เส้นผมและหนังศีรษะ
24 มิถุนายน 2568

ผมร่วง (Alopecia หรือ Hair Loss) คือหนึ่งในปัญหาที่มักพบได้บ่อยทั้งผู้ชายและผู้หญิง ลักษณะความรุนแรงของผมร่วงจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ส่วนใหญ่แล้วมักจะกระทบต่อสภาพจิตใจของผู้ป่วยมากกว่าสุขภาพทางกาย หากพบว่าตนเองมีอาการผมร่วงมากกว่าปกติ หรือผมบนหนังศีรษะเริ่มบาง ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
ในบทความนี้ SkinX จะพามาทำความรู้จักกับภาวะ “ผมร่วง” เบื้องต้นว่าผมร่วงเกิดจากอะไร แบบไหนถึงเรียกว่าผมร่วง มีวิธีรักษาและป้องกันผมร่วงอย่างไรบ้าง? ติดตามข้อมูลต่าง ๆ ได้ที่ด้านล่างนี้เลย
Key Takeaway
โรคผมร่วง (Alopecia) คือ การสูญเสียเส้นผมบนศีรษะ โดยจะมีลักษณะความรุนแรงที่แตกต่างกัน เราจะสามารถสังเกตเห็นเส้นผมจำนวนมากหลังจากสระผม หรือผมจับกันเป็นก้อนบนแปรงหวีผม ผมร่วงเยอะมากบนหมอน หรือผมมีลักษณะบางจนเห็นเป็นหย่อม ๆ อาการเหล่านี้เริ่มแสดงว่ามีผมร่วงหนักมากกว่าปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุของผมร่วง และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลต่อไป
ผมร่วงทุกวันปกติไหม? โดยทั่วไปแล้วคนปกติจะมีผมร่วงวันละประมาณ 100-150 เส้น ผมที่ขึ้นใหม่ก็จะขึ้นมาทดแทนกัน โดยที่เราไม่ทันสังเกตว่าผมน้อยลง แต่ถ้าวันไหนสระผมอาจจะมีจำนวนผมร่วงมากขึ้น
การจำแนกประเภทของผมร่วง สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้
“บนหนังศีรษะของเราจะมีรูขุมขนอยู่ประมาณ 50,000 รูขุมขน แต่ละรูขุมขนสามารถมีผมอยู่ได้ตั้งแต่ 1-4 เส้น ทำให้หนังศีรษะเรามีผมอยู่ทั้งหมดประมาณ 100,000 เส้น”
ผู้ที่ผมร่วงบ่อยเบื้องต้นสามารถตรวจหนังศีรษะและเส้นผมด้วยตนเองได้ตามวิธีดังนี้
ผมร่วงเยอะมากเกิดจากอะไร? ผมร่วงในแต่ละวันเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ อย่างที่กล่าวไปว่าผมคนเราจะร่วงวันละประมาณ 100-150 เส้น และจะมีเส้นผมใหม่ขึ้นมาทดแทน แต่ในบางคนมีภาวะผมร่วงเยอะมาก ทำให้เริ่มสังเกตได้ว่าผมบางลงเรื่อย ๆ จนอาจเกิดหัวล้านได้ สำหรับสาเหตุของผมร่วงมีหลากหลายปัจจัยซึ่งสามารถแบ่งได้ดังนี้
ผมร่วงที่เกิดจากพันธุกรรม (Androgenetic Alopecia : AGA) เป็นสาเหตุผมร่วงที่สามารถพบได้ในเพศชายและเพศหญิง สาเหตุของผมร่วงส่วนมากเกิดจากพันธุกรรมถึง 80% โดยจะมีลักษณะเส้นผมเล็ก ผมบางลง ร่วงง่าย ผมที่ขึ้นใหม่ไม่แข็งแรงจนเห็นหนังศีรษะ ผมร่วงจากพันธุกรรมมักพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง เนื่องจากฮอร์โมน DHT ที่ทำให้รากผมและขนเสื่อมสภาพพบมากในผู้ชาย
สาเหตุของอาการผมร่วง หรือหัวล้านจากพันธุกรรมเกิดจากยีน (Gene) ตัวหนึ่งที่อยู่บนโครโมโซม X ยีนตัวนี้ไม่ได้ทำให้ผมร่วงหรือหัวล้านโดยตรง แต่จะไปทำให้ Androgen Receptor ที่รากผมทำงานได้ดียิ่งขึ้น ซึ่ง Receptor ตัวนี้เป็นตัวรับฮอร์โมน DHT ซึ่งทำให้เกิดผมบาง เมื่อตัวรับทำงานได้ดีผมจึงบางลงมากขึ้นนั่นเอง
โรคที่ทำให้ผมร่วงได้ เช่น โรคต่อมไทรอยด์ โรคผิวหนังเดิมของผู้ป่วย ทำให้มีการอักเสบที่รบกวนการเติบโตของเส้นผม รวมถึงการติดเชื้อ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อราบนหนังศีรษะ นอกจากนี้ยังมีการเจ็บป่วยทางกายอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการเติบโตของเส้นผม เช่น การติดเชื้อซิฟิลิส, เอชไอวี, โรค DLE, โรคทางภูมิคุ้มกัน SLE และโรคโลหิตจางที่ทำให้เกิดภาวะผมร่วงได้
ปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน DHT เป็นตัวการหลักที่ทำให้เส้นผมที่งอกใหม่มีขนาดเล็กลง เมื่อเวลาผ่านไปเส้นผมที่เล็กลงจะไม่สามารถปกปิดหนังศีรษะได้เหมือนเดิม โดยฮอร์โมน DHT เป็นฮอร์โมนที่สร้างมาจากฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) เมื่อฮอร์โมนนี้เข้ามาที่เนื้อเยื่อบริเวณรากผม เอนไซม์ในบริเวณนั้นจะเปลี่ยนฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเป็นฮอร์โมน DHT ทำให้ผมที่งอกออกมากลายเป็นเส้นผมเล็กลงเรื่อย ๆ ในท้ายที่สุดผมจะบางจนไม่เหลือเส้นผมบนศีรษะอีก
หรือปัญหาฮอร์โมนในผู้หญิงทำให้ผมร่วง เช่น ภาวะหลังคลอดมีการลดลงของฮอร์โมนอย่างฉับพลันทำให้ผมร่วงหลังคลอดได้ 3-6 เดือน หรือผู้หญิงบางคนอาจจะมีภาวะฮอร์โมนเพศชายเยอะจะมาด้วยผมบาง มีสิวเยอะ มีขนหนวดเส้นหนา และประจำเดือนมาผิดปกติ
การขาดสารอาหารหรือผู้ที่กำลังลดน้ำหนักแบบผิดวิธี จะยิ่งส่งผลให้เส้นผมเปราะและมีปัญหาผมร่วง ผมบางลงได้ ผู้ที่ผมร่วงจากภาวะขาดสารอาหารควรเสริมธาตุเหล็ก เนื่องจากธาตุเหล็กจะส่งผลต่อการเจริญของเส้นผม โดยธาตุเหล็กมักจะพบในอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ไข่ นม ผักใบเขียว และเมล็ดพืชบางชนิด ผู้ป่วยที่ขาดธาตุเหล็กอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น เล็บเปราะบาง อ่อนเพลีย เป็นต้น
นอกจากนี้ยังควรเสริมด้วยแร่ธาตุอื่น ๆ ที่ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ เช่น วิตามินเอ วิตามินบี โปรตีน เป็นต้น
“การกินผงชูรสเยอะไม่ทำให้ผมร่วงแต่อย่างใด แต่การกินอาหารรสจัดสามารถทำให้ผมร่วงได้ เนื่องจากอาหารรสจัดจะทำให้เส้นเลือดหดเกร็ง ส่งผลกับความดันทำให้เลือดไปเลี้ยงรากผมไม่เพียงพอ”
การรับประทานยาหรือวิตามินบางชนิด เช่น ยารักษาสิวที่มีส่วนผสมของวิตามินสังเคราะห์, ยาลดไขมันในเส้นเลือด, ยารักษาโรคไขข้อเสื่อม, ยารักษาโรคมะเร็ง หรือยาลดความดันบางชนิด รวมถึงวิตามินอาหารเสริมบางชนิดที่บริโภคเกินความจำเป็น สามารถระงับการเจริญเติบโตของรากผม ทำให้เกิดผมร่วงได้ หากหยุดยาอาการผมร่วงอาจกลับมาเป็นปกติ
ความเครียดที่สะสมสามารถทำให้เกิดภาวะผมร่วงได้ ปัญหานี้มักเกิดขึ้นกับคนที่ต้องเจอกับความเครียดอยู่เป็นประจำ ซึ่งความเครียดเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ ส่งผลให้เป็นหนึ่งในสาเหตุผมร่วงด้วย เพราะเมื่อเกิดความเครียดร่างกายจะผลิตฮอร์โมนความเครียด หรือฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) เพิ่มขึ้น ทำให้เส้นผมอ่อนแอลงได้
ในบางผู้ป่วยบางคนอาจมีพฤติกรรมทำลายเส้นผม เช่น การดึงผมตัวเองโดยไม่รู้ตัว (Trichotillomania) ซึ่งการกระทำนี้จะทำร้ายหนังศีรษะและทำให้วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมผิดปกติ ทำให้การงอกใหม่ของเส้นผมช้าลงจนผมบางลงในที่สุด
อาการผมร่วงพบในผู้ป่วยมะเร็งได้ เนื่องจากการรักษาเคมีบำบัด หรือการทำคีโมเป็นการใช้ตัวยาเคมีบำบัดเพื่อหยุดการเติบโต และการเพิ่มจำนวนของเซลล์มะเร็ง โดยยาเคมีจะเข้าถึงเซลล์มะเร็งผ่านทางกระแสเลือด ทำให้เซลล์รากผม เซลล์เยื่อบุในช่องปาก เม็ดเลือด หรือเซลล์ปกติที่มีการเพิ่มจำนวนแบบรวดเร็ว ได้รับผลกระทบ เกิดความเสียหายต่อเซลล์เหล่านี้ด้วยเช่นกัน ส่งผลให้เกิดภาวะผมร่วงได้
ภาวะผมร่วงและผมบางสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้
การแก้ปัญหาผมร่วง ผมบางเบื้องต้นควรเข้ารับการปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางก่อนเพื่อวิเคราะห์ถึงสาเหตุผมร่วง การตรวจสภาพเส้นผม และเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด โดยวิธีรักษาผมร่วงทางการแพทย์มีด้วยกันดังนี้
การใช้ยาแก้ผมร่วง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งเพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น โดยยาที่ใช้รักษาอาการผมร่วง ผมบางดังนี้
การปลูกผมหรือศัลยกรรมปลูกผม เป็นวิธีแก้ผมร่วงที่นำเอารากผมปลูกลงบนหนังศีรษะในตำแหน่งที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือหัวล้าน ซึ่งผมใหม่ที่ขึ้นมาจะอยู่ในตำแหน่งที่ปลูกอย่างถาวร สามารถขึ้นใหม่และหลุดร่วงได้ตามวงจรของผม โดยปัจจุบันมีวิธีปลูกผม ดังนี้
นอกจากการปลูกผมแบบ FUE และ FUT แล้ว ปัจจุบันยังมีการปลูกผมแบบ PRP ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยแก้ผมร่วง ผมบางได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ PRP ผม คืออะไร ? รักษาอาการผมร่วงผมบางได้จริงหรือ
การทำ PRP ผม หรือการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้นจะช่วยเพิ่มอาหารผม ลดผมร่วง ทำให้ผมงอกได้ดีขึ้น โดยจะฉีด PRP เข้าไปที่หนังศีรษะในบริเวณที่ผมร่วง ผมบาง เพื่อให้สาร PRP ไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผมให้มีการเจริญเติบโตขึ้น
เป็นการปลูกผมที่ไม่ต้องผ่าตัด โดยจะปลูกผมในลักษณะการฉีดสเต็มเซลล์เข้าสู่บริเวณที่เกิดปัญหาผมร่วง ผมบาง สเต็มเซลล์จะไปกระตุ้นให้เซลล์เข้าไปฟื้นฟูรากผมที่อ่อนแอให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
การทำโฟโตน่าเลเซอร์ (Fotona Laser) เป็นการใช้เลเซอร์ยิงด้วยพลังงานต่ำเข้าไปที่บริเวณผมร่วงผมบาง เลเซอร์รักษาผมร่วงชนิดนี้จะเข้าไปช่วยกระตุ้นเส้นผม เสริมสร้างรากผม ทำให้ผมแข็งแรงขึ้น ผมที่ขึ้นใหม่มีเส้นใหญ่ ผมร่วงน้อยลง
ปลูกผมด้วยเลเซอร์ LLLT จะช่วยรักษาอาการผมร่วงผมบางในระยะเริ่มต้น ช่วยสมานแผลให้เร็วขึ้น ลดอาการหนังศีรษะอักเสบ โดยจะฉายเลเซอร์ LLLT พลังงานต่ำลงไปที่หนังศีรษะ พลังงานนั้นจะช่วยกระตุ้นเซลล์รากผมให้ทำงานดีขึ้น สารอาหารมาเลี้ยงได้มากขึ้น ทำให้ผมแข็งแรงและงอกเร็ว ผมร่วงน้อยลง
ยาทาหนังศีรษะไมนอกซิดิล (Minoxidil) จะช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผม สามารถใช้ได้ทั้งชายและหญิง แต่ยาปลูกผมอาจทำให้ผู้ใช้บางรายเกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ได้ เช่น ระคายเคืองผิวหนัง หรือมีขนขึ้นตามใบหน้า
วิธีป้องกันไม่ให้ผมร่วงได้ง่าย และถนอมเส้นผมให้เงางาม ดูสุขภาพดี สามารถปฏิบัติตามที่แนะนำได้ดังนี้
“รังแคเกิดจากหนังศีรษะขาดความชุ่มชื้น หรือในบางรายอาจเกิดการอักเสบ ผู้ที่มีรังแคจะมีขุยหรือสะเก็ดขาว ๆ อยู่ที่เส้นผมและหนังศีรษะ อาจมีอาการคันหนังศีรษะร่วมด้วย ซึ่งส่งผลต่อบุคลิกภายนอกอีกทั้งยังสามารถทำให้ผมขาดร่วงได้จากการที่รากผมถูกทำลาย”
ผู้ชายผมร่วงเกิดจากอะไร? ต่างจากผมร่วงผู้หญิงอย่างไรบ้าง? ทั้งผู้หญิงและผู้ชายต่างมีโอกาสผมร่วง ผมบางได้หมด
โดยผมร่วงของเพศชายเกิดจากการพันธุกรรมและการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน DHT (dihydrotestosterone) ซึ่งส่งผลต่อรูขุมขนทำให้ผมบางลงและหลุดร่วง เริ่มจากไรผมที่หน้าผากค่อย ๆ หลุดร่วงจนเกิดแนวผมเป็นรูป M-shaped และมีเส้นผมหลุดร่วงเป็นวงกลมที่บริเวณกลางกระหม่อม
ในขณะที่ผู้หญิงจะเกิดผมร่วงทั่วทั้งศีรษะ โดยเฉพาะบริเวณที่ผมแสกกลางศีรษะ ผมเส้นใหญ่เริ่มบางและหลุดร่วง แต่จะไม่ได้ร่วงจนเห็นผิวหนังชัดเจนเช่นเดียวกับผู้ชาย
สรุปแล้ว ผมร่วงเป็นปัญหาของเส้นผมที่มีการหลุดร่วงง่ายระหว่างวันเกิน 200 เส้น จนผมบางเป็นหย่อม ๆ หรือทั่วหนังศีรษะอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสามารถพบเจอได้ทุกเพศและทุกวัย สาเหตุอาจเกิดได้หลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดจากพันธุกรรม โรคบางชนิดที่รบกวนการเติบโตของเส้นผม การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เป็นต้น ซึ่งหากมีอาการผมร่วงรุนแรงควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยสาเหตุ ตรวจสภาพเส้นผม ตลอดจนหาแนวทางรักษาที่เหมาะสมมากที่สุด
สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหาผมร่วงจนบางและไม่รู้ว่าจะเลือกปรึกษาแพทย์ที่ไหนดี SkinX แอปพบแพทย์ออนไลน์ที่รวบรวมแพทย์ผู้ชำนาญการและมากประสบการณ์จากสถานพยาบาลชั้นนำมากมาย พร้อมให้คำปรึกษากับคุณได้ทุกที่ โดยไม่ต้องรอคิวให้เสียเวลา โหลดแอปพลิเคชัน SkinX เลยวันนี้ พร้อมรับดีลสุดพิเศษมากมาย
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
Cicatricial (Scarring) Alopecia. (n.d.). Mount Sinai. https://www.mountsinai.org/care/dermatology/services/alopecia-areata/cicatricial#:~:text=Scarring%2C%20or%20cicatricial%20alopecia%2C%20is,treating%20this%20form%20of%20alopecia.
Hair Loss. (2024, January 19). Mayo Clinic. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/hair-loss/symptoms-causes/syc-20372926#:~:text=Hair%20loss%20(alopecia)%20can%20affect,it’s%20more%20common%20in%20men.
บทความที่เกี่ยวข้อง
ดูทั้งหมด