การดริปวิตามินอันตรายไหม? รู้ข้อดี-ข้อเสีย และผลข้างเคียงที่นี่เลย !

อยากผิวสวย กระจ่างใส และสุขภาพดี แต่ทาครีมแล้วรู้สึกว่ายังไม่พอ หลายคนจึงอาจหาข้อมูลในการทำหัตถการ “ดริปวิตามิน” ที่สามารถช่วยฟื้นฟูผิวที่โทรม หรือขาดการดูแล รวมไปถึงเพิ่มวิตามินเพื่อเสริมสารอาหารให้กับร่างกาย แต่มักมีข้อสงสัยที่ว่า ดริปวิตามินผิวอันตรายไหม หรือการดริปวิตามินผิวมีผลข้างเคียงหรือไม่ ในบทความนี้ SkinX จึงได้รวบรวมคำตอบมาให้กับทุกคนแล้ว

SkinX เป็นแอปพลิเคชันในการพบแพทย์ทางออนไลน์ ไม่ว่าจะปัญหาสิว ผิวแพ้ง่าย หรือเส้นผมและหนังศีรษะ ก็สามารถเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือเมื่อไหร่ ก็สะดวกสบาย

ดริปวิตามินอันตรายไหม

หัตถการที่มีการฉีดสารลงไปในหลอดเลือดควรระมัดระวังเป็นอย่างมาก ฉะนั้น หากทำการดริปวิตามินผิวด้วยวิตามินซึ่งไม่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก็อาจเพิ่มโอกาสให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้

นอกจากนี้ หากเข้ารับบริการดริปผิวด้วยวิตามินโดยแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ หรือหมอกระเป๋า ไม่เข้ารับบริการในคลินิกที่ได้มาตรฐาน อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรง หรืออันตรายเป็นอย่างมาก ฉะนั้นควรดริปวิตามินผิวที่ไหนดี? เราควรเลือกสถานพยาบาลในการเข้าทำหัตถการดริปวิตามินที่ปลอดภัย ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาลอย่างถูกต้อง

หากกลัวว่าดริปวิตามินผิวแล้วจะอันตรายไหม ก่อนทำหัตถการ ควรแจ้งประวัติสุขภาพของตนเองกับแพทย์ที่เป็นผู้ดูแล เพื่อที่แพทย์จะสามารถวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับเรามากที่สุด ลดโอกาสเกิดอันตรายจากผลข้างเคียงหากได้รับวิตามินที่มากจนเกินไป หรือไม่เหมาะสมกับร่างกาย

การที่เราได้รับวิตามินมากจนเกินไปจากการดริปวิตามินผิว อาจส่งผลให้ระบบในร่างกายทำงานผิดปกติได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยของแต่ละบุคคล หากจะให้ดีที่สุด แนะนำให้ตรวจระดับวิตามินในเลือดก่อนเริ่มรับการรักษาและควรเลือกสถานพยาบาลที่แพทย์หรือพยาบาลที่มีความชำนาญ มีสภาพแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัย ตั้งแต่ตัวยาที่ใช้ การเตรียมยา และการฉีดยา เรียกว่าต้องสะอาดมากทุกขั้นตอน เพราะหากมีการติดเชื้อในกระแสเลือดอาจมีอาการรุนแรงระดับเสียชีวิตได้เลยทีเดียว

ดริปวิตามินมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

แม้ว่าการทำหัตถการดริปวิตามินผิว (Intravenous Vitamin Therapy : IV Drip) เป็นการนำสารน้ำที่มีส่วนผสมของวิตามิน แร่ธาตุ รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ เข้าสู่ร่างกายเพื่อเสริมในส่วนที่ขาด ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว แต่หลายคนก็อาจยังมีข้อสงสัยว่าการดริปวิตามินผิวอันตรายไหม เราจึงได้รวบรวมผลข้างเคียงเบื้องต้นที่อาจเกิดได้หากทำหัตถการดริปวิตามินผิวมาไว้แล้ว ดังนี้

อาจมีรอยเข็ม หรือรอยช้ำที่เกิดขึ้นบนผิวหนัง แต่สามารถหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์
หากมีอาการเวียนศีรษะ, คลื่นไส้อาเจียน, หายใจลำบาก, ปากแห้ง หรือผื่นขึ้น ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย และรักษาอย่างถูกต้องต่อไป
หากเกิดอาการแพ้ที่ส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรง เช่น หัวใจเกิดการเต้นผิดจังหวะที่พบได้จากการใช้ยาในกลุ่ม NAD ที่ดริปเร็วเกินไปควรรีบแจ้งแพทย์เพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด

ดริปวิตามินมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร

การดริปวิตามินผิวอันตรายไหม หรือดริปวิตามินดีอย่างไร มีข้อจำกัดหรือไม่? การดริปวิตามินผิว เป็นหัตถการที่สามารถช่วยฟื้นฟูผิวซึ่งขาดการบำรุงดูแล หรือเพิ่มวิตามินและแร่ธาตุให้กับร่างกาย แต่ก็ยังมีข้อจำกัดต่าง ๆ ที่เกิดจากการทำดริปวิตามินได้ ดังนั้น เราจึงได้รวบรวมข้อดีและข้อเสียของการทำหัตถการชนิดนี้ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาให้กับคุณ

ข้อดีของการทำหัตถการดริปวิตามินผิว

ช่วยฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใส และสุขภาพดียิ่งขึ้น
ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย
ให้ผลลัพธ์ในการบำรุงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากร่างกายสามารถดึงสารอาหารไปใช้ได้เลย ไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยอาหาร
สามารถช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับผิว
ช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอกระบวนการแก่ชรา
ลดอาการอ่อนล้า และอ่อนเพลีย
ช่วยเพิ่มวิตามินและแร่ธาตุให้เพียงพอต่อร่างกาย
ช่วยให้ร่างกายสามารถขับสารพิษได้ดียิ่งขึ้น

ข้อเสียของการทำหัตถการดริปวิตามินผิว

ผลจากการทำหัตถการดริปวิตามินผิวไม่สามารถอยู่ได้อย่างถาวร จึงอาจต้องทำการเข้ารับบริการอย่างต่อเนื่องถึงจะได้ผลลัพธ์ตามต้องการ
หากทำหัตถการดริปวิตามินผิวบ่อยหรือมากเกินไป อาจส่งผลอันตรายต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกายได้ ฉะนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการทุกครั้ง

ใครที่เหมาะและไม่เหมาะกับการทำดริปวิตามิน

หากกังวลว่าการดริปวิตามินผิวอันตรายไหม เหมาะกับตนเองหรือไม่ สามารถอ่านข้อแนะนำด้านล่างเพื่อพิจารณาว่าตนเองควรทำหัตถการชนิดนี้หรือไม่ ก่อนการตัดสินใจเพื่อเข้ารับบริการ ดังนี้

ผู้ที่เหมาะกับหัตถการดริปวิตามินผิว

ผู้ที่ต้องการสารอาหาร เช่น วิตามิน แร่ธาตุ หรือสารต้านอนุมูลอิสระให้เพียงพอต่อร่างกาย แต่ไม่มีเวลามากพอ
ผู้ที่ต้องการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีจากภายใน
ผู้ที่สนใจทางเลือกอื่นในการบำรุงผิว นอกเหนือจากการทาสกินแคร์ หรือการใช้พลังงานเลเซอร์
ผู้ที่อ่อนล้าสะสม และต้องการให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า

ผู้ที่ไม่เหมาะกับหัตถการดริปวิตามินผิว

ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต และระบบภูมิคุ้มกัน เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคฮีโมฟีเลีย เป็นต้น
ผู้ที่เป็นโรคไต และโรคตับ
ผู้ที่มีภาวะวิตามินหรือแร่ธาตุเกิน

สรุป

ผู้ที่กำลังสงสัยว่าการดริปวิตามินผิวอันตรายไหม ควรเข้ารับบริการในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพื่อที่จะสามารถลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย และควรเป็นวิตามินที่ได้รับการรับรองจากอย. เพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น แม้ว่าการดริปวิตามินจะเป็นการเพิ่มสารที่เป็นประโยชน์ให้กับร่างกาย แต่หากทำหัตถการชนิดนี้บ่อย ๆ ก็อาจเกิดภาวะวิตามินและแร่ธาตุเกินได้ ฉะนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

สนใจในการทำหัตถการดริปวิตามินแต่ยังไม่มั่นใจ สามารถรับคำปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางได้ในแอปพลิเคชัน SkinX สะดวก รวดเร็ว สำหรับผู้ที่ต้องการพบแพทย์โดยไม่ต้องรอนาน ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็เข้าปรึกษาแพทย์ได้ ดาวน์โหลดได้เลยโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

References

Healthline Wellness Team. (2019, April 10). IV Vitamin Therapy: Your Questions Answered. https://www.healthline.com/health/under-review-IV-vitamin-therapy

Payton, L. T. (2023, May 6). IV therapy is soaring in popularity, but it’s not without risks. Experts explain the pros and cons. https://fortune.com/well/2023/05/06/iv-therapy-benefits-risks/