CO2 Laser เทคโนโลยีรักษาปัญหาสิว ไฝ กระ ติ่งเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัญหาผิวไม่เรียบเนียน ไม่ว่าจะเป็นสิว หลุมสิว ติ่งเนื้อ ไฝ กระเนื้อ หูด ขี้แมลงวันที่ขึ้นไม่ถูกจุด รวมไปถึงริ้วรอยเล็ก ๆ ที่เริ่มมาทักทาย เป็นปัญหากวนใจใครหลายคน จะรักษาอย่างไรให้ได้ผล และปลอดภัย ในบทความนี้ SkinX จะพามาทำความรู้จักกับเลเซอร์รักษาโรคผิวหนังอย่าง CO2 Laser ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ทั้งในด้านประสิทธิภาพการรักษาและความปลอดภัยว่า CO2 Laser คืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร ช่วยในเรื่องอะไรบ้าง

 

SkinX แอปพลิเคชันพบแพทย์ผิวหนังออนไลน์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ปรึกษาหมอได้ทุกปัญหาผิว ทั้งปัญหาสิว ผิวพรรณความงาม รวมถึงปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะ สำหรับผู้ใช้บริการรายใหม่ ปรึกษาแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ดาวน์โหลดแอปฯ SkinX ติดโทรศัพท์ไว้เลย เพื่อพบกับดีลความงามจากคลินิกดังมากมาย

 

สารบัญบทความ

ทำความรู้จัก CO2 Laser คืออะไร?

CO2 Laser คือ เครื่องเลเซอร์ที่สามารถใช้รักษาโรคทางผิวหนัง แก้ปัญหาส่วนเกินที่ไม่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น รักษาสิว เลเซอร์หน้าใส รักษาติ่งเนื้อ เป็นต้น โดย CO2 Laser จะใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เป็นตัวกลางในการผลิตแสงเลเซอร์ที่มีความยาวช่วงคลื่น 10,600 นาโนเมตร เพื่อทำลายเนื้อเยื่อ หรือบริเวณจุดที่ต้องการรักษาให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นตายไป และไม่สร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อรอบ ๆ เลเซอร์ชนิดนี้จึงถูกนำมาใช้ทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคต่าง ๆ โดย CO2 Laser จะมีชื่อภาษาไทยว่า คาร์บอนไดออกไซด์เลเซอร์

 

ในปัจจุบัน CO2 Laser ถูกนำมาใช้ร่วมกับการรักษาสิวอุดตัน เนื่องจากให้ผลลัพธ์การรักษาที่ดี และมีความปลอดภัยสูง โดยเลเซอร์ CO2 จะช่วยเปิดรูขุมขนที่อุดตัน สามารถช่วยรักษาสิวได้ CO2 laser สามารถใช้รักษาได้ใน 2 รูปแบบคือ CO2 laser แบบยิงโดยตรงเป็นจุดเดียว หรือ fractional CO2 laser แบบยิงเป็นตะแกรง หลายจุดในเวลาเดียว ใช้สำหรับกรอผิวบางส่วน

“Fractional CO2 Laser เป็นเทคโนโลยีรักษาผิวหนังชนิดกรอผิวบางส่วน (partial ablative laser) ที่ใช้เครื่องเลเซอร์ CO2 ในการรักษา แต่ Fractional CO2 Laser คือการยิงเลเซอร์เป็นรูเล็กๆ ถี่ๆ คล้ายตาราง ไปยังผิวหนัง เพื่อทำลายเนื้อเยื่อผิวหนังเพียงบางส่วนเท่านั้น โดยไม่ทำให้ผิวหนังทั้งหมดถูกกรอหรือทำลาย เทคโนโลยีนี้ช่วยลดการเกิดแผลขนาดเล็ก และกระตุ้นการรักษาผิวที่เป็นริ้วรอยหรือหลุม โดยทำให้ผิวเพิ่มและปรับเปลี่ยนการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง ”

หลักการทำงาน CO2 Laser

การทำงานของ CO2 Laser หรือ คาร์บอนไดออกไซด์เลเซอร์ จะเริ่มจากการปล่อยลำแสงเลเซอร์ขนาดเล็ก มีคุณสมบัติจับกับโมเลกุลน้ำที่ผิวหนังได้ดี มีความแม่นยำสูง ลงไปบริเวณที่ต้องการรักษา โดยพลังงานของแสงอินฟราเรดที่ผลิตจากเครื่อง CO2 Laser จะทะลุผ่านชั้นผิวหนัง ซึ่งน้ำในเซลล์ผิวจะดูดซับเอาไว้ ทำให้เกิดความร้อนสูงในตำแหน่งที่รักษา โดยหากจี้ลงตรงติ่งเนื้อหรือเนื้องอกผิวหนังเช่นขี้แมลงวันหรือไฝ จะเกิดการทำลายเนื้อส่วนนั้น หรือหากใช้เพื่อการกรอผิวแบบ fractional CO2 laser ก็จะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นใยคอลลาเจนใหม่ รอยแผลหายไปและผิวหนังดูเรียบเนียนขึ้น

 

1.กำจัดเนื้อเยื่อผิวหนังที่ไม่ต้องการ

โดยการยิงเลเซอร์จะเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อหรือติ่งเนื้อที่ไม่ต้องการโดยตรง แพทย์บางท่านอาจใช้หลักการนี้ในการจี้เลเซอร์เปิดหัวสิวอุดตัน แต่มีความนิยมลดลงเนื่องจากค่าใช้จ่ายสูงและไม่ใช่วิธีการรักษามาตรฐานในแง่หลักฐานงานวิจัยว่าคุ้มค่า

 

2.กระตุ้นเซลล์ผิวหนังให้สร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนใหม่ 

เมื่อแสงเลเซอร์ส่งผ่านผิวหนัง จะช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวหนังให้สร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวหนังหายจากรอยแผลหรือรอยแตกลาย

 

3.รักษาเซลล์ผิวหนังที่เสียหาย

4.CO2 Laser จะช่วยรักษาเซลล์ผิวหนังที่เสียหาย หรือรอยแตกลาย ช่วยให้ผิวหนังดูเรียบเนียนขึ้น

 

CO2 Laser ช่วยอะไรได้บ้าง?

CO2 Laser ดีไหม ช่วยรักษาเรื่องอะไรได้บ้าง? ปัญหาที่เหมาะสมกับการรักษาด้วย CO2 Laser มีดังนี้

 

• เลเซอร์สิว CO2 Laser โดดเด่นในเรื่องรักษาสิวหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น สิวอุดตัน สิวหิน สิวข้าวสาร รวมถึง fractional CO2 laser ยังสามารถใช้รักษาหลุมสิวได้อีกด้วย
  
  
• เลเซอร์รักษาปัญหาต่าง ๆ หูด ติ่งเนื้อ ไฝ กระเนื้อ ขี้แมลงวัน ฝ้า เนื้องอกของต่อมไขมัน นอกจากนี้ยังสามารถใช้เลเซอร์แผลเป็นได้ด้วย
  
  
• เลเซอร์หน้าใส fractional CO2 Laser สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้นได้
  
  
• ช่วยเรื่องริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า เช่น รักษาริ้วรอยตีนกา ริ้วรอยรอบดวงตา ริ้วรอยบนหน้าผาก ร่องน้ำหมาก โดยการใช้ fractional CO2 laser

ข้อดีของ CO2 Laser

เลเซอร์ CO2 ดีไหม มีข้อดีอะไรบ้าง? สำหรับการทำ CO2 Laser มีข้อดีและจุดเด่นดังนี้

 

1. ช่วยเรื่องการรักษาโรคผิวหนัง CO2 Laser สามารถช่วยรักษาโรคผิวหนังต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น รอยแผลเป็น รอยแตกลาย กระเนื้อ ฝ้า ติ่งเนื้อ หูด
   
   
2. กระตุ้นคอลลาเจน การทำ fractional CO2 Laser สามารถกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังได้ ซึ่งจะช่วยให้ผิวใหม่กระชับและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
   
   
3. ช่วยในด้านความงาม fractional CO2 Laser ลดริ้วรอย กระชับรูขุมขน และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งมีส่วนช่วยฟื้นฟูผิวหนังดูกระจ่างใสและเรียบเนียน
   
   
4. เป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัยสูง เห็นผลลัพธ์ชัดเจน เนื่องจากการรักษาด้วย CO2 Laser สามารถเห็นผลได้ดีและ
   ใช้ระยะเวลารักษาไม่นาน นอกจากนี้ยังพบผลข้างเคียงน้อย เนื่องจากไม่ต้องผ่าตัด หรือใช้เข็มฉีดยา หรือทำลายเนื้อเยื่อโดยไม่จำเป็น
   
   
5. ใช้เวลาฟื้นตัวเร็ว หลังจากการทำ CO2 Laser ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน

ใครเหมาะจะทำ CO2 Laser

ก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษาด้วย CO2 Laser นั้นจะต้องพิจารณาถึงปัญหา และความต้องการของตนเอง ทั้งนี้ผู้ที่เหมาะจะทำ CO2 Laser คือ ผู้ที่มีปัญหาผิวหนัง ได้แก่ ปัญหาสิว รอยสิว รอยแผลเป็น ฝ้า กระเนื้อ หูด ติ่งเนื้อ ขี้แมลงวัน รวมไปถึงผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวด้วยการกระตุ้นคอลลาเจน กระชับรูขุมขน ลดริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณดวงตา หน้าผาก รอบปาก

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนเข้ารับการทำเลเซอร์ CO2 ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินอาการและวิธีการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล 

ใครไม่เหมาะจะทำ CO2 Laser

CO2 Laser อาจไม่เหมาะกับบางกลุ่มผู้ป่วย ดังนี้

1. ผู้ที่ตั้งครรภ์ หรืออยู่ในระหว่างให้นมบุตร
   
   
2. ผู้ที่ได้พึ่งผ่านการรักษาด้วยการฉายรังสีที่ใบหน้า การทำ CO2 Laser อาจเป็นอันตรายต่อผิวหนังได้
   
   
3. ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเกี่ยวกับเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง หรือผู้ที่มีภาวะโรคผิวหนังรุนแรง
   
   

สำหรับผู้ที่ต้องการทำ CO2 Laser ควรเข้าปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อประเมินความเหมาะสมในการรักษา

สิ่งที่ควรปฏิบัติก่อนทำ CO2 Laser

การเตรียมตัวที่ดีก่อนเข้ารับการรักษาด้วย CO2 Laser จะช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และปลอดภัย โดยสิ่งที่ควรปฏิบัติก่อนทำ CO2 Laser มีคำแนะนำดังนี้

1. ปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนเสมอ เพื่อพูดคุยถึงปัญหาที่ต้องการรักษา ทำความเข้าใจถึงขั้นตอนการรักษา และแจ้งโรคประจำตัว หรือประวัติแพ้ยาต่าง ๆ รวมถึงแพทย์จะได้ประเมินและวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคน 
   
   
2. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง
   
   
3. หลีกเลี่ยงให้ผิวบริเวณที่ต้องเลเซอร์โดดกับแสงแดดโดยตรง อย่างน้อย 1 - 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงหลังเลเซอร์ เช่น เกิดรอยแดง หรือเกิดแผลบนผิวหนัง เป็นต้น หากจำเป็นต้องออกแดดควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง และสวมใส่เสื้อผ้าปกคลุมผิว
   
   
4. อาจหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้ระบบภายในของร่างกายทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ 
   
   
5. แพทย์บางท่านอาจพิจารณาเพิ่มเติมในกรณีจี้ไฝ หรือติ่งเนื้อขนาดใหญ่ อาจจะงดรับประทานยาแอสไพริน NSAIDs เช่น Ibuprofen, Diclofenac, Ponstan รวมถึงงดวิตามิน St. Johns Wort, Ginkgo biloba, Primrose oil, Garlic, Ginseng, และ Vitamin E เพราะสามารถกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้เลือดแข็งตัวช้าในระหว่างการทำ CO2 Laser ได้ โดยงดรับประทานประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการเลเซอร์

ขั้นตอนการทำ CO2 Laser มีอะไรบ้าง?

ขั้นตอนการทำ CO2 Laser จะแตกต่างกันไปตามแต่ละเครื่อง หรือขั้นตอนที่แพทย์ใช้ แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีขั้นตอนการทำ CO2 Laser หลัก ๆ อยู่ดังนี้

 

1.เตรียมผิวหนัง โดยการทำความสะอาดบนใบหน้า

ก่อนเริ่มทำ CO2 Laser แพทย์หรือเจ้าหน้าที่จะเช็ดทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะทำเลเซอร์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

2.รักษาด้วย CO2 Laser

• กรณีจี้ไฝ ติ่งเนื้อ กระ แพทย์จะทายาชาทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที หรือฉีดยาชาบริเวณที่ต้องรักษา เพื่อบรรเทาความเจ็บระหว่างยิงเลเซอร์
  
  
• กรณีใช้สำหรับเปิดหัวสิวอุดตัน แพทย์อาจจะทายาชา หรือประคบเย็นบริเวณหัวสิว หลังจากนั้นจึงค่อยยิงเลเซอร์เพื่อเปิดหัวสิวที่อุดตัน
  
  

3.หลังจากการรักษา

• แพทย์มักจะทายาฆ่าเชื้อชนิดขี้ผึ้ง และแนะนำให้หลบแดดเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันรอยดำจากแผล ร่วมกับงดใช้ยาหรือเครื่องสำอางชั่วคราวในวันแรกๆ เนื่องจากผิวจะมีแผลขนาดเล็ก มีอาการแดง หรือสะเก็ด ซึ่งควรทาขี้ผึ้งบนผิว ช่วยสมานแผล หลังจากนั้นแพทย์จะนัดติดตามผลการรักษาภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยทั่วไปแล้วแผลที่เกิดจากการเลเซอร์จะมีขนาดเล็กมาก ไม่เกิดแผลเป็น

 

สิ่งที่ควรปฏิบัติหลังทำ CO2 laser

หลังทำ CO2 Laser ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียง หรือภาวะแทรกซ้อนที่ไม่พึงประสงค์ตามมาได้ และเพื่อให้ผลการรักษาเป็นไปอย่างดีตรงตามความคาดหมาย โดยข้อควรปฏิบัติหลังทำ CO2 Laser เบื้องต้น มีดังนี้

 

• ควรหลีกเลี่ยงให้แผลที่พึ่งผ่านการเลเซอร์โดนน้ำเป็นเวลา 24 ชั่วโมงหลังเลเซอร์
  
  
• ทายาบริเวณแผลอย่างเบามือ ตามที่แพทย์แนะนำ
  
  
• บางราย อาจทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือ และซับแผลให้แห้ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  
  
• หลังทำ CO2 Laser ควรป้องกันผิวจากแสงแดดด้วยการหลบแดดช่วงวันแรกๆ และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวบริเวณที่พึ่งเลเซอร์เกิดอาการแดง หรือเกิดฝ้าเพิ่มขึ้น
  
  
• หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางในระยะแรกหลังเลเซอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารเคมี เพราะอาจทำให้ผิวหนังเกิดการอุดตัน หรือเกิดการอักเสบได้ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันการระคายเคือง
  
  
• งดการออกกำลังกายอย่างหนัก หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก
  
  
• หากเลเซอร์สิวควรใช้ยาทาสิวร่วมด้วย เพื่อควบคุมการเกิดสิวใหม่

ผลข้างเคียงจากการทำ co2 laser?

การทำ CO2 Laser อาจพบผลข้างเคียงที่คล้ายคลึงกันกับการทำเลเซอร์ประเภทอื่น ๆ โดย CO2 Laser ผลข้างเคียงมีดังนี้

 

• ความเสี่ยงจากการติดเชื้อ: ภายหลังจากการทำ CO2 Laser อาจเกิดการติดเชื้อได้ เนื่องจากผิวหนังได้รับการทำลายจากการเลเซอร์
  
  
• อาการอักเสบบวมแดงของผิวหนัง: สามารถเกิดขึ้นได้หลังจากการทำ CO2 Laser แต่ถ้าหากว่ามีอาการบวมแดงมากขึ้นจนผิดปกติ ควรพบแพทย์เพื่อดูแลรักษา
  
  
• อาการอื่น ๆ เช่น สีผิวเปลี่ยนไป ผิวลอก
  
  

อย่างไรก็ตามผลข้างเคียงจากการทำ CO2 Laser อาจเกิดขึ้นได้แต่ไม่บ่อยนัก แต่ถ้าหากพบว่าตนเองมีอาการที่ผิดปกติ ควรรีบเข้าปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการรักษาต่อไป

คำถามที่พบบ่อย

สำหรับผู้ที่สงสัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีรักษาผิวด้วย CO2 Laser ทาง SkinX ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำเลเซอร์ CO2 ไว้ดังนี้

ทำ CO2 Laser เจ็บไหม?

การรักษาปัญหาผิวด้วยการทำ CO2 Laser โดยทั่วไปแล้วก่อนเลเซอร์แพทย์จะมีการทายาชาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บบริเวณที่ต้องรักษา ดังนั้นในระหว่างการเลเซอร์คนไข้อาจรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยในระดับที่ทนได้

CO2 Laser ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผลอย่างชัดเจน?

สำหรับจำนวนครั้งในการรักษาปัญหาผิวต่าง ๆ ด้วย CO2 Laser ขึ้นอยู่กับโรคที่รักษา อาจหายใน 1 ครั้ง หรือต้องทำหลายๆครั้งได้ หากเป็นการรักษารอยขนาดเล็กหรือตื้นด้วย fractional CO2 laser สามารถรักษาให้จบภายใน 1 - 2 ครั้งได้ แต่ถ้าหากเป็นรอยใหญ่หรือลึก รวมถึงการทำเลเซอร์เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน อาจต้องใช้ระยะเวลาการทำซ้ำทุก ๆ 4 - 6 สัปดาห์ 

 

แต่ทั้งนี้จำนวนครั้งในการรักษาจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาผิวหนังของคนไข้แต่ละคน ความรุนแรงของปัญหา รวมถึงคุณภาพของเครื่องเลเซอร์ ความเข้มข้นของค่าพลังงาน เป็นต้น 

สรุป

การรักษาปัญหาผิวด้วย CO2 Laser คือการรักษาด้วยการใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นตัวกลางในการผลิตแสงเลเซอร์ เพื่อทำลายเนื้อเยื่อที่ต้องการรักษาให้ตายไปและไม่ทำลายผิวรอบข้าง เลเซอร์ CO2 สามารถรักษาปัญหาได้หลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น รักษาสิว หูด ติ่งเนื้อ ไฝ กระเนื้อ รวมถึงยังสามารถใช้ในรูปแบบ fractional CO2 laser เพื่อรักษารอยหลุม ริ้วรอย ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้อีกด้วย

 

ผู้ที่สนใจอยากเข้ารับการทำ CO2 Laser ควรเข้าปรึกษาปัญหาผิวกับแพทย์ก่อนเพื่อให้แพทย์ประเมิน และวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

 

สำหรับผู้ที่ไม่สะดวก หรือไม่มีเวลาเดินทางไปพบแพทย์ สามารถใช้แอปพลิเคชัน SkinX เพื่อปรึกษาแพทย์ผิวหนังผ่านทางออนไลน์ได้ รู้ค่าบริการก่อนเริ่มหาหมอ พร้อมให้บริการหลากหลายเกี่ยวกับปัญหาผิวรวมไปถึงผมและหนังศีรษะ 

อ้างอิง

Caldwell A. (2022, April 28). What are CO2 lasers?. Medical News Today. https://www.medicalnewstoday.com/articles/what-is-co2-laser

 

Longhurst A. (2022, July 22). Your Complete Guide to CO2 Laser Resurfacing. Healthline. https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/co2-laser