ทำความรู้จักสาร THC และ CBD มีการออกฤทธิ์ต่างกันอย่างไร

หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้กัญชาเป็นพืชที่ถูกกฎหมาย ทำให้ปัจจุบันกัญชากลายเป็นพืชที่พบเจอได้ทั่วไป ซึ่งในกัญชาก็ประกอบไปด้วยสารออกฤทธิ์สำคัญต่าง ๆ นั่นก็คือ สาร THC และ CBD

ทั้งสาร THC และสาร CBD คือสารสกัดที่อยู่ในกัญชา สามารถนำมาใช้ในการแพทย์และการนันทนาการได้ แม้ว่าจะมีอยู่ในพืชตระกูลเดียวกัน แต่ในเรื่องของประโยชน์และคุณสมบัติของสาร 2 ชนิดนี้ มีความแตกต่างกันอยู่ไม่น้อย ในบทความนี้ SkinX จะพามาทำความรู้จักสาร THC และ CBD ในกัญชาให้มากขึ้น พร้อมทั้งสาระน่ารู้เกี่ยวกับกัญชาที่ไม่ควรพลาด

SkinX แอปพลิเคชันพบแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางผ่านออนไลน์ ไม่ว่าจะอยู่บ้านหรืออยู่ที่ไหนก็พบแพทย์ได้ทันทีเสมือนมีแพทย์มาหาคุณถึงบ้าน สำหรับผู้ใช้งานใหม่สามารถขอคำปรึกษากับแพทย์ผิวหนังผ่านแอป SkinX ได้ไม่มีค่าใช้จ่าย

สาร THC และ CBD ในกัญชาคืออะไร

หลายคนคงอาจจะได้ยินและรู้ถึงสรรพคุณต่าง ๆ ของ “กัญชา” มากันบ้างแล้วว่า กัญชา คือ พืชล้มลุก มีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพร ในต้นกัญชามีกลุ่มสารแคนนาบินอยด์ (Cannabinoid) จำพวกไฟโตแคนนาบินอยด์(Phytocannabonoids) แต่สารที่ออกฤทธิ์สำคัญมีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ Tetrahydrocannabinol (THC) และ Cannabidiol (CBD) ทั้งสองสารเป็นสารสกัดที่อยู่ในต้นกัญชาที่มีความนิยมนำไปใช้กันอย่างแพร่หลาย

สาร Tetrahydrocannabinol (THC) และสาร Cannabidiol (CBD) สามารถพบได้ในต้นกัญชาและกัญชง อาจจะดูไม่มีความแตกต่างกันมาก แต่ความจริงแล้วทั้งคู่มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณสมบัติ, ประโยชน์ทางการแพทย์ และการออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทั้งนี้ในปัจจุบันกัญชาได้ถูกนำมาใช้ทางการแพทย์ และอุตสาหกรรมอาหารมากขึ้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องเข้าใจถึงสรรพคุณของสารสกัดในกัญชา เพื่อนำประโยชน์ของกัญชามาใช้อย่างปลอดภัยที่สุด รวมถึงผู้ที่ต้องการใช้กัญชาในทางการแพทย์ ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญขณะใช้กัญชา

“Cannabinoid คือ เป็นสารเคมีที่พบได้ทั้งในร่างกายมนุษย์และในพืช โดย Cannabinoid จะไปจับกับตัวรับจำเพาะในร่างกาย (Cannabinoid Receptor) และไปกระตุ้นการทำงานของระบบต่าง ๆ เพื่อให้ร่างกายเกิดความสมดุล รวมทั้งไปควบคุมการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายให้ดีขึ้นอีกด้วย”

THC คืออะไร

Tetrahydrocannabinol (THC) คือ สารแคนนาบินอยด์ (Cannabinoid) ที่ออกฤทธิ์ต่อสมองเป็นหลัก จึงทำให้ผู้ใช้สาร THC จะมีอาการเมาเคลิ้ม หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยในเรื่องการนอนหลับ, ลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และช่วยในการเจริญอาหาร

แม้ว่าสาร THC จะมีคุณสมบัติที่ช่วยในเรื่องการแพทย์และการดูแลรักษา แต่สาร THC จัดเป็นสารเสพติดประเภทที่ 1 จากองค์การอนามัยโลก เนื่องจากหากใช้สารชนิดนี้มากเกินขนาดจะทำให้มีอาการใจสั่น, หน้ามืด และเห็นภาพหลอน อีกทั้งยังมีความเสี่ยงทำให้เกิดภาวะดื้อยา (Tolerance) ส่งผลให้ต้องเพิ่มขนาดยาและเกิดการเสพติดได้ในที่สุด ดังนั้นการใช้สาร THC จึงต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

“รู้หรือไม่ ร่างกายของมนุษย์ก็มีสารแคนนาบินอยด์เหมือนกัน โดยมีชื่อว่า เอนโดแคนนาบินอยด์ (Endocannabinoids) ซึ่งสารนี้จะควบคุมกลไกสำคัญต่าง ๆ ภายในร่างกาย เช่น ควบคุมการนอนหลับ, ควบคุมอารมณ์, ควบคุมความอยากอาหาร และดูแลภูมิต้านทานของร่างกาย แต่หากร่างกายไม่สามารถสร้างสารเอนโดแคนนาบินอยด์ (Endocannabinoids) ออกมาได้เพียงพอ จะส่งผลกระทบต่อร่างกายและการดำเนินชีวิตได้ สารไฟโตแคนนาบินอยด์ (Phytocannabonoids) ที่พบได้มากในกัญชา จึงสามารถช่วยแก้ไขในส่วนนี้ได้ โดยสารชนิดนี้จะช่วยลดอาการหดหู่, ลดความเครียด และช่วยในการนอนหลับให้ดีมากยิ่งขึ้น จึงเป็นเหตุผลให้คนในปัจจุบันมีการใช้กัญชาเพิ่มมากขึ้น”

CBD คืออะไร

Cannabidiol (CBD) คือ สารกัดชนิดหนึ่งที่ไม่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Non-psychoactive) หรือเรียกได้ว่า เป็นสารที่ออกฤทธิ์ตรงข้ามกับ THC ไม่ทำให้เกิดอาการเมาเคลิ้ม, ไม่ทำให้เกิดการเสพติด และไม่ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ต้นกัญชามีสาร THC กับ สาร CBD ในปริมาณที่แตกต่างกันไปตามแต่ละสายพันธุ์ และในสภาวะแวดล้อมในการปลูก หากเรานำกัญชามาใช้โดยตรง จะทำให้ร่างกายรับสาร THC มากเกินไป ทำให้เสี่ยงต่อการเสพติดได้ การจะนำสาร CBD มาใช้งาน จึงต้องผ่านการสกัดออกมาก่อนถึงจะนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สาร CBD ในกัญชาจึงถูกนำมาผ่านกระบวนการแปรรูปเป็นหลัก ซึ่งเราสามารถนำสาร CBD มาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการนำมาใช้ทางการแพทย์หรือการทำสินค้าต่าง ๆ เช่น ยา, สมุนไพร, อาหาร หรือน้ำมันกัญชา เนื่องจากสาร CBD มีคุณสมบัติในการลดอาการทางจิต, ลดอาการจากโรคลมชัก, ลดอาการปวด และรักษาโรคนอนไม่หลับได้ในบางคน

“CBD Oil คือ สารสกัดที่ได้จากกัญชา นำมาผสมน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันอื่น ๆ เป็นวิธีการรักษาทางธรรมชาติได้รับความนิยมในปัจจุบัน มีสรรพคุณทางการแพทย์หลากหลายด้าน หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม สามารถบรรเทาอาการปวดและช่วยให้ผ่อนคลายได้”

สาร THC และ CBD ในกัญชาแตกต่างกันอย่างไร

มาถึงตรงนี้คงจะทราบกันแล้วว่า สาร THC และ CBD คืออะไร สำหรับใครยังมองว่าสารทั้งสองชนิดนี้ไม่แตกต่างกันมากนัก ในบทความนี้จะพามาชี้ให้เห็นถึงข้อแตกต่างของสาร THC และ CBD

สาร THC ออกฤทธิ์ทางจิต แต่สาร CBD ไม่ออกฤทธิ์ทางจิต
สาร THC ออกฤทธิ์ในการผ่อนคลาย และส่งผลต่อร่างกายให้เกิดอาการเมาเคลิ้ม ในขณะที่สาร CBD ออกฤทธิ์ที่ช่วยในการผ่อนคลายเพียงอย่างเดียว
สาร CBD แทบจะไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย แต่สาร THC มีผลข้างเคียงต่อร่างกายอย่างชัดเจน เช่น กระหายน้ำ, ปากแห้ง, หัวใจเต้นเร็ว และมีความจำระยะสั้นลดลง
สาร THC หากใช้ในปริมาณมากและใช้ติดต่อกัน จะทำให้ร่างกายเกิดภาวะดื้อยา (Tolerance) ส่งผลให้เกิดการเสพติดในที่สุด แตกต่างกับ สาร CBD ที่ยังไม่พบว่าหากใช้ในปริมาณมากจะทำให้เกิดการเสพติด
สาร CBD และ สาร THC มีผลลัพธ์ในการรักษาทางการแพทย์ทั้งคู่ แต่มีเพียงสาร THC เท่านั้นที่จะให้ผลลัพธ์ในเชิงนันทนาการ

ประโยชน์ของ THC และ CBD

จากทั้งหมดที่กล่าวมาก็ทำให้เราได้ทราบแล้วว่า สารทั้ง 2 ชนิดมีความแตกต่างกันอย่างไร อีกทั้งยังได้ทราบแล้วว่า สาร THC และ CBD คืออะไร ดังนั้นเราจึงรวบรวมประโยชน์ของกัญชาทั้ง 2 ชนิดไว้ดังนี้

1. ประโยชน์ของ THC

บรรเทาอาการเกร็งกล้ามเนื้อ
บรรเทาอาการเจ็บปวดเรื้อรัง
บรรเทาผลข้างเคียงของการรักษามะเร็ง
บรรเทาอาการภูมิแพ้
บรรเทาอาการคลื่นไส้
บรรเทาอาการติดเชื้อหรืออักเสบ
ช่วยเสริมสร้างระบบย่อยอาหาร
ช่วยให้เจริญอาหารมากขึ้น
ช่วยเรื่องการนอนหลับ

2. ประโยชน์ของ CBD

บรรเทาอาการวิตกกังวล
บรรเทาอาการชัก โรคลมบ้าหมู
บรรเทาอาการโรคเบาหวาน
บรรเทาและป้องกันโรคหัวใจ
บรรเทาอาการพาร์กินสัน
บรรเทาอาการทางจิตเภทต่าง ๆ
บรรเทาอาการลงแดงจากสารเสพติดอื่น ๆ

สรุป

สารสกัดจากกัญชาประกอบไปด้วยสารออกฤทธิ์สำคัญ 2 ชนิดคือ สาร THC และสาร CBD ทั้งสองสามารถนำมาใช้ในทางการแพทย์ได้ แต่มีการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกันไม่น้อย ผู้จะต้องใช้สารสกัดจากกัญชาควรศึกษาคุณสมบัติและผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นก่อนทุกครั้ง อีกทั้งหากต้องใช้สารสกัดจากกัญชาร่วมกับยาอื่น ๆ ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดผลกระทบต่อร่างกายของเราได้

สำหรับใครที่ต้องการคำปรึกษาจากแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง SkinX ให้คุณได้คำตอบที่สงสัย โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล หรือคลินิกแบบเดิม ๆ อีกต่อไป อีกทั้งยังมีดีลสุดคุ้ม ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SkinX ได้เลยที่ App Store & Google Play

อ้างอิง

NIDA. (2019, December 24). Cannabis (Marijuana) DrugFacts. National Institute on Drug Abuse. https://nida.nih.gov/publications/drugfacts/cannabis-marijuana

Department of Medical Services. (2019). Guidance on Cannabis for Medical Use, 2019(2): 1-22. https://thaicam.go.th/wp-content/uploads/2020/09/Final_Guidance.pdf

DiLonardo, MJ. Journey, JW. (2023, October 31). CBD vs. THC: What’s the Difference?. Webmd. https://www.webmd.com/pain-management/cbd-thc-difference

Kashouty R. (2023, July 11). CBD vs. THC: Understanding the Differences and Benefits. Premier Neurology Center. https://premierneurologycenter.com/blog/cbd-vs-thc-understanding-the-differences-and-benefits/

Nafiz, KS., & Anterpreet, D. (2023, February 27). StatPearls. National Library of Medicine. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK556062/

What’s the difference between CBD and THC?. (2022, May 12). Leafly. https://www.leafly.com/news/cbd/cbd-vs-thc