skinx-logo
แพทย์ของเราบทความติดต่อเรา

สิวและผิวหน้า

สิวแพ้ครีมคืออะไร? เป็นแบบไหน? ดูแลผิวอย่างไรให้หายดี?

4 ธันวาคม 2568

สิวแพ้ครีมคืออะไร? เป็นแบบไหน? ดูแลผิวอย่างไรให้หายดี?

หน้าเป็นผื่นแพ้ครีม หรือที่นิยมเรียกกันว่า ‘สิวแพ้ครีม’ เป็นลักษณะของผดผื่นคล้ายสิวที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้า ซึ่งเกิดจากการแพ้สารบางอย่างภายในครีม แต่หลายคนอาจยังแยกไม่ออกว่าสิวแพ้ครีมมีลักษณะอย่างไร ต่างจากสิวจากฮอร์โมนตรงไหน สามารถก่อให้เกิดสิวอะไรบนใบหน้าเราได้บ้าง 

 

ในบทความนี้ SkinX จะมาสรุปข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสิวแพ้ครีม พร้อมแนะนำวิธีการรักษาสิวแพ้ครีมมีวิธีการอย่างไรบ้าง เพื่อผิวหน้าที่สุขภาพดี ปราศจากสิวแพ้ครีมกวนใจ


Key Takeaways

  • สิว (หรือผื่น) จากการแพ้ครีมหรือเครื่องสำอาง คือการเกิดอาการระคายเคือง หรือ แพ้สารในผลิตภัณฑ์ (ส่วนใหญ่คือ Contact Dermatitis) ซึ่งอาจปรากฏเป็นผื่นแดง คัน แสบ บวมหรือมีลักษณะคล้ายสิวเม็ดเล็ก ๆ จึงเรียกว่าสิวแพ้ครีม
  • การรักษาเบื้องต้นคือ หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่สงสัย และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบอ่อนโยน (Fragrance-free, Preservative-low, ไม่มีส่วนผสมที่เคยแพ้) เพื่อช่วยลดการระคายเคือง
  • ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ควรทำการทดสอบสำรวจ (At-home Patch Test) โดยทาที่หลังหูหรือข้อพับแขน แล้วสังเกตอาการอย่างน้อย 7-10 วัน หากมีอาการแพ้ให้ล้างออกทันทีและไม่ใช้ผลิตภัณฑ์นั้นต่อ
  • หากอาการรุนแรง เช่น บวมแดงมาก ตุ่มน้ำ ติดเชื้อ หรือขยายวงกว้าง หรือลองเองแล้วไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อพิจารณา Patch Testing อย่างเป็นทางการ และวินิจฉัย/รักษาตามสาเหตุจริง

สารบัญบทความ


สิวแพ้ครีมคืออะไร? อาการเตือนผิวแพ้ครีมที่คุณต้องรู้

สิวแพ้ครีม คือ ภาวะที่ผิวเกิดผดผื่น หรือตุ่มจากการแพ้ส่วนผสมในครีมบำรุงหรือเครื่องสำอางบางชนิด เมื่อผิวสัมผัสกับสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ร่างกายจะหลั่งสารฮีสตามีน (Histamine) ออกมาเพื่อตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอม ส่งผลให้เกิดอาการ คัน บวมแดง หรือผื่นขึ้นตามผิวหนังหรือผิวหน้า

 

ในบางกรณี หากร่างกายตอบสนองรุนแรง อาจมีอาการหายใจติดขัดหรือหน้าบวมมากผิดปกติ ซึ่งถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม

 

การเกิดสิวแพ้ครีมสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะในช่วงที่เริ่มใช้ครีมตัวใหม่ อย่างไรก็ตาม อาการแพ้ครีมอาจเกิดขึ้นได้แม้ใช้ผลิตภัณฑ์เดิมที่เคยใช้ได้ดี หากในช่วงนั้นผิวมีความบอบบางมากขึ้น เช่น หลังทำหัตถการ ผิวแห้ง หรือ Barrier ผิวเสียหาย ทำให้ไวต่อสารกระตุ้นมากขึ้น


ลักษณะสิวแพ้ครีม เป็นแบบไหน

หน้าแพ้สารเคมี

หรือภาวะที่ผิวเกิดการระคายเคืองหรือการแพ้จากผลิตภัณฑ์บำรุงผิว อาจเกิดขึ้นได้ทั้งแบบ เกิดทันทีหลังสัมผัส (Immediate-type Reaction) หรือ เกิดหลังจากใช้ไปแล้ว 1–3 วัน (Delayed-type Hypersensitivity Reaction) ขึ้นอยู่กับชนิดของกลไกภูมิคุ้มกันที่เกี่ยวข้อง

 

ลักษณะของผื่นหรือสิวที่เกิดจากการแพ้ครีมอาจมีได้หลายรูปแบบ ได้แก่

  • ตุ่มแดง (Erythematous Papules) หรือตุ่มหนองขนาดเล็ก (Pustules) ในบริเวณที่สัมผัสครีม
  • มีอาการคัน แสบร้อน หรือรู้สึกตึงผิว
  • ผิวแห้ง ลอก หรือเป็นขุย
  • ในบางรายที่มีการอักเสบรุนแรงอาจพบ อาการบวมแดงมาก หรือผื่นลามออกนอกบริเวณสัมผัส

การเกิดผื่นหรือสิวลักษณะคล้ายสิวหลังใช้ครีม อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การแพ้สัมผัส (Allergic Contact Dermatitis), การระคายเคือง (Irritant Contact Dermatitis) หรือ Acneiform Eruption ที่เกิดจากสารอุดตันรูขุมขน (Comedogenic Ingredients) หรือสเตียรอยด์ในครีม

 

ลักษณะอาการและระยะเวลาการเกิดอาจแตกต่างกันในแต่ละราย โดยบางคนอาจมีผื่นหรือตุ่มแดงเกิดขึ้นทันทีหลังใช้ ส่วนบางรายอาจเกิดหลังใช้ไปแล้วหลายวันถึงสัปดาห์

 

หากพบว่าหลังใช้ครีมมีอาการผิดปกติ เช่น สิวเห่อ ตุ่มแดง คัน แสบร้อน หรือผิวลอก ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ทันที และหากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2–3 วัน หรือมีอาการบวมแดงมาก ควร ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาอย่างเหมาะสม


สิวแพ้ครีม เกิดจากอะไร

สิวแพ้ครีม เป็นภาษาทั่วไปที่มักใช้เรียกผื่น หรือตุ่มคล้ายสิวที่เกิดจากผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ซึ่งในทางการแพทย์อาจเกิดจากหลายกลไกได้แก่

  • การแพ้สัมผัส (Allergic Contact Dermatitis) ต่อสารก่อภูมิแพ้ในผลิตภัณฑ์ เช่น น้ำหอม สารกันเสีย หรือสารกันแดดบางชนิด
  • การระคายเคือง (Irritant Contact Dermatitis) จากสารที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิวหรือทำลายเกราะป้องกันผิว เช่น กรดผลไม้ (AHA, BHA), เรตินอล, วิตามินซีเข้มข้น
  • สิวลักษณะคล้ายสิว (Acneiform Eruption) จากสารอุดตันรูขุมขน หรือการใช้สเตียรอยด์เป็นเวลานาน

ตัวอย่างส่วนผสมที่อาจก่อปัญหาผิวได้

  • สเตียรอยด์ (Topical corticosteroids) หากใช้ต่อเนื่องอาจทำให้เกิดสิวสเตียรอยด์ Steroid-induced Acne, ผิวบางลง, Telangiectasia และ Rebound Inflammation หลังหยุดยา
  • สารออกฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA, Retinol หรือ Vitamin C โดยปกติสารเหล่านี้จะช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดรอยดําแดงจากสิว ลดการอุดตันของผิว หรือช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น แต่การใช้ในปริมาณสูงอาจก่อ Irritant Contact Dermatitis โดยเฉพาะในผิวบอบบาง
  • สารกันเสีย (Preservatives) เช่น Methylisothiazolinone (MI), Parabens, Formaldehyde-releasers นิยมใส่ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางเพื่อยืดอายุจัดเก็บรักษา แต่อาจก่อให้เกิดอาการผดแพ้ครีมในบางราย โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
  • น้ำหอม และน้ำมันหอมระเหย ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางมักนิยมใส่เพื่อให้เกิดกลิ่นหอมน่าใช้ แต่สำหรับผู้ที่ผิวแพ้ง่ายอาจเกิดอาการระคายเคืองหรือเกิดการอุดตัน และก่อให้เกิดสิวขึ้นมาได้เช่นกัน
  • สารโลหะ สามารถก่อให้เกิดอาการระคายเคือง อาการแพ้ขึ้นมาได้ ยิ่งได้รับในปริมาณมากหรือใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจส่งผลกระทบต่อระบบอื่น ๆ นอกจากผิวหนังได้อีกด้วย

สิวแพ้ครีมก่อให้เกิดสิวประเภทไหนได้บ้าง?

ภาวะที่เรียกว่าหน้าแพ้ครีม หรือสิวจากผลิตภัณฑ์บำรุงผิว/เครื่องสำอาง สามารถนำไปสู่ Acneiform Eruptions หรือ Acne Cosmetica ได้ โดยอาจปรากฏในหลายลักษณะ ได้แก่

  • ลักษณะคล้ายสิวอุดตัน (Comedonal Lesions) : เมื่อมีการอุดตันรูขุมขนจากสารอุดตัน (Comedogenic ingredients) ในผลิตภัณฑ์ เช่น โลชั่นหนัก ๆ เครื่องสำอางที่มีน้ำมันหรือ petrolatum
  • ลักษณะเป็นเม็ดแดงคล้ายสิวอักเสบ หรือเป็นหนองคล้ายสิวหัวหนอง (Papules/Pustules) : เมื่อมีการอักเสบของรูขุมขนจากการระคายเคือง หรือแบคทีเรียเจริญขึ้นหลังผิวถูกกระตุ้น
  • ลักษณะผื่นเล็ก ๆ หรือสิวผด : อาจเกิดในผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์แล้วเกิดการอุดตันอย่างรวดเร็ว หรือมีการอุดตันในผิวบริเวณที่มีต่อมไขมันสูง 

ในการดูแล ควรพิจารณาหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่สงสัยทันที และประเมินว่ามีสารอุดตัน หรือสารระคายเคือง/ก่อภูมิแพ้เป็นตัวกระตุ้นหรือไม่


5 วิธีรักษาสิวแพ้ครีม ที่เห็นผลจริง มีอะไรบ้าง

สิวแพ้ครีม รักษายังไง

สิวแพ้ครีม ใคร ๆ ก็ไม่อยากเป็น แต่ถ้าเป็นแล้วจะมีวิธีรักษาอย่างไร? ในหัวข้อนี้เราได้รวบรวมวิธีรักษาสิวแพ้ครีมที่เห็นผลจริงเอาไว้ให้แล้ว

1. ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำสะอาด

หากสงสัยว่าเกิดอาการแพ้ครีมหรือเครื่องสำอาง ควรเริ่มจากการล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือเพื่อลดการระคายเคือง และหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่สงสัยทันที จากนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวสูตรอ่อนโยนที่ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ และสารผลัดเซลล์ผิวแรง ๆ

2. งดใช้ครีมที่อาจเป็นสาเหตุของอาการแพ้

หากพบว่าสาเหตุอาการแพ้เกิดมาจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ ให้งดใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวทันที และควรตรวจสอบว่าในผลิตภัณฑ์นั้นมีสารอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงอาการแพ้จากสารเหล่านั้นซ้ำ

3. เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวที่อ่อนโยน

ในช่วงที่หน้าเกิดสิวแพ้ครีม สภาพผิวจะค่อนข้างอ่อนแอและบอบบาง ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์คลีนซิ่งทำความสะอาดผิวและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสูตรอ่อนโยน ปราศจากสารก่อระคายเคือง อาทิ สารผลัดเซลล์ผิว ผลิตภัณฑ์กลุ่มไวเทนนิ่งต่าง ๆ ครีมที่มีส่วนผสมของน้ำหอม สารกันเสีย สเตียรอยด์ เป็นต้น

4. ประคบเย็นเพื่อช่วยลดอาการอักเสบและอาการคัน

กรณีที่เกิดอาการแสบร้อน คัน หรือผิวบวมแดง สามารถใช้การประคบเย็น 10–15 นาที วันละ 2–3 ครั้ง เพื่อช่วยบรรเทาอาการได้ หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 3–5 วัน หรือมีตุ่มน้ำ สิวเห่อมาก ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม

5. ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางเพื่อวินิจฉัยและรักษา

หากคุณเกิดอาการหน้าแพ้ครีมรุนแรง มีสิวแพ้ครีมขึ้นจำนวนมาก หรือมีข้อกังวลใจเกี่ยวกับสิวแพ้ครีม แนะนำให้ขอคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย และรับการรักษาที่เหมาะสม ตรงจุด ให้ผิวกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ซึ่งคุณสามารถขอคำปรึกษากับแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางได้ทางแอป SkinX เรามีแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังที่คอยให้คำปรึกษาและแนะนำวิธีการรักษาปัญหาผิวเฉพาะคุณผ่านทางออนไลน์ สะดวก ไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาลก็สามารถรับการรักษากับแพทย์ได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว


แนวทางป้องกันและหลีกเลี่ยงสิวแพ้ครีม ทำได้อย่างไรบ้าง

ใช้ครีมกี่วันถึงจะรู้ว่าแพ้

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสิวผื่นแดง หรือแพ้เครื่องสําอางจนสิวขึ้น ควรดูแลและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อย่างระมัดระวัง ดังนี้

  • ทดสอบการแพ้ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกครั้ง โดยทาครีมบริเวณท้องแขนด้านในหรือหลังใบหู ทิ้งไว้ 48–72 ชั่วโมง หากมีอาการคัน แดง หรือแสบ ควรหยุดใช้ทันทีและไม่ทาบริเวณใบหน้า
  • เลือกใช้ครีมที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเอง โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่าย ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า Non-comedogenic, Fragrance-free, Alcohol-free และ Hypoallergenic
  • หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารก่อการระคายเคืองสูง เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์ สเตียรอยด์ที่ไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ และสารกันเสียบางชนิด (เช่น Formaldehyde Releasers, Methylisothiazolinone)
  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองจาก อย. หรือจากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันการได้รับสารต้องห้าม เช่น ปรอท ไฮโดรควิโนน หรือสเตียรอยด์แอบผสม
  • แนะนำให้ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์เป็นประจำ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นและเสริมเกราะป้องกันผิว โดยเฉพาะมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มี Ceramides, Hyaluronic Acid หรือ Glycerin ซึ่งช่วยลดการระคายเคืองและฟื้นฟูผิวที่แพ้ง่ายได้

คำถามที่พบได้บ่อย (FAQs)

สิวแพ้ครีม ใช้เวลากี่วันหาย ?

หน้าแพ้ครีมกี่วันหาย? ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการแพ้และสภาพผิวของแต่ละคน หากมีอาการแพ้ไม่รุนแรง เช่น มีสิวอุดตันหรือผื่นเล็กน้อย มักจะดีขึ้นภายใน 3–7 วันหลังหยุดใช้ครีม แต่ถ้าเป็นการแพ้รุนแรงหรือเกิดการอักเสบมาก อาจใช้เวลานานถึง 2–4 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวฟื้นสภาพกลับเป็นปกติ

สิวแพ้ครีมจะหายเองไหม?

หากเป็นเพียง “สิวอุดตันจากครีม” หรือ Acne Cosmetica ซึ่งเกิดจากการอุดตันของรูขุมขนโดยไม่มีการแพ้จริง มักจะดีขึ้นเองเมื่อหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสาเหตุ และดูแลผิวอย่างเหมาะสม

 

แต่หากเป็น “สิวจากการแพ้ครีม” Aallergic หรือ Irritant Contact Dermatitis) อาจไม่หายเองและอาจมีผื่นแดง คัน แสบร้อน หรือสิวอักเสบตามมา ในกรณีนี้ควรพบแพทย์ผิวหนังเพื่อประเมินและรับยาทาเช่น Topical Corticosteroids หรือ Calcineurin Inhibitors เพื่อช่วยลดอาการอักเสบ

สิวแพ้ครีมเป็นอันตรายต่อผิวหรือไม่?

โดยทั่วไป “สิวแพ้ครีม” ไม่ถือเป็นภาวะอันตรายต่อสุขภาพ แต่หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจทำให้ผิวเกิดการอักเสบมากขึ้น เกิด Post-inflammatory Hyperpigmentation (PIH) หรือรอยสิวรอยแผลเป็น (Acne Scars) หลังรักษาได้ อีกทั้งการเกาผิว หรือการใช้ยาทาที่ไม่เหมาะสมอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน


เป็นสิวแพ้ครีม ดูแลก่อนผิวพัง ปรึกษาแพทย์เลยที่ SkinX

การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือเครื่องสำอางทุกชนิดล้วนมีโอกาสทำให้เกิดสิวแพ้ครีมได้ สิ่งสำคัญคือควรสังเกตอาการของผิวอยู่เสมอ หากพบความผิดปกติให้หยุดใช้ทันทีและรีบปรึกษาแพทย์ผิวหนัง การรักษาอย่างถูกวิธีและรวดเร็วจะช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ไวขึ้น นอกจากนี้ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เหมาะกับสภาพผิว และดูแลสุขภาพผิวให้แข็งแรงจากภายใน เพื่อป้องกันการเกิดสิวแพ้ซ้ำในอนาคต

 

SkinX แอปพลิเคชันพบแพทย์ผิวหนังออนไลน์ที่ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็สามารถขอคำปรึกษาจากเภสัชหรือแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางได้เลย สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องรอคิว พร้อมวินิจฉัยปัญหาผิวทันทีและบริการจัดส่งยาให้ถึงบ้าน

 

แอปพลิเคชัน ปรึกษาปัญหาและดูแลผิวโดยแพทย์ผิวหนังผู้ชำนาญการ 

ครบ จบ เคลียร์ใน 15 นาที!

  • FB : SkinX พบแพทย์ผิวหนังออนไลน์
  • IG : skinx.thailand
  • Line : @skinx.official
  • TikTok : skinxthailand
  • X : @skinxthailand
  • Tel : 02 038 5505
  • E-mail : service@skinx.app

อ้างอิง

Acne or Allergic Reaction? Here’s How to Tell. (n.d.). Schweiger Dermatology Group. https://www.schweigerderm.com/skin-care-articles/acne/acne-or-allergic-reaction-how-to-tell-the-difference/

 

Palmer, A. (2024, October 5). Irritation and Allergies to Face Cream and Other Skin Products. Verywell health. https://www.verywellhealth.com/allergic-to-skin-care-products-4121121#:~:text=An%20allergic%20reaction%20to%20face%20cream%20or,due%20to%20irritation%20rather%20than%20an%20allergy.

 

Berry, J. (2019, November 29). What does it mean when acne is itchy?. MedicalNewsToday. https://www.medicalnewstoday.com/articles/327161

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด
service card mobile

เริ่มใช้งาน SkinX

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเลย!

skinx-cta