สิวและผิวหน้า
4 ธันวาคม 2568

สิวที่รักแร้ หรือตุ่มอักเสบคล้ายสิวบริเวณรักแร้ เป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่หลายคนอาจมองข้าม แต่กลับสร้างความไม่สบายตัวและลดความมั่นใจได้ไม่น้อย เพราะตำแหน่งใต้วงแขนเป็นบริเวณที่มีเหงื่อ ความชื้น และการเสียดสีสูง จึงเอื้อต่อการเกิดสิวได้ง่าย หลายคนอาจเริ่มจากเป็นตุ่มเหมือนสิวที่รักแร้ หรือรู้สึกเจ็บเมื่อสัมผัสกับตุ่มใต้รักแร้ แล้วเข้าใจว่าเป็นเพียงผื่นหรือขนคุด ทั้งที่จริงแล้วอาจเป็นสัญญาณของ “สิวที่รักแร้” ที่ต้องได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี
SkinX จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจตั้งแต่สาเหตุของสิวที่รักแร้ การดูแล ไปจนถึงแนวทางการรักษาสิวที่รักแร้ เพื่อให้ผิวใต้วงแขนกลับมาเรียบเนียนและมั่นใจได้อีกครั้ง
Key Takeaways
สารบัญบทความ
สิวที่รักแร้ หรือตุ่มอักเสบคล้ายสิวบริเวณรักแร้ คือภาวะที่รูขุมขนบริเวณผิวหนังใต้วงแขนเกิดการอุดตันและอักเสบขึ้นมา กลไกการเกิดสิวที่รักแร้มีความคล้ายคลึงกับสิวที่เกิดขึ้นตามส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย โดยมีลักษณะปรากฏเป็นตุ่มที่รักแร้ ซึ่งอาจเป็นเพียงตุ่มที่รักแร้นูนเล็ก ๆ หรือพัฒนาไปเป็นตุ่มที่รักแร้ที่รู้สึกปวด ๆ จนมีอาการบวมแดง
การทำความเข้าใจสาเหตุที่ทำให้สิวที่รักแร้ เกิดขึ้นนั้นมีความสำคัญอย่างมากต่อการรักษาที่ตรงจุด โดยปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดสิวที่รักแร้ ส่วนใหญ่แล้วจะมาจาก 2 ปัจจัย ดังนี้
สิวที่รักแร้ หรือตุ่มอักเสบคล้ายสิวบริเวณรักแร้สามารถเกิดได้หลายลักษณะ ขึ้นอยู่กับความลึกของการอุดตันและระดับการอักเสบของผิว ซึ่งแต่ละแบบจะมีอาการและแนวทางดูแลแตกต่างกันออกไป โดยทั่วไปสิวที่รักแร้สามารถแบ่งได้เป็น 4 แบบหลัก ๆ ดังนี้

การรักษาสิวที่รักแร้ หรือตุ่มอักเสบคล้ายสิวบริเวณรักแร้ให้มีประสิทธิภาพต้องอาศัยการดูแลตัวเองร่วมกับการปรึกษาแพทย์ SkinX ได้รวบรวม 7 แนวทางปฏิบัติเพื่อจัดการกับปัญหาสิวที่รักแร้ที่กวนใจคุณ มีดังนี้
การรักษาความสะอาดเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการป้องกันและรักษาสิวที่รักแร้ ควรทำความสะอาดผิวใต้วงแขน อย่างอ่อนโยนด้วยสบู่อ่อนโยน หรือสบู่ที่มีส่วนผสมช่วยลดเชื้อแบคทีเรียเป็นประจำทุกวัน
การทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอหลังการทำกิจกรรมที่ทำให้เกิดเหงื่อมาก จะช่วยลดการสะสมของไขมัน เหงื่อ และแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุหลักของสิวรักแร้ เพื่อลดโอกาสที่เป็นสิวใต้รักแร้จะอักเสบเพิ่มขึ้น และช่วยให้ผิวบริเวณนั้นสะอาดพร้อมรับการรักษาอื่น ๆ
เพื่อลดปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้สิวที่รักแร้แย่ลง ควรหลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่น หรือเสื้อผ้าที่ทำจากวัสดุที่ไม่ระบายอากาศ เพราะเสื้อผ้าเหล่านี้จะเพิ่มการเสียดสีกับผิว ใต้วงแขน และทำให้เกิดความอับชื้นสูง ซึ่งเป็นสภาวะที่เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดี
ควรเลือกเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้าย (Cotton) หรือผ้าที่ช่วยระบายอากาศได้ดี เพื่อให้ผิวใต้วงแขนแห้งอยู่เสมอ เป็นการช่วยลดการอักเสบและทำให้สิวขึ้นที่รักแร้ยุบตัวได้เร็วขึ้น
เมื่อมีสิวที่รักแร้โดยเฉพาะอย่างยิ่งรักแร้มีตุ่มเหมือนสิวที่มีอาการอักเสบ บวม หรือมีหนอง ควรหลีกเลี่ยงการกำจัดขนทุกประเภท ทั้งการถอน โกน หรือแว็กซ์ผิวใต้วงแขนโดยเด็ดขาด เพราะการกระทำเหล่านี้จะยิ่งเพิ่มการระคายเคือง ทำให้รูขุมขนเกิดบาดแผล และเปิดโอกาสให้เชื้อแบคทีเรียเข้าไปในชั้นผิวได้ลึกขึ้น ซึ่งจะกระตุ้นให้สิวที่รักแร้เกิดการอักเสบรุนแรง และอาจลุกลามกลายเป็นตุ่มคล้ายฝีที่รักแร้ได้
สำหรับสิวที่รักแร้ที่อยู่ในระดับไม่รุนแรง หรือเป็นตุ่มที่รักแร้ไม่เจ็บ แพทย์อาจพิจารณาให้ใช้ยาทาเฉพาะที่ เพื่อช่วยลดการอุดตันและลดการอักเสบ ยาทาที่ใช้ในการรักษาสิว มักมีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide Clindamycin หรือ Retinoids ซึ่งช่วยควบคุมการอักเสบและลดจำนวนแบคทีเรีย
การใช้ยาทาเพื่อจัดการสิวที่รักแร้ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำและปริมาณที่แพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด เนื่องจากผิวใต้วงแขนเป็นบริเวณที่บอบบางและอาจเกิดการระคายเคืองได้ง่าย
ในกรณีที่สิวที่รักแร้เป็นชนิดสิวอุดตัน การกำจัดหัวสิวที่อุดตันออกด้วยวิธีการกดสิว เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ช่วยป้องกันไม่ให้สิวรักแร้ พัฒนาไปสู่การอักเสบที่รุนแรงขึ้น การกดสิวเพื่อรักษาสิว ควรทำกับแพทย์โดยตรง ที่มีเครื่องมือที่สะอาดและถูกสุขลักษณะ เพื่อให้มั่นใจว่าหัวสิวจะถูกกำจัดออกไปอย่างหมดจด ลดโอกาสการติดเชื้อ และลดความเสี่ยงของการเกิดรอยสิว หรือการอักเสบซ้ำบริเวณที่ตุ่มขึ้นใต้รักแร้
หากพบว่าสิวที่รักแร้ หรือเป็นสิวใต้รักแร้มีสาเหตุมาจากขนคุด ที่ฝังอยู่ลึกและทำให้เกิดการอักเสบซ้ำ ๆ แพทย์อาจพิจารณาใช้วิธีเปิดหัวสิวขนาดเล็กด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อนำเส้นขนที่คุดอยู่ออกอย่างระมัดระวัง
วิธีการรักษานี้มีความสำคัญอย่างมากในการจัดการกับสิวที่รักแร้เรื้อรังที่เกิดจากปัญหาขนคุดโดยตรง เมื่อกำจัดเส้นขนที่เป็นต้นเหตุออกไปแล้ว ก็จะช่วยลดการอักเสบและลดโอกาสในการกลับมาเป็นสิวที่รักแร้ซ้ำได้
ในกรณีที่สิวที่รักแร้มีอาการรุนแรง เป็นซ้ำบ่อย เป็นก้อนขนาดใหญ่ หรือไม่ตอบสนองต่อการดูแลด้วยตนเอง คุณควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางเพื่อวินิจฉัยและรับแผนรักษาสิวที่เหมาะสม แพทย์อาจแนะนำการรักษาที่ซับซ้อน เช่น การฉีดยาเพื่อลดการอักเสบ หรือโปรแกรมเลเซอร์รักแร้ เพื่อลดปัญหาขนคุด การปรึกษาแพทย์ผ่านแอปพลิเคชัน SkinX ทำให้คุณสามารถเข้าถึงคำปรึกษาจากแพทย์ผิวหนังได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและแนวทางการจัดการกับสิวที่รักแร้ที่ถูกต้อง

นอกเหนือจากการรักษาสิวที่รักแร้แล้ว การดูแลและปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันก็มีความสำคัญมากเหมือนกัน เพื่อป้องกันการเกิดสิวที่รักแร้ซ้ำและช่วยบรรเทาอาการเมื่อรักแร้เป็นสิว โดยวิธีดูแลสิวที่รักแร้อย่างถูกวิธี ตามหลักการแพทย์ ได้แก่
การป้องกันก่อนเกิดสิวที่รักแร้ เป็นแนวทางที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงปัญหาผิวที่กวนใจ ขอแนะนำวิธีปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดสิวที่รักแร้ และสิวตรงรักแร้ ดังนี้
ไม่ควรบีบสิวที่รักแร้เด็ดขาด เพราะผิวบริเวณนี้บอบบางและอาจติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะหากเป็นตุ่มตรงรักแร้ หรือสิวที่มีการอักเสบ การบีบอาจทำให้หนองกระจาย เกิดแผลหรือรอยดำตามมาได้
สิวที่รักแร้มักมีกลิ่นเหม็นเมื่อเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมกับเหงื่อและไขมันที่สะสม หากปล่อยไว้นานอาจทำให้รักแร้เป็นรูมีกลิ่นเหม็น หรือเกิดการอักเสบลุกลามเป็นหนองคล้ายฝีได้
โดยทั่วไปสิวที่รักแร้ใช้เวลาหายประมาณ 3–7 วัน หากเป็นเพียงมีตุ่มขึ้นที่รักแร้ขนาดเล็กแต่หากอักเสบรุนแรงหรือเกิดการติดเชื้ออาจใช้เวลานานกว่านั้นและควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินอาการอย่างเหมาะสม
ปัญหาสิวที่รักแร้เป็นเรื่องที่จัดการได้ด้วยความเข้าใจและการดูแลที่ถูกต้อง การใส่ใจสุขอนามัยและการหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันสิวที่รักแร้ และภาวะรูขุมขนอักเสบตรงรักแร้ อย่างไรก็ตาม หากคุณมีปัญหารักแร้เป็นสิวรุนแรงหรือเรื้อรัง การปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรักษาสิวที่รักแร้ โดยตรง เป็นทางออกที่เหมาะสมและถูกต้อง
SkinX คือแอปพลิเคชันปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางกว่า 210 ท่านจากสถานพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศ ที่จะช่วยให้คุณสามารถปรึกษาปัญหาสิวที่รักแร้ได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว ปรึกษาก่อน จ่ายทีหลัง โดยคุณจะรู้ค่าบริการก่อนเข้าปรึกษา ทำให้คุมงบได้ไม่บานปลาย พร้อมรับสรุปผลการรักษาทันที และมีเภสัชกรคอยให้คำปรึกษา พร้อมบริการส่งยาให้ถึงบ้าน สามารถดาวน์โหลดแอป SkinX ได้ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
แอปพลิเคชัน ปรึกษาปัญหาและดูแลผิวโดยแพทย์ผิวหนังผู้ชำนาญการ
ครบ จบ เคลียร์ใน 15 นาที!
อ้างอิง
Healthline Wellness Team. (2023, May 26). Armpit Pimples: Causes and Treatments. Healthline. https://www.healthline.com/health/armpit-pimple
Amanda Caldwell, MSN, APRN-C & Nicole Galan, RN. (2024, August 1). Causes and treatment of pimple breakouts in the armpit. Medical News Today. https://www.medicalnewstoday.com/articles/325585
บทความที่เกี่ยวข้อง
ดูทั้งหมด