ศัลยกรรมปลูกผม ทางออกสำหรับคนศีรษะล้าน-ผมบาง คืนความมั่นใจ
เคยไหม? หวีผมแล้วผมร่วงตามพื้นเหมือนในห้องมีคนอยู่ด้วยสักสิบคน ท่อในห้องน้ำตันบ่อยต้องคอยเก็บผมไปทิ้งทุกวัน เสยผมแล้วเห็นหนังศีรษะ หรือโดนทักว่าบริเวณกลางหัวเริ่มเห็นหนังศีรษะแล้ว หากคุณกำลังพบปัญหาเหล่านี้ หรือเป็นหนึ่งในผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะเถิก ที่คอยทำลายความมั่นใจและทำให้คุณเสียสุขภาพจิต อย่าเพิ่งหมดหวังหรือท้อใจไป ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ได้ด้วย “การศัลยกรรมปลูกผม”
อาจจะยังมีหลายคนที่มีความเชื่อว่าหัวเถิก หัวล้าน และผมบาง ไม่สามารถแก้ไขได้ ทำได้มากสุดแค่เพียงทำใจ แต่ความจริงแล้วปัจจุบันเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์ ได้พัฒนาไปมากกว่าเดิม ซึ่งสามารถช่วยแก้ผมร่วง ผมบาง ศีรษะเถิก และศีรษะล้านได้ ด้วยการศัลยกรรมปลูกผมที่ต้องปรึกษาหาสาเหตุและเข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้ชำนาญการ
บทความนี้ จะพาทุกคนไปรู้จักกับทางออกที่จะช่วยเรียกความมั่นใจให้กลับมา สำหรับผู้ที่มีปัญหาผมบาง, ผมร่วง, ศีรษะเถิก และศีรษะล้าน ไม่ว่าจะเป็นผมร่วงคืออะไร ศัลยกรรมปลูกผมคืออะไร มีเทคนิคแบบใดบ้าง ศัลยกรรมปลูกผมเหมาะกับใคร ข้อดี-ข้อจำกัดของการปลูกผมมีอะไรบ้าง ปลูกผม ราคาเท่าไร? พร้อมทั้งแนะนำวิธีการเตรียมตัวก่อนปลูกผมและหลังจากที่ปลูกผมเสร็จแล้ว รวมไปถึงตอบทุกคำถามที่คุณสงสัยเกี่ยวกับศัลยกรรมปลูกผม ทุกอย่างที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจปลูกผม
ทำความรู้จักกับ SkinX แอปพลิเคชันพบหมอผิวหนังออนไลน์ ที่ได้รวบรวมเหล่าทีมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำมากมายถึง 210 คน มาให้คำปรึกษาด้านผิวหนังโดยเฉพาะ รวมถึงให้คำปรึกษาด้านศัลยกรรมความงามอย่าง “ศัลยกรรมปลูกผม” สามารถปรึกษาครั้งแรกได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
Key Takeaway
- ศัลยกรรมปลูกผม คือ การนำรากผมบริเวณหลังศีรษะท้ายทอยและเหนือกกหูที่มีความแข็งแรง มาปลูกผมลงบริเวณที่มีปัญหา เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาผมบาง ศีรษะเถิก ศีรษะล้าน
- เทคนิคการปลูกผมถาวรที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติ มีทั้งหมด 2 เทคนิค ได้แก่ ปลูกผมถาวร FUT และปลูกผมถาวร FUE ซึ่งแต่ละเทคนิคจะมีข้อดี-ข้อจำกัดแตกต่างกันไป
การปลูกผมถาวรจะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนภายใน 6-9 เดือน โดยบริเวณที่ทำการผ่าตัดปลูกผม ผมจะสามารถหลุดร่วงและงอกใหม่ตามวงจรผมได้เหมือนกับผมปกติ
ปลูกผม คืออะไร? คนผมร่วง ผมบางควรรู้ก่อนตัดสินใจปลูกผม
ศัลยกรรมปลูกผม คือ การนำรากผมบริเวณหลังศีรษะท้ายทอยและเหนือกกหู ที่มีความแข็งแรงและไม่ส่งผลต่อฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) ที่ทำให้ผมร่วง ผมบาง และผมเส้นเล็กลง มาปลูกผมลงบริเวณที่มีปัญหาศีรษะล้าน, ศีรษะเถิก, ผมบาง รวมถึงผมร่วง และยังสามารถปลูกผมทับในบริเวณที่เป็นแผลเป็นได้อีกด้วย
โดยการศัลยกรรมปลูกผมสามารถช่วยแก้ไขปัญหาผมบาง ศีรษะเถิก ศีรษะล้านได้ โดยผมที่เกิดขึ้นมาใหม่จากการปลูกผมจะมีวงจรชีวิตเหมือนกับผมจริง ๆ สามารถร่วงและขึ้นได้ใหม่ บางคนจึงอาจเรียกการศัลยกรรมปลูกผมว่า “การปลูกผมถาวร”
การศัลยกรรมปลูกผมมีมาตั้งแต่ปี 1950 ในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาเทคนิคและเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความแม่นยำมากขึ้น พร้อมทั้งยังมีเทคนิคที่หลากหลายมากกว่าเดิมเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาผมบาง ผมร่วงได้อย่างตรงจุดมากที่สุด
ผมร่วง ที่อาจนำไปสู่ผมบาง หัวล้าน เกิดจากอะไร? แก้เบื้องต้นอย่างไร
อาการผมร่วงที่อาจเป็นสาเหตุของอาการผมบาง ศีรษะล้าน เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น
- ผู้คนส่วนใหญ่กว่า 90% ที่พบปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านมักมีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์
- ฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) ทำให้เส้นผมค่อยเล็กลงเรื่อยๆ และผมที่งอกออกมาใหม่ก็จะมีเส้นเล็กลงและบางลง
- โรคที่ทำให้เกิดการอักเสบ หรือการติดเชื้อที่บริเวณศีรษะ ทำให้เกิดผมร่วงได้ เช่น โรคเชื้อราที่หนังศีรษะ โรคไทรอยด์ โรคแพ้ภูมิตัวเอง เป็นต้น
- พฤติกรรมบางอย่างที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับรากผมและเส้นผม เช่น การดึงผมตัวเองเพื่อระบายความเครียด
- อุบัติเหตุบางประเภทที่ทำให้เกิดแผลบริเวณหนังศีรษะ เช่น แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกส่งผลให้รากผมถูกทำลาย และไม่สามารถสร้างเส้นผมใหม่ขึ้นมาทดแทนได้
- ภาวะขาดแร่ธาตุหรือวิตามินบางอย่างทำให้ผมร่วงผมบางได้ เช่น ขาดธาตุเหล็ก ขาดวิตามินดี ซึ่ง เป็นตัวช่วยในการสร้างผม และทำให้ผมแข็งแรง
ปัจจุบันมีวิธีแก้ผมร่วง ผมบาง และศีรษะล้านหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การกินยาลดฮอร์โมนเพศ การยิง เลเซอร์เพื่อกระตุ้นรากผม และการศัลยกรรมปลูกผม โดยที่ปัญหาผมร่วง ผมบางของแต่ละคนอาจจะใช้วิธีรักษาไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรง สภาพหนังศีรษะ ความแข็งแรงของรากเส้นผม และดุลยพินิจของแพทย์
สามารถอ่านข้อมูลบทความ วิธีแก้ผมร่วง เพิ่มเติมได้ที่นี่ : มัดรวมวิธีแก้ผมร่วง ผมบาง แบบปลอดภัย บอกลาปัญหาผมขาดร่วง
เทคนิคในการปลูกผมมีกี่แบบ ?
เทคนิคการปลูกผมถาวรในปัจจุบัน จะเป็นวิธีย้ายเซลล์รากผมไปยังตำแหน่งที่พบปัญหาผมร่วง ผมบาง ซึ่งจะทำให้บริเวณที่ปลูกผมมีผมเพิ่มขึ้นมาเหมือนกับผมจริง ๆ และผมที่ปลูกสามารถเกิด หลุดร่วงได้ตามวงจรชีวิตของเส้นผมทั่วไป โดยเรียกวิธีรักษานี้ว่า การปลูกผมถาวร
ซึ่งในปัจจุบันเทคนิคการปลูกผมถาวร มีทั้งหมด 2 เทคนิค ได้แก่ ปลูกผมถาวร FUT และ ปลูกผมถาวร FUE แต่ละเทคนิคจะมีข้อดี-ข้อจำกัดแตกต่างกันไป โดยมีรายละเอียดดังนี้
ปลูกผม FUT
การปลูกผมถาวร FUT (Follicular Unit Transplantation) เป็นเทคนิคที่ใช้มาตั้งแต่แรกเริ่ม และยังได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน เพราะมีประสิทธิภาพสูง เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านรุนแรง ซึ่งการปลูกผมแบบ FUT แพทย์จะตัดหนังศีรษะบางส่วนออกมาพร้อมกับรากผมจำนวนมาก จากนั้นนำไปแยกกอรากผมแต่ละกอออกจากกันด้วยกล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูง แล้วจึงนำไปปลูกลงบริเวณหนังศีรษะที่ต้องการ
สามารถอ่านบทความ การปลูกผมถาวรด้วยเทคนิค FUT เพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข้อควรรู้ก่อน “ปลูกผม FUT” แก้ปัญหาผมร่วง ศีรษะล้าน ประสิทธิภาพสูง
ปลูกผม FUE
การปลูกผมถาวร FUE (Folicular Unit Excision) เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะมีประสิทธิภาพสูง ไม่ก่อให้เกิดรอยแผลปลูกผม และใช้เวลาพักฟื้นน้อย ซึ่งการปลูกผม FUE แพทย์จะใช้เครื่องเจาะไฟฟ้าเจาะเอาเฉพาะกราฟผมออกมา โดยไม่มีการผ่าตัดเป็นชิ้นเนื้อเหมือนกับเทคนิค FUT แล้วจึงนำไปปลูกลงบริเวณหนังศีรษะที่ต้องการ
ทั้งนี้ บางคนอาจจะเคยได้ยินเทคนิคการปลูกผมแบบ DHI, ปลูกผม Long hair FUE หรือ ปลูกผมผู้หญิง ทั้งหมดล้วนแต่เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นมาใหม่เพื่อใช้ในการโฆษณา เพื่อสร้างความแตกต่างและแปลกใหม่เพียงเท่านั้น
เทคนิคการปลูกผมที่ได้รับการรับรองจากสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ หรือ ISHRS (The International Society of Hair Restoration Surgery) มีเพียงแค่ 2 เทคนิคเท่านั้น คือ เทคนิคการปลูกผม FUT และ ปลูกผม FUE
สามารถอ่านบทความ ปลูกผม FUE เพิ่มเติมได้ที่นี่ : ปลูกผม FUE เทคนิคใหม่แก้ปัญหาผมร่วง ไร้รอยแผลเป็น
ปลูกผมถาวร ได้ผลจริงไหม
ปัจจุบันมีหลายคนที่เลือกวิธีรักษาอาการผมร่วง ผมบางด้วยการปลูกผมถาวร ซึ่งเป็นการรักษาที่ได้ผลจริง สามารถช่วยให้คุณกลับมามีความมั่นใจ ไม่ว่าจะทำผมทรงอะไรก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเห็นหนังศีรษะ พร้อมทั้งทำให้ภาพลักษณ์ดีขึ้น แต่การปลูกผมถาวรจำเป็นต้องรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ และผู้ที่เข้ารับการรักษาต้องใจเย็น เพราะการปลูกผมจะใช้เวลาหลายเดือน กว่าที่จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน
ผลลัพธ์ของการปลูกผม
การปลูกผมถาวรเป็นการย้ายกราฟผมที่แข็งแรง และสามารถเจริญเติบโตสร้างเส้นผมใหม่ได้ ไปปลูกยังบริเวณหนังศีรษะที่มีปัญหาผมบาง ศีรษะเถิก และศีรษะล้าน ซึ่งเมื่อกราฟผมที่ถูกปลูกใหม่สามารถปรับตัวและพ้นช่วงระยะเวลาพักฟื้นตัวแล้ว จะสามารถสร้างผมให้กลับมาได้อย่างปกติ
คนส่วนใหญ่ประมาณ 60% มักใช้ระยะเวลาที่จะเห็นผลลัพธ์ของการปลูกผมถาวรได้อย่างชัดเจนประมาณ 6-9 เดือน โดยแพทย์อาจจะพิจารณาให้กินยาควบคุมด้วย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอาการและดุลยพินิจของแพทย์ และแม้ว่าศัลยกรรมปลูกผมจะดูเหมือนใช้เวลาค่อนข้างหลายเดือน แต่ผลลัพธ์ที่ได้จากการปลูกผมสามารถสร้างความพึงพอใจ และสร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตมากขึ้นอย่างแน่นอน
ปลูกผมเจ็บไหม
หลังจากที่ได้ยินว่า ศัลยกรรมปลูกผม หรือผ่าตัดปลูกผม หลายคนน่าจะเกิดความกังวลและข้องใจว่าการปลูกผมเจ็บไหม? ต้องบอกว่าการศัลยกรรมปลูกผมนับว่าเป็นการผ่าตัดที่มีขนาดเล็ก และก่อนผ่าตัดปลูกผมแพทย์จะใช้ยาชารวมไปถึงยานอนหลับ จึงทำให้ระหว่างที่ผ่าตัดจะรู้สึกเจ็บได้น้อยมาก
โดยคุณอาจรู้สึกเจ็บได้หลังจากที่ฤทธิ์ของยาชาหมด ซึ่งเป็นความเจ็บที่สามารถทนได้ (หากแบ่งความเจ็บปวดเป็นตัวเลข เต็ม 10 ระดับความเจ็บจะอยู่แค่เพียงระดับ 2-3 เท่านั้น) และแพทย์จะให้ยาแก้ปวดอยู่แล้ว
ถ้าหากมีอาการเจ็บสามารถทานยาที่แพทย์จ่ายให้เพื่อบรรเทาอาการปวดลงได้ ทั้งนี้ อาการปวดที่มีสาเหตุมาจากการปลูกผมไม่ใช่อาการปวดถาวร หากปลูกผม FUT จะสามารถรู้สึกปวดได้ประมาณ 3-4 วัน ส่วนปลูกผม FUE อาจรู้สึกปวดได้ประมาณ 1-2 วัน
กราฟผมคืออะไร
กราฟผม (Graft) คือ กอผมหรือเนื้อเยื่อของผม ที่แพทย์ใช้เครื่องมือเจาะเพื่อนำไปปลูกผม ในกราฟผมจะมีเส้นผมอยู่ประมาณ 1-4 เส้น นั่นหมายความว่าถ้าหากคุณเห็นโฆษณาบนอินเทอร์เน็ตว่า ปลูกผม 1 กราฟ ไม่ได้แปลว่า ปลูกผม 1 เส้น โดยปกติแล้วปลูกผม 1 ครั้ง จะสามารถทำได้สูงสุดที่ 4,000 กราฟต่อครั้ง ทั้งนี้จำนวนกราฟผมที่ใช้จะขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่จะปลูกและดุลยพินิจของแพทย์
ซึ่งกราฟผมที่นิยมนำมาปลูกผมมักจะเป็นกราฟผมที่บริเวณท้ายทอยหรือหลังกกหู เพราะเป็นบริเวณที่กราฟผมแข็งแรงที่สุด ส่งผลให้เมื่อนำไปปลูกผมจะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
นอกจากนี้ กราฟผมบริเวณท้ายทอยยังไม่มีผลกับฮอร์โมน DHT ที่ส่งผลให้ผมร่วง บางลง หรือ ผมเส้นเล็กลง จึงเป็นกอเส้นผมที่แพทย์มักนิยมนำมาปลูกผม เพราะจะไม่ส่งผลให้หัวล้านและผมบางในระยะยาว
อ่านบทความเพิ่มเติม : กราฟผม คืออะไร สำคัญอย่างไร คนปลูกผมต้องรู้!
การรักษาด้วยการปลูกผมร่วมกับวิธีแบบอื่น
แม้ว่าการปลูกผมจะเป็นที่นิยมที่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนหลังการรักษา แต่การปลูกผมไม่ใช่การแก้ปัญหาผมบาง, ผมร่วง, ศีรษะเถิก และศีรษะล้านที่ต้นเหตุ ทำให้มีโอกาสที่ผมบริเวณอื่นอาจจะบางและร่วงได้ ทั้งนี้ แพทย์อาจแนะนำให้รักษาผมบางและหัวล้านด้วยวิธีปลูกผมร่วมกับวิธีรักษาแบบอื่นที่ช่วยให้ผลลัพธ์ดีมากขึ้น ได้แก่
ใช้ยาปลูกผม
ยาปลูกผมที่ใช้รักษาผมบาง จะเป็นยาต้านฮอร์โมนเพศที่ใช้รักษาผมบางจากกรรมพันธุ์ได้ และช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นผมจากเซลล์รากผมที่ยังไม่เสื่อมสภาพ แต่ไม่สามารถปลูกผมหรือแก้อาการศีรษะล้านได้ หากเซลล์รากผมบริเวณนั้นเสื่อมสภาพไปแล้ว
ทั้งนี้ ยาแก้ผมร่วงอาจจะไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจกับทุกคน ผลลัพธ์จากการใช้ยาแก้ผมร่วงจะขึ้นอยู่กับการตอบสนองร่างกายแต่ละคน สำหรับผู้ที่ใช้ยาแก้ผมร่วงไม่ได้ผล จำเป็นต้องรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น ปลูกผม FUT, ปลูกผม FUE หรือเลเซอร์ผม
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : เจาะลึกยาปลูกผม สามารถปลูกผมได้จริงหรือแค่คำโฆษณา?
การฉีด PRP
การฉีด PRP ผม เป็นวิธีปลูกผมอีกหนึ่งวิธี โดยแพทย์จะฉีด PRP หรือเกล็ดเลือดเข้มข้น เข้าไปที่บริเวณหนังศีรษะที่มีปัญหาผมบาง ผมร่วง และศีรษะล้าน โดยที่ PRP จะอุดมไปด้วยสารต่าง ๆ ที่สามารถช่วยเสริมสร้างเส้นเลือด กระตุ้นการเจริญเติบโต และการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนัง คอลลาเจน รวมไปถึงกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผม ทำให้ผมที่งอกมาใหม่เส้นหนาขึ้น
นอกจากนี้ PRP จะมีสารที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพให้กลับมาทำงานได้ดี ทำให้รากผมที่เสื่อมไปหรือเส้นผมขนาดเล็ก กลับมางอกใหม่และอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : PRP ผม คืออะไร ? รักษาอาการผมร่วงผมบางได้จริงหรือ
เซลล์บำบัด (Rigenera activa)
การรักษาผมบาง, ผมร่วง, ศีรษะเถิก และศีรษะล้านด้วยเซลล์บำบัด หรือที่หลายคนเรียกว่า การฉีดสเต็มเซลล์ผม Rigenera activa คือ การนำเซลล์ที่เรียกว่าเซลล์ต้นกำเนิด หรือสเต็มเซลล์ (Stem cell) จากรากผมของคนไข้เอง มาฉีดลงหนังศีรษะเพื่อกระตุ้นให้รากผมแข็งแรง และกระตุ้นให้สร้างเส้นผมมากขึ้น
ซึ่งเป็นการรักษาอาการผมร่วงทางเลือกใหม่ ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ว่าเป็นวิธีรักษาผมร่วงผมบางที่เห็นผล ปลอดภัย และไม่ใช้สารเคมี
Fotona laser
การทำ Fotona laser คือ การใช้เลเซอร์พลังงานต่ำ ยิงเข้าไปที่บริเวณหนังศีรษะที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง เพื่อกระตุ้นการทำงานของผม กระตุ้นให้เส้นเลือดไปเลี้ยงรากผมและหนังศีรษะ ทำให้รากผมแข็งแรงขึ้น เส้นผมใหญ่ขึ้น และไม่ขาดร่วงง่าย
หมวกเลเซอร์ (LLLT)
การรักษาผมบางผมร่วงด้วยหมวกเลเซอร์ เป็นหนึ่งในวิธีรักษาอาการผมร่วง ผมบางในระยะเริ่มต้น พร้อมทั้งช่วยให้ลดอาการอักเสบบริเวณหนังศีรษะ และทำให้แผลสมานเร็วขึ้น โดยเลเซอร์ LLLT (Low level Laser Light) คือ เลเซอร์คลื่นแสงความถี่ต่ำ ที่มีช่วงคลื่นยาว 650-680 nm ตัวเลเซอร์จะมีสีแดง และสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
โดยหมวกเลเซอร์จะช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ให้ทำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้การปลูกผมเห็นผลได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถนำหมวกเลเซอร์กลับไปทำเองที่บ้านได้
ปลูกผม เหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะเถิก และศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์
- ผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะเถิก และศีรษะล้านจากฮอร์โมน DHT ที่อาการค่อนข้างรุนแรง
- ผู้ที่ไม่สามารถรักษาผมร่วงผมบางได้ด้วยวิธีอื่น เช่น กินยา ฉีดยา หรือเลเซอร์
- ผู้ที่เสียความมั่นใจที่มีสาเหตุมาจากผมบาง ศีรษะเถิก และศีรษะล้าน
- ผู้ที่มีรอยแผลเป็น ทำให้เส้นผมไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ
- ผู้ที่ต้องการรักษาอาการผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านที่เห็นผลชัดเจนและถาวร
ปลูกผม ไม่เหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่มีผมบริเวณท้ายทอยไม่เพียงพอต่อการปลูกผม
- ผู้ที่ศีรษะล้านแบบกระจาย ทั่วทั้งศีรษะ และมีเส้นผมไม่เพียงพอต่อการปลูกผม
- ผู้ที่เป็นแผลคีลอยด์ง่าย
- ผู้ที่ผมร่วงที่มีสาเหตุจากโรคบางชนิด หนังศีรษะอักเสบ หรือหนังศีรษะกำลังติดเชื้อ แนะนำให้รักษาให้หายก่อนปลูกผม
ข้อดีของการปลูกผม
ข้อดีของการปลูกผม คือ ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ทำ โดยผมที่งอกขึ้นมาใหม่จะอยู่ถาวร และมีวงจรชีวิตเหมือนกับเส้นผมทั่วไป สามารถร่วงและเกิดใหม่ได้ พร้อมทั้งการปลูกผมยังให้ผลลัพธ์ที่สวยงาม เป็นธรรมชาติ มีผลข้างเคียงน้อย และมีความเสี่ยงต่ำกว่าการผ่าตัดอื่น ๆ เพราะแผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก
ข้อจำกัดของการปลูกผม
สำหรับบางคนอาจจะไม่เหมาะวิธีรักษาผมร่วง ผมบางด้วยวิธีปลูกผม ถ้าหากคุณเป็นคนที่มีผมท้ายทอย หรือหลังกกหูน้อย อีกปัจจัยคือ ผู้ที่ตัดสินใจปลูกผม (หากผ่าตัดด้วยวิธี FUT) จำเป็นต้องมีหนังศีรษะที่ยืดหยุ่นได้ดี และผู้ที่รักษาด้วยวิธีศัลยกรรมปลูกผมต้องมีเวลาพักฟื้นอย่างน้อย 1 วันหลังผ่าตัด
ขั้นตอนการปลูกผม
- แพทย์จะกำหนดบริเวณที่ต้องการปลูกผมคร่าว ๆ ตามที่ได้ตกลงกันก่อนหน้านี้
- แพทย์จะทำการโกนผมส่วนที่จะนำไปปลูก หรือตัดเอาเฉพาะส่วนที่เลือกไว้ (ทั้งนี้คืออยู่กับเทคนิคที่ใช้)
- แพทย์จะฉีดยาชารอบบริเวณที่ต้องนำรากผมออกมา หรือให้ยานอนหลับอ่อน ๆ ซึ่งขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนเดียวที่รู้สึกเจ็บ หลังจากยาชาออกฤทธิ์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บแล้ว
- เมื่อยาชาออกฤทธิ์ หรือครบตามเวลาที่กำหนดไว้ แพทย์จะนำรากผมออกมา ซึ่งวิธีนำรากผมออกมา ระหว่างปลูกผม FUE และ FUT จะใช้วิธีที่แตกต่างกัน
- แพทย์จะทำการปลูกผมลงไปในบริเวณที่กำหนดไว้ โดยปลูกผมทีละกราฟเพื่อให้ได้ตำแหน่ง ทิศทางที่เหมาะสมและเป็นธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งการปลูกผมจะใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่บริเวณที่ต้องปลูกผม
อ่านบทความ ขั้นตอนการปลูกผม เพิ่มเติมได้ที่นี่
การเตรียมตัวก่อนการปลูกผม
ลองมาดูขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนการปลูกผมกันบ้างดีกว่า ว่าก่อนที่จะเข้ารับการรักษาอาการผมร่วงผมบางด้วยวิธีผ่าตัดศัลยกรรมปลูกผม ควรปฏิบัติตัวอย่างไร
1. แจ้งแพทย์เรื่องยาประจำและโรคประจำตัว
สำหรับผู้ที่ตัดสินใจรักษาอาการผมร่วง, ผมบาง, หัวเถิก และหัวล้านด้วยวิธีศัลยกรรมปลูกผม หากมีโรคประจำตัวและมียาที่ต้องทานเป็นประจำทุกวัน ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนเสมอ เช่น เป็นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ที่ต้องทานยา Beta Blocker เป็นโรคลมชัก มีประวัติแพ้ยากินหรือยาชา ต้องแจ้งแพทย์เพื่อเปลี่ยนยาก่อนเข้ารับการรักษาอย่างน้อย 1 สัปดาห์
2. งดรับประทานยาที่มีผลต่อการผ่าตัด
ยาบางชนิดมีผลต่อการผ่าตัดปลูกผม และมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดออกมากกว่าปกติ หรือเลือดหยุดไหลช้า เช่น แอสไพริน (Aspirin), วิตามินอี (Vitamin E), พลาวิกซ์ (Plavix), น้ำมันปลา (Fish oil), โสม, แปะก๊วย เป็นต้น โดยควรหยุดรับประทานยาอย่างน้อย 1 สัปดาห์
3. งดใช้สารช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผม
สำหรับผู้ที่ใช้ยาปลูกผมก่อนเข้ารับการรักษาผ่าตัดศัลยกรรมปลูกผม ควรงดใช้ยาที่มีสารที่ช่วยในการเจริญเติบโตของเส้น เช่น ยาปลูกผมที่มีตัวยา Rogaine และ Minoxidil ในส่วนผสมของยา อย่างน้อยก่อนเข้ารับการรักษาประมาณ 1 สัปดาห์
4. พักผ่อนให้เพียงพอ
ก่อนเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมปลูกผม ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน และก่อนนอนสามารถสระผมด้วยแชมพูได้ตามปกติ แต่ให้หลีกเลี่ยงการเกาหนังศีรษะด้วยความรุนแรง และระวังอย่าให้แชมพูเข้าตาเพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้
5. งดดื่มชาและกาแฟก่อนการผ่าตัด
เช้าของวันผ่าตัดศัลยกรรมปลูกผม สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ แต่ให้งดกาแฟและชา หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพราะคาเฟอีนส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดออกมากกว่าปกติ ซึ่งอาจจะทำให้ระหว่างผ่าตัดเลือดหยุดไหลยาก
ข้อปฏิบัติหลังปลูกผม
การดูแลหลังจากเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมปลูกผมเป็นขั้นตอนที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ เพราะถ้าไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ อาจจะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นที่น่าพอใจ โดยควรปฏิบัติตัวตามข้อปฏิบัติหลังปลูกผม ต่อไปนี้
1. นอนในท่ายกหัวสูง
หลังจากผ่าตัดศัลยกรรมปลูกผมเสร็จเรียบร้อย แนะนำให้นอนตะแคง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนกดทับ หรือถ้าหากจะนอนหงาย แนะนำให้หาหมอนรองคอมารองไว้เวลานอน นอกจากนี้ แนะนำให้ใช้หมอนสูงเวลานอน เพื่อป้องกันไม่ให้แผลบวมหรือเลือดออก
2. งดสระผมด้วยตนเอง
หลังผ่านไป 24 ชั่วโมงหลังผ่าตัดปลูกผมเสร็จ แพทย์จะอนุญาตให้สระผมเพื่อเป็นการทำความสะอาดแผลไปในตัว ซึ่งขั้นตอนการสระผมเป็นขั้นตอนที่สำคัญและค่อนข้างละเอียดอ่อน เพราะเป็นขั้นตอนที่เสี่ยงจะทำให้กราฟผมหลุดออกมา ในช่วงแรกแพทย์จึงจะนัดมาสระผม ทำแผล และสอนคุณสระผมให้ถูกวิธี ซึ่งต้องระมัดระวังอย่างมากในช่วง 1 เดือนแรก หลังจากนั้นคุณจะต้องสระผมเองที่บ้านทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 1 เดือน
3. งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
แนะนำว่าควรงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และบุหรี่หลังจากผ่าตัดปลูกผม 48 ชั่วโมง เพราะมีผลต่อเลือด นอกจากนี้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่อาจจะทำให้การปลูกผมได้ผลลัพธ์ที่ไม่น่าพึงพอใจเท่าที่ควร
4. หลีกเลี่ยงการยกของหนัก หรือ ก้มหยิบของ
สำหรับผู้ที่ผ่าตัดปลูกผมหลังผ่าตัดควรหลีกเลี่ยงการยกของหนัก ก้มหยิบของ หรือการออกกำลังกาย เพราะมีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้กราฟผมที่ปลูกหลุดออก และการออกแรงมาก ๆ ยังทำให้ความดันเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้แผลบวมมากกว่าปกติ และเลือดออกจากแผลได้
นอกจากนี้ กิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก ๆ มักทำให้เหงื่อออก ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสการติดเชื้อจากสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ภายในเหงื่อ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการยกของหนัก ก้มหยิบของ และออกกำลังหลังจากผ่าตัดปลูกผม 7 วัน และงดว่ายน้ำหรือเข้าซาวน่า 1 เดือน
5. มาพบแพทย์ตามนัด
ส่วนใหญ่แพทย์มักจะนัดติดตามอาการในเช้าวันถัดไปหลังจากผ่าตัดปลูกผมเสร็จ เพื่อตรวจเช็กความเรียบร้อย และดูว่ามีบริเวณไหนที่ผิดปกติต้องรีบแก้ไขหรือไม่ แนะนำว่าควรไปตามที่แพทย์นัดทุกครั้ง เพื่อผลลัพธ์การปลูกผมที่ดีที่สุด
การดูแลรักษาผมในระยะยาว
หลังจากที่ผ่าตัดปลูกผมแล้ว ควรดูแลรักษาผมให้ดีที่สุด โดยแนะนำให้หลีกเลี่ยงการสระผมบ่อยเกินไป เพราะเป็นการทำลายเส้นผม และทำให้น้ำมันในเส้นผมถูกชำระล้างออก ส่งผลให้หนังศีรษะแห้งและเกิดรังแค อีกทั้งยังไม่แนะนำให้สระผมด้วยน้ำที่อุณหภูมิร้อนจัด เพราะจะทำให้เส้นผมเกิดความอ่อนแอ
นอกจากนี้ ยังแนะนำให้บำรุงผมด้วยครีมนวดหรือทรีตเมนต์เป็นประจำ และทานอาหารที่ช่วยบำรุงผม เช่น ไข่ไก่, ปลาแซลมอน, ทูน่า, เนื้อสัตว์, ผักใบเขียว, ผลไม้ตระกูลเบอร์รี, มันหวาน, ถั่ว และผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำ เป็นต้น
ความเสี่ยงจากการทำศัลยกรรมปลูกผม
การทำศัลยกรรมปลูกผมแม้เป็นหนึ่งในการผ่าตัดเล็กและมีแผลขนาดเล็กมาก แต่การศัลยกรรมปลูกผมก็ยังคงมีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นเหมือนกับการผ่าตัดอื่น ๆ คือ อาจจะเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อได้ แต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยและไม่ค่อยรุนแรง ยิ่งถ้าหากรู้ตัวเร็วมากเท่าไหร่ แพทย์จะสามารถรักษาได้ทัน และไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ ต่อร่างกาย
ทั้งนี้ ความเสี่ยงในการศัลยกรรมปลูกผม นับเป็นเพียงความเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดได้ค่อนข้างต่ำ ถ้าหากปลูกผมกับแพทย์ที่มีความชำนาญและประสบการณ์ปลูกผมจากคลินิกและโรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือ ก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงลดได้มาก
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการปลูกผม
ปลูกผมอันตรายไหม?
แม้ว่าการปลูกผมจะถูกนับว่าเป็นการผ่าตัดศัลยกรรม แต่ก็เป็นเพียงการผ่าตัดเล็ก ทำให้มีโอกาสที่แผลจะติดเชื้อหรือเกิดการอักเสบได้ค่อนข้างต่ำ ทั้งนี้ แนะนำให้คุณเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์จาก คลินิกและโรงพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ จะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดอันตรายต่าง ๆ ลงได้
หลังจากปลูกผม แล้วผมร่วงต้องทำอย่างไร?
สำหรับผู้ที่ผ่านการปลูกผมมาแล้ว ผมร่วงถือว่าเป็นเรื่องปกติของการผลัดผม เพราะผมที่ปลูกมีวงจรชีวิตเหมือนผมจริง ทำให้สามารถหลุดร่วงได้ตามธรรมชาติ และสักพักก็จะงอกขึ้นมาใหม่ได้เอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องดูแลเป็นพิเศษ
ปลูกผมที่ไหนดี?
การเลือกคลินิกและแพทย์เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ โดยแนะนำให้เลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งสำหรับคนที่ไม่สะดวกเดินทางไปที่คลินิกด้วยภาระงานต่าง ๆ ปัจจุบันมีแอปพลิเคชัน Skinx ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับคุณ ไม่จำเป็นต้องไปคลินิก สามารถเลือกปรึกษาปัญหากับแพทย์ทางออนไลน์ได้ทันที!
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : ปลูกผมที่ไหนดี เทคนิคการเลือกที่ปลูกผม
การปลูกผมผู้หญิง ต่างจากการปลูกผมผู้ชายไหม?
การปลูกผมผู้หญิงจะต่างจากการปลูกผมผู้ชายตรงที่ การปลูกผมในผู้หญิงจะนิยมทำในกรณีที่มีปัญหาผมรุนแรงเท่านั้น เนื่องจากในผู้หญิงจะเป็นการเกิดผมร่วงจากกรรมพันธุ์ ไม่ใช่การได้รับผลกระทบจากฮอร์โมน ดังนั้น ผู้หญิงจะไม่มีส่วนเส้นผมถาวรเหมือนในเพศชาย หากไม่ได้มีปัญหาผมร่วง ผมบางรุนแรง การปลูกผมอาจทำให้ผู้หญิงผมร่วงมากกว่าเดิมได้ ส่วนใหญ่แพทย์จึงจะแนะนำให้ผู้หญิงใช้วิธีการรักษาแบบอื่น ๆ มากกว่าการปลูกผม
ข้อสรุปเกี่ยวกับการปลูกผม
การปลูกผมเป็นการรักษาและแก้ปัญหาผมบาง, ผมร่วง, ศีรษะเถิก รวมถึงศีรษะล้านได้อย่างตรงจุด เห็นผลชัดเจน และเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรง ทั้งนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถรักษาด้วยวิธีปลูกผมถาวรได้ สำหรับผู้ที่สนใจปลูกผมควรปรึกษาแพทย์ที่มีความชำนาญและประสบการณ์ด้านการปลูกผม เพื่อให้แพทย์ประเมินว่าปัญหาผมร่วงผมบางที่คุณกำลังเผชิญ เหมาะกับการรักษาด้วยวิธีใดมากที่สุด
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
Stephanie, G. (2022, Apr 26). Hair Transplants: What to Expect. WebMD. https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/hair-loss/hair-transplants
Jennifer, N. (2022, Jul 25). Hair Transplants and Treatment 2022. Healthline. https://www.healthline.com/health/hair-transplant