ดริปวิตามิน เติมความสดชื่นให้กับร่างกาย พร้อมเผยผิวกระจ่างใส
ดริปวิตามินเป็นหัตถการที่นิยมในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตนเองมากนักและต้องการเห็นผลลัพธ์ที่เร็วกว่าการรับประทานอาหารหรือใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นการให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์ ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายอีกด้วย
“แต่อย่างไรก็ตามการดริปวิตามินหรือการให้สารน้ำนับเป็นหัตถการทางเลือกสำหรับการเสริมสุขภาพและการทดแทนสารอาหารจำเป็นสำหรับผู้ป่วย มีความเป็นไปได้ที่จะไม่แสดงผลลัพธ์ตามความคาดหวังของผู้เข้ารับบริการและมีโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยงทั้งการติดเชื้อในกระแสเลือดและผลข้างเคียงจากการได้รับวิตามินเกินความจำเป็นของร่างกาย ทั้งนี้ทาง SkinX จึงแนะนำให้พิจารณาการทำหัตถการนี้อย่างถี่ถ้วน”
SkinX แอปพลิเคชันพบแพทย์ผิวหนังออนไลน์ อยากจะขอคำปรึกษาจากแพทย์ตอนไหนก็สามารถพบแพทย์ได้ผ่านแอปพลิเคชันได้เลยทันที เรามีแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางคอยให้คำปรึกษาแก่คุณ รู้ผลเร็ว หลังพบแพทย์เสร็จหากต้องรับยาก็สามารถรอรับที่หน้าบ้านได้เลย
Key Takeaway
- ดริปวิตามิน เป็นหัตถการที่มีการฉีดสารอาหารสำคัญเข้าสู่ร่างกายผ่านหลอดเลือดดำในปริมาณที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
- ร่างกายสามารถนำสารอาหารจากการดริปวิตามินไปใช้ฟื้นฟู บำรุง ซ่อมแซมได้ง่ายกว่าการรับประทานอาหารที่ต้องย่อย หรือการทาบนผิวที่ต้องรอให้สารบำรุงซึมเข้าสู่ผิว
- ดริปวิตามินเหมาะกับผู้ที่สนใจดูแลสุขภาพและอาจมีเวลาในการดูแลตนเองน้อย
- นอกจากการดริปวิตามินแล้วควรดูแลสุขภาพตนเองด้วยวิธีอื่นเพิ่มเติม เช่น การนอนหลับพักผ่อน รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ และออกกำลังกายให้เพียงพอ
ดริปวิตามิน (IV Drip) คืออะไร
ดริปวิตามิน (Intravenous Vitamin therapy : IV Drip) คือ หัตถการบำรุงร่างกายด้วยการเติมสารอาหารที่เป็นประโยชน์ในปริมาณที่เข้มข้นและพอเหมาะแก่ความต้องการของร่างกาย
การดริปวิตามินจะพิเศษกว่าการให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ด้วยการรับประทานอาหาร การรับประทานวิตามินเสริม หรือการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเนื่องจากวิธีเหล่านี้จะต้องผ่านกระบวนการดูดซึม กระบวนการย่อยภายในร่างกายเสียก่อนกว่าจะได้รับสารอาหารที่ร่างกายสามารถนำไปใช้งานได้
แต่สำหรับการดริปวิตามินนั้นจะเป็นการให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์โดยที่ร่างกายสามารถนำไปใช้งานได้ทันทีผ่านทางหลอดเลือดดำ ให้สารอาหารที่เข้มข้นและเพียงพอต่อการนำไปบำรุงส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยในระบบย่อยอาหาร ไม่ต้องผ่านกระบวนการดูดซึมผ่านผิวหนังที่ใช้เวลานาน และอาจได้สารอาหารที่นำไปใช้งานได้ไม่เต็มร้อย
“ปกติแล้วร่างกายจะดูดซึมสารอาหารจากอาหารที่รับประทานไปได้มากแค่ไหนขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หลายครั้งที่ร่างกายไม่สามารถดูดซึมสารอาหารได้เต็มที่มักมาจากการย่อยอาหารที่ไม่ดี ทำให้โมเลกุลของสารอาหารนั้นใหญ่เกินไปที่จะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อนำไปใช้งานได้ จึงทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ”
สารดริปวิตามิน ประกอบด้วยอะไรบ้าง
การดริปวิตามินหรือการให้วิตามินผ่านหลอดเลือดดำนั้นอาจมีส่วนประกอบที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสูตรของแต่ละสถานพยาบาล และความต้องการของผู้เข้ารับบริการว่าต้องการเน้นบำรุงส่วนใดเป็นพิเศษ โดยส่วนประกอบหลัก ๆ ที่มักนำมาผสมในสารน้ำสำหรับดริปวิตามินมีดังนี้
- วิตามินซี
- วิตามินบี
- สารต้านอนุมูลอิสระ
- กรดอะมิโน
- แมกนีเซียม
- แคลเซียม
- เอนไซม์และโคเอนไซม์
- สารสกัดอื่น ๆ จากธรรมชาติ
แต่ละสูตรจะมีสัดส่วนของสารสำคัญในปริมาณที่แตกต่างกัน อาจอยู่ในรูปวิตามินเดี่ยว วิตามินรวม หรือสารสำคัญอื่น ๆ เพื่อให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายเหล่านี้เข้าไปบำรุง ซ่อมแซมส่วนที่ต้องการได้ เช่น หากเป็นสูตรสำหรับผิวใสอาจเน้นวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นต้น
ดริปวิตามิน ช่วยอะไรได้บ้าง
การดริปวิตามินเป็นการให้สารอาหารที่ดีแก่ร่างกาย จึงสามารถให้ประโยชน์แก่ร่างกายได้หลายอย่าง ดังนี้
- ดริปวิตามินช่วยให้ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่น ชุ่มชื้นอิ่มน้ำ
- ดริปวิตามินช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดผิวหมองคล้ำ
- ดริปวิตามินผิวช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย สุขภาพแข็งแรงและโอกาสป่วยยากขึ้น
- ดริปวิตามินผิวช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้น สามารถช่วยเรื่องการควบคุมน้ำหนักได้ดี
- ดริปวิตามินช่วยเสริมสารอาหารกลุ่มวิตามินและแร่ธาตุให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
- ดริปวิตามินช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ลดอาการอ่อนล้า อ่อนเพลีย
- ดริปวิตามินช่วยให้ร่างกายขับสารพิษออกมาได้ดีกว่าเดิม
- ดริปวิตามินช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารที่ดีเข้าสู่ร่างกาย
การดริปวิตามินไม่ได้ให้ผลลัพธ์เฉพาะผิวพรรณเท่านั้น แต่ยังให้ประโยชน์ทั่วร่างกาย ส่งผลให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น ทั้งนี้ หลาย ๆ คลินิกก็จะมีเลือกสูตรการดริปวิตามินที่เน้นประโยชน์ด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ เช่น การดริปวิตามินผิวขาวกระจ่างใส ดริปวิตามินเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน เป็นต้น
“อย่างไรก็ตามการดริปวิตามินนี้ ร่างกายจะนำวิตามินที่เป็นสารอาหารเหล่านี้ไปซ่อมแซมหรือบำรุงส่วนไหนของร่างกายก็ได้ที่ร่างกายต้องการโดยที่ไม่สามารถกำหนดจำเพาะเจาะจงให้ไปซ่อมแซมจุดไหนในร่างกายโดยเฉพาะ จึงอาจทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่ตรงต่อความต้องการได้”
ดริปวิตามิน เหมาะกับใคร
มาดูกันว่าการดริปวิตามินเหมาะกับคุณหรือไม่?
- การดริปวิตามินเหมาะกับผู้ที่มีเวลาดูแลสุขภาพตนเองไม่มากพอ หรือมีกิจวัตรประจำวันที่ทำให้ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอและต้องการหาวิธีเสริมสุขภาพที่ดีที่ใช้เวลาไม่มาก
- เป็นผู้ที่เข้าใจว่าการดริปวิตามินเป็นการให้สารอาหารที่เข้มข้น ครบถ้วนแก่ร่างกาย ให้ร่างกายสามารถนำไปใช้งานได้เต็มที่ แต่ไม่สามารถทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีได้ในทันทีเพราะต้องให้เวลาร่างกายได้ซ่อมแซมและฟื้นฟูตนเองด้วย
- การดริปวิตามินเหมาะกับผู้ที่ต้องการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอก
- การดริปวิตามินผิวเหมาะกับผู้ที่มองหาทางเลือกในการบำรุงผิวจากธรรมชาตินอกจากการรับประทานอาหาร หรือการใช้สกินแคร์
- การดริปวิตามินเหมาะกับผู้ที่อ่อนล้าสะสม อ่อนเพลียจากการทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอและอยากเพิ่มความสดชื่นแก่ร่างกาย
การดริปวิตามินเหมาะกับการทำควบคู่กับหัตถการแก้ไขปัญหาผิวอื่น ๆ เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนไวขึ้น เช่น การทำเลเซอร์ การทำ HIFU เป็นต้น
ดริปวิตามิน ไม่เหมาะกับใคร
ถึงแม้ว่าการดริปวิตามินจะเป็นการให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายได้นำไปใช้งานเต็มประสิทธิภาพ แต่อาจไม่ได้เหมาะกับทุกคนเพราะสารอาหารที่ฉีดเข้าไปอาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณได้หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่มีเงื่อนไขทางสุขภาพดังนี้
- ผู้ป่วยโรคไต
- ผู้ป่วยโรคตับ
- ผู้ป่วยโรคหัวใจ
- ผู้ป่วยโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน
- ผู้ป่วยที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD
- ผู้ป่วยที่มีภาวะวิตามินหรือแร่ธาตุเกิน
- ผู้ป่วยโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบไหลเวียนโลหิต
- ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ยังควบคุมไม่ได้
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาหรือวิตามินใด ๆ
- หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
หากมีโรคประจำตัวหรือกำลังรับประทานยาอยู่หรือมีอาการแพ้ใด ๆ ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำหัตถการดริปวิตามินทุกครั้ง
ดริปวิตามิน มีวิธีฉีดกี่แบบ
การดริปวิตามินหรือการให้วิตามินทางเส้นเลือดมี 2 แบบ ดังนี้
ฉีดวิตามินผ่านไซริงค์
การฉีดวิตามินผ่านไซริงค์ (IV push) จะเป็นการฉีดวิตามินเข้มข้นลงสู่หลอดเลือดดำโดยตรง โดยสามารถฉีดวิตามินได้หลายบริเวณ อาจฉีดบริเวณใบหน้าเพื่อให้ผิวหน้าได้สารอาหารไปซ่อมแซมและบำรุงเซลล์ผิวได้ดีขึ้น มักจะใช้เวลาไม่นานประมาณไม่เกิน 5-10 นาที แต่อาจพบอาการแสบขณะฉีดได้ง่าย
ดริปวิตามิน แบบฉีดผ่านถุงน้ำเกลือ
การดริปวิตามินแบบฉีดผ่านถุงน้ำเกลือ (IV Drip) เป็นการเติมสารอาหารวิตามินเข้าสู่ร่างกายด้วยการเจาะเข็มให้น้ำเกลือบริเวณหลอดเลือดดำและรอให้สารวิตามินในถุงน้ำเกลือค่อย ๆ ไหลเข้าสู่หลอดเลือดดำจนหมด โดยมักจะใช้เวลาทำหัตถการประมาณ 45-60 นาที
การฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือดทั้งสองรูปแบบต่างกันที่รูปแบบการฉีดเท่านั้น ซึ่งในแบบฉีดผ่านไซริงค์จะเป็นการฉีดตัวยาวิตามินเข้าโดยตรง แต่การดริปวิตามินจะเป็นการผสมวิตามินกับน้ำเกลือแล้วค่อย ๆ ให้น้ำเกลือไหลเข้าสู่ร่างกายจนหมด แต่ในด้านความเข้มข้นและปริมาณยาที่ได้ไม่แตกต่างกัน
การดริปวิตามิน ต่างจากการทานอาหารเสริมวิตามินอย่างไร
การดริปวิตามินเป็นการนำสารอาหารที่มีประโยชน์ฉีดเข้าสู่ร่างกายโดยตรงเพื่อให้ร่างกายสามารถนำไปใช้งานได้ทันที แต่การรับประทานอาหารเสริมจะต้องผ่านกระบวนการย่อยในกระเพาะอาหารและมีการดูดซึมในระบบทางเดินอาหารก่อน ซึ่งมีโอกาสที่ร่างกายจะดูดซึมสารอาหารได้ไม่ครบเท่ากับที่รับประทานเข้าไป ดังนั้น หากต้องการได้วิตามินและสารอาหารที่ครบถ้วนพร้อมใช้งานได้ทันที การดริปวิตามินอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า
อย่างไรก็ตาม การดริปวิตามินเป็นหัตถการที่ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ แต่การรับประทานอาหารเสริมวิตามินสามารถเลือกรับประทานได้เองแต่ควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมหรือแพทย์แนะนำ หากเป็นผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางมาทำหัตถการ การรับประทานอาหารเสริมก็อาจเป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน
ดริปวิตามิน อันตรายไหม
หลายคนอาจมีความกังวลว่าดริปวิตามินอันตรายไหม? หากทำหัตถการโดยแพทย์เฉพาะทาง รวมถึงผู้เข้ารับบริการไม่ปิดบังประวัติสุขภาพของตนเอง อันตรายที่เกิดขึ้นจากการดริปวิตามินจะมีน้อยมาก ๆ เพราะการดริปวิตามินเป็นการให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์ทดแทนการรับประทานอาหารที่อาจทำให้ได้รับสารอาหารไม่มากพอ
แต่หากเลือกทำหัตถการดริปวิตามินกับหมอกระเป๋า วิตามินที่ใช้ถูกผสมขึ้นมาเองโดยผู้ที่ไม่มีความรู้เรื่องยา สถานที่ทำหัตถการไม่ถูกสุขลักษณะ อาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายไม่ว่าจะการติดเชื้อหรือการได้รับวิตามินมากเกินไป
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรหากมีมากไปมักเป็นผลเสียได้ หากร่างกายได้รับวิตามินมากเกินไปก็ส่งผลอันตรายต่อร่างกายเช่นกัน เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ ระบบไหลเวียนเลือดล้มเหลว เม็ดเลือดแดงแตก เลือดออกผิดปกติ ปวดหัว คลื่นไส้ หรือร้ายแรงถึงขั้นช็อก หมดสติ หรือเสียชีวิตได้เลย
วิธีเตรียมตัวก่อนทำหัตถการดริปวิตามิน
ก่อนการดริปวิตามินอาจไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก เพียงแต่เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกายควรจะแจ้งประวัติทางสุขภาพของตนเองให้แพทย์ทราบก่อนทุกครั้ง เช่น มีโรคประจำตัวอะไร กำลังรับประทานยาอะไรอยู่ เคยได้รับวิตามินหรือสมุนไพรเสริมสุขภาพอะไรมาบ้าง มีประวัติแพ้ยาหรือไม่ เป็นต้น
ขั้นตอนการทำหัตถการดริปวิตามิน
การทำหัตถการดริปวิตามินมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก เมื่อคุณและแพทย์เลือกสูตรการดริปวิตามินที่ต้องการและเหมาะสมต่อร่างกายแล้วก็จะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการดริปวิตามิน ดังนี้
- เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดส่วนที่ต้องการดริปวิตามินเข้าผิว เช่น หลังมือ ท้องแขน หรือบนใบหน้า
- หากเป็นการดริปวิตามินด้วยไซริงค์แพทย์จะเจาะเข็มฉีดยาไปยังบริเวณที่ต้องการดริปวิตามินแล้วค่อย ๆ ผลักยาเข้าสู่เส้นเลือดอย่างช้า ๆ จนหมดเข็ม
- หากเป็นการดริปวิตามินผ่านถุงน้ำเกลือ แพทย์จะเจาะเข็มน้ำเกลือเข้าสู่หลอดเลือดดำและเชื่อมสายให้น้ำเกลือระหว่างถุงน้ำเกลือกับเข็ม จากนั้นวิตามินจะค่อย ๆ ไหลจากถุงน้ำเกลือเข้าสู่หลอดเลือดดำ ผู้ดริปวิตามินสามารถนั่งในท่าที่สบายได้
- เมื่อดริปวิตามินเข้าสู่ผิวจนหมด แพทย์ก็จะถอดเข็มออกและฆ่าเชื้อบนผิวให้อีกครั้งก่อนจะปิดด้วยพลาสเตอร์หรือสำลีและให้ผู้เข้ารับบริการกลับบ้านได้เลย
วิธีการดูแลตนเองหลังทำหัตถการดริปวิตามิน
เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า หลังดริปวิตามินเข้าผิวควรจะต้องดูแลตนเองดังนี้
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงเพื่อให้ร่างกายสามารถนำสารอาหารไปฟื้นฟู ซ่อมแซมได้อย่างเต็มที่
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างครบถ้วนสม่ำเสมอ เสริมวิตามินและแร่ธาตุให้กับร่างกายเป็นประจำ
- ดื่มน้ำให้มากอย่างน้อย 1.5-2 ลิตรต่อวัน เพื่อให้ร่างกายขับของเสียได้ดีและเพิ่มความชุ่มชื้น ไม่ขาดน้ำ
- งดการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอุดมไปด้วยสารพิษอันตรายทำให้ร่างกายเสื่อมโทรม และยังทำให้วิตามินที่ฉีดเข้าไปเสื่อมสภาพ ทำงานได้ไม่เต็มที่
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ และหากออกแดดให้ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ ก่อนทุกครั้ง
- ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมและสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น
ผลข้างเคียงของการทำหัตถการดริปวิตามิน
การดริปวิตามินโดยส่วนใหญ่มักจะเกิดผลข้างเคียงน้อย เช่น รอยเข็มบนผิว รอยช้ำจากเข็มเท่านั้นและสามารถจางหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่หากพบอาการอื่น ๆ หลังดริปวิตามิน เช่น วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ใจสั้น ปวดศีรษะ หายใจลำบาก ผื่นขึ้น ให้รีบกลับมาพบแพทย์โดยด่วน
คำถามที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับการดริปวิตามิน
ดริปวิตามิน ต้องทำกี่ครั้ง?
การดริปวิตามินควรจะทำสัปดาห์ละ 1 ครั้งต่อเนื่องประมาณ 3-5 สัปดาห์จะทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีอย่างชัดเจน
ดริปวิตามินผิว กี่ครั้งเห็นผล ทำแล้วอยู่ได้นานหรือไม่ ดูแลตนเองอย่างไรให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน อ่านต่อได้ที่ ดริปวิตามินกี่ครั้งเห็นผล? อยู่ได้นานหรือไม่? อ่านข้อมูลก่อนตัดสินใจที่นี่!
ดริปวิตามิน เห็นผลทันทีเลยไหม?
การดริปวิตามินจะไม่สามารถทำให้เห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างทันที เนื่องจากต้องรอให้ร่างกายนำสารอาหารไปฟื้นฟู ซ่อมแซมตัวเองเสียก่อน
ดริปวิตามิน อยู่ได้นานแค่ไหน?
เมื่อดริปวิตามินอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ ผลลัพธ์ที่ดีสามารถอยู่ได้นาน 1-2 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
ดริปวิตามิน ราคาเท่าไหร่?
การดริปวิตามินราคาจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสูตรของสารอาหารที่เลือกฉีด จำนวนครั้งในการฉีด และค่าบริการอื่น ๆ โดยปกติจะมีราคาประมาณ 1,000-5,000 บาทต่อครั้ง
อยากทราบข้อมูลการดริปวิตามินราคาเท่าไหร่บ้าง สามารถอ่านต่อได้ที่ ดริปวิตามินราคาเท่าไหร่? รวมข้อมูลราคาดริปวิตามินสูตรยอดนิยม
ดริปวิตามิน ที่ไหนดี เลือกอย่างไร?
เลือกฉีดดริปวิตามินที่ไหนดี? แนะนำให้พิจารณาจากสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ ไม่โอ้อวดเกินจริง สามารถตอบทุกคำถามที่คุณสงสัย รวมถึงมีความสะอาด ปลอดภัย และได้มาตรฐาน
ดริปวิตามิน เติมอาหารผิวแก่ร่างกาย เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน
การดริปวิตามินคือ การให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายผ่านหลอดเลือดดำ ให้ร่างกายสามารถนำไปใช้งานได้ทันที โดยนิยมใช้การดริปวิตามินผิวเพื่อฟื้นฟูความแข็งแรงของผิวและร่างกายโดยรวม ให้สุขภาพที่ดีโดยใช้เวลาไม่นาน
ทั้งนี้ ทาง SkinX เราไม่สนับสนุนการทำหัตถการดริปวิตามินทุกรูปแบบเพื่อความงาม เนื่องจากไม่สามารถกำหนดผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนและยังมีความเสี่ยงต่อสุขภาพโดยรวม หากต้องการดริปวิตามินเป็นหนึ่งในทางเลือกการบำรุงสุขภาพ สามารถขอคำปรึกษากับแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางผ่าน SkinX แอปพลิเคชันพบแพทย์ออนไลน์ได้เลย สะดวก รวดเร็ว สำหรับผู้ใช้งานครั้งแรกสามารถปรึกษาแพทย์ได้ไม่มีค่าใช้จ่าย
อ้างอิง
Healthline Wellness Team. (2019, April 10). IV Vitamin Therapy: Your Questions Answered. Healthline. https://www.healthline.com/health/under-review-IV-vitamin-therapy
Intravenous (IV) Vitamin Therapy. (2018, November 13). Arun Health Garden. http://arunhealthgarden.com/en/intravenous-iv-vitamin-therapy/2803/
Ramella, A. (2022, October 12). IV Vitamin Therapy: Does It Work? WebMD. https://www.webmd.com/vitamins-and-supplements/iv-vitamin-therapy-does-it-work#1-1