่อนแอลง

พักผ่อนให้เพียงพอ

การพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้กระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่หยุดชะงัก ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ผิวจึงหมองคล้ำ และเกิดสิวได้ง่าย

การออกกำลังกาย

การออกกำลังกายทำให้หัวใจสูบฉีดเลือด และช่วยให้เลือดลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงที่ผิวมากขึ้น ส่งผลให้ผิวพรรณของเราดูกระจ่างใส ไม่หมองคล้ำ

คำถามที่พบบ่อย

หน้าหมองคล้ำควรใช้ผลิตภัณฑ์อะไรดี

เพื่อแก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินบี 3 หรือวิตามินอี ที่ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใส ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น BHA, AHA หรือผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว เช่น มอยส์เจอไรเซอร์ ไฮยารูรอน (Hyaluronic Acid) เป็นต้น

หน้าหมองคล้ำใช้อะไรก็ไม่หาย

ปัญหาหน้าหมองคล้ำใช้อะไรก็ไม่หาย อาจเกิดขึ้นจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรา เช่น 

• พักผ่อนไม่เพียงพอ 
• ไม่ออกกำลังกาย 
• ดื่มน้ำไม่เพียงพอ
• ขาดวิตามิน 
  
  

หากปฏิบัติตามวิธีป้องกันผิวหน้าหมองคล้ำแล้วยังไม่ได้ผล ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง เพื่อให้แพทย์ได้วินิจฉัยและรักษาอาการได้อย่างตรงจุด และทันท่วงที

สรุป

ผิวหน้าหมองคล้ำ ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรา หากเราหันมาดูแลผิวอย่างมีวินัย และลองปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ปัญหาหน้าคล้ำ หน้าหมองก็จะค่อย ๆ หายไป แต่หากรู้สึกว่าทำวิธีไหนก็ไม่หาย ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางดีที่สุด เพราะแพทย์สามารถวิเคราะห์ระดับความรุนแรง รักษาอาการ และจ่ายยาได้ตรงตามอาการ

 

ปรึกษาทุกปัญหาผิวกับแพทย์ผิวหนังได้ง่าย ๆ กว่า 210 ท่าน ผ่านทางแอปพลิเคชัน SkinX ที่สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องรอคิว รู้ผลทันที เพียงดาวน์โหลดแอป SkinX สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ Android และ IOS

ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก

 

เพ็ญพรรณ วัตนไกร. (7 ตุลาคม 2563). ครีมเปลี่ยนสีผิว ครีมฟอกสีผิว. คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล. https://www.rama.mahidol.ac.th/rama_hospital/th/services/knowledge/10072020-1002

 

Brazier Y. (2020, December 15). What are vitamins, and how do they work?. Medical News Today. https://www.medicalnewstoday.com/articles/195878

 

Fiji N. (2022, April 5). Have dull skin? These active skincare ingredients and their products will help. Vogue. https://www.medicalnewstoday.com/articles/195878

 

Lindberg S. (2020, October 2). 9 Ways to Say Goodbye to Dull Skin. Healthline. https://www.healthline.com/health/dull-skin

 

Novak L. (2019, June 8). 7 Reasons Your Skin Looks Dull - and How to Get a Glowing Complexion. Allure.  https://www.allure.com/story/dull-skin-causes-and-treatments