ฉีดฟิลเลอร์คางอันตรายไหม? ปรับรูปหน้าให้ดูเรียว แก้ปัญหาคางสั้น
การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นหัตถการเสริมความงามที่ช่วยปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน ดูเต็มอิ่ม และดูเรียวมากขึ้น ทั้งยังช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับคางได้ เช่น คางบุ๋ม, คางตัด, คางถอย หรือคางสั้น ให้มีใบหน้าที่เรียวสวยได้รูป บทความนี้ SkinX จะพาไปรู้จักกับการฉีดฟิลเลอร์คางให้มากขึ้น พร้อมไขข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์คางที่คนอยากฉีดคางควรทราบ
ทำความรู้จักกับ SkinX แอปพลิเคชันสำหรับพบหมอผิวหนังออนไลน์ ที่ได้รวบรวมเหล่าทีมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำมากมาย มาให้คำปรึกษาด้านผิวหนังโดยเฉพาะ รวมถึงหัตถการความงามอย่างฉีดฟิลเลอร์ ฉีดโบท็อก และเลเซอร์ พิเศษสำหรับผู้ใช้บริการรายใหม่ ปรึกษาแพทย์ครั้งแรกโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
Key Takeaway
- ฟิลเลอร์คางเป็นหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับคางและปัญหาใบหน้ากลมได้ เพื่อให้ใบหน้าดูสมมาตร ได้สัดส่วน และดูเรียวยาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- ฟิลเลอร์คางที่ผ่านการรับรองจากอย.ไทย มีเพียงสารประเภทไฮยาลูโรนิก แอซิด หรือสาร HA เท่านั้น ซึ่งสามารถสลายไปเองตามธรรมชาติได้ และไม่เป็นอันตราย
- ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์คางจะอยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน และสามารถกลับมาฉีดซ้ำได้อีกหลังฟิลเลอร์สลายหมดไป
- หลังฉีดฟิลเลอร์คางควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ และเพื่อให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
ผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์คาง ควรศึกษาเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์อย่างละเอียด และปรึกษาแพทย์ก่อนทำหัตถการ เพื่อประเมินความพร้อมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์คาง ป้องกันการได้รับฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
ฉีดฟิลเลอร์คาง (Chin Filler) คืออะไร?
ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) คางคืออะไร? การฉีดฟิลเลอร์คาง คือการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) เข้าสู่บริเวณคางเพื่อปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน ดูสมมาตร และหน้าเรียวมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเติมเต็มคางให้ดูเต็มอิ่ม เต่งตึง และดูชุ่มชื้น จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งด้วยเช่นกัน
หลังฉีดฟิลเลอร์คางแล้วสามารถเห็นผลได้ทันที และไม่ต้องพักฟื้นเหมือนการผ่าตัดคาง ที่สำคัญคือ เนื้อฟิลเลอร์ที่เป็นสาร HA จะสลายไปเองตามธรรมชาติ ทั้งยังสามารถเติมฟิลเลอร์คางใหม่ได้เรื่อย ๆ โดยสารเติมเต็มฟิลเลอร์ที่ใช้กันในประเทศไทยมาจนถึงปัจจุบันคือ สารชนิด Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นสารชนิดเดียวที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาประเทศไทย (อย.) สารชนิดนี้จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ทดแทนคอลลาเจนที่ร่างกายสูญเสียไป
เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์คางอย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์คางไม่ให้เป็นก้อนคือ การฉีดฟิลเลอร์ลงไปในชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก ซึ่งเป็นเทคนิคที่มีความคล้ายคลึงกับการผ่าตัดเสริมคาง โดยเป็นการเสริมที่กระดูกไม่ใช่เสริมเนื้อคาง เมื่อฟิลเลอร์สลายหมดก็สามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ ทั้งนี้ การฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อให้ได้รูปทรงคางที่เป็นธรรมชาติขึ้นอยู่กับเทคนิคการฉีดของแพทย์ การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ และรุ่นฟิลเลอร์
ยี่ห้อฟิลเลอร์คางที่ผ่าน อย. มียี่ห้ออะไรบ้าง
ฟิลเลอร์คางหรือฟิลเลอร์ต่าง ๆ ที่ผ่านอย. ในประเทศไทยจะมีเพียงชนิดเดียวเท่านั้นคือ ฟิลเลอร์ชนิดไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) ซึ่งเป็นสารที่สามารถย่อยสลายเองได้ โดยยี่ห้อฟิลเลอร์คางที่ SkinX แนะนำมีดังนี้
- Juvederm Voluma จากประเทศอเมริกา
ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma เป็นยี่ห้อที่มีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) อยู่ด้วย ทำให้ช่วยบรรเทาความรู้สึกเจ็บขณะฉีด ฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้มีลักษณะเนื้อแข็งและฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่น และความหนาแน่นสูง ฉีดแล้วไม่ไหล ทั้งยังสามารถอยู่ได้นานถึง 18 เดือน
- Juvederm Volux จากประเทศอเมริกา
ฟิลเลอร์ Juvederm Volux เป็นฟิลเลอร์รุ่นใหม่ที่มีความหนาแน่นสูง เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ยืดหยุ่นสูง สามารถอยู่ได้ประมาณ 18-24 เดือน
- Restylane Lyft จากประเทศสวีเดน
ฟิลเลอร์ Restylane Lyft เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของยาชา เนื้อฟิลเลอร์มีความคงตัวดี ยกกระชับสูง หลังฉีดไม่ฟู สามารถอยู่ได้ประมาณ 12 เดือน
- Belotero Intense จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ฟิลเลอร์ Belotero Intense กล่องสีชมพู เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความหนาแน่น และยืดหยุ่นสูง ทั้งยังยกตัวได้ดี และสามารถอยู่ได้ประมาณ 18 เดือน
ทำไมถึงต้องฉีดฟิลเลอร์ที่คาง
ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์คาง? การฉีดฟิลเลอร์คางสามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับคางได้ ไม่ว่าจะเป็นคางสั้น, คางตัด, คางบุ๋ม, คางยื่น หรือคางไม่เท่ากัน รวมถึงช่วยแก้ปัญหาหน้ากลมได้ด้วยเช่นกัน โดยจะช่วยปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น ดูสมมาตร และช่วยปรับรูปหน้าที่สั้นให้ดูเรียวสวย ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิต และช่วยเสริมโหงวเฮ้งแก่ผู้ทำหัตถการ
คางสั้น คางตัด คางบุ๋มเกิดจากอะไร ทำไมถึงต้องฉีดฟิลเลอร์คาง?
ปัญหาคางสั้น คางตัด และคางบุ๋ม ส่วนใหญ่เกิดจากพันธุกรรมที่สืบทอดกันมา โดยเฉพาะในกลุ่มคนเอเชียที่มีลักษณะทางกายภาพอย่างการมีกระดูกกรามใหญ่ กระดูกคางสั้น ทำให้ใบหน้าดูกลม หลายคนจึงเลือกปรับรูปหน้าให้ดูยาวและเรียวขึ้น ด้วยการฉีดฟิลเลอร์คางหรือผ่าตัดเสริมคาง
ฉีดฟิลเลอร์คาง หรือ ผ่าตัดคาง แบบไหนดีกว่ากัน
ในปัจจุบันวิธีการแก้ปัญหารูปคางหรือปรับรูปทรงคางที่นิยมมีด้วยกัน 2 วิธี คือ การฉีดฟิลเลอร์คาง และการศัลยกรรมคางหรือการผ่าตัดคาง เสริมคาง (Chin Surgery)
ความแตกต่างของการฉีดฟิลเลอร์คางกับการผ่าตัดคาง เสริมคาง
- การผ่าตัดคาง : เป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก ผลลัพธ์จะอยู่ได้ถาวร แต่ต้องมีการพักฟื้นหลังจากการผ่าตัด
- ฉีดฟิลเลอร์คาง : เป็นหัตถการฉีดสารเติมเต็ม HA เพื่อปรับรูปคางให้เรียวสวย ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน ไม่ถาวร หลังฉีดฟิลเลอร์คางสามารถเห็นผลได้ทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้น หากฟิลเลอร์สลายก็สามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ
เนื่องจากการผ่าตัดคาง แพทย์จะต้องใช้ซิลิโคน (Silicone) ใส่เข้าไปใต้เยื่อหุ้มกระดูกเพื่อให้ซิลิโคนไม่เคลื่อนที่ ซึ่งหากแพทย์ไม่มีความชำนาญมากพอ อาจเลือกใช้ซิลิโคนไม่พอดีกับรูปหน้า เช่น การเลือกใช้ขาซิลิโคนยาวออกมาด้านข้างมากเกินไป อาจเกิดการกดทับที่รูเปิดของเส้นประสาทบริเวณคาง (Mental foramen) ส่งผลให้ปากเบี้ยวได้ หรือการเลือกใช้ซิลิโคนที่สั้นเกินไป จะทำให้คางที่เสริมไม่รับกับแนวกราม เป็นต้น ซึ่งผลลัพธ์ของการเสริมคางจะอยู่ถาวร ดังนั้น การผ่าตัดคางจึงเหมาะกับคนที่มีปัญหาคางมาก ๆ เช่น คางสั้นมาก และต้องการคงรูปคางถาวร
การฉีดฟิลเลอร์คางด้วยวิธีที่ถูกต้องจะมีความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ เช่นเดียวกับการผ่าตัดเสริมคาง อีกทั้งยังสามารถฉีดฟิลเลอร์คางได้หลายครั้ง เพื่อปรับให้เข้ากับใบหน้าตามวัย แต่การฉีดฟิลเลอร์มีราคาที่ค่อนข้างสูง รวมถึงต้องรอบคอบในการเลือกดูฟิลเลอร์แท้/ปลอมด้วย
ฉีดฟิลเลอร์คาง หรือ ผ่าตัดคาง แบบไหนดีกว่ากัน?
การตัดสินใจฉีดคางหรือเสริมคางขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ผู้ที่กำลังตัดสินใจทำคางควรเลือกจากปัญหาคางของตนเองว่าเหมาะกับแบบไหน, ปัญหาคางที่เกิดขึ้น, ความต้องการ และความพร้อมของตนเองเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพักฟื้นหรือกำลังทรัพย์
ฉีดฟิลเลอร์คางดีไหม? ข้อดี-ข้อเสียของฟิลเลอร์คาง
สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าฉีดฟิลเลอร์คางดีไหม? อาจพิจารณาจากข้อดี-ข้อเสียจากการฉีดฟิลเลอร์คางดังต่อไปนี้
ฉีดฟิลเลอร์คางมีข้อดี ดังนี้
- หลังฉีดฟิลเลอร์คางแล้วไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที
- สารประเภท HA สำหรับฉีดฟิลเลอร์คางที่ได้มาตรฐาน สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ ไม่ตกค้างในร่างกาย จึงมีความปลอดภัย
- ฉีดฟิลเลอร์คางสามารถช่วยปรับรูปทรงคางให้ดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติได้
- หากฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่ชอบผลลัพธ์ที่ได้ ก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้
ฉีดฟิลเลอร์คางมีข้อเสีย ดังนี้
- ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์คางจะอยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน หลังฟิลเลอร์สลายหมดไปจึงต้องกลับมาฉีดเติมฟิลเลอร์คางซ้ำ
- หากแพทย์ที่ทำการฉีดฟิลเลอร์คางไม่มีความชำนาญมากพอ อาจทำให้คางผิดรูปได้
การใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงตามมาได้
ฉีดฟิลเลอร์คางช่วยในเรื่องอะไรบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นการแก้ปัญหาคางสั้น, คางบุ๋ม, คางตัด หรือคางไม่เท่ากัน รวมถึงปัญหาหน้ากลมและหน้าไม่เรียว โดยฟิลเลอร์จะช่วยปรับรูปคางให้ดูเรียวสวย ยาวขึ้น และดูสมส่วนได้โดยไม่ต้องผ่าตัดคาง นอกจากนี้ยังช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้ดีอีกด้วย
ฉีดฟิลเลอร์ที่คางใช้กี่ CC
การฉีดฟิลเลอร์คางจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1 cc ก็สามารถเห็นผลที่ชัดเจนได้ว่าคางและรูปหน้ามีการเปลี่ยนแปลงไป ในคนไข้บางรายอาจฉีดฟิลเลอร์บริเวณอื่นเพิ่มเติมไปพร้อมกับการฉีดฟิลเลอร์คาง เพื่อให้ใบหน้าดูเต็มอิ่มขึ้น รับกับรูปทรงคางหลังฉีด เช่น การเติมเต็มฟิลเลอร์หน้าผาก เพื่อแก้ไขปัญหาหน้าผากยุบ หน้าผากแบน หรือการเติมเต็มฟิลเลอร์ร่องแก้มเพื่อแก้ไขปัญหาแก้มตอบ
ทั้งนี้ ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง ควรให้แพทย์ประเมินแต่ละเคสก่อนว่า ควรฉีดฟิลเลอร์คางกี่ CC ควรใช้ฟิลเลอร์คางยี่ห้อไหนหรือรุ่นไหนถึงเหมาะกับใบหน้าของเรา และให้ผลลัพธ์ที่ดีได้
ฉีดฟิลเลอร์ที่คางเหมาะ-ไม่เหมาะกับใคร
ฉีดฟิลเลอร์คางเหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่มีปัญหาคางสั้น, คางบุ๋ม, คางตัด, คางถอย
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น ได้สัดส่วน แต่ไม่อยากผ่าตัดคางหรือมีแผลผ่าตัด
- ผู้ที่ต้องการให้หน้าเรียวขึ้นแบบทันที โดยไม่ต้องพักฟื้น ซึ่งหากไม่ชอบผลลัพธ์ก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ออกได้
ฉีดฟิลเลอร์คางไม่เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีรูปคางสั้นมาก และต้องการเสริมที่คางให้ยาวขึ้นมากกว่า 1 ซม.
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ถาวร เนื่องจากการฟิลเลอร์จะมีผลลัพธ์อยู่ได้เพียง 12-18 เดือนเท่านั้น และต้องกลับมาฉีดซ้ำ
- ผู้ที่ต้องการศัลยกรรมเสริมคางด้วยซิลิโคนในอนาคต
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา มีปัญหาเลือดออกง่าย
- ผู้ที่มีประวัติเป็นภูมิแพ้อย่างรุนแรง
- สตรีมีครรภ์
อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์คางคือ ไม่สามารถเติมคางให้ยาวเท่ากับการผ่าตัดได้ หากเติมมากเกินไปจะทำให้ฟิลเลอร์คางผิดรูปหรือฟิลเลอร์ไหลเป็นก้อนได้ หากไม่มั่นใจว่าตนเองเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์คางหรือไม่ ทาง SkinX แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ของคลินิกนั้น ๆ เพื่อให้แพทย์ประเมินรูปหน้าก่อน หรือสามารถปรึกษากับแพทย์ของ SkinX ผ่านทางออนไลน์ได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง
10 ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ที่คาง
10 ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์คาง มีดังนี้
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์คางอย่างละเอียด รวมทั้งศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกฉีดฟิลเลอร์ ประสบการณ์ของแพทย์ประจำคลินิกที่ทำเคสต่าง ๆ โดยอาจดูรีวิวฉีดฟิลเลอร์คางจากผู้ใช้จริงประกอบด้วย
- ควรศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้/ปลอม เพื่อจะได้สังเกตเบื้องต้นก่อนเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์คาง
- งดยากลุ่ม NSAIDs เช่น Aspirin, Ibuprofen, Diclofenac, Ponstan
- งดวิตามินและอาหารเสริมบางประเภทที่มีฤทธิ์เกี่ยวกับการไหลเวียนโลหิต เช่น St. Johns Wort, Ginkgo biloba, Primrose oil, Garlic, Ginseng, และ Vitamin E เพราะอาจทำให้เลือดแข็งตัวช้าในระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ และเสี่ยงต่ออาการช้ำหลังฉีดได้
- งดยาทาผิวชนิดผลัดเซลล์ผิวบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
- งดดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดแรง 24 ชั่วโมงก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง
- ก่อนฉีดฟิลเลอร์คางควรพบแพทย์เพื่อประเมินปัญหาและวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละเคส
- หากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่รับประทานอยู่ ควรเตรียมข้อมูลเพื่อแจ้งแพทย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง
- ไม่ควรแต่งหน้ามาฉีดฟิลเลอร์คาง เนื่องจากอาจมีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่บริเวณผิวที่คาง แต่หากไม่สะดวกก็สามารถแต่งหน้ามาได้ เพราะทางคลินิกแต่ละแห่งจะมีการทำความสะอาดบริเวณที่ทำก่อนเริ่มทำหัตถการ
- หลังจากฉีดฟิลเลอร์แล้วจะไม่สามารถทำหัตถการเลเซอร์ได้ประมาณ 4 สัปดาห์
ขั้นตอนการปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ที่คาง
ขั้นตอนการปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่ได้เร็วขึ้น ลดอาการอักเสบ บวม ช้ำ ตลอดจนช่วยรักษาอายุของฟิลเลอร์ไม่ให้สลายเร็ว มีดังต่อไปนี้
หลังฉีดฟิลเลอร์คาง
- หลังฉีดฟิลเลอร์คางเสร็จควรรีบรับประทานยาฆ่าเชื้อทันที
- หากคลินิกได้จ่ายยาแก้ปวด ยาลดบวม ควรรับประทานยาตามที่แพทย์แนะนำ
- หลังฉีดฟิลเลอร์คางห้ามนวด, เกา, แกะ หรือปั้นทรงเองโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์เสียรูปทรง คางเสียทรง เนื่องจากฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ ควรทิ้งไว้ประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากฉีดฟิลเลอร์คาง
- หลีกเลี่ยงอากาศร้อนและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
- ไม่ควรนั่งเท้าคาง และไม่ควรสวมหมวกกันน็อคที่รัดแน่น ๆ
- หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหน้า เพราะจะทำให้เกิดการกดทับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์คาง
หลังฉีดฟิลเลอร์คาง 24 ชั่วโมง
- อาจมีอาการบวมเข็มมากขึ้น ทำให้บริเวณคางมีการฟูขึ้น แต่เมื่อผ่านไป 7-14 วัน อาการบวมเข็มจะหายไป และค่อย ๆ ยุบลงไปเอง ทั้งนี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ได้ที่ : ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงในระยะ 14 วันหลังฉีดฟิลเลอร์คาง
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะจะทำให้เกิดการบวมแดง และอักเสบ เมื่อดื่มไปแล้วจะทำให้หลอดเลือดขยายตัว เลือดสูบฉีดมากขึ้น อาการบวมจากเข็มจะหายช้าลง
- อาหารจำพวกปิ้งย่าง ชาบู หรืออาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ
- อาหารเผ็ด เนื่องจากจะทำให้เกิดการแสบร้อนบนใบหน้าและหน้าแดง
- อาหารหมักดอง และอาหารที่ปรุงไม่สุก เนื่องจากอาจก่อให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อได้
- ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เนื่องจากในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด ทำให้คางหายบวมช้า
ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วเป็นก้อน ผลข้างเคียงที่อาจพบได้
ผลข้างเคียงที่อาจพบได้จากการฉีดฟิลเลอร์คางคือ ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน คางเบี้ยว หรือคางผิดรูป ซึ่งในกรณีนี้มักเกิดจากความไม่ชำนาญของแพทย์ หรือการใช้ฟิลเลอร์ปลอม ดังนั้น ผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์คางควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแพทย์ประจำคลินิก และฟิลเลอร์ที่ใช้ว่าได้มาตรฐานหรือไม่ก่อนตัดสินใจทำหัตถการ
ฉีดฟิลเลอร์ที่คางราคาเท่าไหร่
การฉีดฟิลเลอร์คางมีราคาแตกต่างกันตามแต่ละยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นฟิลเลอร์ที่เลือก และคลินิกที่เลือกฉีดฟิลเลอร์ โดยราคาฟิลเลอร์คางโดยประมาณจะอยู่ที่ 10,000-20,000 บาทต่อ 1 cc
ตัวอย่างราคาฟิลเลอร์คางที่ SkinX แนะนำมีดังนี้
- ฟิลเลอร์ Belotero Intense จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ราคาประมาณ 10,000 บาท สามารถอยู่ได้นาน 18 เดือน
- ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma จากประเทศอเมริกา ราคาประมาณ 13,000 บาท สามารถอยู่ได้นาน 18 เดือน
- ฟิลเลอร์ Juvederm Volux จากประเทศอเมริกา ราคาประมาณ 18,000 บาท สามารถอยู่ได้นาน 18-24 เดือน
- ฟิลเลอร์ Restylane Perlane Lyft จากประเทศสวีเดน ราคาประมาณ 13,000 บาท สามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์คาง
ฟิลเลอร์คางอยู่ได้นานแค่ไหน?
ฟิลเลอร์คางอยู่ได้นานแค่ไหน? ฟิลเลอร์คางจะอยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน และจะค่อย ๆ สลายไปเอง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นฟิลเลอร์ที่เลือก และการดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์ที่คางอันตรายไหม ปลอดภัยหรือเปล่า?
ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม? การฉีดฟิลเลอร์คางให้ปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย ควรฉีดโดยแพทย์เฉพาะทาง และมีความชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีการตกค้างในร่างกาย
ฉีดฟิลเลอร์คาง คุ้มไหม?
ฉีดฟิลเลอร์คุ้มไหมนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากต้องการแก้ปัญหาคางต่าง ๆ เช่น คางบุ๋ม, คางสั้น, คางตัด หรือคางถอย ตลอดจนต้องการปรับใบหน้าให้เรียว ดูสมมาตร และได้สัดส่วนมากขึ้น การฉีดฟิลเลอร์คางก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่ช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้
ฉีดฟิลเลอร์ที่คางเจ็บไหม?
ในระหว่างฉีดฟิลเลอร์อาจรู้สึกเจ็บขณะฉีด อย่างไรก็ตาม ฟิลเลอร์บางยี่ห้อจะมีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) ที่ช่วยลดความรู้สึกเจ็บขณะฉีดได้ เช่น ยี่ห้อ Juvederm รุ่น Voluma หรือยี่ห้อ Restylane รุ่น Lyft เป็นต้น
ฉีดฟิลเลอร์แล้วสามารถเสริมคางได้ไหม?
หากฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นฟิลเลอร์ของแท้ ชนิด Hyaluronic Acid สามารถฉีดสลายเพื่อเสริมคางด้วยซิลิโคนได้ แต่ถ้าเป็นฟิลเลอร์ปลอม ไม่ได้มาตรฐาน ที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เองจำเป็นต้องขูดออก หรือผ่าตัดออกเท่านั้น ไม่สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์คางได้
เป็นสิวที่คางฉีดฟิลเลอร์คางได้ไหม?
เป็นสิวที่คางฉีดฟิลเลอร์คางได้ไหม? ในกรณีที่เป็นสิวที่คางแบบรุนแรง หรือสิวจำพวกสิวอักเสบ, สิวฮอร์โมน หรือสิวหัวช้าง ควรพักการฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อรักษาสิวให้หายก่อน เพราะอาจเกิดการอักเสบมากขึ้นกว่าเดิม รวมถึงอาจบวม แดงจากรอยเข็มได้
หลังฉีดฟิลเลอร์คาง สามารถทำหัตถการอื่นได้ไหม?
หลังฉีดฟิลเลอร์คางสามารถทำหัตถการต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ เช่น ฉีดฟิลเลอร์ที่จุดอื่น ๆ, โบท็อก, ร้อยไหม หรือ Ulthera เป็นต้น ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ตั้งแต่ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง เพื่อวางลำดับในการทำหัตถการก่อน-หลัง รวมถึงระยะเวลาในการพักหรือเตรียมตัวก่อนทำหัตถการเพิ่ม
สรุปฟิลเลอร์คาง ตัวช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
การฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นหัตถการที่ช่วยปรับใบหน้าให้ได้สัดส่วน, ดูสมมาตร, หน้าเรียว และมีมิติยิ่งขึ้น โดยฟิลเลอร์คางจะแก้ปัญหาคางบุ๋ม, คางสั้น, คางถอย และคางตัด ให้ดูเรียวยาวขึ้น หลังการฉีดฟิลเลอร์คางจะสามารถเห็นผลได้ทันที นอกจากนี้ ผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์คางควรใส่ใจในการเลือกคลินิกและแพทย์ให้ได้มากที่สุด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีต่อตัวคุณ
สำหรับผู้ที่ต้องการปรึกษาปัญหาผิว ความสวยความงามต่าง ๆ รวมไปถึงหัตถการความงามอย่าง “ฟิลเลอร์” ว่าตนเองเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์บริเวณไหน ผิวตนเองควรฉีดฟิลเลอร์ไหม? สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SkinX เพื่อพบกับแพทย์ออนไลน์โดยตรงได้เลย
พิเศษสำหรับผู้ใช้งานแอป SkinX ครั้งแรก สามารถปรึกษากับแพทย์ผิวหนังโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SkinX ติดมือถือไว้เลย เพื่อพบกับโปรโมชันสกินแคร์ และดีลความงามจากคลินิกดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดีลลดฝ้า ดีลโบหน้าเรียว เพราะผิวดีไม่ต้องรอ!
เอกสารอ้างอิง
Cherney K. (2018, September 18). Genioplasty (Chin Surgery). Healthline. https://www.healthline.com/health/genioplasty
Sherrell Z. (2022, February 27). What to know about chin filler. Medical News Today. https://www.medicalnewstoday.com/articles/chin-filler