กาแฟดำลดน้ำหนัก สูตรลดน้ำหนัก 1 เดือน พร้อมประโยชน์ที่ควรรู้
กาแฟดำ เครื่องดื่มคู่ใจของใครหลายคน ที่มักถูกมองว่าเป็นเพียงเครื่องดื่มที่ช่วยทำให้เรารู้สึกตื่นตัวเท่านั้น แต่รู้หรือไม่ว่า กาแฟดำยังมีประโยชน์อีกมากมายและมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้อีกด้วย
หลายคนอาจสงสัยว่าดื่มกาแฟดำลดน้ำหนักได้จริงหรือ? อันตรายไหม? ทำให้โยโย่หรือไม่? ในบทความนี้จึงจะพาทุกคนไปไขข้อข้องใจเกี่ยวกับกาแฟดำลดน้ำหนักกัน พร้อมกับเปิดเผยเคล็ดลับลดน้ำหนักภายใน 1 เดือน
Key Takeaways
- กาแฟดำสามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริง เนื่องจากมีคาเฟอีนช่วยในการกระตุ้นระบบเผาผลาญ ทำให้ร่างกายใช้พลังงานมากขึ้น และช่วยลดความอยากอาหารได้
- การดื่มกาแฟดำลดน้ำหนักเป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีความปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน แต่ทั้งนี้ การดื่มกาแฟดำในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจส่งผลข้างเคียงได้
- การดื่มกาแฟดำลดน้ำหนักไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาโยโย่โดยตรง เนื่องจากกาแฟดำไม่ใช่ยาเร่งสลายไขมัน แต่เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยเร่งการเผาผลาญและลดความอยากอาหาร
กาแฟดำลดน้ำหนักได้จริงไหม?
กาแฟดำลดน้ำหนักได้จริงไหม? เป็นคำถามยอดนิยมของผู้ที่กำลังลดความอ้วน 1 เดือนและต้องการหาตัวช่วยเสริมเพื่อให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งคำตอบก็คือ กาแฟดำสามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริง!
โดยสาเหตุที่กาแฟดำลดน้ำหนักได้ก็เพราะว่า ในกาแฟดำมีคาเฟอีนที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นระบบเผาผลาญ ทำให้ร่างกายใช้พลังงานมากขึ้น ช่วยกระตุ้นการหลั่งอะดรีนาลีน ทำให้ร่างกายดึงไขมันสะสมออกมาใช้เป็นพลังงาน รวมถึงมีส่วนช่วยให้ลดความอยากอาหารในช่วงเวลาสั้น ๆ ทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว ลดปริมาณแคลอรีที่ได้รับ และทำให้น้ำหนักลดลงในที่สุด
กาแฟดำจึงเป็นหนึ่งในอาหารลดน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพและเป็นวิธีลดน้ำหนักภายใน 1 เดือนที่ดี แต่ทั้งนี้ก็ต้องดื่มกาแฟดำควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพโดยรวมด้วย เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์, การออกกำลังกาย และการพักผ่อนที่เพียงพอ
ประโยชน์ดี ๆ ของกาแฟดำลดน้ำหนัก
กาแฟดำลดน้ำหนักเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่มีประโยชน์มากมาย ทั้งต่อสุขภาพและการควบคุมน้ำหนัก ด้วยส่วนประกอบหลักอย่างคาเฟอีนที่มีฤทธิ์กระตุ้นร่างกายให้รู้สึกสดชื่นและกระตือรือร้นมากขึ้น จึงทำให้กาแฟดำมีประโยชน์ต่าง ๆ ดังนี้
ลดน้ำหนักและไขมัน
กาแฟดำเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งในการลดน้ำหนักภายใน 1 เดือน เนื่องจากคาเฟอีนในกาแฟมีคุณสมบัติที่ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานและลดความอยากอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมน้ำหนัก นอกจากนี้ กาแฟดำลดน้ำหนักที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลหรือครีมยังเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแคลอรี ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดปริมาณแคลอรีที่บริโภคเข้าไปด้วย
เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า
การดื่มกาแฟดำลดน้ำหนักมีส่วนช่วยในการเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าได้ เมื่อคาเฟอีนเข้าไปทำงาน สมองจะหลั่งสารเคมีอย่างโดปามีน (Dopamine) และนอร์อิพิเนฟริน (Norepinephrine) ที่ช่วยกระตุ้นความตื่นตัว ทำให้รู้สึกสดชื่น มีสมาธิมากขึ้น และเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย
ช่วยให้ออกกำลังกายได้นานขึ้น
คาเฟอีนในกาแฟดำลดน้ำหนักช่วยเพิ่มพลังงานในการออกกำลังกายได้โดยการกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งส่งผลให้ร่างกายตื่นตัวและกระฉับกระเฉงมากขึ้น อีกทั้งคาเฟอีนยังช่วยเพิ่มการหลั่งสารอะดรีนาลีน (Adrenalin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องใช้พลังงานได้อีกด้วย เช่น การออกกำลังกาย หรือการทำงานที่ต้องใช้แรง
นอกจากนี้ คาเฟอีนยังช่วยดึงไขมันที่สะสมในร่างกายมาใช้เป็นพลังงานด้วยการกระตุ้นกระบวนการสลายไขมัน (Lipolysis) ทำให้เราสามารถใช้ไขมันเป็นแหล่งพลังงานระหว่างการออกกำลังกายได้มากขึ้น ส่งผลให้สามารถออกกำลังกายได้นานและมีประสิทธิภาพ รวมถึงช่วยลดอาการเมื่อยล้าระหว่างออกกำลังกาย ทำให้รู้สึกมีแรงทำกิจกรรมได้ดีขึ้น
ลดความเสี่ยงต่อโรคอันตราย
กาแฟดำเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ รวมถึงมีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงต่อโรคอันตรายต่าง ๆ ได้ดังนี้
- โรคเบาหวานประเภท 2 การดื่มกาแฟดำในปริมาณที่เหมาะสมสามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 ได้ เนื่องจากมีส่วนช่วยในการเพิ่มความไวต่ออินซูลิน และลดระดับน้ำตาลในร่างกายได้
- โรคหัวใจและหลอดเลือด การดื่มกาแฟดำช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง โดยช่วยเพิ่มทำงานของหลอดเลือด การเผาผลาญน้ำตาล และลดความเครียดจากอนุมูลอิสระและการอักเสบของร่างกาย
- มะเร็งบางชนิด การดื่มกาแฟดำช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งบางชนิดได้ เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม และมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก เนื่องจากสารต้านอนุมูลอิสระในกาแฟดำจะช่วยป้องกันการทำลายดีเอ็นเอ ลดการอักเสบในร่างกาย
- โรคพาร์กินสัน การดื่มกาแฟดำช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคพาร์กินสันได้ เนื่องจากคาเฟอีนในกาแฟดำจะช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาทที่ผลิตโดพามีน (Dopamine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการเคลื่อนไหวและอารมณ์
- โรคอัลไซเมอร์ กาแฟดำมีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์ได้ เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระและคาเฟอีนที่ช่วยลดการอักเสบ การทำลายเซลล์ในสมอง กระตุ้นระบบประสาท เพิ่มสมาธิ และลดการสะสมของเบต้า-อะไมลอยด์ในสมอง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์
เคล็ด(ไม่)ลับ ดื่มกาแฟดำอย่างไรลดน้ำหนักได้?
หากพูดถึงวิธีทำให้ผอมภายใน 1 เดือน หลายคนอาจนึกถึงการคุมอาหาร การออกกำลังกาย การทำ IF ไปจนถึงการใช้ตัวช่วยเสริมอย่างปากกาลดน้ำหนัก ซึ่งวิธีเหล่านี้ล้วนเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและช่วยลดน้ำหนักได้จริง
แต่รู้หรือไม่ว่า กาแฟดำลดน้ำหนักก็เป็นหนึ่งในอาหารลดน้ําหนักภายใน 1 เดือนที่ช่วยให้น้ำหนักลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน โดยเคล็ด(ไม่)ลับในการดื่มกาแฟดำให้น้ำหนักลดลง มีดังนี้
- ดื่มเฉพาะกาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาลหรือครีม เนื่องจากการเติมน้ำตาลหรือครีมจะเป็นการเพิ่มปริมาณแคลอรีในกาแฟ ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นควรดื่มกาแฟดำเพียงอย่างเดียวเพื่อรักษาแคลอรีให้น้อยที่สุด
- ดื่มตอนเช้า ไม่ดื่มตอนเย็น เนื่องจากการดื่มกาแฟดำลดน้ำหนักในช่วงเช้าจะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญและเพิ่มพลังงานสำหรับการทำกิจกรรมในวันใหม่ แต่การดื่มกาแฟตอนเย็นอาจทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับได้
- ดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ ควรดื่มกาแฟดำประมาณ 2-3 แก้วต่อวัน หรือไม่ควรเกิน 400 มิลลิกรัมของคาเฟอีน เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง
- ดื่มก่อนออกกำลังกาย การดื่มกาแฟดำก่อนออกกำลังกายประมาณ 30 นาที จะช่วยเพิ่มพลังงานและเร่งการเผาผลาญไขมันได้ เป็นอีกหนึ่งเทคนิคลดน้ําหนัก 1 เดือนที่ดี
- ดื่มพร้อมกับอาหาร การดื่มกาแฟดำพร้อมกับการทานอาหารจะช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารได้ดีขึ้น
- ผสมกับวัตถุดิบอื่น การผสมกาแฟดำกับวัตถุดิบอื่น ๆ เป็นหนึ่งในสูตรลดน้ําหนัก 1 เดือนที่ช่วยให้การดื่มกาแฟดำลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น กาแฟดำผสมกับน้ำมะนาว มีส่วนช่วยในการเพิ่มวิตามินซีและช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น หรือกาแฟดำผสมกับอบเชย มีส่วนช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและเพิ่มอัตราการเผาผลาญ
- ดื่มควบคู่กับการดูแลสุขภาพ นอกจากการดื่มกาแฟดำลดน้ำหนักแล้ว ในระหว่างนี้ก็ควรทำควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น ออกกำลังกาย รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และพักผ่อนให้เพียงพอ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกาแฟดำลดน้ำหนัก
กินกาแฟดำลดน้ำหนัก อันตรายไหม?
การดื่มกาแฟดำลดน้ำหนัก โดยทั่วไปแล้วถือว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน แต่ทั้งนี้ กาแฟดำลดน้ำหนักก็มีข้อควรระวังและทำให้เกิดผลข้างบางอย่างได้ดังนี้
- ผลข้างเคียงจากคาเฟอีน การดื่มกาแฟดำในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการวิตกกังวล นอนไม่หลับ หัวใจเต้นเร็ว และเกิดปัญหาทางเดินอาหารได้
- ผลกระทบต่อสุขภาพ ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือปัญหาทางจิตใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่มกาแฟดำ เนื่องจากคาเฟอีนในกาแฟดำอาจทำให้หัวใจเต้นเร็ว เพิ่มความดันโลหิต เพิ่มความรู้สึกวิตกกังวล และกระตุ้นความเครียดได้ หรือคนที่เป็นโรคที่เกี่ยวกับกระเพาะอาหาร หรือกรดไหลย้อนอาจทำให้เกิดอาการมากขึ้นได้
- เกิดการเสพติด คาเฟอีนในกาแฟดำสามารถทำให้เกิดการเสพติดได้ หากหยุดดื่มกาแฟกะทันหันก็อาจทำให้มีอาการถอน เช่น ปวดหัว อ่อนเพลีย หรืออารมณ์แปรปรวน
กาแฟดำลดน้ำหนัก จะโยโย่ไหม?
ผู้ที่กำลังวางแผนลดน้ําหนัก 1 เดือนและสนใจการดื่มกาแฟดำลดน้ำหนัก อาจรู้สึกกังวลว่าการดื่มกาแฟดำลดน้ำหนักจะทำให้โยโย่ไหม? คำตอบคือ การดื่มกาแฟดำลดน้ำหนักไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาโยโย่โดยตรง
เนื่องจากกาแฟดำไม่ใช่ยาเร่งสลายไขมัน แต่เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยเร่งการเผาผลาญและลดความอยากอาหาร ซึ่งไม่ได้เข้าไปทำลายไขมันโดยตรง ดังนั้นเมื่อหยุดดื่ม น้ำหนักจึงไม่กลับมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่ทั้งนี้ ผลลัพธ์ก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมโดยรวมด้วย การลดน้ำหนักที่ยั่งยืนต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หากยังควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ถึงแม้จะหยุดดื่มกาแฟดำ น้ำหนักก็จะยังคงที่เหมือนเดิม
สรุปเรื่องกาแฟดำลดน้ำหนัก ช่วยลดน้ำหนักได้จริงไหม?
กาแฟดำลดน้ำหนัก เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่มีประสิทธิภาพและสามารถลดน้ำหนักได้จริง เนื่องจากกาแฟดำมีคาเฟอีนและสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถกระตุ้นการเผาผลาญไขมันและเพิ่มพลังงานในการออกกำลังกายได้ นอกจากนี้ การดื่มกาแฟดำยังไม่มีแคลอรีเพิ่มเติมถ้าหากไม่เติมน้ำตาลหรือครีม ซึ่งจะช่วยควบคุมปริมาณแคลอรีในอาหารได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามถือว่าเป็นส่วนประกอบหนึ่งในแนวทางการลดน้ำหนักหลัก ซึ่งการปรับอาหารและเพิ่มกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันยังเป็นสิ่งสำคัญต่อการลดน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพ
สำหรับผู้ที่อยากผอมภายใน 1 เดือน หรือต้องการลดพุงใน 1 เดือน การตัดสินใจเลือกดื่มกาแฟดำลดน้ำหนักก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี แต่ทั้งนี้ การเลือกวิธีลดน้ำหนักให้กับตนเองก็ควรได้รับคำปรึกษาและประเมินปัญหาจากแพทย์เสียก่อน เพื่อลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลลัพธ์ได้อย่างปลอดภัย
หากต้องการปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการลดน้ำหนัก สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SkinX เพื่อปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการได้ทันที ทุกที่ ทุกเวลาที่คุณสะดวก คลิก https://skinx.app/
อ้างอิง
Safe, S., Kothari, J., Hailemariam, A., Upadhyay, S., Davidson, L., & Chapkin, R. (2023). Health Benefits of Coffee Consumption for Cancer and Other Diseases and Mechanisms of Action. International Journal of Molecular Sciences, 24. https://doi.org/10.3390/ijms24032706.
Butt, M., & Sultan, M. (2011). Coffee and its Consumption: Benefits and Risks. Critical Reviews in Food Science and Nutrition, 51, 363 – 373. https://doi.org/10.1080/10408390903586412.
Bøhn, S., Ward, N., Hodgson, J., & Croft, K. (2012). Effects of tea and coffee on cardiovascular disease risk.. Food & function, 3 6, 575-91 . https://doi.org/10.1039/c2fo10288a.
Gunnars, K. (2023, October 23). Can Coffee Increase Your Metabolism and Help You Burn Fat?. Healthline. https://www.healthline.com/nutrition/coffee-increase-metabolism
Pawlowski, A. (2024, April 13). Is black coffee good for you? 1 cup or more a day offers these health benefits. Today. https://www.today.com/health/diet-fitness/black-coffee-benefits-rcna147466
Morales-Brown, P. (2017, October 16). What does caffeine do to your body?. Medical News Today. https://www.medicalnewstoday.com/articles/285194