24 มีนาคม 2566
ทำความรู้จักเครื่อง Hifu มีกี่ยี่ห้อ แตกต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
เครื่อง Hifu ที่มีอยู่ตามคลินิกแต่ละแห่ง บางคลินิกก็ใช้ยี่ห้อแตกต่างกันไป แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า เครื่อง Hifu ในประเทศไทย ยี่ห้อไหนดี เครื่องไหนเป็นของแท้ แถมราคา Hifu แต่ละแห่งก็ต่างกันมาก ตั้งแต่หลักร้อย หลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่น อะไรถึงทำให้ราคา Hifu มีความแตกต่างกัน ในบทความนี้ SkinX จะพามาทำความรู้จักเครื่อง Hifu มีกี่แบบ แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร เพื่อเป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจเลือกทำ Hifu
SkinX แอปพลิเคชันพบแพทย์ผิวหนังออนไลน์ ที่ได้รวบรวมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำไว้มากกว่า 210 คน มาให้คำปรึกษา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวหนัง หัตถการเสริมความงาม พบแพทย์ออนไลน์ได้ง่าย ๆ ไม่ต้องรอคิว รู้ผลทันที สำหรับลูกค้ารายใหม่ ปรึกษาแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
สารบัญบทความ
รู้จักกับ Hifu คืออะไร?
Hifu (High Intensity Focused Ultrasound) อ่านว่า ไฮฟู คือหัตถการยกกระชับผิวและสัดส่วน โดยใช้เครื่องมือเฉพาะที่มีหลักการการทำงานโดยปล่อยพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง ส่งไปในชั้นผิวหนัง SMAS รวมถึงยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวบริเวณที่ทำยืดหยุ่นมากขึ้น เมื่อผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับ ก็จะช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องตื้น รูขุมขนกระชับขึ้น การทำ Hifu นอกจากจะทำบริเวณใบหน้าแล้ว ยังสามารถทำบริเวณร่างกายได้อีกด้วย เช่น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เป็นต้น
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : HIFU คืออะไร? ช่วยยกกระชับจริงไหม? ไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับไฮฟู
ทำความรู้จักเครื่อง Hifu มีกี่แบบ แต่ละเครื่องเหมือนกันไหม?
เครื่อง Hifu มีกี่แบบ? ต้องกล่าวก่อนว่าเครื่องไฮฟู ที่อยู่ตามคลินิกเสริมความงามต่าง ๆ นั้นมีหลายยี่ห้อ แต่ละคลินิกก็จะเลือกใช้เครื่องแตกต่างกันไป โดยยี่ห้อของเครื่อง Hifu นั้นก็ผลิตมาจากหลายประเทศ เช่น อเมริกา อิสราเอล เกาหลี จีน เป็นต้น ในหัวข้อนี้เราจะมาดูกันว่าเครื่อง Hifu ในประเทศไทย มีกี่แบบ แต่ละเครื่องเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร ดังนี้
แบ่งตามชนิดหัวยิง
เครื่องไฮฟู มีหัวยิงที่หลากหลายตามระดับความลึกของชั้นผิว โดยสามารถแบ่งหัวยิงออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้
- หัวยิงความลึก 1.5-2.0 mm. เหมาะสำหรับริ้วรอยผิวหนังชั้นบน (Superficial Dermis) ร่องลึกในระดับที่ไม่ลึกมาก
- หัวยิงความลึก 3.0 mm. เหมาะสำหรับผิวหนังชั้นไขมันหรือผิวชั้นกลาง (Deep Dermis) ช่วยลดไขมัน เซลลูไลท์ ลดความหย่อนคล้อยของผิว กระชับใบหน้า
- หัวยิงความลึก 4.5 mm. เหมาะสำหรับผิวหนังชั้น SMAS สามารถใช้ยกแก้ม ลำคอ และเหนียงได้
นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งชนิดของหัวยิงตามลักษณะการเรียงตัวอีกด้วย
- Single Shot – เมื่อยิงออกมาแล้วจะมีลักษณะการเรียงตัวเป็นจุด 1 จุด (Shot)
- Line Cartridge – เมื่อยิงออกมาแล้วจะมีลักษณะการเรียงตัวเป็นเส้น (Line) โดย 1 เส้นจะประกอบไปด้วยจุดขนาด 0.5-1 mm. เรียงกัน 15-25 จุด ดังนั้น 1 ไลน์จะเท่ากับ 15-25 จุดเรียงต่อกัน
“ข้อควรระวัง : หัวยิงแบบ Line Cartridge เมื่อกดยิง 1 ครั้ง จะได้จุดประมาณ 15-25 ช็อต ถือว่านับเป็น 1 ไลน์ เท่านั้น ซึ่งในบางคลินิกจะนับจำนวนไลน์เป็นช็อตไปเลย เช่น กดยิง 1 ไลน์ นับเป็น 15 ช็อต ทั้ง ๆ ที่คลินิกใช้ไปเพียงแค่ 1 ไลน์เท่านั้น หรือ นับ 1 จุด = 1 ไลน์ เป็นต้น ทั้งนี้ก่อนเข้ารับทำ Hifu ควรสอบถามรายละเอียดของแต่ละคลินิกให้แน่ชัดเจน”
แบ่งตามยี่ห้อเครื่อง Hifu
ก่อนเลือกคลินิกทำ Hifu เราควรสังเกตเครื่อง Hifu ที่คลินิกใช้เป็นอันดับแรก เนื่องจากเครื่อง Hifu นั้นมีหลายเกรด หลายยี่ห้อทำให้หลายคนอาจสับสน ด้วยความที่เครื่อง Hifu มีหน้าตาหลายแบบถ้าไม่ศึกษาหรือสังเกตดี ๆ อาจเสี่ยงเจอเครื่อง Hifu ที่ไม่ได้มาตรฐานได้ ดังนั้นเราควรศึกษายี่ห้อของเครื่อง Hifu ให้ถี่ถ้วน หรือจะสอบถามจากคลินิกโดยตรงก็ได้ โดยยี่ห้อเครื่อง Hifu ที่ผ่านมาตรฐานการรองรับจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และกำลังเป็นที่นิยม เช่น Ultraformer III, Lifthera เป็นต้น ซึ่งเราจะไปดูรายละเอียดยี่ห้อของเครื่อง Hifu ในหัวข้อถัดไป
แบ่งตามพลังงานที่ลง
1.Micro & Macro Focused Ultrasound (MMFU) คือเทคโนโลยีการปล่อยพลังงาน 2 รูปแบบคือ
- แบบแรก Micro Focused Ultrasoundปล่อยพลังงานลงสู่ชั้นใต้ผิวหนัง SMAS ที่ระดับความลึก 1.5 mm./3 mm./4.5 mm. เกิดเป็นความร้อนจุดเล็ก ๆ ระดับ 65-70 องศาเซลเซียส มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5-1 มิลลิเมตร ทำให้ชั้นผิวหนัง SMAS เกิดการหดตัว ส่งผลให้ใบหน้าที่หย่อนคล้อยยกกระชับขึ้นได้ และยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง
- แบบที่สอง Macro Focused Ultrasound ปล่อยพลังงานที่ระดับความลึก 6.0 mm./9.0 mm./13 mm. และระดับความลึกใหม่ล่าสุด 2 mm. ให้พลังงานสูงกว่า Micro Focused Ultrasound ถึง 8 เท่า สามารถสลายไขมันและกระตุ้นคอลลาเจนได้
“SMAS ย่อมาจาก Superficial Musculoaponeurotic system เป็นชั้นเนื้อเยื่อที่สำคัญของกล้ามเนื้อใบหน้า มีตำแหน่งอยู่ใต้ชั้นผิวหนังและไขมัน และเป็นผิวหนังชั้นเดียวกับการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อดึงหน้าให้กระชับขึ้น”
แบ่งตามประเทศผู้ผลิตเครื่อง Hifu
ถึงแม้ว่าเครื่อง Hifu แต่ละเครื่องจะมีหน้าตาที่คล้ายกัน แต่จริง ๆ แล้วเครื่อง Hifu นั้นมาจากหลายประเทศ มีทั้งเครื่องจากประเทศอเมริกา เกาหลี และจีน โดยราคาการทำ Hifu ของแต่ละคลินิกก็จะแปรผันตามเครื่อง Hifu ด้วยเช่นกัน ซึ่งเครื่อง Hifu ที่ผ่านมาตรฐานผ่านการรับรองและเป็นกำลังเป็นที่นิยม เช่น เครื่อง Hifu จากประเทศเกาหลี และเครื่อง Hifu จากประเทศอเมริกา เป็นต้น
เครื่อง Hifu ยี่ห้อยอดนิยมมีอะไรบ้าง?
อย่างที่กล่าวไปว่าก่อนการเลือกทำ Hifu เราควรตรวจสอบแหล่งที่มาของเครื่อง Hifu ที่แต่ละคลินิกใช้ให้ชัดเจน รวมถึงบริษัทที่นำเข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่ายและเอกสารการขึ้นทะเบียนจากอย.ไทย โดยข้อมูลเครื่อง Hifu เหล่านี้สามารถสอบถามได้จากคลินิกเสริมความงามต่าง ๆ หรือติดต่อสอบถามจากบริษัทนำเข้าเครื่อง Hifu แต่ละยี่ห้อโดยตรง สำหรับเครื่อง Hifu ยอดนิยมมีดังนี้
Ultraformer III
Ultraformer III เป็นเครื่อง Hifu เกาหลีที่ใช้เทคโนโลยี Micro & Macro Focused Ultrasound (MMFU) มีหัวยิงหลักแบบ Line Cartridge สามารถยิงได้อย่างแม่นยำโดยที่ไม่ทำร้ายผิวรอบข้าง ให้พลังงานคงที่และกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ ที่อุณหภูมิ 65-75 องศาเซลเซียส ตัวเครื่องส่งพลังงานลงสู่ใต้ผิวทุกระดับชั้น ช่วยกระชับผิวและสลายไขมันใต้ชั้นผิว รวมถึงช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ สามารถใช้ได้ทั้งใบหน้าและร่างกาย
เครื่อง Ultraformer III มาจากบริษัท CLASSYS ประเทศเกาหลี ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก U.S.FDA ยุโรป ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลี และไทย
Lifthera
เครื่อง Lifthera ใช้เทคโนโลยี Thermal Diffusion Treatment (TDT) เอกสิทธิ์เฉพาะของ Lifthera ทำให้พลังงานลงลึกใต้ชั้นผิวอย่างแม่นยำ พลังงานเสถียร คงที่ ไม่ทำให้เกิดผิวไหม้ พลังงานที่ยิงออกมาสามารถลงลึกได้ถึงชั้นผิว SMAS ทำให้เกิดการยกกระชับและช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้
Lifthera มีจุดเด่นคือหัวยิงมีให้เลือก 2 แบบคือ หัว Pen Applicator และ หัว Line Cartridge โดยหัวแบบ Pen Applicator จะยิงออกเป็น Single Shot มีข้อดีคือสามารถเข้าถึงได้ทุกซอก ทุกมุมบนใบหน้าได้อย่างละเอียด ยกกระชับได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา หน้าผาก หางคิ้ว เป็นต้น ส่วนหัวแบบ Line Cartridge จะช่วยเก็บกรอบหน้าและเหนียงได้ดี ทำให้ใบหน้าเรียวขึ้น กรอบหน้าชัด
Lifthera เป็นเครื่อง Hifu จากบริษัท Asterasys ประเทศเกาหลี ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยาไทย (อย.) และ KFDA (Korea Food & Drug Administration)
Contlex
เครื่อง Hifu ยี่ห้อ Contlex มีคุณสมบัติเด่นคือมีพลังงานอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง มีพลังงานคงที่ ส่งพลังงานลงลึกถึงชั้นผิว SMAS อย่างแม่นยำ ช่วยกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ลดเลือนริ้วรอย รวมถึงช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน มีหัวยิงหลักแบบ Line Cartridge ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยาไทย (อย.) และ KFDA
ความต่างระหว่างเครื่อง Hifu ราคาถูก-ราคาแพง
ทำไมราคา Hifu แต่ละแห่งถึงมีราคาไม่เท่ากัน? ต้องกล่าวก่อนว่าเครื่อง Hifu นั้นมีหลายเกรด หลายยี่ห้อ ซึ่งราคาการทำ Hifu แต่ละครั้งก็จะแปรผันตามยี่ห้อเครื่อง Hifu ด้วยเช่นกัน เนื่องจากเครื่อง Hifu นั้นมีต้นทุนสูง จึงเป็นไปไม่ได้เลยว่าการทำ Hifu 1 ครั้งจะมีราคาถูก ฉะนั้นหากพบเห็นว่ามีคลินิกที่ตั้งราคาการทำ Hifu ต่ำกว่าปกติ อาจสันนิษฐานได้ว่าเป็นเครื่อง Hifu จากประเทศจีน หรือเครื่อง Hifu ที่ไม่ได้คุณภาพ เป็นต้น หากใช้เครื่อง Hifu ราคาถูกหรือไม่ผ่านการรับรองอาจทำแล้วไม่ได้ผล หรือเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้
ความต่างระหว่างเครื่อง Hifu ราคาถูก-ราคาแพงอีกหนึ่งเรื่องคือ เครื่อง Hifu ที่ได้มาตรฐานนั้นจะใช้หัวยิงแบบ Consume Shot เช่น 1 หัวจะยิงได้ 30,000 Shot หากยิงหมดแล้วจะต้องซื้อหัวยิงใหม่ ซึ่งเครื่อง Hifu ราคาถูก หรือเครื่อง Hifu ที่ลอกเลียนแบบมาส่วนใหญ่จะไม่ใช่หัวยิงแบบ Consume Shot ทำให้เมื่อใช้เครื่องไปนาน ๆ พลังงานจะต่ำลง ไม่สม่ำเสมอ และไม่เห็นผล รวมถึงอาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้
หากสงสัยเกี่ยวกับการทำ Hifu ผลข้างเคียงมีไหม สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : Hifu ผลข้างเคียง
อันตรายจากการใช้เครื่อง Hifu ไม่ได้คุณภาพ
ถ้าหากว่าตัวเครื่อง Hifu ที่ใช้ไม่ได้คุณภาพ ย่อมส่งผลลัพธ์หลังทำได้ โดยอันตรายจากการใช้เครื่อง Hifu ที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่านการรองรับนอกจากจะทำ Hifu แล้วไม่เห็นผล บางรายยังเสี่ยงเกิดผิวหน้าไหม้ หน้าเบิร์นเป็นแผลเป็น หน้าเบี้ยว และเป็นแผลในปากได้
นอกจากนี้เครื่อง Hifu ที่ผลิตจากประเทศจีนมักจะพบในคลินิกเสริมความงามที่ตั้งราคา Hifu ถูก ๆ เนื่องจากเครื่องมีต้นทุนการนำเข้าที่ไม่แพง รวมถึงราคาต่อช็อต/ไลน์ก็ไม่แพงมาก ซึ่งส่วนมากมักไม่เห็นผลหลังทำ รวมถึงถ้าหากเจอเครื่อง Hifu ที่ไม่ได้มาตรฐาน พลังงานของเครื่องไม่เสถียร และจุดของพลังงานไม่ Focus หรือไม่สม่ำเสมอ หลังทำอาจเกิดโอกาสหน้าเบิร์น หน้าไหม้ หน้าเบี้ยว รวมถึงเกิดแผลในปากได้
รวมคำถามที่พบบ่อย
เครื่อง Hifu ยี่ห้อไหนดีที่สุด?
เครื่อง Hifu แต่ละเครื่องนั้นมีข้อดีที่แตกต่างกัน ถ้าหากเปรียบเทียบเฉพาะเครื่อง Hifu แบรนด์แท้จากเกาหลี เช่น Ultraformer III, Liftera, Contlex เป็นต้น หากวัดประสิทธิภาพจากพลังงานที่ยิงลงชั้นผิวหนัง SMAS อย่างแม่นยำแล้ว แต่ละแบรนด์ก็จะมีจุดเด่นในเรื่องเทคโนโลยีหรือฟังก์ชันเสริมที่แตกต่างกัน เช่น
- Ultraformer III จะใช้เทคโนโลยี Micro & Macro Focused Ultrasound (MMFU) สามารถยิงได้อย่างแม่นยำโดยที่ไม่ทำร้ายผิวรอบข้าง มีหัวยิงหลักคือ Line Cartridge ช่วยยกกระชับและลดไขมันเฉพาะจุดได้อีกด้วย
- Liftera มีเทคโนโลยี TDT ที่ช่วยบรรเทาความเจ็บลง มีพลังงานกระจายตัวกว้าง ช่วยกระตุ้นและยกกระชับได้ดี มีหัวยิง 2 แบบ ทั้ง Line Cartridge และ Pen Applicator
Hifu เจ็บไหม
ทำ Hifu เจ็บไหม? ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการทำ Hifu เป็นหัตถการที่ทำแล้วจะรู้สึกเจ็บในระดับหนึ่ง เนื่องจากขณะทำมีการยิงคลื่นเสียงเข้าไปถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ SMAS เพื่อยกกระชับ ส่งผลให้รู้สึกปวด ๆ ตึง ๆ บริเวณที่ทำได้ แต่ถ้าหากกลัวว่าจะเจ็บสามารถบอกแพทย์เพื่อทายาชาก่อนทำ Hifu ได้
ไม่ใช่แพทย์เป็นคนลงมือทำ Hifu ได้ไหม
การให้พนักงานที่ไม่ใช่แพทย์เป็นผู้ลงมือทำ Hifu อาจเกิดผลข้างเคียงตามมาได้ เช่น ปากเบี้ยว ผิวไหม้ เป็นต้น ดังนั้นเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ทราบสาเหตุปัญหาผิวของคนไข้เป็นอย่างดี เพื่อปรับค่าพลังงาน ออกแบบแนวการยิงให้เหมาะสมกับใบหน้าคนไข้
สรุป
เครื่อง Hifu แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างกันไป ที่สำคัญก่อนทำ Hifu ควรเลือกคลินิกที่ใช้เครื่อง Hifu แท้เท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง และเพื่อความปลอดภัยต่อใบหน้า ร่างกายของเรา สำหรับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าและยังตัดสินใจเลือกทำ Hifu ดีไหม สามารถศึกษาดูรายละเอียดแต่ละคลินิกและเข้าพบแพทย์เพื่อประเมินปัญหาที่ต้องการแก้ไขได้
หากต้องการปรึกษากับแพทย์แต่ไม่มีเวลาไปคลินิกสามารถใช้แอปพลิเคชัน SkinX เพื่อพูดคุยและพบแพทย์ผ่านทางออนไลน์โดยตรงได้
SkinX แอปพลิเคชันพบแพทย์ผิวหนังออนไลน์ ที่ได้รวบรวมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำไว้มากกว่า 210 คน มาให้คำปรึกษาโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาผิวหนัง หัตถการเสริมความงามต่าง ๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็พบหมอได้เสมอ สำหรับผู้ใช้บริการรายใหม่ ปรึกษาแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
อ้างอิง
Liftera’stechnology. Classys. https://liftera.co.kr/products/liftera-a/
ULTRAFORMER III. Classys. https://classys.com/product-line/ultraformer/
